หมอก้อง สรวิชญ์ มาแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการอ่านหนังสือ+เผย 6 เคล็ดลับเรียนเก่ง

Alternative Textaccount_circle
event

สร้างแรงบันดาลใจในการอ่านไปกับ หมอก้อง สรวิชญ์

นอกจากจะเป็นคุณหมอ และนักแสดงมากความสามารถแล้ว ล่าสุด หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ ยังใจดีมาเป็นวิทยากรพูดคุยกับน้องๆ โรงเรียนวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ในเรื่องของการสร้างแรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือ กับโครงการ The Happy Read ส่งความรู้สร้างความสุข โครงการดีๆ ที่ทางบริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด มหาชน  และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนจากก.ศึกษาฯ และสพฐ. เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่าน โดยจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2562 ไม่ว่าจะเป็นการมอบหนังสือที่เหมาะสมพร้อมชั้นวางให้ห้องสมุดของโรงเรียน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ตลอดจนการสร้างแรงบันดาลใจในการอ่านจากเหล่าคนดังซึ่งจะแวะเวียนกันไปเยี่ยมน้องๆ ในโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศไทย

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ หมอก้อง ได้ไปสร้างแรงบันดาลใจในการอ่านให้น้องๆ โรงเรียนวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท โดยเริ่มต้นด้วยการแชร์ไลฟ์สดทาง Facebook ของหมอก้อง นักแสดงหนุ่มที่จะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์และเคล็ดลับในการอ่านหนังสือ ก่อนที่จะไปให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ นักเรียนกันที่ห้องสมุดสุขสำราญ ห้องสมุดที่มีประวัติที่น่าภูมิใจสำหรับทั้งคุณครูและนักเรียนโรงเรียนวัดสิงห์ เพราะเมื่อปี 2554 ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก ห้องสมุดแห่งนี้ก็เป็นอีกสถานที่ที่ถูกน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร ซึ่งขณะนั้นน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เร็วมากจนไม่ทันได้ย้ายหนังสือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ทำให้ทุกอย่างจมอยู่ใต้น้ำและไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมอีก

ด้วยพระเมตตาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านทรงเล็งเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ผ่านหนังสือและคอมพิวเตอร์ จึงได้พระราชทานหนังสือและคอมพิวเตอร์ให้กับห้องสมุดสุขสำราญแห่งนี้ ซึ่งนอกจากนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียนแล้ว ผู้คนภายนอกยังสามารถเข้ามาใช้ค้นคว้าหาความรู้ได้อีกด้วย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อนักเรียนและครูอาจารย์โรงเรียนวัดสิงห์ จ.ชัยนาท

 

 

คำถามยอดฮิตที่เด็กสมัยนี้มักจะสงสัยกันคือ ดารานักแสดงสามารถอ่านบทยาวๆ แล้วจำได้อย่างไร พี่หมอก้องของเราได้ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “เราต้องมองตัวละครทั้งหมดในเรื่องให้ออก ก็ต้องอ่าน ต้องอ่านเยอะด้วย เพราะว่าเราต้องไปเล่นเป็นคนอื่น เราไม่ได้เล่นเป็นตัวเองด้วยยิ่งต้องอ่านเยอะมาก…” ไม่ต่างกับการอ่านหนังสือเรียน ที่ควรอ่านให้เข้าใจซึ่งจะให้ผลดีมากกว่าการท่องจำเพื่อเข้าไปทำข้อสอบ

นอกจากนี้ ยังมีคำถามอีกมากมายจากน้องๆ นักเรียน และจากผู้ชมทางบ้าน เช่น ทำไมชอบอ่านหนังสือ ชอบอ่านหนังสืออะไร ฯลฯ ซึ่งหมอก้องได้ตอบคำถามในภาพรวมของการอ่านว่า ตนเป็นคนชอบอ่านแนวนวนิยาย เพราะสามารถมองเห็นภาพผ่านตัวอักษร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ของหนังสือ ยิ่งถ้าอ่านรอบที่ 1 อ่านรอบที่ 2 อ่านรอบที่ 3 ภาพที่จินตนาการออกมา และมุมมองที่เข้าใจก็จะไม่เหมือนเดิม อีกทั้งภาพในใจ มุมมอง และความคิดของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันแม้จะอ่านหนังสือเล่มเดียวกันก็ตาม ทั้งหมดนี้คือความมหัศจรรย์ของตัวหนังสือ

 

