4 จตุรเทพฮ่องกง vs 5 ปัญจเทพเกาหลี เลือกยากนักก็ขอเก็บเธอไว้ในใจทุกคน! ^^
9 ซุป’ตาร์รุ่นใหญ่จากสองประเทศ จีนและเกาหลีใต้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 4 จตุรเทพฮ่องกง และ 5 ปัญจเทพเกาหลี เวอร์ชั่นไหนโดนใจที่สุด?
4 จตุรเทพฮ่องกง (Four Heavenly Kings of Cantopop) : จางเสวียโหย่ว หลิวเต๋อหัว กัวฟู่เฉิง หลี่หมิง
จางเสวียโหย่ว (Zhang Xueyou/Jacky Cheung)
เปิดด้วยหนึ่งในตำนานแห่งวงการเพลงจีนและฮ่องกง จางเสวียโหย่ว ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาเพลงป็อปของชาวจีนทั่วโลก และเทพเจ้าแห่งเพลงอีกด้วย ซึ่งการันตีความยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลของเขาได้อย่างแท้จริง ในปี 1994 จางเสวียโหย่วได้รับรางวัลศิลปินเอเชียที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก Billboard สหรัฐฯ และยังเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 50 ผู้ทรงอิทธิพลของเอเชียจาก TIME นิตยสารชื่อดังของสหรัฐฯ ด้วย ล่าสุดจางเสวียโหย่วในวัย 57 ปีก็ยังคงเดินหน้าในวงการเพลงอย่างไม่มีหยุด เมื่อปี 2018 จางเสวียโหย่วก็เพิ่งมาเปิดคอนเสิร์ตในไทย โดยใช้ชื่อว่า JACKY CHEUNG – A CLASSIC TOUR 2018 ที่ทุ่มทุนสร้างเวทีแบบ 360 องศาให้แฟนๆ ได้ยลโฉมกันทั่วทั้งอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีเลยด้วย
หลิวเต๋อหัว (Liu Dehua/Andy Lau)
หนึ่งในตัวพ่อของฮ่องกง หลิวเต๋อหัว นักแสดงที่อยู่ในวงการมานานกว่า 38 ปี และมีผลงานหนังมาแล้วกว่า 160 เรื่อง อีกทั้งยังได้รับการยกย่องเป็นราชาแห่งวงการภาพยนตร์ แน่นอนว่านอกจากสถานะการเป็นนักแสดงชื่อดังระดับแถวหน้าของเอเชียแล้ว หลิวเต๋อหัวยังเป็นนักร้องฮ่องกงที่ได้รับความนิยมมาตลอดตั้งแต่เข้าวงการด้วย ปัจจุบันหลิวเต๋อหัวก็ยังมีงานเพลงออกมาอยู่เรื่อยๆ ทั้งอัลบั้มที่เป็นภาษาจีนกลาง อัลบั้มที่เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง และอื่นๆ ที่รวมๆ แล้วมีมากถึง 100 อัลบั้ม! (อัลบั้มแรกออกเมื่อปี 1985) ซึ่งไม่เพียงประสบความสำเร็จในวงการเพลงของเกาะฮ่องกงเท่านั้น แต่หลิวเต๋อหัวยังเคยได้รับรางวัลนักร้องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเอเชียจาก Billboard เมื่อปี 1995 ด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตัวพ่อที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านการแสดงและงานเพลงอย่างแท้จริง
กัวฟู่เฉิง (Guo Fucheng/Aaron Kwok)
กัวฟู่เฉิง เส้นทางของเขาอาจต่างจากคนอื่นๆ ตรงที่กัวฟู่เฉิงเข้าสู่วงการบันเทิงจากการเป็นนักเต้น นักร้องและค่อยๆ เขยิบสู่วงการซีรี่ย์โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ถึงวันนี้ในวัย 53 ปี กัวฟู่เฉิงไม่เพียงเดินหน้าสายงานเพลงพร้อมกับการแสดงอยู่ตลอด แต่ยังมีคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองออกมาเป็นระยะๆ รวมๆ แล้วเกิน 100 ครั้ง ทั้งในฮ่องกง จีน และประเทศอื่นๆ ซึ่งบอกเลยว่าคอนเสิร์ตแต่ละครั้งที่จัดขึ้นกัวฟู่เฉิงยังแดนซ์กระจายแบบไม่มีแรงตก ทั้งร้อง ทั้งเต้นคนเดียวเฮียก็เอาอยู่หมด! ส่วนผลงานหนังที่หลายคนน่าจะจำได้ดี เช่น Love for Life (2011) Cold War (2012-2016) Port of Call (2015) Project Gutenberg (2018) เป็นต้น ซึ่งผลงานหนังฮ่องกงเรื่องล่าสุดของกัวฟู่เฉิงอย่าง Project Gutenberg (2018) ที่เขารับบทนำร่วมกับรุ่นพี่โจวเหวินฟะ ที่กวาดรายได้ไปสูงถึง 300 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (คิดเป็นเงินไทย 1,212,930,195 บาท) และยังได้รับรางวัล Film of Merit จาก 25th Hong Kong Film Critics Society Awards มาครองได้สำเร็จ
