หนุ่มสาวออฟฟิศยุคนี้ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ มักมีอาการปวด ตึง บริเวณคอ บ่า และไหล่ หรือโรค ออฟฟิศซินโดรม เมื่อมีอาการมากๆ เข้าก็อาจบั่นทอนสุขภาพ จนไม่สามารถทำงานได้
ออฟฟิศซินโดรม เป็นภัยเงียบที่มาไม่รู้ตัว ลองสังเกตุอาการที่ส่งสัญญาณเตือนว่าเรากำลังเป็น ออฟฟิศซินโดรม ..มีอะไรบ้าง? และจะมีวิธีบำบัดรักษาได้อย่างไร ไปดูกันค่ะ
-
.อาการยกแขนไม่ขึ้น
อาการนี้เกี่ยวเนื่องกับอาการปวดกล้ามเนื้อขั้นรุนแรง จะมีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อตั้งแต่คอ บ่า จนถึงไหล่ และร้าวลงไปที่แขน เป็นสาเหตุให้ยกแขนไม่ขึ้น เนื่องจากมีพังผืดมาเกาะที่บริเวณสะบักและหัวไหล่นั่นเอง ถ้าเป็นขั้นหนักอาจมีอาการชาไปที่มือหรือนิ้วมือด้วย ใครที่มีอาการแบบนี้ควรบำบัดด้วยการไปพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด เพื่อวินิจฉัยและแนะนำการรักษาที่ถูกต้อง
หากอาการไม่มากนัก อาจพบแพทย์แผนไทยเพื่อกดจุด อาจต้องประคบร้อนเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนที่เป็นพังผืดแข็งตึงให้อ่อนตัวลงและคลายความปวดลง อาการก็จะดีขึ้น แต่อย่างที่บอกไป ทางที่ดีที่สุดคือ ไปพบแพทย์เพื่อรักษาแต่เนิ่นๆ เพราะอาการปวดกล้ามเนื้อบางอย่าง หากปล่อยไว้นานอาจรักษายากขึ้นหรือกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง รักษาไม่หาย
-
อาการปวดตึงที่คอ บ่า และไหล่
อาการนี้เป็นกันหลายคน บางรายอาจมีอาการปวดเกร็งจนอาจหันคอ ก้ม หรือเงยไม่ได้ ที่อาการเบาหน่อยก็อาจจะแค่ปวดคอ บ่า ไหล่ เลยลงไปถึงบริเวณสะบักหลัง หากคุณมีอาการใดอาการหนึ่งเหล่านี้ ควรบำบัดด้วยการไปนวดคลายกล้ามเนื้อด่วนเลย อย่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ เพราะหากอาการหนักขึ้นจะบำบัดรักษายากขึ้นตามไปด้วย ใครที่ลองไปนวดแล้วไม่หาย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุด กระซิบว่าการบริหารง่ายๆ ระหว่างวันช่วยได้เยอะ!
-
ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน
ในแต่ละวันจะเกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว จนทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ เมื่อเกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมา คนส่วนใหญ่จะแก้ไขด้วยการกินยาแก้ปวด อาการเหล่านี้จะมาๆ หายๆ อาจทำให้เราชะล่าใจ แต่อยู่ๆ อาจกลับมาทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก ดังนั้นหากรู้ตัวว่านั่งจ้องคอมฯ นานเกินไป ลองพักสายตาด้วยการหันไปมองระยะไกล หรือมองต้นไม้สีเขียว จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อตาผ่อนคลายมากขึ้น (ช่วยได้จริงๆ นะ) หรือถ้ามีอาการปวดศีรษะบ่อยๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คและหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร
4.อาการปวดหลัง
ข้อนี้เป็นอาการยอดฮิตของออฟฟิศซินโดรม สาเหตุเกิดจากการที่เรานั่งทำงานติดต่อกันนานๆ นั่งทำงานผิดท่า โต๊ะเก้าอี้ไม่เหมาะกับสรีระ ตลอดจนหรืองานที่ต้องยืนนานๆ หรือการยกของหนักเป็นประจำ (บางรายอาจเกิดจากการออกกำลังกายหักโหมเกินไป) ทำให้เกิดอาการเคล็ด ขัด ยอก จนอาจไม่สามารถเอี้ยวหรือบิดตัวได้ แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์แผนไทยหรือแพทย์เฉพาะทางเพื่อบำบัดแก้ไขอาการเหล่านี้ให้หมดไป
5.อาการปวดและตึงที่ขา
เกิดจากการนั่ง เดิน หรือยืนนานๆ จนทำให้ปวดตึงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นทั่วทั้งขา บางรายปวดร้าวไปที่เข่าและข้อเท้าก็มี ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากการใช้งานขาหนักทุกวันจนเกิดอาการล้าสะสม ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ โดยไม่ได้รับการบำบัดแก้ไข อาจทำให้เกิดอาการปวดร้าวและอาการชาลงไปที่บริเวณเท้าและปลายนิ้วเท้าได้ ทางที่ดีแม้มีอาการเพียงเล็กน้อยก็ควรรีบทำการบำบัดโดยด่วนเลย
เทคนิคการยืดเส้นยืดสายระหว่างทำงาน
แทนที่จะปล่อยให้ร่างกายบาดเจ็บจนต้องพบแพทย์ ลองป้องกัน-บำบัดเบื้องต้นแบบง่ายๆ กันก่อนดีกว่า
1.การบริหารกล้ามเนื้อคอ : นำมือข้างซ้ายอ้อมไปจับศีรษะด้านขวา ดึงมาทางด้านซ้ายจนรู้สึกตึง นับ 1-10 จากนั้นสลับข้าง นับ 1-10 เช่นเดียวกัน จากนั้นประสานมือบริเวณท้ายทอย ดันไปด้านหน้าจนรู้สึกตึง นับ 1-10
2.การบริหารกล้ามเนื้อหัวไหล่ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องของการปวดไหล่เป็นประจำ : ยกไหล่ขึ้นไปจนสุด แล้วเกร็งค้างไว้ นับ 1-10 จากนั้นกดไหล่ลงไปให้สุด แล้วเกร็งค้างไว้ นับ 1-10
3.การบริหารกล้ามเนื้อด้านหน้าอกและแก้ปัญหาไหล่ห่อ : ลุกขึ้นยืน นำมือประสานกันด้านหลัง ค่อยๆ ยกขึ้นมาจนถึงระดับที่เรารู้สึกว่าตึง นับ 1-10 จากนั้นยืดด้านหลัง โดยการกอดตัวเองให้แน่นที่สุด ให้มือไขว้กันเยอะที่สุด นับ 1-10
4.การบริหารกล้ามเนื้อด้านข้าง : ยืนตรง ยืดมือทั้งสองข้างขึ้นบนสุดประกบกัน เอนตัวทางด้านซ้าย นับ 1 -10 จากนั้นเอนตัวมาด้านขวา นับ 1-10 ท่านี้ควรทำบ่อยๆ ประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อครั้ง เพื่อเป็นการยืดกล้ามเนื้อมัดหลักๆ ในร่างกาย
ขอบคุณที่มา รูปภาพ สมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในที่ทำงาน , โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ,
http://thespaces.com
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ผมหนา สุขภาพดี 10 วิธีจัดการผมร่วง อยู่หมัด