ออฟฟิศติดฮา ซิทคอมที่รวมความวุ่นวาย สไตล์ชาวออฟฟิศเอาไว้อย่างเข้มข้น และเร้าใจ เพราะที่นี่มีทั้งมิตร ศัตรู เนื้อคู่ และความฮา! พนักงานที่คัดเลือกมาเรียกว่าเด็ดดวงทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะทีมนักแสดงนำ ถือว่าเป็นแก๊งที่มีเอเนอร์จี้ความตลกอยู่ในสายเลือดทุกเม็ด นำทีมโดยสามสหายสายฮา ว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ ป๊อบ-ปองกูล สืบซึ้ง และ โจ๊ก-กรภพ จันทร์เจริญ หลังจากที่สาดความฮาเรียกเสียงหัวเราะให้ผู้ชมกันจนปอดโยกแล้ว สุดสัปดาห์มีโอกาสได้คุยกับ “ป๊อบ ว่าน โจ๊ก” ถึงบทบาทใหม่ในการแสดงของพวกเขา คุยไปขำไปนึกว่านั่งดูซิทคอมอยู่!
คุยกับ 3 นักแสดงนำ “ป๊อบ ว่าน โจ๊ก” จาก ออฟฟิศติดฮา ซิทคอมที่อยากให้ทุกคนมีรอยยิ้ม
ก่อนอื่นอยากให้เล่าถึงบทบาทที่แต่ละคนได้รับสักนิดค่ะ
โจ๊ก: ในเรื่องผมรับบท ‘อ๊อด’ ครับ เป็นครีเอทีฟ ซึ่งความน่าสนใจของบทอ๊อดนี้คือ คาแร็คเตอร์จะเป็นผู้ดี แต่จริงๆ แล้วเขาฐานะไม่ค่อยดี แล้วเขาชอบเรียกแม่ตัวเองว่าหญิงแม่ แต่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นแค่คนขายของที่บ้านครับ เป็นคนสร้างภาพให้ตัวเองไฮโซครับ
ป๊อบ: ผมรับบท ‘โป๊ป’ เป็นโปรแกรมเมอร์ เป็นคนที่ถ้าแม่งมีชีวิตอยู่ในการทำงานจริงๆ แม่งต้องโดนไล่ออกคนแรก จริงๆ คือมันคือคนที่ชอบโพล่งออกมา ปากไวเถียงกับลูกค้าบ้าง เถียงกับเจ้านายบ้าง แต่ละคำพูดของมันพร้อมที่จะโดนไล่ออกมาก
ว่าน: ผมรับบทเป็น ‘วิทย์’ วิทย์เป็นพนักงานฝ่ายขายฝ่ายการตลาด คาแรกเตอร์จริงๆ คือวิทย์จะเป็นคนกวนประสาท เวลาทำงานก็ทำงานได้ปกติ แต่ด้วยความกวนๆ แล้วไปเจอกับกลุ่มเพื่อนอีก 2 คนที่ไม่มีใครห้ามใคร มันก็เลยจะกลายเป็นแก๊งคน 3 คน ที่ดูจะขัดหูขัดตาไปหมด ด้วยความที่ชีวิตจริงพวกเราเจอกั
ถ้าแยกเป็นคนๆ ไอ้สามตัวละครนี้ จะเป็นคนที่อยู่ในออฟฟิศก็กวนประสาทเป็นปกตินี้แหละ แต่พอมันรวมกันแล้ว มันจะวุ่นวายมากๆ เพราะด้วยความที่มันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนครับ ส่วนวิทย์เป็นคนที่รู้ว่าเพื่อนเป็นแบบนี้ เลยคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง เช่น บางทีวางแผนด้วยกันอยากจะทำการแย่ๆ สักเรื่องหนึ่ง หลอกเจ้านายว่าจะไปเที่ยว ก็จะให้เพื่อนเป็นตัวชนก่อน อีกคนคล้อยตาม แล้วผมก็ค่อยไปห้าม เฮ้ย… เพื่อนๆอย่าทำอย่างนั้นเลย เราก็จะได้ส่วนต่างไป ในความกวนประสาทเป็นแกนกลางของ…