ทั้งนี้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือ โรงเรียนวัดสิงห์ได้มีโครงการสร้างสรรค์ที่ช่วยให้เด็กๆ สนใจในการอ่านหนังสือมากขึ้น คือ โครงการนิทานหน้าเดียว ซึ่งเป็นการอ่านหนังสือทั้งเล่มและมาสรุปย่อให้อยู่ภายในหนึ่งหน้ากระดาษพร้อมวาดภาพประกอบอย่างสวยงาม เพื่อเป็นการส่งต่อให้คนที่เริ่มหัดอ่านหนังสือสามารถทำความเข้าใจแบบง่ายๆ สั้นๆ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาความจำ ความเข้าใจ และการสรุปใจความในเรื่องที่น้องๆ ได้อ่านอีกด้วย

อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ โครงการนิทานกล่อง โดยการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของนิทานที่ไม่ได้อยู่ในหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่สามารถนำเสนอผ่านรูปร่างอื่นๆ อย่างทรงกล่องแบบป็อปอัพที่สามารถเปิดอ่านได้ เพิ่มความเก๋ไก๋ และความน่าสนใจในการอ่านมากขึ้น

 

ปิดท้ายกันด้วยข้อคิดดีๆ ที่หมอก้องอยากจะฝากถึงเยาวชนยุคปัจจุบันว่า ารอ่านเป็นการพัฒนาตัวเอง น้องต้องสะสมไปเรื่อยๆ เชื่อเถอะว่าดี ถ้าดีก็จงทำไปเถอะ และพอวันหนึ่งเราจะรู้ตัวเองว่าสิ่งที่เราสะสมมาเรื่อยๆ มันเกิดประโยชน์ต่อตัวเราจริงๆ ” ก่อนที่จะจากกันไปหมอก้องยังได้แนะนำหนังสือน่าอ่านที่ตนชื่นชอบอย่าง แฮรี่ พอตเตอร์ รหัสลับดาวินชี่ และเชอร์ล็อค โฮมส์ ซึ่งเป็นแนวสืบสวนสอบสวนที่ทำให้ได้คิดและจินตนาการตาม นอกจากความสนุกที่ได้จากการอ่านหนังสือเหล่านี้แล้วยังเป็นการฝึกพัฒนาสมองได้อีกทางหนึ่งด้วย

 

6 เคล็ดลับเรียนเก่งฉบับหมอก้อง

  1. ต้องอ่านและจดไปพร้อมๆ กัน หรือจะเขียนลงไปในหนังสือเลยก็ได้ เพื่อช่วยให้จำได้ดีมากขึ้น
  2. สรุปออกมาในรูปแบบภาพ หรือมายด์แม็พปิ้ง จะสามารถเข้าใจได้ง่ายกว่าตัวหนังสือ
  3. อัดเทปเสียงในส่วนที่ไม่เข้าใจ เพื่อสามารถกลับมาเปิดฟังซ้ำๆ เพื่อทำความเข้าใจ
  4. พับกระดาษ A4 เป็น 3 ท่อนคล้ายแผ่นพับ จดวิชาที่เรียน หรือศัพท์ที่ต้องใช้การท่องจำ พับใส่ไว้ในกระเป๋า เพื่อที่จะได้หยิบออกมาอ่านได้ตลอดเวลา เช่น ขณะอยู่บนรถ
  5. ทยอยอ่านหนังสือเมื่อรู้วันสอบล่วงหน้า อย่าไปเร่งอ่านในคืนเดียว ควรเอาเวลาของคืนนั้นไปพักผ่อนสมองเพื่อพร้อมสอบในวันรุ่งขึ้น
  6. อ่านหนังสือตอนเช้า จะช่วยให้จำได้ดี เพราะสมองได้พักผ่อนมาอย่างเพียงพอ

 

อนึ่ง โครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” ของ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ภายใต้การสนับสนุนจากก.ศึกษาฯ และสพฐ. เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่าน โดยจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2562 และเพจสุดสัปดาห์แฟนคลับจะติดตามข่าวคราวมาอัพเดทกันเรื่อยๆ ค่ะ หรือผู้ที่สนใจสามารถอัพเดทโดยตรงได้ที่ thehappyread.com หรือ facebook.com/The-Happy-Read

 

ภาพจากโครงการ The Happy Read ส่งความรู้สร้างความสุข

Text : mewyeahh

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ได้ที่นี่ค่ะ

เป้ อารักษ์ ส่งต่อแรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือให้กับน้องๆ โรงเรียนวัดเทพนิมิตร

แพนเค้ก เขมนิจ จุดประกายรักการอ่านให้น้องๆ โรงเรียนสาธิตชุมชน การเรียนรู้สมเด็จย่า

ฌอห์ณ จินดาโชติ ปลุกพลังรักการอ่านในกิจกรรมอ่านสร้างสุข ณ โรงเรียนวัดจุฬามณี

เชียร์ ฑิฆัมพร แบ่งปันความสุขในการอ่านหนังสือให้แก่น้องๆ โรงเรียนวัดบางคูวัด

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up