ส่อง 24 นางเอกจีน กับความสามารถด้านการแสดงสุดปังจนมงลง!
วงการบันเทิงจีนมีคำเรียกที่ว่า “四小花旦” (Four Dan Actresses) ใช้สื่อถึง 4 ดาราหญิงจีนที่มีความสามารถด้านการแสดงโดดเด่นและเปล่งประกายเป็นที่น่าจับตามองของยุค ซึ่งคำนี้เริ่มใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2002 จนถึงปัจจุบันในปี 2019 มีถึง 6 รุ่น ทั้งหมด 24 นางเอกจีน วันนี้สุดฯ ขอพาทุกคนมาเจาะลึกจัดเต็มกันที่นี่เลยจ้า ^^
1.รุ่นโด่งดังยืนหนึ่งตลอดกาล : เจ้าเวย จางซิยี่ โจวซวิ่น ซูจิงเล่ย
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า “四小花旦” (อ่านว่า ซื่อ-เสี่ยว-ฮวา-ตั้น) ใช้เรียก 4 ดาราหญิงจีนที่โดดเด่นแห่งยุค ซึ่งในช่วงตั้งแต่ปี 1998 ถึงปี 2002 เป็นช่วงปีที่วงการบันเทิงจีนมีความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ในขณะเดียวกันก็มี 4 นางเอกจีนที่โดดเด่นและเปล่งประกายมาตลอดช่วงหลายปีนั้น จนทำให้สื่อจีนยักษ์ใหญ่ Southern Metropolis Daily ใช้คำนี้เป็นคำเรียกในการสื่อถึงทั้ง 4 คน ได้แก่ เจ้าเวย (Zhao Wei) จางซิยี่ (หรือจางจื่ออี๋ Zhang Ziyi) โจวซวิ่น (Zhou Xun) และซูจิงเล่ย (Xu Jinglei)
เริ่มที่นางเอกซุปตาร์ เจ้าเวย (Zhao Wei) ที่ผลงานที่ทำให้เธอถูกคัดเลือกนั้นหนีไม่พ้นซีรี่ย์ไต้หวันสุดฮิตในตำนานอย่าง องค์หญิงกำมะลอ (1998-1999) ที่ไม่เพียงฮิตกันในไต้หวันและจีนเท่านั้น แต่ยังกระจายความปังไปยังหลายประเทศทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในไทยที่จนถึงทุกวันนี้ยังมีแฟนๆ จำนวนมากยังจำความสดใสน่ารักขององค์หญิงกำมะลอได้ไม่รู้ลืม
จางซิยี่ (หรือจางจื่ออี๋ Zhang Ziyi) นางเอกจีน ความปังระดับฮอลลีวู้ดที่เป็นที่รู้จักในแวดวงภาพยนตร์มากกว่าซีรี่ย์ จางซิยี่เข้าวงการบันเทิงจีนจากการทาบทามของผู้กำกับระดับปรมาจารย์ จางอี้โหมว ให้เธอมารับบทนำในหนังสุดคลาสสิก The Road Home (1999) ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จางซิยี่แสดงหนังเพียงเรื่องแรกก็ปังสุดๆ จนได้แสดงหนังต่อมาอีกเรื่องที่เชื่อว่าหลายคนยังจำกันได้ดี Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) หลังจากนั้นไม่นานในปี 2005 จางซิยี่ก็ได้โกอินเตอร์ไปรับบทนำในหนังฮอลลีวู้ด ถือได้ว่าเธอเป็นดาราหญิงจีนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเวลาอันรวดเร็วและอยู่มายาวนาน เป็นดาวค้างฟ้าที่แท้ทรู!
