account_circle
ดูละคร “บุพเพสันนิวาส” แล้ว นอกจาก แม่หญิงการะเกด กับ พี่หมื่นเดช (ตอนนี้เป็นขุนแล้วนะ) ก็มี ‘หมื่นเรือง’ (ขุนเรือง) อีกคนนี่แหละ ที่สาวๆ ทั่วพระนครกรี๊ดกร๊าดกันหนักมาก ถึงชีวิตจริงพี่หมื่นเรือง หรือ ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย จะบอกว่าเขาเป็นผู้ชายสาย ฮา ดิบ เถื่อน แต่ด้วยเสน่ห์อันแพรวพราว ก็ทำให้สาวๆ อดที่จะตกหลุมรักไม่ได้อยู่ดี เมื่อสุดฯ มีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อหมื่นเรือง (หรือพ่อขุนเรืองนั่นล่ะค่ะ) แบบสองต่อสอง บอกเลยว่า ยิ่งหลงรักผู้ชายคนนี้หนักมาก ถ้าอยากรู้ว่าเราสองคนคุยอะไรกันบ้าง มาค่ะ สุดฯ จะพาไปฟัง
หน้าจอหล่อ เซอร์ ฮา แต่เบื้องหลัง ปั้นจั่น ปรมะ เป็นคนยังไง
“ทะลึ่งตึงตัง และหยาบโลนครับ ผมเป็นคนที่พอสนุกก็จะสนุกสุดๆ ไม่ค่อยมียั้ง เมื่อก่อนตอนเป็นวัยรุ่นออกแนวเกเรเลย ไม่ใช่เด็กเรียบร้อย ชอบเที่ยว ทําทุกอย่างที่วัยรุ่นทํา บางวันเที่ยวถึงตีสี่แล้วตื่นเช้าไปทํางานก็มี แล้วเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก พอเพื่อนมีเรื่องเราจะออกตัวก่อนเลย เป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ขาดสติ เพื่อนๆ ก็รู้กันว่าผมเป็นคนแบบนี้ แต่โชคดีที่ทุกครั้งพอเกิดปัญหาจะมีคนคอยเตือน ซึ่งผมก็รับฟัง และแก้ไข จนมาหลังๆ พอโตขึ้นจึงซอฟต์ลงมาก เปลี่ยนจากเดิมไปเยอะเลย ไม่ค่อยออกไปเที่ยวแล้ว”
คำว่า Bad Boy เหมือนจะเป็นภาพจําของผู้ชายคนนี้ไปแล้ว
“ผมไม่ได้ยึดติดว่าภาพเราจะต้องออกมาดูแบด หรือเซอร์ ถึงที่ผ่านมาจะค่อนข้างไปทางนั้นก็ตาม อาจจะด้วยเพราะผมดูลูกทุ่งมั้ง ออกไปทางผู้ชายดิบๆ เถื่อนๆ ลุคไทยๆ แต่ผมก็ชอบลุคไทยของตัวเองนะ เพราะความหน้าไทยนี่แหละ ที่เปิดโอกาสให้ผมได้มายืนอยู่ในวงการ ตั้งแต่สมัยยังเป็นนักร้อง แล้วเพื่อนๆ ในวงหน้าตาหล่อใสสไตล์เกาหลีกันหมด มีผมหน้าไทยอยู่คนเดียว เลยทําให้ดูแตกต่าง เอาจริงๆ ผมว่าคนหน้าเข้มๆ ไทยๆ ก็ดูดีนะ (ยิ้ม) ตี๋ๆ เกาหลีก็หล่อไปอีกแบบ แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากเข้มๆ แบบเดิมมากกว่า”
เห็นว่าเคยเจ้าชู้มาก
“ผู้ชายทุกคนย่อมมีความเจ้าชู้อยู่ในตัว แต่เวลาทําให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อก่อนผมเคยเจ้าชู้ในระดับที่เห็นผู้หญิงสวยแล้วอยากจะจีบทุกคน คือถ้ามีจังหวะก็จีบเลย ชอบไม่ชอบอีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่เคยคบซ้อนนะ เลือกที่จะคบทีละคน ระหว่างคบกันอาจจะมีเป๋ไปบ้าง แต่ไม่ใช่คบซ้อนแน่นอน