ป๊อบ: เหมือนขงเบ้ง
ว่าน: ใช่ครับ
เหตุผลสำคัญที่ทั้งสามคนรับเล่นออฟฟิศติดฮาคืออะไรคะ
โจ๊ก: จริงๆ เราเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว
ว่าน: คิวว่างด้วยก็ส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว (หัวเราะ) คือยอมรับว่าพอมาเห็นไลน์อัพแล้ว โห… มีทั้งพี่ป๊อบ มีทั้งโจ๊ก ทำให้มันโน้มน้าวใจเรามาก แล้วทฤษฎี…
ป๊อบ: มันก็เป็นทฤษฎีแบบมึงรับ กูรับ เพราะมันต้องซิงค์กันอะ เหมือนนักฟุตบอล เอาเราไปเตะกับใครก็ไม่รู้มันลำบากอยู่นะ ก็เลยต้องเป็นสามคนนี้ แล้วที่นักแสดงที่มาร่วมแสดงในเรื่อง แต่ละคนก็เด็ดๆทั้งนั้น
ในฐานะนักแสดงคิดว่า ซีรีส์ออฟฟิศติดฮา มีแง่คิดอะไรให้กับชีวิตพนักงานเงินเดือนบ้างคะ
ป๊อบ: ถ้าเอาแบบเป๊ะๆ สิ่งที่เกิดขึ้นแม่งเอามาใช้ในชีวิตจริงแทบไม่ได้เลยนะครับ ถ้าคุณใช้ในชีวิตจริง คุณเตรียมหางานใหม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของเราทั้งสามคน อ๊อด โป๊ป วิทย์ หรือว่าแก๊งสาวๆ เรื่องราวมันมีความเป็นการ์ตูน แต่สิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ ผมว่าแต่ละบทที่มันถูกเขียนออกมาโดยสะท้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ด้วยนั่นแหละ บางเรื่องมาจากข่าวที่เกิดขึ้น บางเรื่องเป็นเรื่องจริงที่เกิด ซึ่งคนเขียนบทและผู้กำกับอาจจะเคยเจอมา แล้วนำมาเล่าในซีรีส์ มันก็จะมีมุมที่สามารถให้แง่คิดการทำงานกับเราไปปรับใช้ได้เหมือนกัน
ว่าน: มีบางตอนที่ผมว่ามันสามารถปรับใช้ได้ เช่น บางทีเราเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมา เมื่อปัญหามันไปจนสุดทางแล้ว จะดื้อต่อมันก็ได้ แต่สุดท้ายแล้ว เฮ้ย! พวกเราต้องหยุด แล้วไปขอโทษเขาเถอะแล้ว ไม่งั้นสังคมมันรันต่อไม่ได้แล้วนะ ถ้ามึงยังเป็นอย่างนี้ ก็มีการนำเสนอมุม การรู้จักผิดถูก การแก้ไขด้วย
โจ๊ก: ใช่ๆ จริงๆ ก็ใกล้เคียงกับความจริงนะ ผมไม่เคยทำงานออฟฟิศ ผมก็ไม่เคยรู้เรื่องเงินเดือนว่ามันสำคัญมากเนอะ เงินเดือนขึ้น เงินเดือนลด การลดโบนัส เรื่องนี้ทำให้เรารับรู้ได้ว่า ถ้าเราเป็นมนุษย์เงินเดือน เรื่องอะไรแบบนี้มันก็เรื่องใหญ่เหมือนกันนะ สำหรับผมเรื่องเงินเดือนแหละ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สะท้อนความจริงในสังคมออฟฟิศเลยว่าสำคัญต่อพนักงานมาก
