account_circle
ในยุค IoT ที่เราหยิบจับเทคโนโลยีตั้งแต่ตื่นนอน จะเช็คข้อความแชท เช็คฟีด Facebook หรือแม้กระทั่งเช็คความพร้อมของตัวเอง เชื่อว่า “สมาร์ทโฟน” นี่แหละที่เข้าใจความเป็นคุณได้มากที่สุด นอกจากจะเป็นผู้ช่วยที่คอยซัพพอร์ทต่างๆ ยังเสริมความเป็นมืออาชีพสำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปสวยระดับมือโปร ต้องว้าวกับ OPPO Reno7 Z 5G ถ่ายพอร์ตเทรตได้เสมือนกล้อง DSLR กับหลากหลายฟีเจอร์ให้สาวๆ บันทึกทุกช่วงเวลาในชีวิตด้วยภาพพอร์ตเทรตที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ไอเทมให้ใช้คู่กัน บอกเลยว่าเราลองแล้วแอบแซ่บ จะเป็นยังไงตามไปดูพร้อมๆ กันเลยค่า
OPPO Reno7 Z 5G โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait
ถ้าจะให้พูดถึงจุดเด่นของเจ้า OPPO Reno7 Z 5G บอกเลยว่าทั้งวันก็ไม่จบ เพราะเขาโดดเด่นมีความเฉพาะตัวในหลากหลายด้าน แต่ที่พิเศษสุดคงนี้ไม่พ้นการถ่ายภาพพอร์ตเทรต ด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait เมื่อเรากดเปิดฟังก์ชัน ไม่เพียงแต่ทำให้ภาพด้านหลังเบลอ แต่ยังมาพร้อมดวงไฟโบเก้ระยิบระยับราวกับกำลังล่องลอยในความฝัน บอกเทคนิคนิดนึงว่า สามารถถ่ายโหมดนี้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้ากลางคืนให้หาที่ที่มีแสงไฟเยอะๆ เพื่อดึงสีสันเข้ามาเป็นแบล็คกราวน์ ส่วนตอนกลางวันถ่ายทอดบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติต้นไม้และสายน้ำ จะทำให้ใช้งานโหมดนี้ได้ดีที่สุด พร้อมอัพลุคให้เราดูโดดเด่น
อีกหนึ่งฟีเจอร์สำหรับสาวๆ ที่อยากมีผิวขาวสวยแบบไม่ต้องส่งช่างมีฝีมือรีทัชภาพเลยจ้า คือฟีเจอร์ Portrait Retouching กดปุ๊บ AI จะใส่เอฟเฟกต์ปรับแต่งใบหน้าให้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะกล้องหน้าหรือกล้องหลัง ก็สามารถเพิ่มความสวยงามเป็นธรรมชาติให้กับเราได้ แอบแซ่บตรงที่ เราบอกนางได้เลยจะลบรอยด่างพร้อย รอยสิว รอยแผลเป็นจากสิว และจุดด่างดำ ตรงไหนพร้อมปรับโทนสีผิวและแต่งหน้าให้อัตโนมัติ เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับภาพ
อีกหนึ่งปัญหาของคนชอบถ่ายภาพพอร์ตเทรต คือบางทีได้มุมสวยๆ แล้วแต่ภาพย้อนแสงบ้าง แสงไม่พอบ้าง OPPO Reno7 Z 5G เลยมีโหมด Selfie HDR ให้ เปลี่ยนฉากมืดให้ดูสว่างแบบที่ยังคงรายละเอียดของภาพไว้ได้ครบไม่มีตกหล่น และที่สำคัญคือ โหมดนี้เขาสามารถใช้ร่วมกับ Bokeh Flare Portrait พร้อมกันใน portrait mode ได้ด้วยนะ ชอบมากๆ
ดีไซน์ขอบเหลี่ยม บางเฉียบที่ทำให้หลงใหล
ที่ชอบอีกอย่างคือ OPPO Reno7 Z 5G เค้าเข้าใจคนชอบถ่ายพอร์ตเทรต ตัวเครื่องเลยออกแบบให้มีดีไซน์ขอบเหลี่ยม บาง จับถนัดมือในแบบ Ultra-Slim Retro Design รวมถึงน้ำหนักเบาตามเอกลักษณ์ของ OPPO Reno Series กับเทคนิคที่หลายคนติดตามมาตั้งแต่รุ่นที่แล้วคือ OPPO Glow ที่สร้างขึ้นด้วยกระบวนการเคลือบ 2 ชั้นและพื้นผิว 3 เลเยอร์ทำให้เกิดเอฟเฟกต์แบบปริซึม 6 เฉดสี เปรียบเสมือนรุ้งหลังฝน สร้างแรงบันดาลใจให้เราได้ด้วยนะ หยิบมาใช้เมื่อไรก็รู้สึกดีๆ และอีกสีที่เหมาะสำหรับคนชอบสีเบสิกอย่าง Cosmic Black หรือสีดำ เป็นไอเทมที่จับคู่กับการแต่งตัวได้ง่ายทุกชุด
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาสำหรับ OPPO Reno7 Z 5G ซีรีย์นี้คือเวลาที่เราปิดเสียงเรียกเข้าไว้ แต่ก็ไม่พลาดการแจ้งเตือนด้วย Dual Orbit Lights ดีไซน์ไฟแจ้งเตือนแบบ Dual-Ring ครั้งแรกที่ OPPO พัฒนาขึ้นเอง
โดย Dual Orbit Lights จะกะพริบหรือส่องแสงเป็นสีน้ำเงิน ฟ้าอ่อน ฟ้าคราม หรือเบบี้บลู ตามสถานการณ์ต่างๆ เช่น เมื่อโทรศัพท์เปิดเครื่อง ขณะชาร์จ รับสายเรียกเข้า หรือการแจ้งเตือนที่ยังไม่ได้อ่าน รวมถึงการเปิดเกมอีกด้วย แค่อ่านค่าสีก็รู้ได้ทันทีเลยว่าแจ้งเตือนเรื่องไหน