“พอโตขึ้นเราก็รู้ว่า การที่จะเรียนรู้คนคนหนึ่งต้องใช้เวลา ถ้าต้องเสียคนข้างๆไป เราก็ต้องเสียเวลาไปทําความรู้จักคนอื่นใหม่ แล้วกว่าเขาจะเข้าใจและรับผมได้ไม่ใช่ง่ายๆ เลยเปลี่ยนตัวเอง และพยายามประคับประคองความสัมพันธ์มากขึ้น อีกอย่างพอโตเป็นผู้ใหญ่ ต่างคนก็ต่างทํางาน มีโฟกัสในชีวิตตัวเองมากขึ้น เราสนุกกับอย่างอื่นมากกว่า จนเรื่องสาวๆ เป็นเรื่องรองไปแล้ว”
ได้ฉายาหนุ่มแซ่บ จริงๆแล้วแซ่บไหม
“ไม่หรอก ฉายานี้มายังไงไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะเราเคยถ่ายแบบเซ็กซี่หรือเปล่า แล้วด้วยความที่เล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก หุ่นก็เลยพอทําเนา แต่ถามว่าดีเท่ากับคนอื่นไหม ผมว่าไม่ได้ดีมาก เป็นหุ่นแบบนักกีฬามากกว่า”
อยากฟังเรื่องความรักของปั้นจั่น
“ผมว่าเรื่องความรักเป็นคนละส่วนกับงาน เวลาเจอใครก็อยากให้อัพเดตงานของเรามากกว่า พูดตรงๆ นะ ผมเบื่อข่าวดารามีแฟน ทั้งที่ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ใครๆ ก็มีความรักได้ แล้วจะไปยุ่งเรื่องของเขาทําไม ที่ผมอยากรู้คือช่วงนี้เขามีงานอะไร ทําอะไรอยู่ ไปโฟกัสตรงนั้นดีกว่า
“อีกอย่างคนที่ผมคุยด้วยและตัวผมเอง แต่ละคนก็มีงานมีการทํา เราโตๆ กันแล้ว จึงไม่อยากมีข่าวอะไรแบบนั้น เขาเองก็เข้าใจ และไม่ชอบที่จะเป็นข่าวด้วย ผมก็โอเค ตอนนี้ความรักของเราก็เรื่อยๆ เหมือนหุ้นที่ไม่ได้ดีตลอด มีตกบ้าง ขึ้นบ้าง แต่ก็ประคับประคองกันไป ดูแลกันเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า”
แล้วปั้นจั่นมีของรักของหวงบ้างไหม
“ครอบครัวครับ ผมสนิทกับพ่อแม่มาก คุยกันได้ทุกเรื่อง อย่างเรื่องความรักจะคุยกับแม่ ถ้าแนวบู๊หน่อยก็จะคุยกับพ่อ บ้านเราชอบแสดงความรักกัน อย่างทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน ผมจะเข้าไปสวัสดีแล้วหอมแก้มท่าน แม่สอนผมมาแบบนั้น ก็เลยไม่เคยรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะบอกรักหรือหอม แม้แต่เวลาเดินห้างก็หอมแม่ มันเป็นความสุขนะ
“บางทีเราพูดอย่างเดียวรู้สึกไม่เท่าการกระทํา แล้วตัวผมเองก็อยากจะทําแบบนั้นบ่อยๆ เพราะเมื่อวันหนึ่งถ้าแม่กับพ่อไม่อยู่แล้วเราอยากจะหอมใครก็คงหอมไม่ได้ ส่วนน้องสาว ตอนเด็กๆ สนิทกัน แต่พอโตแล้วเขาก็มีโลกส่วนตัวของเขา อาจจะมีคุยกันบ้าง ถ้าเป็นเรื่องสําคัญ หรือเรื่องครอบครัว แต่ชีวิตส่วนตัวผมก็ปล่อยเขาไป คือน้องไม่ค่อยคุยกับผมด้วย เพราะผมชอบดุ”
เคยเป็นนักร้องมาก่อน ถ้าเทียบกับงานแสดง ชอบอะไรมากกว่ากัน
“ผมชอบร้องเพลง และอยากเป็นนักร้อง เพราะเห็นเพื่อนประกวดฮ็อตเวฟแล้วคนกรี๊ด เลยอยากไปขึ้นเวทีแบบนั้นบ้าง แต่พอเอาเข้าจริงก็รู้สึกว่า เราไม่ใช่ตัวจริง คืออย่างการแสดงเรามั่นใจที่จะเล่นมาก แต่เชื่อไหมว่าทุกครั้งที่ต้องขึ้นเวทีไปร้องเพลงผมจะประหม่า ไม่เคยมั่นใจเลย คิดว่านั่นคงไม่ใช่ที่ของเรา