คิดว่าชีวิตพนักงานออฟฟิศยุคนี้ต้องปรับตัวยังไงบ้างคะ
ป๊อบ: สำหรับยุคนี้นะ ผมว่าแม่งยากทุกอาชีพเลย มันเป็นยุคที่แบบ… ทุกคนต้องสะเดาะกุญแจอันล็อคเลเวลอันต่อไปของตัวเองให้ได้ ยุคนี้อะไรมันก็ยากไปหมดจริงๆ เพราะว่าผลประกอบการมันไม่เหมือนเดิม การทำงานไม่เหมือนเดิม รูปแบบการทำงานเปลี่ยนใหม่หมด
ฉะนั้นอย่างที่โจ๊กบอกไป ในออฟฟิศติดฮามันก็จะมีการสะท้อนในเรื่องแบบนี้ บางทีบริษัทไปไม่ไหว แล้วตัวคุณเองคุณจะตัดสินใจช่วยบริษัทได้มั้ยในบางเรื่อง ถ้ามันจะต้องลดส่วนนี้ของเราบ้าง ผมมองว่าเหล่านี้มันก็เป็นเรื่องจริงที่สะท้อนว่า เราจะต้องอยู่กับสังคมในยุคนี้ยังไง ด้วยสถานการณ์ตอนนี้มันทำให้อะไรๆ ยากขึ้นไปหมดเลยครับ
ว่าน: ผมว่าในซีรีส์ออฟฟิศติดฮา ถ้ามุมที่มองพนักงานออฟฟิศหรือพนักงานที่รับเงินเดือนบริษัทแบบนี้นะ ภาคเอกชนแบบนี้ ผมว่าต้องมีวินัยมาก และยังต้องทำมากกว่าหนึ่งหน้าที่ด้วย โดยเฉพาะถ้าเป็นพนักงานชั้นผู้น้อยแบบที่พวกเราเล่นกันอยู่ การที่ต้องทำให้มากกว่าหนึ่งหน้าที่คือ ไม่ง่ายเลยนะ
สมมติว่าไม่ได้ทำงานอยู่ในวงการบันเทิง อาชีพที่เราอยากจะทำคืออะไร
ว่าน: ที่พี่บอกจะทำที่แกรมมี่ไง
ป๊อบ: โห… ทำที่แกรมมี่… (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ แถวอโศกรถอย่างติดเลย คือผมเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ในระบบออฟฟิศ เป็นคนที่ทำงานกับระบบออฟฟิศไม่ได้ สมมติถ้าผมจะต้องทำงานที่ไม่ใช่ในวงการบันเทิง ผมไปขายก๋วยเตี๋ยว ขายปาท่องโก๋ดีกว่า เพราะว่าความเป็นออฟฟิศ ทุกอย่างมันไม่ได้อยู่ที่เรา เราเป็นเพียงฟันเฟืองประกอบบริษัทเขาขึ้นมา แล้วเรารู้สึกว่าเราคงไม่ใช่ฟันเฟืองที่ดีนัก แต่ถ้าบางทีแม่งขัดกับสิ่งที่บริษัทต้องการแบบนี้เราอยู่ไม่ได้หรอก
โจ๊ก: ถ้าเป็นผมผมก็ยอมลดคุณภาพชีวิต ผมยอมลดลงได้เลยอะ เพื่อไปแค่ทำผัดข้าวขาย ขายในร้านเล็กๆ มีรายได้น้อยลงก็ยังดีกว่า เพราะเรารู้สึกว่ามีความสุขกว่าทำงานออฟฟิศ ผมทำไม่ได้และอยู่กับความวุ่นวายไม่ได้แน่นอน