หากพูดถึงหนึ่งในนักร้องฮ่องกง และนักแสดงฝีมือระดับพระกาฬจะขาดชื่อของ หลี่หมิง หนึ่งใน 4 จตุรเทพฮ่องกงไปไม่ได้ หลี่หมิงเริ่มมีชื่อเสียงในวงการเพลงเมื่อปี 1986 จากการประกวดชนะรายการเพลงในฮ่องกง หลังจากนั้นก็ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด ผ่านไปได้ไม่กี่ปีหลี่หมิงก็มีทัวร์คอนเสิร์ตกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในนั้นมีประเทศไทยด้วย อัลบั้มแรกของหลี่หมิงถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 1990 ซึ่งภายในเวลาแค่ 2 ปีก็ถูกจัดให้เป็น 4 จตุรเทพของฮ่องกง อีกทั้งยังกวาดรางวัลด้านงานเพลงในปีเดียวกันนั้นเพียบ หลังจากนั้นหลี่หมิงจึงประกาศตัวว่า จะเดินหน้าทำงานสายดนตรีและการแสดงไปพร้อมๆ กัน ซึ่งแน่นอนว่าเฮียหลี่หมิงทำได้ค่ะ ปัจจุบันหลี่หมิงมีผลงานหนังกว่า 60 เรื่อง แม้ช่วงหลังๆ จะไม่ได้มีงานออกมาบ่อยมากนัก แต่ก็ยังถือเป็น 1 ใน 4 จตุรเทพที่แฟนๆ รอคอยผลงานของเขาเสมอ
5 จตุรเทพเกาหลี (Original Hallyu Kings) : เบยองจุน จางดงกอน ลีบยองฮุน ซงซึงฮอน วอนบิน
เบยองจุน (Bae Yong Joon)
ยังคงเป็นเจ้าของตำนานที่ตรึงใจแฟนๆ ทั่วเอเชียได้ไม่รู้ลืม เบยองจุน พระเอกซีรี่ย์เกาหลีโรแมนติกดราม่า Winter Sonata เพลงรักในสายลมหนาว (2002) ประกบคู่กับนางเอกเกาหลีตลอดกาล ชเวจีอู พากันโกยเรตติ้งและความนิยมได้ทั่วทั้งเอเชีย ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้เกาะนามิในเกาหลีใต้ ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำในซีรี่ย์เรื่องนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ติดท็อปลิสต์ของชาวต่างชาติเลยด้วย แม้เส้นทางการแสดงของเบยองจุนจะมีระยะเวลาเพียงไม่นานนัก (เข้าวงการเมื่อปี 1994 และลาออกจากวงการเมื่อปี 2007) แต่ผลงานที่เบยองจุนได้ฝากฝีมือไว้ก็ล้วนเป็นผลงานที่ขึ้นแท่นซีรี่ยคุณภาพของเกาหลีเสมอ เช่น Did We Really Love? (1999) The Legend (2007) ที่ส่งให้เบยองจุนคว้ามาได้ถึง 4 รางวัลใหญ่ หลังจากนั้นเบยองจุนก็ลาออกจากวงการไปนั่งแท่นซีอีโอบริษัท KeyEast ซึ่งเป็นบริษัทจัดการนักแสดงที่มีดาราเกาหลีชื่อดังเป็นนักแสดงในสังกัดเพียบ เช่น จูจีฮุน คิมดงวุค คิมซูฮยอน เป็นต้น เรียกว่าส่งต่อความปังกันตั้งแต่เจ้าของบริษัทยันนักแสดงจริงๆ จ้า
อีกหนึ่งซุป’ตาร์รุ่นใหญ่ของเกาหลีจางดงกอนที่ขึ้นชื่อเรื่องความร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ แต่นอกเหนือจากความรวยของจางดงกอน สิ่งที่ทำให้แฟนๆ รักผู้ชายคนนี้ไม่เปลี่ยนคือ ความสามารถด้านการแสดงของจางดงกอนที่ผงาดความปังมาแล้วทั้งในระดับเอเชียและฮอลลีวู้ด การันตีด้วยรางวัลด้านการแสดงกว่า 19 รางวัล! ผลงานในระดับฮอลลีวู้ดของจางดงกอนที่หลายคนน่าจะคุ้นตากันมาบ้างคือหนังแนวแอ็คชั่นแฟนตาซี The Warrior’s Way (2010) หลังจากนั้นจางดงกอนก็มีผลงานหนังกับนักแสดงแถวหน้าของเอเชียอีกเพียบ เช่น จางป๋อจือ, ฟ่านปิงปิง เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ชื่อของจางดงกอนกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงเกาหลีใต้ที่ครองใจแฟนๆ ชาวจีนได้มากที่สุดคนหนึ่งเลยด้วย
