มาแข่งเกมโชว์ระดับโลก The Best of All Thailand 2 (เลขระทึกโลก ซีซั่น 2) ทางช่อง 3 ปอร์เช่ ศิวกร อดุลสุทธิกุล ศิลปินจากสังกัด 4NOLOGUE ก็ทำแจ็คพอตต์แตกคว้าเงิน 100,000 บาท เกมจบแต่เรื่องราวดีๆ ยังไม่จบ เมื่อปอร์เช่ มอบเงินส่วนหนึ่งให้กับผู้แข่งขันจากทางบ้าน เพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับหลานสาว หล่อทั้งตัวหล่อทั้งใจจริงๆ
“ปอร์เช่ ศิวกร”มอบเงินส่วนหนึ่งจากรายการ”เลขระทึกโลก”ให้ผู้แข่งขันจากทางบ้าน
หล่อแล้วยังจิตใจดีอีกต่างหาก สำหรับ สำหรับหนุ่ม “ปอร์เช่” ศิวกร อดุลสุทธิกุล ศิลปินภายใต้สังกัด 4NOLOGUE ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้ไปร่วมแข่งขันในรายการ “เลขระทึกโลก ซีซั่น 2 ซึ่งเจ้าตัวคือผู้ชนะ ทำแจ็คพอตต์แตก โดยปอร์เช่เป็นดาราคนแรกที่ชนะในซีซั่น 2 รวมเงินสะสมที่ได้ 105,000 บาท ซึ่งตอนที่พี่ป้อ-ณัฐวุฒิ พิธีกร ประกาศว่าผู้ชนะคือปอร์เช่ เจ้าตัวยังดูงงๆ เหมือนไม่อยากเชื่อว่าตัวเองชนะจริงๆ
ความน่ารักของ ปอร์เช่เกิดขึ้นหลังจากเกมจบ เมื่อเจ้าตัวมอบเงินส่วนหนึ่งให้ผู้เข้าแข่งขันจากทางบ้านด้วย ซึ่งหลังการแข่งขัน ปอร์เช่ มอบเงินรางวัล ส่วนหนึ่ง ให้คุณป้าศุภากร เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับหลานสาว ในรายการคุณป้าได้บอกเหตุผลที่มาเข้าแข่งขันในรายการ เลขระทึกโลก ก็เพราะอยากให้เงินรางวัล เพื่อไปเป็นทุนการศึกษาให้หลาน ความน่ารักของคุณป้าก็เลยจับใจปอร์เช่ น้องเลยมอบเงินรางวัลส่วนหนึ่งให้กับคุณป้า เพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาให้หลานสาวตามที่ตั้งใจไว้
พี่ป้อ-ณัฐวุฒิก็ได้แชร์ความรู้สึกของตัวเองผ่านเฟซบุ๊ค พร้อมแคปหน้าจอที่คุณป้าได้โพสต์ไว้ลงไอจีส่วนตัวด้วย
พี่ป้อโพสต์ว่า: เรื่องดีๆ จากน้ำใจของดาราวัยรุ่นที่น่ารัก #ขอบคุณน้องปอร์เช่มากๆครับที่มาสร้างแรงบันดาลใจในรายการเลขระทึกโลกของเรา #สู้ๆวัยรุ่น
ส่วนคุณป้าก็โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า : ป้าขอขอบคุณ ปอร์เช่มากลูก หนูเป็นคนดีจริงๆ ที่ให้ทุนการศึกษากับหลานของป้า จากการได้พูดคุยกับปอร์เช่ หนูเป็นเด็กดี มีน้ำใจ ขอขอบคุณครอบครัวของปอร์เช่ที่เลี้ยงลูกได้ดีมากๆๆ
เขาเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีคุณภาพจริงๆ เป็นศิลปินที่น่ารัก ป้าขออวยพรให้หนูประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และสิ่งที่หนูทำทุกๆ อย่าง ขอให้มีคนรักเยอะๆ นะลูกขอบคุณมาก
แบบนี้เขาเรียกว่าหล่อทั้งตัว หล่อทั้งใจ ชนะเกมส์ แล้วยังชนะใจคนดูของจริง
Tex: AuAi Photo: poh_natthawut / 4nologueartist
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
กรี๊ดให้สุดเสียงกับเหล่ามาเฟีย 9 คน พร้อมเรื่องเล่าหลังกองถ่าย “เลือดข้นคนจาง”