ว่าน: ไม่แน่ผมอาจจะทำงานออฟฟิศได้ ไม่แน่ๆ ครับ เพราะเดี๋ยวนี้ออฟฟิศสมัยใหม่ มันมีทางเลือกให้เข้ากับวัฒนธรรมของตัวเราเยอะ สมมติเราไปสมัครบริษัทปองกูล เราเป็นพนักงานเงินเดือนนะ และธรรมชาติบอสเป็นแบบนี้ ผมว่าก็อาจเป็นไปได้นะ
โจ๊ก: เดี๋ยวนี้มีออฟฟิศที่น่าอยู่เยอะแยะ แค่ส่วนตัวผมว่าวิถีชีวิตพนักงานออฟฟิศไม่เหมาะกับผม
ป๊อบ: ลองเลือกสักตำแหน่งที่คิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ หรืออยากที่จะทำ
ว่าน: ผมน่าจะสมัครตำแหน่งครีเอทีฟ
ป๊อบ: ผมน่าจะทำบัญชีเพราะว่าในชีวิตจริงไม่เคยทำบัญชี
โจ๊ก: มันมีตำแหน่งอะไรบ้างอะครับ 555
เพียบเลยค่ะ พีอาร์ การตลาด ฝ่ายจัดซื้อ
โจ๊ก: เจ๊งเลยถ้ากูเป็น (หัวเราะ) ผมไปทำตรงไหนเจ๊ง แน่นอนเลย มีอะไรที่คนโง่ที่สุดจะอยู่ในออฟฟิศได้บ้าง ตำแหน่งที่ง่ายสุด
ป๊อบ: ประธานนั่นแหละโง่ที่สุดละ (ห้วเราะ)
โจ๊ก: ไม่ใช่ เขาให้เป็นพนักงานออฟฟิศ ก็คงเป็นงานที่มันไม่ซับซ้อนครับ เลือกไม่ถูกเลยเพราะผมไม่ถนัดจริงๆ
เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว พอมาเล่นเรื่องนี้ด้วยกันช่วยเหลือในเรื่องงานกันอย่างไรบ้างคะ
ว่าน: ต้องช่วยครับ ต้องช่วยกัน วิธีการมันคือแบบนี้ครับ ช่วงแรกในแต่ละวัน จะต้องถ่ายให้ได้ 25 ซีน ซึ่ง 2-3 คิวแรก มันจะเหมือนโรงงานผลิตซิทคอมหน่อย คือถ้าเราไม่ช่วยกันมันจะทำให้เครื่องจักรไปไม่ได้ พี่ป๊อบบทอันนี้ของพี่เยอะนะ อ่านก่อนๆ ไอ้โจ๊กอ่านไปบางทีลืมแล้ว อมบทอยู่ ก็ต้องช่วยเหลือกัน คอยผลักดัน เชียร์อัพกันตลอด
โจ๊ก: สมมุติถ้าไปอยู่กองติดขัดเรื่องบท เราก็จะมาช่วยกันต่อบท
ว่าน: แล้วในบทแม่งดันเป็นเพื่อนสนิทกัน แม่งก็ช่างเจรจากันเหลือเกิน พูดกันเองเยอะเหลือเกิน บทก็ยาวซะด้วย
ป๊อบ: ส่วนใหญ่จะเข้าฉากด้วยกัน 3 คนตลอด ถ่ายฉากแยกน้อยมาก ว่านเดี่ยว โจ๊กเดี่ยว ป๊อบเดี่ยว เราต้องค่อยช่วยกันต่อบท ต่อบทคนเดียวก็ไม่คล่องเท่ากับมาช่วยกันต่อบทพร้อมๆ กัน 3 คน
ว่าน: ใช่
โจ๊ก: ถ้ามีเข้าซีนทุกคนก็ต้องมาต่อบทกันเลย
ได้ร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นอย่าง ซาร่า สไมล์ ดาว สาวๆเขาเป็นยังไงกันบ้าง
โจ๊ก: พูดถึงสไมล์ก่อน ผมไม่เคยร่วมงานกับเขา ตอนที่เขาเล่นเป็นผีอะ ผมตกใจมากเลยนะ คือเขาทุ่มเทมาก เล่นแบบแลกหมัด แล้วเขาสวย แต่เขากล้าเล่นแบบแลบลิ้นปลิ้นตา ยอมทำหมดเลย สั่งให้ทำไรทำหมดเลย น้องคนนี้ทำเอาผมตกใจและทึ่งในความทุ่มเทมากครับ