พูดถึงฟีเจอร์กับดีไซน์มาก็เยอะ สิ่งทีขาดไม่ได้สำหรับสายเอนเตอร์เทนต์อย่างเราคือเรื่องของประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ต้องใช้งานได้อย่างยาวนาน ไร้การสะดุดในทุกช่วงเวลา ซึ่ง OPPO Reno7 Z 5G เขาก็ทำได้ดีแบบมือโปร มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh และ 33W SUPERVOOC™ ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 100% ภายในเวลาเพียง 63 นาที หรือชาร์จเพียง 5 นาที สามารถคุยได้ถึง 3 ชั่วโมง
พร้อมชิปเซท Qualcomm® Snapdragon™ 695 5G Mobile Platform ที่มีขนาดเพียง 6nm มอบประสิทธิภาพการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการใช้งานในด้านต่างๆ ด้วยการใช้พลังงานที่น้อยลง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ RAM 8GB และ ROM 128GB พร้อมเทคโนโลยี RAM Expansion ของ OPPO ที่สามารถเพิ่ม RAM ได้
ที่เราบอกไปตอนต้นว่า OPPO เขาเติมเต็มความสนุกในชีวิตประจำวันและอัพเกรดไลฟ์สไตล์เราได้ดีกว่าเดิมกับอีก 2 ไอเทมสุดว้าว ที่เราอยาก Recommend ให้ใช้คู่กับ OPPO Reno7 Z 5G นั่นก็คือ
OPPO Enco Air2 หูฟังไร้สายดีไซน์เคสโปร่งแสง ช่วยเพิ่มอรรถรสด้วยพลังเสียงที่มีประสิทธิภาพ
ไม่ใช่แค่หูฟังธรรมดาที่เป็นอุปกรณ์เสริมให้กับการใช้งานสมาร์ทโฟน แต่ความพิเศษของ OPPO Enco Air2 คือคุณภาพเสียงที่มาพร้อมกับไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 13.4 มม. ค่าปกติของหูฟังทั่วไปโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 10 มม. พร้อมตัวเลือกเอฟเฟกต์เสียงสเตอริโอ 2 แบบ ทำให้ OPPO Enco Air2 เป็นหูฟังไร้สายมาตรฐานคุณภาพ พร้อมเพิ่มประสบการณ์การสวมใส่ที่เบาสบาย ด้วยน้ำหนักเพียง 3.5 กรัม มาพร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง
อีกหนึ่งรูปลักษณ์การดีไซน์ของตัวเคสแบบกึ่งโปร่งแสง ด้วยการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร เปล่งประกายความมีชีวิตชีวา และมีเสน่ห์พร้อมเพิ่มสัมผัสให้กับรูปลักษณ์ เคสชาร์จแบบ Pebble-round มอบความโค้งมนที่พอดีกับฝ่ามือถือจับท่าไหนรับรองมีแต่คนทักแน่นอน
บอกไว้เลยว่า OPPO Enco Air2 สามารถสตรีมเพลงได้นานถึง 4 ชั่วโมงและสูงสุด 24 ชั่วโมงเมื่อใช้กับเคสชาร์จโดยหูฟังไร้สาย OPPO Enco Air2 สามารถชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 1.5 ชั่วโมง ยิ่งตอนเรียนหรือ Work From Home การใส่หูฟัง OPPO Enco Air2 จะยิ่งช่วยเพิ่มสมาธิเพราะช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ จะอยู่บนรถไฟฟ้าหรือติดอยู่บนการจราจรที่คับคั่ง เราก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงที่คมชัดตลอดการใช้งานได้
เราเห็นเพื่อนหลายคนที่ใช้ OPPO Enco Air2 มีคำถามว่า ตัวเครื่องมีความหน่วงต่ำคือช่วยเรื่องไหน เอาที่เข้าใจง่ายๆ คือ Enco Air2 รองรับระบบเสียง Binaural ค่าความหน่วงต่ำด้วยการส่งสัญญาณ Bluetooth® 5.2 ทำให้มั่นใจได้ถึงความเสถียรของ Bluetooth โดยเมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟน OPPO แล้ว ก็คือไม่ต้องกลัวหลุดการเชื่อมต่อเลย ยากมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาสำคัญในการเข้า Game Mode ต้องไม่มีสะดุด และสามารถลิงก์เข้าการปรับระบบเสียงด้วยการแตะสามครั้งเพื่อเปิดใช้งาน Game Mode ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาออกที่หน้าจอสมาร์ทโฟน
OPPO เติมเต็มความสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิตไม่เพียงแค่ตอนตื่นแต่แม้กระทั่งหลับยังเชื่อมต่อด้วย
