ได้ดู The Face Thailand เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากันรึเปล่าเธ้อ-อ-อ สุดฯ ได้ดูแล้ว ขอบอกว่าทำท่าจะแซ่บอยู่นะ ถึงตอนแรกพี่ช่ายังไม่ฟาดเท่าไหร่ก็เถอะ (แต่แอบเห็นความมีของเบาๆ แค่รอเวลาปล่อย) ในฐานะสาวกเดอะเฟซ สุดฯ เพิ่งไปสัมภาษณ์ เต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก ขอบอกว่าแซ่บกว่ารายการอีกค่ะ นี่เลยตัดบางส่วนมาให้ชิมกันก่อน อ่านเต็มๆได้ในสุดสัปดาห์ ฉบับ 16 ก.พ. ปกคนหล่อขอทำดีนะจ๊ะ #พริกหมดสวน
- ถ้าให้เปรียบ The Face ซีซั่น 3 เป็นส้มตำ คิดว่าเป็นส้มตำที่ “แซ่บพริกกี่เม็ด” ครับ
สำหรับเรา เราปรุงให้ไม่เผ็ดเกินไป แต่สำหรับคนกินเผ็ดก็น่าจะแฮปปี้ เราปรุงให้เต็มที่แน่นอน อยู่ที่ผู้บริโภคว่าจะแซ่บถึงใจหรือเปล่า อ้อ ซีซั่นที่แล้วก็ไม่ได้ใส่พริกนะ แค่ปรุงในแบบที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว บางทีมันอาจจะไม่ต้องใส่พริกก็ได้ แค่ไม่ใส่ผงชูรสก็พอ
- ผงชูรสคือ…
ความไม่เป็นธรรมชาติ ถ้าใส่พริกก็พริกสวน เราไม่รู้ว่าคนที่รับประทานลิ้นเขารับรสได้แค่ไหน เขาอาจจะรับได้เต็มที่อย่างที่เราใส่ก็ได้ เขาอาจจะรับได้แค่ 2 เม็ด เพราะลิ้นด้านชา หรือรับได้เต็มที่เพราะลิ้นยังบริสุทธิ์ แต่ไม่ใส่ผงชูรสแน่ๆ
- แล้วอะไรคือความไม่เป็นธรรมชาติ
คนมักจะถามว่า “รายการนี้มีสคริปต์หรือไม่มี” เต้ตอบได้แบบเต็มปากเต็มคำว่า “ไม่มีสคริปต์” เรามีไม่ได้ การถ่ายทำเกิดขึ้นใน 2 วัน ถ่ายกัน กี่ชั่วโมงนับดู ฟุตเทจเรามีตั้งเท่าไร จริงๆ มันเกิดเรื่องเยอะกว่าที่เห็นอีก ที่เห็นนั่นคือตัดออกบ้างแล้ว ถ้าให้คุณมาอยู่ในรายการคุณจะเห็นเลยว่าการเอาผู้หญิงมาอยู่รวมกัน 3 เดือน ซึ่งแต่ละคนยอมกันซะที่ไหน คิดว่าจะอยู่รอดไหม
นอกจากนี้สัญชาตญาณของความเป็นแม่บวกความเป็นครูของเมนเทอร์ และหน้าที่เสียไม่ได้อีก มันไม่ธรรมดานะ เมนเทอร์แต่ละคนมีประสบการณ์ในวงการ 15 ปี 20 ปี คุณเข้าใจผิดแล้วถ้าคิดว่าเขาไม่สู้กัน อันนี้คือข้อที่ 1 ก่อน ถ้าเป็นวิธีทำรายการแบบ Old School เขาจะคาดหวังให้เกิดอะไรขึ้นและต้องรู้ว่าผลลัพธ์จะเกิดอะไรขึ้น แล้วทำให้มันเกิดเป็นผลแบบนั้น นั่นคือความไม่ธรรมชาติ ซึ่งเดอะเฟซไม่ใช่ เรามีหน้าที่ให้โจทย์ แคสผู้เล่นและผู้เข้าแข่งขันที่ถูกต้อง วางมวยให้ถูกคู่ แล้วให้เขาเล่นเกมกันเอง
ข้อที่ 2 คือไม่มีการทำเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ใดๆ เพราะฉะนั้นจึงคาดเดาไม่ได้ นี่คือความเป็นธรรมชาติ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไปถามทุกคนที่อยู่ในกองได้เลย ไม่มีใครรู้ว่าใครจะตบหรือตีกับใคร หรือใครจะพูดอะไร เมนเทอร์แต่ละคนเขามาด้วยแผนของเขาเอง แล้วเขาเตรียมมา3-4 แผนต่อวัน ซึ่งเขาก็ไม่บอกให้เรารู้ เขาจะดูหน้างานว่าอะไรจะเกิดแล้วค่อยเล่น เขามาดูหน้างาน ซึ่งนี่คือความเป็นธรรมชาติที่เต้ว่า มันเป็นเสน่ห์ของรายการนี้ “ตกลงมันจริงหรือไม่จริง” “มันไม่น่าเชื่อเลยว่าจะจริง”
ถามว่าไม่เมคเลยหรือ…จริงร้อยเปอร์เซ็นหรือ…ก็มันมีการจัดการไง แต่ไม่มีการสคริปต์แน่นอน!