ป๊อบ: ซาร่าเราก็จะเคยเจอกันอยู่แล้ว เรารู้ว่าแบบซาร่าแม่งพลังงานเยอะมาก และเป็นคนทุ่มเทจัดๆ สนุกมากที่ได้มาร่วมงานกัน
โจ๊ก: เราได้เห็นซาร่าในการท่องบทจริงจัง
ป๊อบ: ต้องพูดเยอะสุดไง บทยาว
ว่าน: ทั้งสองคนนี้จะถูกควบคุมโดยดาวโอเกะ ดาวเหมือนเป็นหัวหน้าทีมของฝ่ายหญิง จะควบคุมจังหวะจะโคนต่างๆ แก๊งสามสาวก็แยกโต๊ะของเขา อยู่ในห้องที่มีแอร์เย็นๆ ส่วนเราก็นั่งอยู่กับทีมน้ำ ทีมไฟ ถ้าเข้าไปอยู่ตรงนั้นด้วยกัน ห้องมันจะแน่นไปหน่อย ก็เลยต้องแยกย้ายกันไปต่อบท แต่สามสาวนี้พลังเยอะจริงๆ ครับ แล้ววันที่ดีที่สุดคือ วันที่ซาร่าทำงานเสร็จดึก แล้วต้องมาถ่ายต่อตอนเช้ามันจะพอดีๆ ให้เขาเพลียๆมาหน่อย ดูพอดี (หัวเราะ)
ป๊อบ: ไม่งั้นลน คืออยู่ว่างๆ ก็มีเสียงตะโกน “เอาหน่อยโว้ย! เอาโว้ย!”
ถ่ายทำมาถึงตอนนี้ สามารถเรียกได้ว่าทุกคนเข้าอกเข้าใจวิถีชีวิตของพนักงานออฟฟิศแล้วหรือยังคะ
ป๊อบ: ผมว่าคล้ายๆ กับที่โจ๊กบอกว่า เริ่มรู้สึกแล้วว่าคนที่ต้องทำงานรูทีนแล้วมีเงินเดือนมาเป็นสิ่งกำกับชีวิต มันมีความเครียดในรูปแบบของเขานะ ทำงานเสร็จแล้วมีวัฒนธรรมที่ต้องเอาความร้อนในตัวออกด้วยการไปผับ วันรุ่งขึ้นต้องมาเจอความเครียดเดิมๆ ทำสิ่งเดิมๆ แล้วยิ่งถ้าอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรไม่ดีหรือไม่น่ารัก มันยิ่งทำให้อยู่กันยาก ซึ่งในออฟฟิศนี้มันก็ความน่ารักและความไม่น่ารัก ความจิกกัด และความเป็นห่วงมันมีอยู่ในออฟฟิศนี้หมดเลยอะ
โจ๊ก: เครียดเหมือนกันนะ เรื่องเงินเดือนก็เครียดแล้ว ยังมีการนินทา การประจบ และการใส่หน้ากากเข้าหากัน กับคนที่ไม่ได้ชอบใจกัน เป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้ประมาณนึงครับ
ถ้างั้นส่งพลังใจดีๆ ให้กับพนักงาน หรือเจ้าของบริษัทที่ต้องเจอวิกฤตในช่วงนี้สักนิดค่ะ
ว่าน: 2ปีที่ผ่านมา ผมเห็นคนที่เป็นเจ้าของบริษัท เจ้าของกิจการเขาก็สู้ต่อเท่าที่ไหว ไม่มีการปลดพนักงาน แต่บางคนอาจจะโดนลดเงินเดือน หรือถ้าบริษัทไหนไม่ไหวก็จบ ส่วนคนที่ปรับตัวเร็วสุด ก็จะยังพอไปต่อได้ ส่วนบางเจ้าที่ไม่ไหวจริงๆ แล้วต้อง lay off พนักงานออก ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพราะเพื่อให้ทุกอย่างมันไปต่อตามสถานการณ์ ก็แล้วแต่มุมมองของผู้บริหารในการตัดสินใจ
