เศรษฐีหน้าใหม่คนต่อไปอาจเป็นเรา! เคล็ดลับสร้างยอดขายหลักล้านแบบชาว Lazada Millionaires Club

Alternative Textaccount_circle
event

การทำธุรกิจแฟชั่น และมีแบรนด์สินค้าที่มีจุดขายโดดเด่นจนเป็นที่รู้จัก นำมาสู่การสร้างยอดขายแบบก้าวกระโดดในวันเดียวได้ เพียงรู้จักเลือกแพลตฟอร์มที่มีกลุ่มลูกค้าที่แมตช์กับสินค้า เพื่อเป็นพาร์ตเนอร์สร้างโอกาสและความสำเร็จให้ธุรกิจ การสร้างยอดขายหลักล้านภายในวันเดียวในตลาดอีคอมเมิร์ช จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

เรามาฟังคำบอกเล่าจากประสบการณ์จริง จากเจ้าของแบรนด์แฟชั่น Mitr และ Rally Movement ที่สามารถทำรายได้หลักล้านในแคมเปญใหญ่ที่สุดแห่งปีอย่าง 11.11 ของลาซาด้า รับรองว่า ได้ไอเดียดีๆ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจ และอาจเป็นมิลเลียนแนร์คนต่อไปบ้าง

คุณมิลิน วินทะไชย เจ้าของร้านและดีไซเนอร์ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ Mitr (มิตร) ที่ตั้งใจทำเสื้อผ้า Ready to wear ให้ Friendly คือเห็นแล้วรู้สึกว่า น่าใส่ ใส่ง่าย ด้วยราคาที่เป็นมิตร วัสดุที่ใช้เป็นเส้นใยผ้าธรรมชาติ คอนเซปต์หลักคือ เป็นมิตรทั้งวัสดุ ดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

“การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จำจดในสื่อออนไลน์ ทุกอย่างที่สื่อสารออกไปเป็น Key Success ได้ทั้งหมด ทั้งการวางคอนเซปต์ ถ่ายแบบ งานดีไซน์จะต้องโดดเด่น สตอรี่ของแบรนด์ต้องแข็งแรง อย่างดีไซน์เราพัฒนาให้ตอบรับกับเนื้อผ้าที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ใช้ดีเทลสม็อก ขนเสื้อพองๆ ให้ดูอลังการ ดูสง่างาม ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ เน้นพัฒนาตัวสินค้า เพื่อสร้างยอดขาย เพราะเราเชื่อว่าถ้าโปรดักส์ดี ลูกค้าก็จะแฮปปี้”

ในช่วงแรกแบรนด์ Mitr จะเน้นขายในช่องทาง Official ของแบรนด์เอง ลูกค้าส่วนมากจึงมาจากกลุ่มเดียวกัน แต่เมื่อเริ่มต้นใช้แพลตฟอร์มลาซาด้า ซึ่งมีฐานลูกค้ากว้าง ก็ช่วยขยายฐานลูกค้าให้ธุรกิจเติบโต ทั้งยังมีการสร้างดีลต่างๆ สำหรับผู้ขายเพื่อเพิ่มโอกาสทางการขายมากขึ้น

“การเข้าร่วมโปรโมชั่นครบทุกแคมเปญของลาซาด้า เป็นหนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จตลอด 2 ปี ยกตัวอย่าง เราขายเสื้อ Signature รุ่น Mitr Mali Blouse ได้หลายพันออเดอร์ ภายใน 1 – 2 ชั่วโมงของช่วง Flash Sale เที่ยงคืนของวันที่ 11.11 และทำยอดขายทะลุล้านใน Mega Campaign นี้ เคล็ดลับอีกอย่างคือ การเตรียมสต๊อกอย่างดี เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการขาย และจากที่เข้าร่วมทุกแคมเปญกับลาซาด้าก็เห็นเทรนด์การเติบโตของยอดขายในทุกครั้ง”

“ส่วนฟีเจอร์ที่ใช้และได้ผลดีกับแบรนด์มาตลอด คือการทำ Livestream โดยไลฟ์แต่ละ Session มียอด Engagement ค่อนข้างดี อยู่ที่ประมาณ 15K – 20K วิวขึ้นไป แล้วพฤติกรรมลูกค้าตอนนี้คือชอบดู Live มาก ยิ่งก่อนช่วงแคมเปญ หลังดูจบก็จะมีเข้าไป Add to Cart ไว้รอวันโปรโมชั่น หรือถ้ามีคอลเล็กชั่นใหม่ๆ ก็จะมีคนตามไปซื้อ ยิ่งถ้ามีคูปองแจก เพื่อกระตุ้นการขายด้วยคือขายดีแน่นอน แล้วลาซาด้าก็มีฟีเจอร์ช่วย Operate เวลาลูกค้ามีคำถาม สามารถแชทเข้ามาถามได้ และยังมีผู้ช่วยดูแลแบรนด์ของทางลาซาด้าคอยซัพพอร์ตด้านข้อมูล ให้คำแนะนำว่าช่วงแคมเปญต้องทำอะไรบ้าง เรียกว่าช่วยจัดตารางการจัดการหน้าร้าน ก็มีประโยชน์มาก”

