ฟ่านปิงปิง หลังจบคดีเลี่ยงภาษี ยังไม่พ้นกระแสแอนตี้
หนึ่งในซุป’ตาร์เบอร์ต้นของจีน ฟ่านปิงปิง กับความเคลื่อนไหวหลังจบสิ้นคดีเลี่ยงภาษีที่กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เมื่อปี 2018 ยังคงเป็นที่จับตามองของชาวเน็ตจีนทุกฝีก้าว!
แม้จะเจอมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ไปเมื่อกลางปี 2018 ที่ผ่านมา สำหรับดาราหญิงจีนตัวแม่ ฟ่านปิงปิง(Fan Bingbing) กับคดีเลี่ยงภาษีที่ทำให้ขุ่นแม่ฟ่านปิงปิงต้องจ่ายภาษีย้อนหลังและค่าปรับรวมๆ แล้วกว่า 880 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทย 4,186 ล้านบาท) ที่มีสื่อจีนรายงานว่าฟ่านปิงปิงใช้เวลาจ่ายเงินจำนวนมหาศาลนั้นเพียง 2-3 วันเท่านั้น ซึ่งหลังจากจ่ายค่าปรับไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าฟ่านปิงปิงจะยังไม่สามารถหวนคืนสู่วงการบันเทิงจีนได้ เนื่องจากยังมีกระแสจากชาวโซเชียลที่แอนตี้เธอมากพอสมควร (อ่านข่าวคดีเลี่ยงภาษีของฟ่านปิงปิงเต็มๆ ได้ที่นี่จ้า)
หลังจากมีข่าวยืนยันว่าฟ่านปิงปิงได้จ่ายภาษีย้อนหลังและค่าปรับครบแล้ว ปิงปิงก็ได้หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงอยู่พักใหญ่ มีเพียงภาพที่ปาปารัสซี่แอบถ่ายไว้ได้ขณะที่เธอไปกินข้าวกับครอบครัว หรือเดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่ไหน ขณะเดียวกันในช่วงปลายปี 2018 สื่อจีนก็นำเสนอข่าวเกี่ยวกับหนังฮอลลีวู้ด 355 ที่ฟ่านปิงปิงจะได้ร่วมประชันฝีมือกับนักแสดงระดับโลก อาทิ Lupita Nyong’o , Penélope Cruz , Jessica Chastain , Marion Cotillard เป็นต้น อาจถูกนางเอกตัวแม่ของจีนอีกคนอย่าง จางซิยี่ (Zhang Ziyi) มารับบทแทน แต่หลังจากสื่อจีนลือเรื่องนี้ได้อยู่พักหนึ่งก็ได้รับการตอบรับจากทางผู้ช่วยของจางซิยี่ว่า “ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน” ซึ่งหลายฝ่ายจึงคาดกันต่อไปว่า ยังมีความเป็นไปได้เป็นอย่างมากว่าฟ่านปิงปิงจะยังคงเป็นเจ้าของบทนี้ต่อไป อีกทั้งสื่อจีนยักษ์ใหญ่ epochtimes.com ยังรายงานอีกว่า หากฟ่านปิงปิงตัดสินใจจะหวนคืนสู่วงการบันเทิง เชื่อว่าหนังฮอลลีวู้ด 355 จะเป็นผลงานคัมแบ็คเรื่องแรกของเธอ
ระดับซุป’ตาร์ฟ่านปิงปิงไม่จบแค่ข่าวเรื่องงาน เพราะแม้แต่ความสัมพันธ์ของเธอและคู่หมั้น หลี่เฉิน (Li Chen) ก็ถูกตีข่าวว่า ดูเหมือนความรักของฟ่านปิงปิงและหลี่เฉินจะไม่หวานชื่นเหมือนเก่า เนื่องจากมีสื่อจีนจี้ประเด็นเรื่องที่หลี่เฉินดูผอมซูบลง และไม่ค่อยเห็นทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเลย อย่างไรก็ตาม หลังกระแสข่าวเข้ามาเป็นระลอก ก็มีภาพหลี่เฉินเดินทางไปรับ ฟ่านเฉิงเฉิง (Fan Chengcheng) น้องชายของฟ่านปิงปิงที่สนามบิน โดยมีแม่ของฟ่านปิงปิงไปด้วย ซึ่งเป็นการยืนยันความสัมพันธ์ของหลี่เฉินและฟ่านปิงปิงไปได้โดยปริยายว่ายังรักกันเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นอย่างที่สื่อจีนลือกันนั่นเอง
ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ฟ่านปิงปิงก็โพสต์ภาพผ่านเวย์ป๋อและอินสตาแกรมส่วนตัวอีกครั้งในรอบหลายเดือน ซึ่งเป็นภาพเซลฟี่หน้าสดของฟ่านปิงปิง พร้อมกับข้อความอวยพรเนื่องในวันตรุษจีน ซึ่งความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลของปิงปิงครั้งนี้กลายเป็นที่ฮือฮาในวงกว้าง
