กลายเป็นประเพณีประจำปีที่ทุกเดือนตุลาคม สุดสัปดาห์ จะชวนคนดังมาแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุกต้อนรับ Halloween สารภาพว่ากลัวก็กลัว แต่ก็อยากฟังอยู่ดี ว่าแล้วก็หาเพื่อนมานั่งข้างๆ เพราะคุณอาจจะขวัญผวาจนไม่กล้าอ่านคนเดียว
ป.ล. ตั้งสติให้ดี และขอย้ำคำเดิมว่านี่คือความเชื่อส่วนบุคคล และโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เมฆ – จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์
พระเอกใหม่จากซีรี่ส์ รักนะเป็ดโง่ กับประสบการณ์กุมารเทพคุ้มครองที่เจ้าตัวยอมรับว่ามาทีไรก็ตกใจเบาๆ แต่ก็อุ่นใจเมื่อมีเธอ
“แรกๆ ผมกลัวนะ มีกุมารมาอยู่ด้วย ซินแสบอกว่าไม่ต้องกลัวหรอก แบบนี้เรียกว่ากุมารเทพ เขาไม่ต้องการของเซ่นไหว้ ไม่ต้องการของเล่น แค่ทำบุญให้ก็พอ ทุกวันนี้คนในบ้านใช้ชีวิตตามปกติ บางทีก็มาแหย่มาทักทายน้องสาวผม น้องผมฝันว่าเล่นกับเขาบ้างเป็นระยะๆ ผมเองก็เคยฝันนะ เขาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ไม่ต้องห่วงนะ เขาอยู่ใกล้ๆ คอยดูแลอยู่ นานๆ ทีมีให้โชคให้ลาภด้วยครับ หรือถ้าช่วงไหนผมมีปัญหาคิดมาก เขาจะเข้าฝันแนะนำว่าทำแบบนี้นะ หรือมาบอกว่าระวังเรื่องนี้ เขาจะคอยดูแลไม่ให้เราบาดเจ็บ ฟังดูอาจเป็นเรื่องงมงายเหลือเชื่อนะครับ แต่พอเจอกับตัวเองแบบนี้จากที่เคยกลัวตอนนี้อุ่นใจ ผมได้แต่ทำบุญขอบคุณเขาสองคนที่คอยดูแลผม”
แบล็กแจ็ค – จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม
หายจากวงการเพลงไปร่วม 2 ปี กลับมาอีกทีศิลปินมาดเกาหลีจากค่ายเยส! มิวสิค ในเครืออาร์เอสก็มีซิงเกิ้ลใหม่ บุคคลสาบสูญ มาฝากให้หายคิดถึง เท่านั้นยังไม่พอ นอกรอบทีมงาน สุดสัปดาห์ ถามว่ามีประสบการณ์หลอนเล่าสู่กันฟังมั้ย แจ็คตอบสั่นๆ ว่า เพียบ!!!
“หลอนสุดคือตอนไปทำทรีตเมนต์หน้าถึงขั้นตอนเอามาสก์มาแปะหน้า พนักงานบอกว่ามาสก์เสร็จแล้วเดี๋ยว 40 นาทีจะเข้ามาเช็ดหน้า จากนั้นปิดไฟให้เรานอนพัก ผ่านไป 10 นาที ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา พนักงานผู้หญิงเดินเข้ามาบอกว่า ‘เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวเช็ดออกให้นะคะ คุณหมอมีสั่งยาด้วย’ ผมนึกในใจว่ามาทำประจำคุณหมอไม่เคยสั่งยาให้เลย ทำไมวันนี้มาสก์หน้าแป๊บเดียว แล้วเขาก็เปิดมาสก์ตรงปากเอายาใส่ปาก จากนั้นก็เช็ดหน้าให้ ผมรู้สึกได้ว่ามีมือจับหน้า เช็ดไปเช็ดมา พนักงานก็ถามผมนะว่ารู้สึกดีมั้ย วันนี้เป็นยังไงบ้าง เธอพูดไปเรื่อย ๆ และพอกำลังจะลงครีมผมได้ยินเสียงเปิดประตูอีกครั้ง ไฟเปิดพรึบ! แล้วเมื่อกี้ใคร??!! ผมตกใจลุกขึ้นมา ทุกอย่างบนหน้าอยู่เหมือนเดิม ผมถามพนักงานที่เพิ่งเข้ามาว่า ‘เมื่อกี้พี่มาแล้วนิ’ เขาบอกว่า ‘ยังไม่ครบเวลานะคะ ยังไม่มีใครเข้าเลย’ ผมว่าผมเจอแล้วละ ผมเลยไม่ไปที่นั่นอีกเลยทั้งที่ร้านนั้นผมเป็นลูกค้ามานาน”