OPPO Watch Free ติดตามการนอนหลับในทุกสถานการณ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ไม่ใช่แค่ใช้คู่กับ OPPO หลากหลายรุ่นได้ แต่จะทำให้การนอนของเรามีประสิทธิภาพขึ้นได้อย่างไร
อย่างแรกเลยคือ ติดตามและวิเคราะห์การนอนหลับในทุกสถานการณ์ทั้งก่อนนอน คอยแจ้งเตือนว่าถึงเวลาต้องนอนหลับพักผ่อนแล้ว ช่วงระหว่างที่เราหลับ ตัวเครื่องจะวัดค่า Sp02 แบบต่อเนื่องที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น ติดตามการนอนกรน, ติดตามการนอนช่วงหลับลึก, ติดตามการนอนช่วงหลับตื้น, ติดตามการนอนช่วงหลับฝัน (REM), หรือการตรวจจับความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV)
นอกจากนี้หลังการนอนหลับยังคงติดตามและประเมินการนอนหลับในทุกๆ วัน อย่างต่อเนื่อง เพื่อสรุปผลลัพธ์ที่ได้ให้คุณเข้าใจและปรับปรุงวิถีการนอนใหม่ เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น
แน่นอนว่านาฬิกาคือไอเทมที่เราแทบจะใส่เป็นอุปกรณ์ติดตัวตลอดเวลา ฉะนั้นดีไซน์จะต้องมีความโมเดิร์นทันสมัย ใส่เข้าได้กับเสื้อผ้าหลากหลายชุด
OPPO Watch Free จึงออกแบบให้มีสไตล์ น้ำหนักเบา และทันสมัย สามารถเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาได้หลากหลายมากกว่า 40 สไตล์ แซ่บสุดตรงที่มีระบบ AI Outfit Watch Face 2.0 เพียงถ่ายรูปชุดของเราด้วยสมาร์ทโฟน AI จะสร้างหน้าปัดนาฬิกาที่มีสไตล์แมตช์กับลุคการแต่งตัวของเราโดยอัตโนมัติเลยจ้า เริ่ดมากกก
น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย หนักเพียง 33 กรัม มาพร้อมสายรัดหนังแบบเรียบดูดีมีสไตล์ จอแสดงผลขนาดใหญ่ คมชัดเป็นพิเศษ สีสันสดใส ทนต่อการขีดข่วน และทนต่อการสึกหรอ
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานไม่ต้องชาร์จแบตทุกวัน ความจุแบตเตอรี่ 230mAh ใช้งานได้นานถึง 14 วันมาพร้อมการชาร์จไวชาร์จเพียง 5 นาทีสามารถใช้งานได้เต็มวันเลยนะ
ฟีเจอร์เด่นๆ นอกจากการติดตามการนอน ยังส่งเสริมสุขภาพกันต่อด้วยโหมดการออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด เพื่อให้เหมาะกับทุกความต้องการในการออกกำลังกายประจำวัน การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 24 ชั่วโมง สามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวันและแจ้งเตือนทันทีเมื่อพบการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
ที่สำคัญถึงมีฟีเจอร์เหล่านี้ก็ไม่ทำให้แบตหมดไว ทั้งการแจ้งเตือนข้อความ, การแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, การปฏิเสธการโทร, Find My Phone, การควบคุมการเล่นเพลง เรียกว่าครบจบที่เครื่องเดียวมากๆ
ทั้งหมดนี้คือ IoT ที่เราว่าสาวสุดควรมีไว้เลยล่ะ ราคาไม่แรงแต่ได้ทั้งสุขภาพที่ดีขึ้น ภาพถ่ายที่สวยขึ้น และประสิทธิภาพในการทำงานมีสมาธิได้แบบมือโปร แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม จัดไปเลยค่ะ
เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้กับสมาร์ทโฟน 5G ที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ดีที่สุด สวยที่สุด OPPO Reno7 Z 5G รุ่นล่าสุด ในราคา 12,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ สีรุ้ง Rainbow Spectrum และสีดำ Cosmic Black ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
พร้อมด้วย OPPO Enco Air2 ในราคาเพียง 1,999 บาท และ OPPO Watch Free มาในราคาเพียง 2,999 บาท
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ ได้ที่ : https://bit.ly/3rKil8r
#OPPOReno7Z5G
#ThePortraitExpert
#เป็นตัวเองได้ไม่จำกัดด้วยพอร์ตเทรต
#FreshSoundInTheAir #OPPOEncoAir2
#NightDayWorkPlay #OPPOWatchFree