รู้หรือไม่! เบื้องหลังที่หลาย ๆ คนได้เคยไปเที่ยวขี่ช้าง ดูช้างโชว์ ตามปางช้างจังหวัดต่างๆ ทั้งๆ ที่ช้างถูกสร้างมาให้เป็นช้าง ไม่ได้ถูกสร้างมาให้เป็นนักแสดง และที่อยู่อาศัยของช้างคือพื้นป่า ไม่ได้ถูกสร้างมาให้ถูกล่ามด้วยโซ่ ด้วยเชือก เพื่อจะได้อยู่แต่ในสถานที่ใด สถานที่หนึ่ง สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คนที่ได้ไปเที่ยวดูช้างโชว์ ขี่ช้าง มีความสุข สนุก แต่ความจริงแล้วเราทุกคนกำลังมีช่วยส่งเสริม และสนันสนุนให้เกิดการทารุณกรรมช้างด้วยการทำลายจิตใจ และร่างกายของช้างทางอ้อมโดยที่เราต่างไม่รู้ตัวมาก่อน
เพราะจากรายงานเรื่อง ช้าง ไม่ใช่สินค้า (“Elephants. Not Commodities.”) ขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 2563 พบว่าช้างที่ถูกกักขังและถูกใช้งานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกตัวต่างได้รับความเจ็บปวดจากการแบกนักท่องเที่ยว มีปัญหาที่ขาหรือเล็บเท้า เนื่องจากต้องเดินบนพื้นที่แข็งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ขณะเดียวกันมีการลงโทษที่รุนแรงเพื่อฝึกช้างให้แสดงโชว์ หรือเชื่อฟังคำสั่ง ทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบกับช้างทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เห็นได้จากการแสดงพฤติกรรมซ้ำๆ ของช้าง แบบไม่มีเป้าหมาย เช่น การเดินย่ำไปมาอยู่กับที่ หรือการโยกหัวไปมา ขึ้นลง ประกอบกับทำให้ช้างเกิดนิสัยก้าวร้าว ฉุนเฉียว โมโห พร้อมพุ่งทำร้ายผู้คน แล้วเราจะช่วยช้างไทยให้หลุดพ้นจากวิกฤตของการทารุณกรรมช้างในเรื่องนี้อย่างไร เพื่อแลกกับการที่เราได้แค่มาสนุกกับการดูช้างโชว์ มาขี่ช้าง มาป้อนอาหารให้ช้าง แล้วก็มายืมยิ้มถ่ายรูปคู่กับช้างเพื่ออัพลง Social Media ดูยอดกด Like ตามตอบคอมเมนต์แบบรัวๆ
ใช่ครับ เมื่อก่อนทัศนคติของผม “คิม- ธิติสรรค์ กู๊ดเบิร์น” หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยอังกฤษ ผู้ครองตำแหน่ง Mister International 2023 ก็เคยแอบคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเชิงนี้ว่า ช้างเคยเป็นอดีตสัตว์ที่ถูกใช้เพื่อแรงงานมาก่อน แต่เมื่อโลกได้พัฒนาไปสู่การมีเครื่องจักร เครื่องยนต์ที่ถูกมาใช้ขนส่งแทนช้างแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้ช้างอีกต่อไป แต่ความเป็นจริงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันคือ การเอาช้างมาใช้เพื่อการบันเทิงแทน ผมรู้สึกว่าเป็นการลดคุณค่าของช้างที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยอย่างมากจริงๆ ทั้งๆ ที่ช้างเป็นสัตว์ที่น่ายกย่อง เป็นสัตว์ที่อยู่คู่บ้าน คู่เมืองของประเทศไทยมานาน
ดังนั้นเมื่อวันที่เข้าร่วมประกวดเวที Mister International Thailand 2023 ผู้เข้าร่วมประกวดไม่ว่าจะประกวดบนเวทีใด ต่างมีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ เพื่อออกไปช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว ซึ่งผมก็เป็นคนนึงที่สนใจในกิจกรรม “เปิดประสบการณ์และมุมองใหม่กับการท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรกับช้าง ที่อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยตามธรรมชาติ โดยปราศจากการฝึกแบบทารุณโหดร้ายกับช้าง” ของทางองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย (World Animal Protection Thailand) ที่กำลังรณรงค์ในเรื่องนี้อยู่ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการให้ปางช้างแต่ละแห่งหันมาตระหนักถึงสิทธิความเป็นอยู่ของช้าง ให้ช้างได้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติของช้างที่ถูกสร้างขึ้นมาจริง ๆ เพราะไม่มีใครอยากเห็นช้างถูกทารุณกรรม