“อย่างตอนที่เป็น Nice To Meet You แล้วประสบความสําเร็จ เป็นเพราะว่าเราช่วยกันเป็นกรุ๊ป แล้วตอนนั้นแจ๊คกับเชนก็ดังมาก เลยเหมือนว่าเราทําได้เพราะส่วนประกอบอื่นมากกว่า แต่ก็โอเคนะ มันทําให้เราได้ชื่อเสียง ได้เงินทอง ดูแลที่บ้านได้ แค่นี้ก็แฮ็ปปี้แล้ว สําหรับผมทําทุกอย่างได้โดยที่ไม่ต้องชอบที่สุดก็ได้”
จริงๆ แล้วผู้ชายที่ชื่อปั้นจั่นเป็นคนแบบไหน
“ผมเป็นทั้งคนดีและไม่ดีอยู่ในตัวเอง ด้านดีผมเป็นลูกที่กตัญญู รักครอบครัว และตั้งใจทํางาน ส่วนด้านไม่ดีผมก็เหมือนมนุษย์คนอื่นๆ ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง บางทีผมก็อยากทําตัวแย่ๆ บ้าง เป็นบางโมเมนต์ แต่เชื่อว่าสิ่งที่ผมทําไม่ได้ทําให้ใครเดือดร้อนแน่นอน ฉะนั้นอยากบอกว่า ถ้าเกิดเห็นผมทําตัวแย่เมื่อไร หากไม่ได้เดือดร้อนใคร ก็อย่าว่าผมแล้วกันนะครับ”
ของโปรดของปั้นจั่น
ของสะสม : ผมเป็นคนชอบทําลายข้าวของ ก็เลยไม่มีของสะสม อีกอย่างรู้สึกว่าเป็นสิ่งสิ้นเปลือง ไม่อยากเสียเงินซื้อของมาวางไว้เฉยๆ เลยสะสมแต่ประสบการณ์ดีกว่า ไม่หายไปไหนแน่นอน
หนังสือเล่มโปรด : ไม่มีครับ ผมอ่านหนังสือน้อยมาก และไม่คิดว่าตัวเองจะนั่งอยู่กับหนังสือได้ ชอบปฏิบัติมากกว่า
กาแฟแก้วโปรด : ผมไม่ดื่มกาแฟ เวลาเข้าร้านกาแฟถ้าไม่สั่งนมปั่นก็จะเป็นชาร้อน
สัตว์เลี้ยงตัวโปรด : ผมเลี้ยงหมาสอง แมวหนึ่ง แมวชื่อปุยฟ้า เพราะว่าตามันสีฟ้า ตัวสีขาว เป็นแมวจรที่ไปช่วยมาแล้วก็เลี้ยงไว้เลย
เมนูโปรด : ผมชอบกินอาหารอีสาน โดยเฉพาะก้อยเนื้อ คือชอบอาหารรสจัดด้วย ดิบด้วย ของที่ไม่ทําให้สุกก่อนจะชอบมาก อย่างกุ้งแช่น้ำปลา ซาชิมิ แต่ก็นานๆ กินที เพราะเขาว่าอันตรายเหมือนกันถ้าเจอของไม่ดี
กีฬาโปรด : ชอบตีกอล์ฟครับ ช่วงก่อนหน้านี้ผมเล่นกอล์ฟเต็มที่ จนผิวสองสีเลย จริงจังจนถึงขั้นเคยคิดว่าจะไปเป็น นักกอล์ฟอาชีพ เพราะผมมองว่า สิ่งที่เราทําได้ดีมีอยู่แค่ 2 อย่างในชีวิต นั่นคือเป็นนักแสดงกับเล่นกีฬา
หล่อ งานดี และรักครอบครัวแบบนี้ ถึงจะบอกว่าดิบ เถื่อน สาวๆ ก็รักค่ะพ่อหมื่น สุดฯ อยากกระซิบบอกสาวๆ ว่าเรื่องราวดีๆ แบบนี้ยังมีให้ติดตามอีกเพียบ ที่ www.facebook.com/sudsapdafanclub อย่าลืมเข้าไปติดตามกันนะคะ จุ๊บจุ๊บ
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง :
#มีแฟนแล้วคบนานมาก 4 ศิลปิน ดาราไทย ที่มีคนรู้ใจมานานแล้วแต่ไม่ค่อยเปิดเผย
หล่อหน้าไทย เอาใจไปเลย! ปั้นจั่น-ปรมะ จากนักร้องสู่บทพระเอก
พระเอก ย้อนอดีต ใครน่ากรี๊ดจนอยากทะลุมิติ