Cartier

การกลับมาของ TANK FRANÇAISE เรือนเวลาทายาทตระกูล TANK ที่มาพร้อมกลิ่นอายแห่งความเป็นฝรั่งเศส

Alternative Textaccount_circle
event
Cartier
Cartier

กรุงเทพฯ, 17 มกราคม 2566 –คาร์เทียร์ TANK FRANÇAISE เรือนเวลาสุดคลาสสิกจากตระกูล TANK ที่กลับมาดึงดูดสายตาทุกคู่อีกครั้ง พร้อมสืบทอดนิยามแห่งสไตล์ในแบบฉบับฝรั่งเศส โดยเปี่ยมด้วยคุณสมบัติรอบด้าน เรียบง่ายแต่ภูมิฐาน มีความเป็นชายคู่ความเป็นหญิง นำเสนอเสน่ห์สุดคลาสสิกที่สร้างความแตกต่าง สง่างามไร้กาลเวลา ถ่ายทอดสัญลักษณ์แห่งสุนทรียะ และศิลปะการก้าวทันยุคสมัยในแบบฉบับของ TANK

ความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ในการปรับเปลี่ยนตนเองและยืนหยัดผ่านกาลเวลา คือมรดกตกทอดจากการออกแบบ   ที่ชาญฉลาด สำหรับผู้มีสุนทรียะในหัวใจ สมกับเป็นเรือนเวลาที่ได้รับเลือกให้คงอยู่ไปตลอดกาล

2023: ดีไซน์ที่มาพร้อมวิวัฒนาการ

TANK FRANÇAISE (แทงก์ ฟรองเซส์) เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1996 พร้อมสายโลหะที่กลมกลืนกับตัวเรือนอย่าง    ไร้ที่ติ และได้ก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกตระกูลแทงก์อันยิ่งใหญ่ในทันที ดีไซน์แบบโมโนบล็อก (monobloc) กลมกลืน บนวัสดุโลหะชิ้นเดียวที่คาร์เทียร์นำมาปฏิวัติใหม่จนเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ด้วยแนวทางที่ครอบคลุมทั้งสุนทรียศาสตร์และ  การยศาสตร์สร้างพลังให้กับเส้นสายของนาฬิกาที่มีรูปทรงพิเศษ ซึ่งมีทั้งแบบตัวเรือนสตีลและตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ พร้อมตัวเลือกประดับเพชรและสไตล์เรียบหรู

“TANK FRANÇAISE รุ่นใหม่ สะท้อนความเชื่อมั่นในเชิงสร้างสรรค์ เฉกเช่นเดียวกับการกลับมาค้นพบ       เนื้อแท้ที่ยังไม่ผ่านการขัดเกลาของพลอยที่เจียระไนแล้วอีกครั้ง โดยเป็นการจับรูปทรงที่แหวกขนบของนาฬิกามาปรับเส้นสายหลักให้เรียบง่ายขึ้น ตัดทอนรายละเอียดการออกแบบที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นแห่งตำนาน” มารี-ลอร์ เซเรด ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์จิวเวลรี่และนาฬิกา

ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย กาทรีน เดอเนิฟ (Catherine Deneuve) & รามี มาเลก (Rami Malek)

กำกับการแสดงโดย กาย ริทชี่ (Guy Ritchie) นางเอกตลอดกาลจากอดีตจวบจนปัจจุบัน

เพราะ TANK FRANÇAISE คือการแสดงออกซึ่งจิตวิญญาณล้ำสมัย จึงเป็นสายใยเชื่อมโยงเรากับปารีส ตลอดจนเสรีภาพและความคิดสร้างสรรค์ของปารีส อันเป็นภูมิศาสตร์เชิงวัฒนธรรมที่ได้รับการบันทึกและถ่ายทอดไว้อย่างดียิ่งผ่านกระแสของภาพยนตร์ New Wave อันโด่งดัง และด้วยเหตุนี้สื่อภาพยนตร์จึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัว สำหรับการบันทึกเรื่องราวของจุดนัดพบแห่งห้วงเวลาที่ยังคงมีความหมายจวบจนปัจจุบัน โดยฉากหลังของเรื่องคือจุดกึ่งกลางระหว่าง   ฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของแม่น้ำแซน

ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เป็นการสดุดีวงการภาพยนตร์ และนำเสนอความคิดเรื่องเสรีภาพเชิงสร้างสรรค์ที่คาร์เทียร์ส่งเสริมมาอย่างยาวนาน ปารีสคือตัวเอกของเรื่อง รายล้อมด้วยนักแสดงระดับโลกผู้มีบุคลิกโดดเด่น

ผู้กำกับภาพยนตร์ คือ กาย ริทชี่ นักสร้างภาพยนตร์มือฉกาจชาวอังกฤษ ส่วนผู้ที่มารับบทนำ ได้แก่ รามี มาเลก หนึ่งในนักแสดงยอดฝีมือในรุ่นของเขา และกาทรีน เดอเนิฟ ตำนานภาพยนตร์และผู้นำแห่งสไตล์ชาวฝรั่งเศส

ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ถ่ายทอดความบังเอิญและการเล่นตลกของโชคชะตา ผ่านเรื่องราวชะตาลิขิตให้คนสองคนมาพบกัน เดินผ่านสวนกันบนสะพานอเล็กซองดร์ที่ 3 สร้างเซอร์ไพรซ์และความประหลาดใจต่อเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เชื่อมต่อกัน ณ สถานที่เดียวในหลากหลายห้วงเวลา

กาทรีน เดอเนิฟ โด่งดังจากบทตัวเอกเรื่อง Umbrellas of Cherbourg ของผู้กำกับฌาคส์ เดอมี เรื่อง Indochine ของเรจีส์ วาร์กเญร์ และ Place Vendôme ของนิโคล การ์เซีย ส่วน รามี มาเลก เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินผู้มีความสามารถหลากหลาย

ความไอคอนิคที่ยังมีเรื่องราวให้บอกเล่าไม่รู้จบ

แม้กาลเวลาจะผ่านไป แต่ความสง่างามไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็น TANK รามี มาเลก หรือกาทรีน เดอเนิฟ ผู้เป็นตัวแทนแห่งสไตล์ที่ถ่ายทอดความเป็นแก่นแท้แบบฝรั่งเศส

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up