account_circle
ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ ต้องเตือนตัวเองว่าอย่าพลาดการมาเช็คอินที่ RenoVision Pop-up Store at Parc Paragon ที่ภายในเต็มไปด้วยความครีเอทีฟ ด้วยแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมล้ำสมัยของ OPPO Reno Series สมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมรุ่นล่าสุด ขนาด ใบเตย – ปิยะมาลา นรินทรสรศักดิ์ แห่งรายการ “ใบเตยรีวิวพลีชีพ” ของสุดสัปดาห์ ยังต้องรีบมาเช็คอินก่อนใคร และพบว่า 6 โซนภายในอาคารสีขาวสไตล์ Pop-up Store แห่งนี้ แต่ละโซนมีดีต่างกัน แต่เหมือนกันตรงที่ มาแล้วแสนเพลิน ยิ่งพอเดินครบทุกห้องแล้ว อยู่ๆ ก็เกิดอาการ อยากเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ เฉยเลย! #OPPOReno #60xZoom #FurtherYourVision #RenoVision
ใบเตยเล่าว่า ครั้งแรกที่ได้สัมผัส OPPO Reno Series ก็รู้สึกใจหวิวเสียแล้ว เพราะการออกแบบที่ดูพรีเมี่ยม ทั้งหน้าจอเรียบสวยดูแพง ขอบที่บางมาก กล้องหน้าถูกซ่อนเอาไว้ด้านบนของตัวเครื่อง เรียกว่า Pivot Rising Camera เมื่อเปิดใช้งานกล้องหน้า กล้องจึงจะเลื่อนขึ้นในเวลาแค่ 0.8 วินาที ดูโฉบเฉี่ยวแบบมีดีไซน์ และอึดทนด้วยการรองรับการใช้งานได้มากถึง 200,000 ครั้ง! พร้อม Free-fall detection ให้เก็บกล้องอัตโนมัติ เมื่อเราเผลอทำเครื่องหล่น หลุดมือ
เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับทุกๆ คนอยู่หน้าบริเวณทางเข้า พร้อมมอบ OPPO Reno 10x Zoom สี Ocean Green เฉดสีที่เสมือนความระยิบระยับของผืนน้ำทะเลสีเขียวมรกตยามต้องกับประกายแสง มาให้ใบเตยทดลองใช้ เมื่อเครื่องพร้อมรีวิวแล้ว จะรออะไร เดินเข้าไปภายในกันเลยดีกว่า (แอร์เย็นฉ่ำ เดินสบายทุกซอกทุกโซน)
โซนที่ 1 : Tunnel The Periscope อุโมงค์แสงเปิดวาร์ปสู่โลกแห่งครีเอทีฟ
เริ่มว้าว ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าอุโมงค์แสง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงจุดกำเนิดแห่งความสร้างสรรค์ทั้งมวลใน OPPO Reno 10x Zoom ที่มาพร้อมกับกล้องด้านหลังสามตัว โดยกล้องหลักจะมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล กล้องตรงกลางจะเป็นกล้อง Wide angle มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนตัวล่างจะเป็นกล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มี 10x Hybrid Zoom ที่สามารถซูม 10 เท่าได้แบบชัดสุดๆ และซูมได้มากสุดถึง 60 เท่า!! สำหรับกล้องหน้า มาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว
โซนที่ 2 : The Small City เมืองย่อส่วน ท้าให้ค้นพบรายละเอียดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อผ่านอุโมงค์แสง ก็จะพบกับเมืองจำลอง ที่มองด้วยตาเปล่าก็แลเห็นเป็นเพียงโมเดลเมืองย่อส่วน แต่งานนี้ OPPO Reno 10x Zoom ท้าให้ลองค้นพบรายละเอียดใหม่ๆ ด้วย 10x Hybrid Zoom ซูม 10 เท่าแบบไม่สูญเสียรายละเอียด พร้อมการซูมขั้นสุดถึง 60 เท่า!! พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบคู่ ลดการสั่นตอนซูมแบบไม่จำเป็นต้องพึ่งขาตั้งกล้อง ทำให้เราสามารถมองเห็นผู้คนและสถาปัตยกรรมแห่งโลกอนาคตในเมืองย่อส่วนนี้ได้อย่างชัดเจน ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนที่เก็บทุกรายละเอียดความคมชัดได้แบบไม่เคยเห็นมาก่อน
โซนที่ 3 : The Night Light ลึกเข้าสู่ป่ามหัศจรรย์ ที่ความมืดไม่อาจขวางกั้นจินตนาการได้
ขอเตือนให้ปรับสายตาก่อนเดินเข้าห้องต่อไป เพราะที่นี่ถูกจำลองให้เป็นป่ามหัศจรรย์ยามรัตติกาล ที่ความมืดมิดไม่สามารถปิดกั้นพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์ได้อีกต่อไป ประสาทสัมผัสจะถูกปลุกให้ตื่นจากดินแดนสนธยาด้วยฟีเจอร์ Ultra Night Mode 2.0 ที่มีเทคโนโลยี Face Protection ให้หน้ามีมิติด้วยการแยกใบหน้าออกจากพื้นหลังแบบอัตโนมัติ AI ให้ผิวที่เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ และ HDR ให้ภาพสวยแม้ถ่ายย้อนแสง บน OPPO Reno Series และกล้องหลักความละเอียด 48MP ที่มาพร้อมรูรับแสงขนาดใหญ่ F/1.7 ทำให้สามารถถ่ายภาพ Portrait ได้สวยปัง สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเจิดจรัสเต็มไปด้วยรายละเอียดของภาพแม้ในที่แสงน้อย ให้สวย คมชัด และมีมิติ งานนี้เห็นภาพเซลฟี่แล้วต้องร้องว้าว เพราะสวยชัดสีสดราวกับเป็นนางเอกภาพยนตร์ Avatar ยังไงยังงั้น