อีกหนึ่งนักแสดงที่เอาดีในแวดวงภาพยนตร์มากกว่าซีรี่ย์ โจวซวิ่น (Zhou Xun) เพราะอย่างที่หลายคนทราบว่าตลอดระยะเวลาที่โจวซวิ่นอยู่ในวงการบันเทิง เธอมีซีรี่ย์เกือบ 20 เรื่องโดยส่วนใหญ่จะแสดงมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 แต่หนังเป็นงานที่โจวซวิ่นชื่นชอบมากกว่า ก่อนหน้านี้โจวซวิ่นโด่งดังเป็นพลุแตกจากซีรี่ย์จีนเรื่อง Palace of Desire (2000) ที่ทำให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก China TV Golden Eagle Award ครั้งที่ 18 มาได้ ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2010 โจวซวิ่นยังได้รับการรับเลือกจากเว็บ CNN ให้ติดอันดับ 1 ใน 25 นักแสดงเอเชียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย
ซูจิงเล่ย (Xu Jinglei) หนึ่งในนักแสดงผู้มากความสามารถของวงการบันเทิงจีน เพราะไม่ใช่แค่การแสดงที่ซูจิงเล่ยทำได้ดีเท่านั้น แต่เธอยังสามารถกำกับหนังได้ยอดเยี่ยมด้วย ในช่วงที่ซูจิงเล่ยเข้าวงการแรกๆ ก็รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะหญิงของวงการบันเทิงจีนด้วย ผลงานแจ้งเกิดของซูจิงเล่ยคือซีรี่ย์จีนโรแมนติกรักวัยเรียน Cherish Our Love Forever (1998) หลังจากใช้เวลาในวงการพักหนึ่งซูจิงเล่ยก็เริ่มกำกับหนังอย่างจริงจังมากขึ้น โดยหนังที่เธอกำกับและแสดงนำเองอย่าง Letter From an Unknown Woman (2005) ได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก San Sebastian International Film Festival ด้วย นอกจากนี้ยังมีหนัง Go La La Go! (2010) ที่ซูจิงเล่ยกำกับเป็นเรื่องที่ 4 หลังจากเข้าฉายในโรงก็กวาดรายได้ในจีนไปสูงถึง 100 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทย 463,439,323 บาท) ซึ่งถือเป็นผู้กำกับหญิงคนแรกของจีนที่สามารถทำรายได้ทะลุ 100 ล้านด้วย
แต่หลังจากเวลาผ่านไปได้หลายปี หลังปี 2005 ทั้งสี่คนก็ได้รับคำเรียกใหม่ โดยเปลี่ยนจาก “四小花旦” เป็น “四大花旦” ซึ่งความหมายโดยรวมยังคงเหมือนกัน แต่เปลี่ยนจากคำว่า 小 (เสี่ยว) ที่แปลว่าเล็กหรืออายุน้อยเป็น 大 (ต้า) ที่มีความหมายว่าใหญ่หรืออายุเยอะ ซึ่งสอดคล้องกับเหตุผลที่ว่าเพราะทั้งสี่คนมีอายุที่เพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนนั่นเอง ถึงอย่างนั้นแม้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาจะมีดาราหญิงหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นในวงการบันเทิงจีนอยู่ตลอด แต่เจ้าเวย จางซิยี่ โจวซวิ่น และซูจิงเล่ยยังคงเป็นรุ่นมาตรฐานและเป็นนักแสดงระดับแถวหน้าของวงการที่กวาดรางวัลมาแล้วเพียบทั้งจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ไต้หวัน จนถึงทุกวันนี้ทั้งสี่คนยังคงได้รับการยอมรับในฐานะสี่นักแสดงหญิงจีนที่โดดเด่นมากที่สุด
หลังจากปี 2005 เป็นต้นมา มีสื่อทั้งในรูปแบบนิตยสาร หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย จึงมีการคัดเลือก 4 ดาราหญิงจีนที่โดดเด่นแห่งยุคใหม่อีก ในตอนหลังใช้ชื่อเรียกว่า “新四小花旦” โดยเติมคำว่า “ใหม่” เข้าไป เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วหลายคนยังมองว่า นักแสดงหญิงรุ่นใหม่แม้จะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่การยอมรับเรื่องความสามารถยังเทียบรุ่นแรกไม่ได้ โดยตั้งแต่รุ่นนี้เป็นต้นไปจะเป็นการคัดเลือกของแต่ละสื่อที่ต่างกันไปแต่ละปี แบ่งเป็นของ Tencent (qq.com), นิตยสาร Southern Metropolis Entertainment Weekly ปี 2013/2016 และ CCTV6
2.รุ่นที่ได้รับเลือกจาก Tencent (qq.com) ในฐานะ “ซุปตาร์ดาวรุ่งรุ่นใหม่ที่เกิดหลังปี 80” : หวงเซิ่งอี หลิวอี้เฟย หยางมี่ หวังลั่วตัน