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ครอบครัวฟ่านปิงปิงเป็นที่พูดถึงในเวย์ป๋อจีนอีกครั้ง หลังฟ่านเฉิงเฉิง น้องชายฟ่านปิงปิงโพสต์รูปฉลองวันตรุษจีน พร้อมภาพเซลฟี่ของตัวเองกับพ่อ แม่ และพี่สาวคนสวย ยืนยันความสัมพันธ์อันอบอุ่นและแน่นแฟ้นของสองพี่น้องตระกูลฟ่านไปในตัว หลังจากที่ช่วงปี 2018 ตอนที่ฟ่านปิงปิงมีคดีเลี่ยงภาษีหลายสื่อประโคมข่าวว่า ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องปิงปิงและเฉิงเฉิงอาจไม่โอเคกันเท่าไรนัก เนื่องจากฟ่านเฉิงเฉิงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ไม่น้อยเช่นกัน
ล่าสุดวันที่ 26 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมาแฟนๆ ก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของฟ่านปิงปิง เมื่อมีข่าวว่าขุ่นแม่ได้ฤกษ์ดีเปิดกิจการสถาบันเสริมความงามที่มีชื่อว่า妙美肤殿堂 (Miao Mei Fu Dian Tang) โดยมีหลี่เฉิน ฟ่านเฉิงเฉิง และเพื่อนๆ ในวงการบันเทิง เช่น จางจวิ้นหนิง หม่าซู หูปิง เป็นต้น เป็นตัวแทนตัดริบบิ้น ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างมากในเวย์ป๋อจีนว่า ฟ่านปิงปิงเปิดธุรกิจใหม่อีกครั้งแล้วเหรอ!?
แต่เช้าวันที่ 27 มีนาคมก็มีดีไซเนอร์จีนชื่อดัง จางไซว่ โพสต์ภาพวันงานเปิดกิจการ พร้อมเขียนข้อความขนาดยาว ซึ่งระบุชัดว่า จางไซว่เป็นเจ้าของสถาบันเสริมความงามแห่งนี้ ส่วนฟ่านปิงปิงเป็นเพียงผู้สนับสนุนที่คอยให้คำปรึกษา ซึ่งทำเอาฝ่ายที่แอนตี้งัดหลักฐานต่างๆ ออกมาโชว์ว่า สถาบันความงามแห่งนี้เบื้องลึกเบื้องหลังก็มีฟ่านปิงปิงเป็นหนึ่งในทีมบริหารนั่นแหละ เนื่องจากหนึ่งในผู้ถือหุ้นคือบริษัท北京丽宫影视文化有限公司 ซึ่งเป็นบริษัทที่มีพ่อแม่ของฟ่านปิงปิงเป็นเจ้าของ โดยแม่ของฟ่านปิงปิงถือหุ้นอยู่กว่า 98% ส่วนพ่อของฟ่านปิงปิงถืออีก 2% ที่เหลือ ดังนั้นหลายฝ่ายจึงฟันธงว่าไม่มีทางที่ฟ่านปิงปิงจะไม่เกี่ยวข้องกับบริหารงานสถาบันความงามแห่งนี้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ดราม่าต่างๆ ก็ต้องถูกกลบไปเมื่อมีข่าวฮือฮาเรื่องราคาบัตรสมาชิก VIP ผู้ที่จะใช้บริการสถาบันความงาม Miao Mei Fu Dian Tang สุดแพงเผยแพร่ออกมาในโลกโซเชียล ซึ่งราคาต่ำสุดอยู่ที่ 5 หมื่นหยวน (คิดเป็นเงินไทย 236,557 บาท) ราคาสูงสุดอยู่ที่ 1 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทย 4,731,150 บาท) จากทั้งหมด 6 ราคาแบ่งเป็นชื่อบัตรได้ว่า บัตรนางฟ้า บัตรเทพธิดา บัตรองค์หญิง บัตรพระชายา บัตรจักรพรรดินี บัตรพระราชินี ตามลำดับราคาจากต่ำไปสูง
แม้หลายเดือนที่ผ่านมาจะยังมีกระแสแอนตี้แฟนของฟ่านปิงปิงปรากฎออกมาทุกครั้งที่ฟ่านปิงปิงมีความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ในทางตรงกันข้ามก็สะท้อนให้เห็นว่า หลังมรสุมคดีเลี่ยงภาษี ฟ่านปิงปิงก็ยังคงเป็นตัวแม่แห่งวงการบันเทิงจีนที่ได้รับการจับตามองจากผู้คนอย่างล้นหลามอยู่เสมอมา
เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก 娱乐有饭 / epochtimes.com
รูปจาก : 橘子娱乐 / 凤凰网娱乐 / 范冰冰工作室 / 范丞丞Adam0616 / 张帅VlP / 娱乐有饭 / k.sina.com.cn / 3g.china.com / instagram.com/bingbing_fan
เรื่องโดย : Lizhu