ดีเจโป้ง – ณัฐพงษ์ แตงเกษม
ดีเจอารมณ์ดีแห่ง 94 EFM รายนี้แม้นานๆ เจอที แต่ทุกครั้งที่เจอคือจำไม่ลืม
“20 ปีที่แล้วตอนเพิ่งย้ายเข้าบ้านที่อยู่ปัจจุบัน วันแรกที่เข้าบ้านยังไม่ได้เชิญพระและทำบุญบ้านเลย คืนนั้นผมเปิดไฟหัวเตียงนอนอ่านหนังสือ สักพักก็เผลองีบหลับไป หูได้ยินเสียงหัวเราะ ‘ฮึ ฮึ ฮึ’ พอลืมตาดูหาต้นเสียง เห็นเลยว่าเป็นเท้าคนห้อยลงมาจากบนฝ้า เห็นเป็นชุดกระโปรงยาวสีเทาค่อยๆ เลื่อนลงมา เลื่อนลงมาอีกก็เห็นมือเขากอดพวงหรีด แล้วหยุดแค่หน้าอก เหมือนหนังมาก… ตอนนั้นผมขยับตัวไม่ได้ เลยท่องบทสวดมนต์มงกุฎพระพุทธเจ้า 9 จบ พยายามบอกให้เขาไป แต่เขายังค้างอยู่ตรงนั้น ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ ‘ฮึ ฮึ ฮึ’ และตอบกลับว่า ‘ท่องก็ผิด’ ผมตกใจสุดขีด จากนั้นผมก็พยายามดันตัวเองลุกขึ้นพร้อมตะโกนเรียก ‘แม่!!’ พอหลุดออกมาทุกอย่างในห้องเหมือนเดิม เปิดไฟทุกดวง นอนไม่หลับเลยจนกระทั่งเห็นแสงอาทิตย์จึงค่อยนอนต่อ พอตื่นมาแม่ถามว่า ‘เมื่อคืนเรียกฉันหรือเปล่า’ ผมตอบว่าเปล่าและไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฟัง แต่คุยกับแม่ว่านิมนต์พระมาทำบุญบ้าน พรมน้ำมนต์ดีกว่า หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแบบนี้อีกเลย อยู่แบบร่มเย็นเป็นสุขมาก”
เพชรจ้า – วิเชียร กุศลมโนมัย
ดีเจและพิธีกรสุดแซ่บที่เชื่อเรื่องวิทยาศาตร์มากกว่าสิ่งที่มองไม่เห็นแต่พอได้เจอเท่านั้นแหละ คือแซ่บไม่ออก
“ถึงวันย้ายเข้าบ้านใหม่ ผมกลับมาจากจัดรายการวิทยุตอนตีสาม จอดรถหน้าบ้านเสร็จ เปิดกรงหมาเทอาหารให้กิน มันกินได้แป๊บหนึ่งก็วิ่งไปที่ประตูกระจกบ้าน เห่ายกใหญ่เหมือนเห็นอะไรสักอย่าง ผมงงมากครับ เลี้ยงมันมาเป็นปีไม่เคยเห่าเลย สักพักสัญญาณกันขโมยรถดัง ผมกดรีโมตรถเสียงก็ยังไม่หยุดดังจนต้องเปิดรถสตาร์ตแล้วดับถึงหยุด นึกท้าอีก ‘ถ้ามึงแน่จริงมึงทำอีกครั้งให้ดูหน่อย’ แล้วผมก็พาหมาเข้าบ้านมากินข้าวต่อ เดี๋ยวเดียว เหมือนกรอเทป หมาวิ่งกลับไปที่ประตูเห่าต่ออีกยกใหญ่ สัญญาณกันขโมยดังขึ้นอีก ทีนี้ผมเริ่มนอยด์ละ”
หนุ่ม กะลา – ณพสิน แสงสุวรรณ
ออกตัวก่อนเลยว่ามีประสบการณ์เรื่องแบบนี้ไม่มาก แต่ทุกครั้งที่เจอก็หลอนไม่น้อย แถมที่พบกันน่ะก็ยังอยู่ที่เดิมในบ้านตรงนั้นตลอดๆ
“อ้อ! อีกเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นตอนนอน พูดแล้วขนลุก ทุกวันนี้ก็ยังเป็น ในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า มองไปจะเห็นเงาคนตัวสูงๆ ยืนอยู่ตลอด บางทีเราคิดว่าเป็นเงาของหรือราวผ้าหรือเปล่า ผมจัดการเคลียร์ของให้พื้นที่โล่งจะได้ไม่มีเงาสะท้อนจากกระจก ทำบุญรอบสองพระดูให้ก็บอกว่าไม่รู้ว่าใครนะ เขาอยู่ตรงตู้เสื้อผ้าตลอด ท่านแนะนำให้เอาผ้าปิดกระจกในห้อง ผมปิดบ้างเปิดบ้างเพราะทำบิลด์อิน และต้องใช้งาน จะปรับจะแก้ยังไงทุกวันนี้ก็เห็นอยู่ดี ถามว่าทุกวันนี้ยังตกใจกับอะไร ก็คงเรื่องนี้ ตื่นมากลางคืนแล้วตกใจ ต้องเพ่งดูตลอดมันเสียจิตนะ พอเพ่งแล้วเขาไม่หายไป ไม่มองเราด้วย คือ เขายืนก้มหน้านิ่งๆ เฉยๆ เห็นแบบนี้ตลอด”