โจ๊ก: คำที่ว่านบอกใช้ได้เลย คำที่บอก “ใครปรับตัวไวสุดรอด” ยังไหวอยู่ก็ประคองไป ส่วนคนที่เริ่มแย่ ปรับตัวให้เร็ว ให้ได้ดีที่สุดครับ New Normal ก็จริง แต่ถ้ายังยึดติดอยู่ที่เดิม ผมว่าจมน้ำแน่ มันต้องว่ายหนีแล้วครับ ต้องปรับตัวเพื่อสู้กับอะไรสักอย่าง
ป๊อบ: ทุกอาชีพมันแย่หมด อย่างที่ว่านกับโจ๊กบอก การปรับตัวมันเป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้ ใช่ว่าปรับตัวครั้งเดียวแล้วมันจะได้ คุณจะต้องปรับตัวกันทุกเดือนด้วยซ้ำ ทุกสามเดือน ทุกสี่เดือน ปรับในรูปแบบของผู้จัดการ รูปแบบประธานบริษัท ในรูปแบบของพนักงานบริษัททั่วไป
ผมว่าในเรื่องงานมันคงเป็นอะไรที่คุณรู้จักมันอยู่แล้ว แต่ความเหนื่อยสำคัญที่มันเกิดขึ้นในยุคนี้ เหนื่อยในการปรับตัวเพราะเราไม่รู้ว่าเดือนนี้เดือนหน้า ตลาดของบริษัทเราจะเป็นยังไง เราจะทำยังไง ต้องมูฟไปด้านไหน ตอนนี้บริษัทแม่งจะต้องมีคนหนึ่งออกมาเป็นข้งเบ้งในการมองระยะไกลว่า เอ๊ะ!เรือเราแม่งทิศทางลม แม่งผันผวนมาก ตอนนี้ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับทุกคน ขอให้เลือกทางลงถูก ขอให้อยู่รอดกันได้ทั้งหมดในเรือลำนั้นกันนะครับ
ทิ้งท้ายฝากซีรีส์กับแฟนๆ หน่อยค่ะ
ป๊อบ: ครับผม…. ออฟฟิศติดฮา หรือ Happy Working Club อยากฝากไว้เพราะว่ารวมตัวกันยากนะกว่าจะมาเจอกัน นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว ยังเป็นนักร้องด้วยนะครับ (หัวเราะ) คิวที่จะได้มาทำงานด้วยกันยาวๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่มันได้เล่นซิทคอมด้วยกัน แล้วนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่อง ตลกมากๆ นะครับ เช่น ซาร่าเอย ลุงรงค์เอย รวมถึงทุกๆ คนเลยนะครับ เรื่องนี้ก็เป็นปรากฏการณ์ความฮาที่ไม่อยากให้พลาด
ว่าน: ตอนที่มึงบอกว่าตลกมากๆ กูไม่มั่นใจเลย (หัวเราะ) ก็อยากฝากให้ทุกคนติดตามกัน สำหรับ 2 ปีที่ผ่านมา เราเจอเรื่องเครียดๆ กันมาเยอะมาก เมื่อมีเวลาว่างจากออฟฟิศก็หาอะไรที่มันบังเทิงเข้าสู่ร่างกายบ้าง ออฟฟิศติดฮาน่านะเป็นทางเลือกที่ดี ซิทคอมเรื่องนี้จะเป็นช่องทางกา
ป๊อบ: ถ้าต้องการสาระ แนะนำให้เข้าหอสมุดแห่งชาติ แต่ถ้าต้องการความฮา มาทางพวกเราได้เลยครับ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 20.00 น. (สองทุ่มตรง) ทาง WeTV