“ที่สำคัญ แพลตฟอร์มของลาซาด้าใช้งานง่ายกว่าเริ่มทำเองด้วย ไม่ว่าจะเป็น Store Decorations ตกแต่งหน้าร้าน โดยใช้ Module ที่ลาซาด้าให้บริการ ในการช่วยให้หน้าร้านสวยงาม ดึงดูดลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น Tools พวกนี้ใช้งานง่าย ไม่กี่คลิกก็ทำได้แล้ว หรือว่าจะเป็นการสร้างคีย์เวิร์ดด้วย Sponsored Search ซึ่งเป็นการเพิ่มคำค้นหาที่ต้องการให้ติดอันดับในคำค้นหาของลูกค้า ซึ่งลาซาด้ามีระบบ Algorithm ที่ดี หาสินค้าเจอได้ง่าย แบรนด์ใช้งานฟีเจอร์นี้เรื่อยๆ แม้ช่วงไม่มีแคมเปญ เพราะช่วยเพิ่มยอดขายได้ตลอด”

ส่วนคุณอภิพรรณ มงคลพาณิชยกิจ และคุณนิธิศ วงศ์สวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์แบรนด์ Rally Movement ได้แชร์ประสบการณ์และความสำเร็จ ในการสร้างยอดขายหลักล้านกับลาซาด้าในแคมเปญ 11.11 ด้วย ซึ่งเพียง 5 เดือนของการเปิดร้านในแพลตฟอร์มลาซาด้า กับ Direction ของธุรกิจที่มาถูกทาง สร้างยอดขายหลักล้านในวันเดียวได้จริง

“Rally Movement เติบโตด้วยการสร้างแบรนด์แบบ Organic โดยเริ่มจากการทำแบรนด์แฟชั่นเล็กๆ เพื่อ Discover สไตล์และตัวตนของเรา พอเรียนจบและเข้าสู่ชีวิตทำงาน เราอยากมี Work Wear ที่ใส่แล้วสนุกแต่ยังเหมาะกับกาลเทศะ คอลเล็กชั่นแรกจึงออกแบบมาตามสมัยนิยม ชุดสูท กางเกงสแล็คที่คุ้นเคย และใช้สีอ่อนๆ สดใสแทนสีโทนขรึม โดยมิกซ์แอนด์แมตช์ให้ลูกค้ารู้สึกว่า สูทสีฟ้าใส่กับกางเกงสีเหลืองหรือสีเขียวได้ จากนั้นชุดใส่ไปทำงานก็เริ่มสร้างสรรค์ให้ใส่ไปเที่ยวต่างประเทศ ใส่ไปทะเลบ้าง

“เราให้ความสำคัญกับ Database ของลูกค้า ฟังฟีดแบ็กว่า ลูกค้าชอบหรือต้องการอะไร สมมติผ้าหนึ่งชิ้นเราเลือกด้วยความตั้งใจให้เนื้อบางเบา แต่ในแง่การใช้งาน ลูกค้าติดว่าบางเกินไป เราก็นำคอมเมนต์เหล่านี้มาพัฒนาให้อยู่ในจุดที่ดีไซเนอร์โอเค และลูกค้าชื่นชอบ เพราะ Art Direction ของแบรนด์ไม่ได้อิงตามซีซั่น แต่มาจากแรงบันดาลใจที่เราไปพบเจอ ภาพที่สื่อออกไปจึงค่อนข้างมีเอกลักษณ์ เป็นจุดเด่นที่ทำให้มีคนติดตาม”

เสื้อผ้าอาจเป็นเพียงเครื่องนุ่งห่ม แต่ Rally Movement ต้องการสร้างสุนทรียะในการเสพรายละเอียดเสื้อผ้า ทั้งในภาพถ่าย Element ต่างๆ ในดีไซน์ ยังมีเรื่องของเนื้อผ้า ป้ายแท็ก กระดุม การตัดเย็บเพื่อให้ลูกค้ารักที่ได้สวมใส่ เช่นเดียวกับการเลือกมาขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับลาซาด้า เพราะมองว่าหมวดหมู่ของ LazInStyle มีความเป็นแฟชั่นชัดเจน เป็นการเลือก Position ให้แบรนด์ในการเข้าถึงและเพิ่มฐานลูกค้าแฟชั่นกลุ่มใหม่ที่มีอยู่ทั่วประเทศได้จริง