นางเอกจีน หวงเซิ่งอี (Huang Shengyi หรือ Eva Huang) หรือที่หลายคนอาจจำเธอได้ดีจากหนังจีนกำลังภายในคอเมดี้ Kung Fu Hustle คนเล็กหมัดเทวดา (2004) จากผลงานการกำกับและแสดงนำของโจวซิงฉือ และซีรี่ย์แจ้งเกิดของหวงเซิ่งอีอย่าง Fairy Couple (2007) ที่ผลักให้เธอกลายเป็นนางเอกชื่อดังของจีน หลังจากนั้นหวงเซิ่งอีก็ได้รับบทในหนังและซีรี่ย์ดังอีกมากมายมาตลอด หนังอีกเรื่องที่ยังคงถูกพูดถึงจนถึงทุกวันนี้คือ It’s love (2011) ที่เล่าเรื่องของพญางูขาว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหนังจีนที่ประสบความสำเร็จระดับสากล กวาดรายได้ในจีนไปกว่า 200 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทย 926,878,647 บาท) ขึ้นแท่นหนังที่ทำเงินสูงสุดของปี 2011 ยิ่งไปกว่านั้นหลังเข้าฉายในหลายประเทศทั่วโลก หนังเรื่องนี้ก็ทำรายได้เปิดตัวสัปดาห์แรกเป็นอันดับหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นหนังเอเชียเรื่องเดียวที่ได้เข้าฉายในเทศกาลหนัง Venice International Film Festival ด้วย
แน่นอนว่าหากพูดถึงเหล่านักแสดงหญิงระดับท็อปของวงการที่เกิดหลังปี 80 จะขาดชื่อของนางฟ้าแห่งวงการบันเทิงจีน หลิวอี้เฟย (Liu Yifei หรือ Crystal Liu) ไปไม่ได้! แม้หลายปีให้หลังมานี้หลิวอี้เฟยแทบจะไม่ได้รับเล่นซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่เท่าไร แต่หากพูดถึงผลงานแจ้งเกิดของเธอก็ต้องยกให้ซีรี่ย์จีนจากนิยายอมตะ มังกรหยก ปี 2006 ที่หลิวอี้เฟยรับบทเป็นเซียวเหล่งนึ่งที่สวยที่สุดแห่งยุคเลยก็ว่าได้ ซึ่งมังกรหยกในเวอร์ชั่นของหลิวอี้เฟยโด่งดังไปทั่วเอเชียเลยด้วย ส่วนผลงานด้านภาพยนตร์ของหลิวอี้เฟยคงต้องยกให้กับ The Forbidden Kingdom หนึ่งฟัดหนึ่ง ใหญ่ต่อใหญ่ (2008) ซึ่งเป็นหนังร่วมทุนระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่สามารถคว้าอันดับหนึ่งหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดสัปดาห์ของอเมริกาเมื่อปี 2008 ได้ด้วย ล่าสุดหลิวอี้เฟยยังมีโอกาสได้แสดงบทมู่หลานเวอร์ชั่นคนแสดงที่บริษัทวอลต์ดิสนีย์เป็นผู้สร้าง เรียกว่าปังแบบฉุดไม่อยู่จริงๆ จ้านางฟ้าหลิวอี้เฟยคนนี้
อีกหนึ่งที่เป็นที่จดจำจากซีรี่ย์จีน มังกรหยก ปี 2006 หยางมี่ (Yang Mi) เจ้าของบทก๊วยเซียงที่แม้จะโผล่มาในช่วงท้ายของซีรี่ย์แล้วก็ตาม แต่ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นหยางมี่ก็ได้แสดงบทนำในซีรี่ย์จีนกำลังภายใน เซียนกระบี่พิชิตมาร 3 (2009) ประกบคู่กับพระเอกรุ่นพี่ หูเกอ จากนั้นหยางมี่ก็มีผลงานออกมามากมายทั้งซีรี่ย์จีนและหนังจีน ซึ่งซีรี่ย์จีนที่ส่งให้ชื่อเสียงของหยางมี่ขึ้นแท่นระดับซุปตาร์ตัวแม่ของวงการคือ สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ (2017) ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วเอเชีย ถือเป็นอีกเรื่องที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการซีรี่ย์จีน และในปัจจุบันหยางมี่ก็กลายเป็นซุปตาร์ตัวแม่ของวงการบันเทิงจีนอย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะซีรี่ย์ แฟชั่น แบรนด์แอมบาสเดอร์ขุ่นแม่หยางมี่ก็ฟาดเรียบ!
หวังลั่วตัน (Wang Luodan) ที่ดังเปรี้ยงจากซีรี่ย์จีน Struggle (2007), My Youthfulness (2009) และหนังจีนเรื่องเยี่ยมจากฝีมือการกำกับของซูจิงเล่ย Go La La Go! (2010) ก็ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ปังทั้งหนัง ผู้กำกับและนักแสดงนำอย่างหวังลั่วตันด้วย แม้จะไม่ได้โกอินเตอร์และเป็นที่รู้จักในหลายประเทศมากนัก แต่ในประเทศจีนผลงานการแสดงของหวังลั่วตันจะได้รับการยอมรับจากแฟนๆ ในประเทศไม่น้อย และไม่เพียงมีความสามารถด้านการแสดงเท่านั้น แต่หวังลั่วตันยังเป็นนักเรียนหัวกะทิที่สอบเข้า Beijing Film Academy ได้ และในปี 2018 ที่ผ่านมาเธอก็สอบเข้าเรียนระดับปริญญาโทได้อีกด้วย
ความแซ่บยังไม่หมด ไปเผ็ซกับเหล่าตัวแม่ซุปตาร์จีนกันต่อที่หน้า 2 ได้เลยจ้า