แน่นอนว่าหากพูดถึงความเป็นตำนานจะขาดชื่อของลีบยองฮุนไปไม่ได้ เพราะลีบยองฮุนถือเป็นหนึ่งในนักแสดงเกาหลีที่ได้โกอินเตอร์ไปแสดงหนังระดับฮอลลีวู้ดหลายเรื่องด้วยกัน เช่น G.I. Joe:The Rise of Cobra (2009), G.I.Joe: Retaliation (2013), Untitled Red Sequel (2013) หรือ Red2, Terminator Genisys (2015) เป็นต้น และยังได้กระทบไหล่คนดังระดับโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน ด้วยฝีมือการแสดงระดับพระกาฬ หน้าตาหล่อเข้มลุคคูล กล้ามเนื้ออันล่ำสันที่หนุ่มๆ หลายคนยังอิจฉาทำให้ลีบยองฮุนได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดด้วย ล่าสุดกับซีรี่ย์เกาหลี Mr.Sunshine (2018) ที่ลีบยองฮุนกลับมารับเล่นอีกครั้งในรอบ 7 ปีก็กวาดคำชมได้อย่างล้นหลาม ใครพลาดไปตามเก็บกันได้ทาง Netflix จ้า
แทบจะไม่มีโผไหนเลยที่ไม่มีชื่อของซงซึงฮอนโอปป้า ไม่ว่าจะพูดเรื่องความหล่อ หรือความสามารถ ยังไงก็ต้องมีชื่อของผู้ชายคนนี้! จนถึงปัจจุบันซงซึงฮอนเข้าวงการบันเทิงเกาหลีมากว่า 20 ปีแล้ว และปีนี้ซงซึงจะอายุครบ 43 ปีแต่หน้าก็ยังเป๊ะไม่มีเปลี่ยนประหนึ่งถูกสต๊าฟความหน้าเด็กเอาไว้ ไม่เพียงความหล่อของซงซึงฮอนที่ทำให้แฟนๆ เห็นทีไรก็กระชุ่มกระชวยใจตลอด แต่ผลงานการแสดงทุกเรื่องของซงซึงฮอนก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนคลับเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นแนวดราม่า คอเมดี้ แอ็คชั่น ซงซึงฮอนก็เล่นดีฝีมือไม่มีตก สมฐานะหนึ่งในปัญจเทพเกาหลีที่แฟนๆ ทั่วเอเชียหลงรักไม่เสื่อมคลาย
ปิดท้ายด้วย วอนบิน หรือพระเอกเกาหลีที่ใครๆ ก็เรียกเขาว่า พระเอกสายติสท์! เจ้าของผลงานซีรี่ย์เกาหลีสุดฮิตในตำนานที่ดราม่าเรียกน้ำตาผู้ชมมาแล้วทั่วเอเชีย Autumn in My Heart รักนี้ชั่วนิรันดร์ (2000) นอกจากซีรี่ย์แล้ว อย่างที่หลายคนทราบดีว่า ในช่วงหลายปีให้หลัง (ถ้าไม่นับรวมกับช่วงที่ไม่รับงานแสดง) วอนบินรับแสดงหนังมากกว่า ซึ่งหนังเกาหลีหลายเรื่องที่วอนบินแสดง เช่น เท กึก กี เลือดเนื้อเพื่อฝัน วันสิ้นสงคราม (2004), The Man From Nowhere นักฆ่าฉายาเงียบ (2010) ก็เป็นหนังที่ขึ้นแท่นสถิติหนังทำเงินตลอดกาลของเกาหลีใต้ ครองแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศนานถึง 6 สัปดาห์ และยังส่งให้วอนบินคว้ารางวัลรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมาถึง 7 รางวัลด้วย ถือได้ว่าวอนบินเป็นหนึ่งในนักแสดงรุ่นใหญ่ของเกาหลีใต้ที่นานๆ ปรากฏตัวที แต่ทุกครั้งที่มีผลงานใหม่รับประกันความปังได้ทุกครั้ง!
นอกจาก 5 ปัญจเทพเกาหลีรุ่นใหญ่แล้ว เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีการตั้ง 4 จตุรเทพเกาหลีน้องใหม่ ได้แก่ อีมินโฮ คิมซูฮยอน คิมอูบิน และอีจงซอก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองมากจริงๆ จ้า ทั้งเรื่องหน้าตา และความสามารถที่กินกันไม่ลง ^^
เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก koalasplayground.com / wikipedia.org
รูปจาก : wikitree.co.kr / nanrenwo.net / spotvnews.co.kr / asiae.co.kr / https://pann.nate.com/talk/317569491 / news.mk.co.kr / newspost.kr / fi.co.kr / newsfact.kr / topstarnews.net / ol.mingpao.com / jianshu.com / ent.huanqiu.com / ent.sina.cn
เรื่องโดย : Lizhu