ยิ่งเมื่อผมได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวเชิงผจญภัยเดินชมช้าง เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้กับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ที่ปางช้างเป็นมิตรกับช้าง BEES – Burm & Emily’s Elephant Sanctuary อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นทริปที่ได้เดินทางไปกับ “ต๋อง-ชัยธวัช ไพศาลศิริ” รองอันดับ 2 Mister International Thailand 2023 เพื่อจะได้นำเรื่องราวที่เป็นประสบการณ์จริงหลังจากได้ไปร่วมออกทริปท่องเที่ยวกิจกรรมที่มิตรกับช้างมาเผยแพร่ให้ความรู้กับคนไทยทุกคนได้มาร่วมท่องเที่ยวลักษณะตามรอยช้าง เพื่อไปดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของช้างที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ในแบบฉบับตามไปแอบเฝ้ามองดูช้างเดินเข้าป่า ขึ้นเขา ลงห้วย หาของกินไม่ใช่การไปขี่ช้าง อาบน้ำ และป้อนกล้วย ป้อนอ้อย ให้กับช้าง แบบที่เคยๆ ท่องเที่ยวกันมาก่อน
บางคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจมีจินตนาการเหมือนกับผมมาก่อนว่า เที่ยวแบบนี้จะสนุกอะไร แต่พอได้ไปเปิดประสบการณ์จริงๆ กับการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้กับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ที่ปางช้างที่เป็นมิตรกับช้าง BEES – Burm & Emily’s Elephant Sanctuary ทัศนคติของผมเปลี่ยนไปเลย เพราะที่นี่ ปางช้าง BEES ผมเห็นจริงๆ ว่าช้างใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมากๆ กับธรรมชาติอย่างแท้จริง เป็นการท่องเที่ยวที่ผมมีหน้าที่แค่เดินตามช้างเข้าไปในป่าลึกกว่า 10 โล เพื่อไปดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของช้างจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร โดยที่ผมก็รู้สึกเพลิดเพลิน แล้วก็ Enjoy กับสิ่งที่ได้เห็น ช้างมีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตอยู่ในป่า มากกว่าไปเที่ยวดูช้างที่ต้องถูกล่ามด้วยโซ่ ถูกทุบตีต่างๆ
นอกจากนี้ จากเดิมผมเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวแบบพักผ่อน เนื่องจากเป็นคนทำงานหนัก ดังนั้นเวลามีโอกาสได้เที่ยวก็อยากไปท่องเที่ยวแบบพักผ่อน ส่วนการไปเที่ยวเชิงผจญภัยก็จะมีบ้าง แต่หลังจากไปท่องเที่ยวเพื่อทำกิจกรรมกับทางองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ที่ปางช้างเป็นมิตรกับช้าง BEES – Burm & Emily’s Elephant Sanctuary กลับมากลายเป็นว่าผมรักและชอบที่จะไปท่องเที่ยวแบบธรรมชาติลักษณะผจญภัยสำรวจพื้นที่มากขึ้นด้วย
จริงครับ “ต๋อง-ชัยธวัช ไพศาลศิริ” รองอันดับ 2 Mister International Thailand 2023 เมื่อก่อนในวัยเด็ก ผมเชื่อว่าทุกคนเคยผ่านช่วงเวลาที่ได้ไปเที่ยวขี่ช้าง ดูช้างโชว์ แต่สิ่งนี้สำหรับผมกลับมีความรู้สึกว่า ทำไมช้างจึงเป็นสัตว์ที่น่ากลัวจัง แต่พอผมได้ไปท่องเที่ยวเชิงผจญภัยเดินชมช้าง เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้กับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ที่ปางช้างเป็นมิตรกับช้าง BEES – Burm & Emily’s Elephant Sanctuary อำเภอแม่แจ่ม จังหวัด เชียงใหม่ ผมเห็นช้างได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ เห็นช้างออกมาใช้ชีวิตอย่างความสุข ปราศจากการเห็นช้างถูกควบคุมด้วยการจับล่ามโซ่ ล่ามเชือก หรือเห็นอาวุธที่ควาญช้างใช้ สิ่งนี้ทำให้ผมกลายเป็นคนไม่กลัวช้างอีกต่อไป ไม่รู้สึกว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีภัยอันตรายกับใคร และรู้สึกมีความปลอดภัยมากกว่าไปดูช้างที่ถูกควาญช้างเลี้ยงด้วยการล่ามโซ่ และ พอถึงเวลาก็นำมาจัดแสดงโชว์