“เป้าหมายเริ่มต้นของแบรนด์ คือทำยังไงให้คนรู้จักเรามากขึ้น พอสร้างแบรนด์เริ่มโต ธุรกิจเริ่มขยายตัว เราต้องเข้ามาอยู่ในมาร์เก็ตเพลสใหญ่ๆ แน่นอน แล้วลาซาด้าเป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นเรื่องสินค้าแฟชั่น และเราเห็นภาพความเป็นผู้นำของตลาดแฟชั่นที่สตรองขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยเลือกที่จะเริ่มต้นที่นี่”

การเป็นเจ้าของธุรกิจในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ย่อมมีปัญหาจุกจิกในงานบริหารด้านต่างๆ แต่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชของลาซาด้า กลับเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวที่มาช่วยให้การสร้างยอดขายหลักล้านในวันเดียวเป็นไปจริงได้ ซึ่ง Rally Movement ประสบความสำเร็จมาแล้วในช่วง Mega Campaign 11.11 ที่ผ่านมา

“ช่วงแคมเปญ 11.11แบรนด์สร้างยอดขายหลักล้านได้ภายใน 1 วัน ซึ่งแทบจะเทียบเท่ากับยอดขายทั้งเดือนของช่วงเวลาปกติ โดยสามารถขายเสื้อได้หลักร้อยตัวหมดภายใน 1 นาที ซึ่งด้วยระบบอีคอมเมิร์ซของลาซาด้าช่วยจัดการ Pain Point ของผู้ประกอบการอย่างเรา คือลดความยุ่งยาก และรับยอดสั่งซื้อได้รวดเร็ว แทบไม่มีความผิดพลาดในเรื่องออเดอร์เลย ซึ่งถ้าทำเองเราคงไม่สามารถสรุปยอดนับพันรายการได้ในเวลา 1 ชั่วโมง และยังช่วยแนะนำในจัดเตรียมสต๊อกให้เพียงพอกับการขายในช่วงแคมเปญด้วย เราเตรียมสต๊อกกันหลายเดือน เพื่อแคมเปญใหญ่ของปี”

“ทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ มาช่วยให้ Seller ใช้กระตุ้นยอดขาย เหมือนมีฝ่ายการตลาดคอยคิดแคมเปญ โปรโมชั่นที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายออกมาให้เราเลือกใช้งาน อย่าง 11.11 ที่ผ่านมา เราใช้แค่กลยุทธ์มอบคูปองให้ลูกค้า (Seller Vouchers) เพื่อให้เข้ามาเก็บก่อนช่วงแคมเปญ เป็นการดึงดูดความสนใจ ลูกค้าสนุกที่ได้ช้อป ได้ลดราคาหลายต่อ ได้ซื้อในราคาถูกโดยที่เราไม่ได้ใช้กลยุทธ์การลดราคา แต่ลูกค้าก็ยังได้ความคุ้มค่าจากการที่เราเข้าร่วมกับลาซาด้า ลูกค้าเข้ามา Preview ราคา หยิบไปใส่ตะกร้าไว้รอ ยังทำยอดได้หลักล้านบาท ก็วางแผนว่าปีหน้าจะใช้เครื่องมือส่งเสริมการขายต่างๆ ให้มากขึ้น”

โดยเร็วๆ นี้ ลาซาด้าก็ได้เตรียมอีกแคมเปญใหญ่ กับ Lazada 12.12 แกรนด์เซลส่งท้ายปี ให้ทุกคนได้ช้อปทิ้งทวนปี 2020 ไปกับคูปองส่วนลด 1,212 บาท ทุกเที่ยงวัน ตั้งแต่ 4 – 14 ธันวาคมนี้ อีกทั้งยังมีคูปองส่งฟรี* และรับเงินคืน 10% เมื่อช้อปสินค้า LazMall ทุกชิ้น** เรียกได้ว่าเป็นแคมเปญปิดท้ายปี ที่พร้อมผลักดันให้ผู้ขายสร้างรายได้กันเป็นกอบเป็นกำอีกครั้งอย่างแน่นอน

ถ้าสินค้าพร้อมแล้ว ไปเปิดร้านกับลาซาด้ากันเถอะ ชาว Lazada Millionaires Club คนต่อไป!

*ส่วนลดค่าส่ง 30 บาท
**รับเงินคืนสูงสุด 100 บาท

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up