เรื่องย่อ
มินท์ พนักงานสาวน่ารักคนใหม่ เพิ่งเข้ามาทำงาน มินท์ได้เรียนรู้การทำงานของฝ่ายแอพเนื้อคู่ เธอได้พยายามปรับตัวเข้ากับพนักงานทุกคน แต่ด้วยการทำงานของออฟฟิศนี้ที่เน้นสบายเพื่อปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ จึงทำให้มินท์เป็นงงไปหมด ในออฟฟิศเริ่มมีข่าวลือ เรื่องบริษัทแม่กำลังจะจัดการระบบภายในบางอย่างของแผนกแอพเนื้อคู่นี้ และเห็นได้ชัดว่า วิชัย หัวหน้าแผนก ดูเครียดขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก และแล้วก็มีข่าวหลุดมาว่า จะมีการลดขนาดองค์กรลง พนักงานจำนวนหนึ่งจะถูกไล่ออก โดยทุกคนจะถูกประเมินจากทางผู้ใหญ่อีกที
หลังจากทุกคนในออฟฟิศรู้ข่าวนี้ แต่ละคนมีท่าทีที่เปลี่ยนไป ระพี ตั้งใจประจบวิชัยหัวหน้าอย่างจริงจังจนออกนอกหน้า ส้มซ่า เริ่มจับผิดและรายงานความประพฤติพนักงานให้หัวหน้าทราบ ทางด้าน วิทย์ พยายามสืบว่าผู้ใหญ่จะใช้วิธีอะไรประเมิน โป๊ป ลอยตัวเพราะโปรแกรมเมอร์ใครๆก็ต้องการ เขาไม่มีทางเชิญออกแน่นอน อ๊อด เริ่มหางานใหม่แล้ว และคิดว่าอยากทำธุรกิจของตัวเองโดยหันมาสนใจบิทคอยแทน
จากออฟฟิศที่ทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่แล้ว ก็เริ่มแตกแยกกันมากขึ้น มินท์ทนไม่ไหวจึงพูดให้ทุกคนได้คิดว่า ที่บริษัทจะให้พนักงานออกเป็นเพราะบริษัทขาดทุนไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าพวกเราร่วมแรงกันทำให้บริษัทกลับมามีกำไร การไล่ออกก็น่าจะไม่เกิดขึ้น พนักงานทั้งหมดจึงพยายามลดอีโก้ของตัวเองและร่วมมือกันทำงานอีกครั้ง แต่ความร่วมแรงร่วมใจก็เกิดขึ้นแค่ระยะหนึ่ง เมื่อมีข่าวหลุดออกมาว่า ในออฟฟิศมีสายที่คอยส่งข่าวให้กับผู้บริหาร รายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายแอพเนื้อคู่นี้ตลอด ฤดูกาลล่าแม่มดจึงเกิดขึ้น ต่างคนต่างสงสัยกันแหละกัน พยายามหลอกล่อและโยนหินถามทาง จนเริ่มไม่ไว้ใจกันเอง มินท์เห็นแล้วว่าสถานการณ์ในออฟฟิศกำลังจะแย่ลง
วันต่อมาวิชัยได้พา จารุวัฒน์ เข้ามาแนะนำให้พนักงานทุกคนรับรู้ว่า เขาคือหัวหน้าคนใหม่ และวิชัยเองจะถูกย้ายไปแผนกแอพจองโรงแรม โดยจารุวัฒน์จะใช้เวลาช่วงสองเดือนนี้เรียนรู้งานไปก่อน พนักงานทุกคนจึงหันกลับมาร่วมมือกัน กลั่นแกล้งให้จารุวัฒน์ไม่อยากย้ายมา วิทย์คิดว่าจารุวัฒน์นี่แหละคือคนที่ผู้บริหารส่งมาสืบ จารุวัฒน์แอบคุยกับมินท์เรื่องที่มินท์มาศึกษาฝ่ายแอพเนื้อคู่จึงทำให้ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมินท์ คือ ลูกสาวของประธานบริษัท