เพราะภายหลังที่ผมกลับมาจากการท่องเที่ยว ปางช้างเป็นมิตรกับช้าง BEES – Burm & Emily’s Elephant Sanctuary ก็ความรู้สึกคล้ายๆ กับ “คิม- ธิติสรรค์ กู๊ดเบิร์น” คือสนุกมากๆ ได้ไปสัมผัสกับการใช้ชีวิตอยู่ในป่าจริงๆ ได้ไปดูสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตของช้างที่ควรจะอยู่จริง ๆ และที่ BEES ถือเป็นสถานที่ ที่ถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับช้างที่ครั้งหนึ่งเคยถูกปลูกฝังให้อยู่แต่ในโซนสวนสัตว์ ถึงเวลาก็ต้องออกไปแสดง ให้ได้กลับมาอยู่กับธรรมชาติของช้างที่ควรจะอยู่จริงๆ โดยที่ปางช้างเป็นมิตรกับช้าง BEES สำหรับผม ถือว่าเป็นปางช้างที่ดีสุดในการช่วยให้คนเป็นมิตรกับช้าง เนื่องจากช้างก็เป็นสัตว์ที่มีชีวิต ไม่ต่างจากคน ดังนั้นเราไม่ควรไปละเมิดสิทธิ์ความเป็นอยู่ของช้าง ไม่ควรไปทารุณกรรมสัตว์ บังคับสัตว์ ให้มาทำในสิ่งที่มนุษย์อยากทำ เช่น การแสดง การขี่ช้าง เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ ผ่านวิธีจากการท่องเที่ยวแบบนี้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ท่องเที่ยวแบบการแสดง การขี่ช้าง ลดลง หรือ ไม่ควรมีอีกต่อไปเลย
แล้วเราจะมีส่วนช่วยรณรงค์เรื่องนี้อย่างไร เนื่องจากปัจจุบันก็มีอีกหลายปางช้าง ทารุณช้างเพื่อใช้ในการท่องเที่ยวซึ่งหลายคนอาจไม่เข้าใจ นึกไม่ถึง อยากจะบอกอะไรกับนักท่องเที่ยว?
แน่นอนครับ ทั้งผม (ต๋อง) และ (คิม) คือ การเข้าร่วมผลักดัน พรบ.ช้างไทย ร่วมถึงรณรงค์ให้คนไทยทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องนี้ผ่านสื่อ Social Media ซึ่งเป็นพื้นที่สื่อเล็กๆ ของทั้งผม และ คิม เพื่อจะช่วยกันผลักดันให้ช้างทุกตัวสามารถกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในป่าตามธรรมชาติในสิ่งที่ช้างควรจะอยู่จริงๆ แม้เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่พวกเรากำลังร่วมด้วยช่วยกันกับทางองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกก็ตาม จึงอยากจะฝากเชิญชวนทุกคนให้เข้ามามีช่วยกันผลักดันพรบ.ช้างไทยครั้งนี้ รวมถึงขอฝากไปยังรัฐบาลชุดนี้ให้ช่วยกันผ่านร่างพรบ.ช้างไทย ที่พวกเราร่วมยื่นเรื่องเสนอกันมาด้วยนะครับ
เนื่องจาก พรบ.ช้างไทย นี้ ผม (คิม) รู้เลยว่า จะช่วยทำให้ช้างทุกตัวมีสวัสดิภาพ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้นกว่าปัจจุบันนี้แน่นอนครับ อีกทั้งจะช่วยให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีช้างหันมาปรับเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวแทนการขี่ช้าง ดูช้างโชว์ มาเป็นการท่องเที่ยวที่ได้เดินตามรอยช้าง ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดมุมมองการท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตรกับช้าง ทั้งกับคน และช้าง มากกว่าการมาทารุณกรรมจับช้างมาโชว์แสดงต่างๆ
สุดท้าย เรา 2 คน ก็อยากบอกทุกคนว่า นอกจากจะช่วยกันผลักดันเรื่อง พรบ.ช้างไทย แล้ว อยากให้ทุกคนหันมาเที่ยวแบบเพื่อการเรียนรู้กับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ที่ปางช้างเป็นมิตรกับช้าง BEES – Burm & Emily’s Elephant Sanctuary หรือปางช้างที่อื่นๆ ที่ดูแลช้าง รักช้าง เหมือนกับที่ปางช้างเป็นมิตรกับช้าง BEES เยอะๆ แทนการไปเที่ยวขี่ช้าง ดูช้างแสดงโชว์กันนะครับ