โซนที่ 4 : Wide Angle Room โลก Polka dot สุดลูกหูลูกตา
เมื่อหลุดออกจากป่า OPPO Reno 10x Zoom ก็พามาพบกับนกฟลามิงโก ลายจุดและโลกแห่ง Polka dot ศิลปะป๊อปอาร์ตที่ถูกขยายให้กว้างเต็มตาขึ้นได้ด้วยกล้อง Wide Angle ของ OPPO Reno Series ที่เก็บภาพกว้างได้ถึง 120 องศา ทำให้เห็นโลกใหม่ในมุมมองที่กว้างขึ้น ที่นี้วิวจะสุดลูกหูลูกตาขนาดไหน หรือจะถ่ายรูปกับชาวแกงค์สักกี่คนในห้องนี้ ก็เอาอยู่เก็บครบจบในเครื่องเดียว อีกทั้งความจุดๆๆ นี้ ยังสื่อถือฟีเจอร์ O-Dot ใน OPPO Reno series ที่มีจุดเซรามิกขนาดเล็กจัดวางไว้บนแผงด้านหลัง เสมือนอัญมณีที่สวยงาม และช่วยยกโทรศัทพ์ขึ้นเล็กน้อยเวลาวาง เพื่อป้องกันกล้องเป็นรอยขีดข่วนได้อีกด้วย
โซนที่ 5 : Concept Room แกลอรี่อาร์ตและเวิร์กชอป จากศิลปินดังที่ห้ามพลาด
คนหัวใจอาร์ต ต้องแวะมารวมพลห้องนี้ เพราะเป็นแกลอรี่โชว์ผลงานศิลปะและผลงานถ่ายภาพจากศิลปินดังๆ มากมาย แต่ละคนก็มีสไตล์แตกต่างกันออกไป พวกเราในฐานะผู้เสพศิลป์ จึงได้ไอเดีย แรงบันดาลใจ ไปสร้างผลงานถ่ายภาพสวยๆ อัพอวดโซเชี่ยลตามสไตล์ของเราบ้าง อีกทั้งในห้องนี้ยังมีนิทรรศการและเวิร์กชอป ใหม่ๆ ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกันในทุกๆ สัปดาห์แบบไม่ซ้ำ ยกตัวอย่าง การโชว์ผลงานศิลปะของภาพที่ถ่ายทอดอารมณ์โดย พงษ์-ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ หรือการร่วมเวิร์กชอป ถ่ายภาพพร้อมเทคนิคพิเศษ กับ ระเบิด-ธนสรณ์ เจนการกิจ หากสนใจเข้าร่วมเวิร์กชอป สามารถติดตามรายละเอียดและวันเวลาได้ที่ www.facebook.com/oppothai
โซนที่ 6 : The Dolby Sound Wall
โซนสุดท้าย จะทำให้คุณได้หลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง ฟังกันชัดๆ ว่าสมาร์ทโฟนดีๆ จะให้ระบบเสียงระดับ Dolby Atmos ได้ขนาดไหน ถามว่าดีแค่ไหน ก็บอกเลยว่าเป็นมาตรฐานเดียวกับระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ระดับไฮคลาสเลยทีเดียว เริ่ดมั้ยล่ะ!! ไปลองฟังเสียงก้องกังวาลรอบทิศทางกันดู แล้วทีนี้การดูหนัง ฟังเพลงผ่านสมาร์ทโฟนอยู่ที่บ้าน ก็คืออีกความสุขที่เราจะสัมผัสได้เช่นกัน
มาถึงจุดใจสั่น อยากได้สมาร์ทโฟนเครื่องใหม่แล้วสิ!
เหมือน OPPO Reno 10x Zoom จะรู้ใจ จัดเครื่องจริงให้ได้ทดลองใช้ พร้อมผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำทุกฟีเจอร์ไว้เป็นอย่างดี
เราจึงได้รู้รายละเอียดว่า OPPO Reno Series เปิดตัวแล้ว 2 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno 10x Zoom ในราคา 28,990 บาท และ OPPO Reno ในราคา 16,990 บาท
มีให้เลือก 2 สีคือ สี Ocean Green เฉดสีที่ผสมผสานสีเขียวของน้ำทะเลเมื่อจ้องมองพื้นผิวของทะเล และสี Jet Black สีดำที่มีผิวสัมผัสแบบเงาสะท้อน พร้อมวางจำหน่ายทั่วประเทศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนเป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและผู้จัดจำหน่ายทั่วประเทศ
สำหรับลูกค้าที่สั่งจอง OPPO Reno 10x Zoom ในช่วง Pre-Order ตั้งแต่ 4-14 มิถุนายนนี้ รับของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ ได้แก่ Diamond Card มูลค่า 9,000 บาท ประกอบด้วย International warranty service พร้อมทั้ง Replacement Service บริการเปลี่ยนเครื่อง เมื่อเครื่องมีปัญหา ประกันหน้าจอแตก 1 ปี รวมถึง Fast Lane เมื่อเข้าบริการที่ศูนย์ OPPO และขาตั้งกล้อง มูลค่า 2,000 บาท สำหรับ OPPO Reno ลูกค้าจะได้รับ Premier Card มูลค่า 5,000 บาท
ส่วนลูกค้า AIS และ True ที่สั่งจอง OPPO Reno 10x Zoom ในช่วง Pre-Order ตั้งแต่ 4-13 มิถุนายนนี้ ราคาจะเริ่มต้นที่ 8,990 บาท และ DTAC ราคาเริ่มต้นที่ 14,990 บาท (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)