เคมีเกินต้านมาก สำหรับการประเดิมจับคู่ลงจอครั้งแรก ของ หมาก-ปริญ สุภารัตน์ และ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต ในละคร “ตราบฟ้ามีตะวัน” เรียกว่าเป็นละครที่มาเสิร์ฟความฟินทิ้งทวนปลายปีได้อย่างชุ่มชื่นหัวใจสุดๆ งานนี้เลยขอพาพระนางมาเม้าท์มอย พูดคุยถึงการทำงานเรื่องนี้กันสักหน่อย บอกเลย น่ารักอะ!
หมาก-เก้า จับมือส่งความฟิน-สนุก-ดราม่าใน ตราบฟ้ามีตะวัน
บทและคาแร็คเตอร์ในตราบฟ้ามีตะวันเป็นอย่างไรบ้างคะ
หมาก : สวัสดีครับแฟนๆ สุดสัปดาห์ หมาก-ปริญครับ
เก้า : สวัสดีค่ะ เก้าสุภัสสราค่ะ
หมาก : ตราบฟ้ามีตะวัน เป็นละครโรแมนติกคอมเมอดี้ บวกดราม่าหน่อยๆ ผมรับบทเป็น ‘อาทิตย์’ ส่วนน้องเก้าเล่นเป็น ‘น้องแป้ง’ ตอนแรกพี่อาทิตย์ก็จะดูแลให้ความอบอุ่นน้องแป้ง แต่หลังๆ ก็มีอันต่องเกลียดเขา
เก้า : เรื่องราวจะเล่าถึงตั้งแต่พาร์ทวัยเด็ก ที่เราได้เจอกันจนถึงตอนโต แป้งเจอเรื่องราวที่ไม่ดีในวัยเด็กเกี่ยวกับครอบครัว คือพ่อแม่เสียชีวิต เลยส่งผลให้เขามีพฤติกรรมที่ไม่ดีบางอย่าง คนรอบข้างไม่เอ็นดู แต่มีแค่พี่อาทิตย์คนเดียวที่คอยใส่ใจเรา คอยเป็นเพื่อนเรา
หมาก : สงสารไง
เก้า : ใช่ค่ะ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน เหมือนเราไปทำพฤติกรรมที่ไม่ดี จนทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุเกือบเสียชีวิต เลยทำให้เขาเกลียดเราไปเลย
หมาก : พอเวลาผ่านไป ก็กลับมาเจอกันใหม่ เขาก็กลับมาแก้ตัว
เก้า : กลับมาชดใช้ความผิด ด้วยจากสัญญาอะไรบางอย่างจากครอบครัวเขา เราก็เลยต้องกลับมาชดใช้ ทั้งที่จริงๆ อป้งก็ไม่กล้าสู้หน้สพี่อาทิตย์นะ
อะไรทำให้ตัดสินใจเล่นรับเล่นละครเรื่องนี้คะ
หมาก : ผมอ่านบทแล้วปิ๊งเลย อีกอย่างรับไปเพราะอยากเล่นละครกับน้องเก้าครับ ได้ทำงานกับพี่ชุ (ผู้กำกับ) และบทก็ดีมากด้วยครับ
เก้า : มันเป็นความท้าทายมาก ตื่นเต้น กังวลมากค่ะ เพราะคุณอุณหภูมิปกติ นักเขียนของเรา วางภาพว่าเป็นเก้ามาอยู่ในร่างแป้ง เรามาเล่นเป็นสิ่งที่เขาวาดไว้จริงๆ เราจะทำได้คอมพลีตมั้ย แล้วบทมันยากมาก ตอนนี้เราอายุ 25 ปีแล้ว แต่ต้องไปเล่นเป็นนักเรียน ม.3 วิธีการพูดหรือความคิดเรา มันก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนตอนเราเด็กแล้ว เลยต้องทำการบ้านหนักมากค่ะ
แป้งเอาแต่ใจตัวเองมาก เก้ากลัวคนดูจะเกลียดมั้ยคะ
เก้า : ก็เตรียมใจไว้อะค่ะ (หัวเราะ) แต่เขาก็มีเหตุผลนะคะที่แสดงออกแบบนั้น ทุกคนมาทำเขาก่อน เขาไม่ยอม ต้องตอบโต้กลับค่ะ คือมันเป็นเส้นบางๆ ว่า ถ้าเล่นผิดปุ๊บ เราจะดูเป็นนางร้ายๆ มากเลย
หมาก : คือในเรื่องทำกับพ่อกับแม่เรา แรงมาก
เก้า : คนจะเกลียดเพราะว่าไปทำกับพี่อาทิตย์ด้วยค่ะ
หลังจากร่วมงานกันแล้ว อยากให้รีวิวกันและกัน
เก้า : โห… คือหนูเคยร่วมงานกลับพี่หมากแล้วตอนคมแฝก แต่หนูก็ยังไม่ได้สนิทกับเขา เพราะเขาชอบนั่งแยกตัวไปคุยกับคนอื่น