จารุวัฒน์ถามมินท์เรื่องจะจัดการกับฝ่ายแอพเนื้อคู่ยังไง มินท์บอกว่าตนได้วางบททดสอบ พนักงานของแผนกนี้เอาไว้แล้วจะดูว่าพนักงานในฝ่ายนี้จะตัดสินใจยังไง ถ้าพวกเขาติดสินใจพลาดก็อาจจะปิดแอพนี้
คาแร็คเตอร์และนักแสดงหลัก
1. อ๊อด (Odd) ครีเอทีฟสุดติงต๊อง ชอบวางมาดทำตัวเป็นคุณชาย มีคำพูดติดปากคือ “หญิงแม่บอกว่า…” “ชอบแกล้งคนอื่น” แต่เวลานอยด์จะขี้กลัวสุดๆ
รับบทโดย โจ๊ก: กรภพ จันทร์เจริญ
2. โป๊ป (Pope) โปรแกรมเมอร์ปากมอม ราวกับชีวิตนี้ไม่รู้จักกับคำว่ากาลเทศะ มักจะโดนวิทย์กับอ๊อดแย่งจีบหญิงประจำ
รับบทโดย ป๊อบ: ปองกูล สืบซึ้ง
3. วิทย์ (Wit) พนักงานการตลาดสุดหล่อ เจ้าแผนการ และเป็นเหมือนผู้นำของแก๊งพนักงานชาย ในการเริ่มทำเรื่องสุดวายป่วงต่างๆ ในบริษัท แถมยังเป็นเจ้าพ่อวงการหมาหยอกไก่อีกด้วย
รับบทโดย ว่าน: ธนกฤต พานิชวิทย์
4. มินท์ (Mint) น้องใหม่ฝ่ายการตลาด สาวน่ารัก น่าทะนุถนอม แต่ฝีปากมักแอบจิกกัดคนในออฟฟิศเสมอ
รับบทโดย สไมล์: ภาลฎา ฐิตะวชิระ
5. ส้มซ่า (Somza) พนักงานฝ่ายขายบ้างานจอมเล่นใหญ่ และกวนบาทาได้โล่ห์จนใครๆก็ปวดหัว เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสามแสบ
รับบทโดย ซาร่า: นลิน โฮเลอร์
6. ระพี (Rapee) เจ๊ใหญ่ฝ่ายบุคคลของออฟฟิศ สาวสวยสายฮา เหลี่ยมจัด ชอบแอ๊ววิทย์แบบทีเล่นทีจริง
รับบทโดย ดาว: ณัฐภัสสร สิมะเสถียร
7. วิชัย (Vichai) หัวหน้าแผนกสายมูตัวพ่อ แม้จะดูดุแต่ชอบเล่นกับตุ๊กตา กิจวัตรของวิชัยคือการดูฤกษ์ และคอยปวดหัวกับพนักงานของตัวเอง
รับบทโดย อาเกรียง: เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง
8. เฮียไนท์ (Night) เจ้าของร้าน Good night Bar ที่แก๊ง 3 หนุ่มชอบมาดื่ม เป็นหนุ่มใหญ่ปากร้าย แต่ก็คอยให้คำแนะนำคนอื่นเสมอ
รับบทโดย อารงค์: จตุรงค์ พลบูรณ์
เตรียมมาขำกันให้กรามค้างกับวิถี
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
The Star Idol ทั้ง 8 คน กับการถ่ายปกแฟชั่นครั้งแรกให้กับ Sudsapda Digital Cover