- ตัวเมนเทอร์เองเรามีกฎให้เขาไหมครับ
ไม่มี เพราะบังคับไม่ได้สักคน แค่เล่นไปตามกติกาแค่นี้พอ อยากทำอะไรทำเลย เราทำแบบนี้ตั้งแต่ซีซั่นที่ 1 แล้วมันเวิร์ค แต่อย่างที่บอกว่ามันต้องเริ่มจากแคสติ้ง เริ่มจากการวางมวยให้ถูกคู่ก่อน ซึ่งนี่เป็นความโชคดี สามเมนเทอร์ที่เชิญมาพออยู่ด้วยกันแล้วมันมีเคมีและเสน่ห์บางอย่างที่เข้ากันได้
“สัญชาตญาณของความเป็นแม่บวกความเป็นครูของเมนเทอร์ และหน้าที่เสียไม่ได้ มันไม่ธรรมดานะ เมนเทอร์แต่ละคนมีประสบการณ์ในวงการ 15 ปี 20 ปี คุณเข้าใจผิดแล้วถ้าคิดว่าเขาไม่สู้กัน”
- เพราะอะไรซีซั่นนี้ถึงเปิดโอกาสให้ Transgender สมัครได้ด้วย
เพื่อความเท่าเทียมกัน ขนาดตัวเรายังไม่อยากให้ใครมาว่าเลยว่าเป็นเพศอะไร และจากการทำซีซั่นที่ 1 ที่ 2 เรามีลูกสาวเยอะเต็มไปหมด เก้งกวางทั้งหลายรักเราและรักรายการนี้ เป็นแฟนรายการ เจอหน้าก็เรียก “คุณแม่ ลูกอยากประกวด ทำรายการเฉพาะพวกเราได้หรือเปล่า” มานั่งคิดว่าทำแล้วแยกก็กลายเป็นว่าเราแบ่งแยกกันอีก ถ้าจะเอาอย่างนั้นต่อไปต้องแบ่งเป็น ทอมกับทอม ดี้กับดี้ เกย์คิง เกย์ควีน มันไม่ใช่ เราเปิดให้สมัครพร้อมกันเลยดีกว่า แต่ไม่สัญญาว่าจะได้เข้ารอบ เพราะเราก็ต้องเลือกคนที่มีศักยภาพพอที่จะเป็น The Face Thailand ได้ ซึ่งตรงนี้คุณต้องยอมรับว่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ต้องผ่านคณะกรรมการที่ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ในวงการ แต่ประตูได้เปิดให้แล้ว ถ้าคุณไม่ได้ปีนี้คุณไปนั่งคิดดูว่าเพราะอะไร แล้วไปปรับปรุงมาปีหน้าคุณอาจจะมีสิทธิ์ก็ได้
- คิดว่ารายกานี้จะคงความนิยมไปอีกกี่ปี
จะให้สุดไปกว่านี้คงยากแล้ว เพราะปีที่แล้วก็เป็นปรากฏการณ์ ไม่ใช่แค่เป็นความดังแต่คือปรากฏการณ์ ทุกคนใช้คำว่า “แม่ก็คือแม่” กลายเป็นสื่อการเรียนการสอน กลายเป็นวัฒนธรรมขึ้นมา “วัฒนธรรม The Face Thailand” มีคนลุกขึ้นมาแต่งตัว ทำเลียนแบบ ให้ดังไปกว่านี้คงยากแล้ว
ทุกครั้งได้ทำรายการ เต้เคลียร์กระดานหมด มันทำจากศูนย์ใหม่ เหมือนไม่เคยทำมาก่อน ทำเต็มที่ ถ้าทำเต็มที่แล้วเต้ไม่รีเกร็ทหรือเสียใจ ใส่เต็มที่ไปก่อน ดังไม่ดังเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“ซีซั่นที่แล้วก็ไม่ได้ใส่พริกนะ แค่ปรุงในแบบที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว …บางทีมันอาจจะไม่ต้องใส่พริกก็ได้ แค่ไม่ใส่ผงชูรสก็พอ!”
- ถ้าวันหนึ่งจะไม่มีรายการ The Face Thailand ให้เห็น จะเป็นเพราะอะไร
เพราะไม่ทำแล้ว เลือกเองที่จะไม่ทำเพราะมัน อิ่มตัวแล้ว ตอนนี้ยังสนุกอยู่ แต่ถ้าไม่สนุกแล้วต่อให้มีลูกค้าอยากจะสนับสนุนไปอีกเรื่อยๆๆ แต่ตัวเองหมดความสนุกที่จะทำก็ไม่ทำ คนเราต้องMove On ใช่ไหมครับ…!
**ตัดทอนบางส่วนจากคอลัมน์ Talk-A-Tive นิตยสารสุดสัปดาห์ ฉบับ 16 ก.พ.60 แฟนๆ อย่าลืมติดตามความแซ่บของขุ่นแม่ 8 หน้าเต็มอิ่มทั้งเรื่องราวและภาพ (ภาพนี่เผ็ชชชได้อี๊ก) กันนะคะ
ติดตามอ่านเรื่องเด็ดๆ จากนิตยสารสุดสัปดาห์ ได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ค่ะ
เรื่องชวนจิ้น คริส-สิงโต (เคยรู้กันยัง?)
แนวคิดที่ทำให้ ปู-ไปรยา สวยด้วยหัวใจ
10 เรื่องน่ารู้+น่ารักของ บัวขาว ที่เราอาจไม่รู้