หมาก : โห… นั่นเธอหรือเปล่า
เก้า : คือตอนนั้นหนูก็ไม่ค่อยได้เข้าฉากกับพี่หมาก จะเข้ากับพี่อเล็กซ์ คือเราก็เกร็งเพราะว่าพี่เขาดูติสท์ ๆ ดูแบบนิ่งๆ เท่ๆ แต่ครั้งนี้พอได้มาทำงานด้วยกันจริงๆ ไม่เหมือนกับที่เราคิดไว้เลย พี่หมากไนซ์มาก เป็นคนชิล อยู่ด้วยแล้วไม่อึดอัด สบายๆ
หมาก : อย่างที่บอกว่า ผมอยากทำงานน้องเก้า เรารู้สึกว่าเด็กคนนี้มีอินเนอร์การแสดงค่อนข้างแรง เพราะว่าผมได้ดูหนังของเขาเรื่องฝากไว้ในกายเธอ รู้สึกว่าคนนี้เป็นนักแสดงที่ดูมีอะไร พอทำงานด้วยเขาเก่งมาก เขาเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีการแสดงแบบใหม่ๆ รีแอ็คใหม่ๆ แล้วเขาก็ทำเซอร์ไพรส์เราได้ตลอดเวลา จังหวะการพูด จังหวะการรีแอ็คต่อกันในฉาก
ความสนุกในการทำงานเรื่องนี้มีอะไรที่อยากเล่าบ้างคะ
หมาก : เรื่องนี้ได้ทำอะไรแปลกใหม่ เช่น เล่นรักบี้ ขับรถไถ ขับแทรกเตอร์ รักบี้เป็นกีฬาที่ค่อนข้างยาก ใช้ความแข็งแรงมากๆ ล้มจริง เจ็บตัวจริงๆ คือเราก็อยากให้มันได้ฟีล และขับรถแทรกเตอร์ ก็ชอบครับ เพราะเราขับรถทุกชนิด ทุกประเภท เป็นชาวสวนต้องขับรถแทรกเตอร์เป็น
นอกจากนี้่ยังสนุกที่ได้เจอเพื่อนๆ ชอบบรรยากาศในกองถ่ายมากเลย ไม่เหมือนกับมาทำงาน เหมือนเราไปเจอเพื่อนไปเจอครอบครัว
เก้า : ใช่ๆ หนูก็ชอบบรรยากาศในกองเหมือนกัน คือโชคดีมากที่พี่ๆ ตากล้อง ทีมงานทุกคนคือน่ารักหมดเลย โดยเฉพราะพี่ๆ ทีมสวัสดิการ คอยทำผลไม้ ทำนู่นทำนี่มาให้กิน คอยสังเกตว่าเราชอบอะไร ก็หามาให้ เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราประทับใจมากเลยค่ะ
นอกจากความสนุก คิดว่าคนดูน่าจะได้อะไรจากการดูละครเรื่องนี้
หมาก : เรื่องครอบครัว คือเด็กคนหนึ่งเติบโตมาในรูปแบบใด เป็นคนอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของผู้ปกครอง ว่ามีเวลา ให้ความรัก ความอบอุ่นมากแค่ไหน อบรมกันอย่างไร
เก้า :ยังสอนเราในเรื่องอย่าการตัดสินคนอื่นจากภายนอก คือเดี๋ยวนี้เจอใครแป๊บๆ ก็ตัดสินเขาไปเลย โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนอย่างไร คิดอะไร รู้สึกอะไร เรื่องนี้สอนคนในยุคนี้ได้ดีเลยค่ะ
ฝากละครเรื่องนี้กับแฟนๆ สุดสัปดาห์สักนิดค่ะ
หมาก : สำหรับผมก็อยากจะให้ทุกคนได้ชมละครเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนาน เพลิดเพลิน คิดตามไปด้วยว่าเรื่องครอบครัว เรื่องการดูแลคนในครอบครัวสำคัญมาก เป็นพื้นฐานที่ดีในการสร้างคนๆ หนึ่งให้เติบโตมาอย่างมีคุณภาพ
เก้า : ดูละครแล้วสะท้อนความเป็นตัวเรา ว่าคนนี้เอาแบบอย่างดีมั้ย สิ่งดีๆ เราเก็บไว้เป็ยตัวอย่างที่ดี อะไรที่ไม่ดี ก็รู้ไว้ เพื่อที่เราจะไม่ทำแบบนั้น
Text: AuAi Photo: Sudsapda
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ต่อ ธนภพ-แอฟ ทักษอร มิตรภาพใสๆที่เกิดใหม่ในกองละคร