โอม ค็อกเทล – ปัณฑพล ประสารราชกิจ
ศิลปินคนนี้มีระบบ ระเบียบ และเหตุผลในการใช้ชีวิต ดังนั้นการให้พูดเรื่องลี้ลับอาจจะไม่ใช่วิสัยของเขาเท่าไร แต่พอ สุดสัปดาห์ ขอให้ช่วยแชร์ประสบการณ์หลอนให้ฟังบ้าง โอมใจอ่อนยอมเปิดวาจาออกสื่อ แล้วเรื่องก็เป็นเช่นนี้…
“ครั้งแรกที่เจอประสบการณ์หลอนคือ ตอนไปงานบวชคนขับรถที่จังหวัดสุพรรณบุรี กลับบ้านมาตอนกลางคืนเหมือนมีคนมานั่งคร่อมตัวผมแล้วทุบๆ วันที่สองโดนปลุกตอนตีสามแต่ถูกลวงตาให้มองเห็นนาฬิกาเป็นตีห้า พอเดินลงชั้นล่างยังมืดสนิท คือตีห้าไม่น่ามืดขนาดนี้ จนกลับขึ้นไปชั้นบนเห็นนาฬิกาเป็นตีสาม เช้ามาเลยไปทำบุญให้ ตอนนั้นยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง กลับจากทำบุญตอนแปดโมงเช้าก็มานอนต่อ พอหลับรู้สึกมีคนยืนหัวเตียงแล้วพูดว่า ‘กูไม่เอาส่วนบุญมึง!’ น่ากลัวมาก จากนั้นผมได้รู้จักกับคุณลุงท่านหนึ่ง เขาบอกว่าส่งรูปให้ดูหน่อย ลุงบอกว่า มีผู้ชายกับผู้หญิงตามผมมาจากสุพรรณฯ ผู้หญิงมาห้าม แต่ผู้ชายเขายังไม่อยากตายเลยจะเอาชีวิตผมด้วยการสิงร่าง โชคดีที่คุณลุงช่วยให้วิญญาณนั้นกลับไปสุพรรณฯ ตามเดิม”
สายป่าน – อภิญญา สกุลเจริญสุข
นักแสดงมากฝีมือที่มักจะมีผลงานภาพยนตร์ ละครแนวหลอนอยู่เสมอ ล่าสุดกับผลงานการแสดงเรื่อง ขวัญผวา ซีรี่ส์สยองขวัญ แนวสืบสวนซึ่งจะได้ดูปลายปีนี้ อยากบอกว่าในชีวิตจริงของเธอขวัญผวาไม่แพ้ในหนัง และเจอบ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกติ
“เหตุการณ์ที่กลัวสุดคือ 2 ปีที่แล้วใกล้ ๆ วันเกิด ปีนั้นป่านทำงานทั้งปีไม่ค่อยมีเวลาทำบุญ ไปถ่ายหนังที่โรงพยาบาลเก่าแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านั้นไม่ได้นอนเลย รุ่งขึ้นต้องทำงานอีก ด้วยความเพลียเลยหลับเอาแรง แต่ได้ยินเสียงทีมงานคุยกันเลยตื่นและลุกขึ้นมา ปรากฏว่าเราหันกลับไปเห็นตัวเองนอนอยู่ที่เดิม ตกใจมาก รู้สึกว่ายังไม่พร้อมตาย หนูรับไม่ได้เพราะยังไม่ได้ลาพ่อแม่เลย ตัดสินใจทับร่างเดิมก็ไม่เข้า ยืนขึ้นมายังเห็นตัวเองนอนอยู่เหมือนหนังมาก เริ่มใจหายและกลัว ไม่ได้กลัวผีนะคะแต่หนูกลัวตาย คิดว่าต้องมีอะไรเล่นงานเราแน่ๆ มาก็ไม่ได้ไหว้ขอ เลยพูดในใจว่า ลูกมาทำงานหาเงินด้วยความบริสุทธิ์เพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ หนูคงรับไม่ได้ถ้าต้องตายโดยไม่ลาใครเลย จะอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ผ่านวันเกิดไปก่อนแล้ว หนูจะไปทำบุญ แล้วกลับไปทับในร่างตัวเองได้ รีบโทร.หาผู้จัดการให้รีบมา มาถึงเขาก็ให้พระกลัดเสื้อไว้ แล้วก็รู้ว่าปลายเท้าเราหันไปทางเจ้าที่นะ ป่านเลยขอโทษเพราะไม่ได้ตั้งใจลบหลู่จริงๆ”