ไม่รักไม่ได้แล้ว! แทยง – เตนล์ และบทสัมภาษณ์บอกตัวตน #ยิ่งอ่านยิ่งหลง

Alternative Textaccount_circle
event

มีเสียงบ่นคิดถึงไอดอลเกาหลีสายเลือดไทยอย่าง เตนล์-ชิตพล เข้าหูทีมงานมาเรื่อยๆ ว่าอยากให้หนุ่มเตนล์กลับมาขึ้นปกสุดสัปดาห์อีก และยิ่งพาเพื่อนๆ สมาชิก NCT มาด้วยจะฟินมาก โอกาสลงตัว เวลาได้ ทางเราจึงจัดให้ตามคำเรียกร้องแบบแฮ็ปปี้คูณสอง แฟชั่นเซตปกเท่ๆ มาพร้อมสัมภาษณ์น่ารักๆ ระหว่าง “แทยง – เตนล์” สองหนุ่มดูโอ้สุดฮ็อตแห่งยูนิต NCT U น่ารักขนาดนี้จะไม่รักยังไงไหว  

 

แทยง – เตนล์ ไม่รักไม่ได้แล้ว

 

กลับมาเมืองไทยทีไร อบอุ่นหัวใจทุกครั้ง

แทยง : ผมมีโอกาสได้มาเมืองไทยประมาณ 4-5 ครั้งแล้วครับ ตอนเป็นเด็กฝึก SM Rookies ได้มาจัดมีตติ้ง มาร่วมงานพรีเซ็นเตอร์ ส่วนครั้งล่าสุดผมมีงานมีตติ้งกับเตนล์ “NCT U (TAEYONG x TEN) FAN MEETING in BANGKOK” ต้องบอกว่าทุกครั้งที่ได้กลับมาเมืองไทยผมมีความสุขมาก ได้รับความรู้สึกดีและความทรงจำดีๆ กลับบ้านทุกครั้งเลยครับ แฟนๆ มารอต้อนรับเยอะมากตั้งแต่ที่สนามบิน อบอุ่นมากครับ (ยิ้ม)

เตนล์ : ช่วงปีที่ผ่านมาเตนล์มีโอกาสได้กลับเมืองไทยบ่อย นี่เป็นบ้านของเรา รู้สึกอบอุ่นตั้งแต่ถึงสนามบินแล้ว ช่วงที่อยู่เกาหลี หากคิดถึงบ้านผมมักจะวิดีโอคอลล์คุยกับคุณแม่ ดูรูปภาพที่เพื่อนๆ โพสต์กัน เดี๋ยวนี้มี SNS เทคโนโลยีทันสมัย เลยทำให้รู้สึกว่าเราใกล้บ้านใกล้ครอบครัว

แทยง : ผมอยากไปเที่ยวในเมืองไทยอีกหลายที่ครับ เคยไปเชียงใหม่แล้วประทับใจมาก อยากกลับไปอีก

เตนล์ : ผมก็มีหลายที่ในเมืองไทยที่อยากไปครับ ถ้ามีโอกาสอยากไปถ่ายรายการบนดอย อยากไปทำกิจกรรมกับชาวเขา ไปเรียนรู้วิถีชีวิตว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร

ขีวิตหลังเดบิวต์

แทยง : หลังจากเป็นเด็กฝึกหัด พอรู้ว่าได้เดบิวต์ แน่นอนว่าตื่นเต้นมากๆ เพราะนี่คือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตของผม ทำให้เราได้ทำงานที่รัก ได้เจอแฟนเพลง และมีคนมากมายให้เราทำความรู้จักซึ่งกันและกัน

เตนล์ : ผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้พี่แทยงครับ เพราะตอนเป็นเด็กฝึกหัดเราใช้เวลากับการซ้อมเกือบทั้งวัน อยู่แต่ในห้องซ้อม พอได้เดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวก็เท่ากับว่าการเดินทางที่ก้าวไปเป็นศิลปินเริ่มออกสตาร์ตแล้ว เมื่อสตาร์ตมันก็ทำให้เราเรียนรู้การทำงานจริง ได้เจอประสบการณ์ทำงานมากมาย เรียนรู้ชีวิตหลากหลายมุมมอง ผมรู้สึกว่ามันเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้นมากจริงๆ

แทยง - เตนล์

 

ถ้าไม่เป็นศิลปิน คิดว่าตอนนี้จะทำอะไร…  

แทยง : โดยส่วนตัวผมชอบทำอาหารมาก ถ้าไม่ได้เดบิวต์เป็นศิลปินคิดว่าตัวเองน่าจะไปเรียนทำอาหารเพื่อเพิ่มทักษะในด้านนี้นะครับ อาจไม่ได้ถึงขั้นว่าจะต้องเป็นเชฟ ผมแค่รู้สึกว่าศาสตร์ด้านการทำอาหารน่าสนใจ อีกอย่างคือผมเป็นคนรักสัตว์มากๆ อาจจะทำอะไรที่เกี่ยวกับสัตว์

เตนล์ : ผมเป็นคนชอบศิลปะ คิดอยู่ 3 อย่าง คือ ดีไซเนอร์ ไม่เสื้อผ้าก็จิวเวลลี่ หรือไม่ก็เป็นศิลปินวาดภาพแล้วเปิดแกลเลอรี่เป็นของตัวเอง สุดท้ายคือเป็นช่างภาพครับ

คุณคิดว่าตัวเองมาถึงจุดนี้ได้เพราะ

แทยง : ครอบครัวของผมที่คอยให้กำลังใจตลอด ทำให้ผมมีจุดมุ่งหมาย มีเป้าหมายชัดเจน ว่าอยากจะตั้งใจทำงานให้สำเร็จ และอีกกลุ่มคนที่สำคัญมากๆ ก็คือ แฟนคลับที่คอยให้กำลังใจและคอยสนับสนุนเสมอมา ผมและทุกๆ คนในวงเราต่างก็ทุ่มเทและตั้งใจซ้อมมาก พยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น อาจจะระบุชัดเจนไม่ได้ว่าเราซ้อมกันถึงกี่โมงหรือกี่ชั่วโมงในแต่ละวัน แต่มีสิ่งสำคัญที่เรานึกถึงตลอดคือ เราอยากทำให้ผลงานทุกๆ ชิ้นให้ออกมาดี เพื่อตอบแทนความรักของแฟนๆ ที่เขารอผลงานของเรา ไม่อยากให้แฟนๆ ผิดหวังครับ

เตนล์ : ความฝันและจุดมุ่งหมาย เพราะมีสองสิ่งนี้ ผมจึงอยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ

สิ่งที่ดีที่สุดในการเป็น NCT

เตนล์ : ได้ทำเพลงหลายสไตล์ หลายคอนเซ็ปต์ จำนวนสมาชิกของ NCT เยอะ ทำให้เรามีเพื่อนมากขึ้น ซึ่งในกลุ่มก็มีเพื่อนต่างชาติด้วย ทั้งไทย เกาหลี อเมริกัน แคนาดา ฮ่องกง ญี่ปุ่น จุดนี้ทำให้เราได้รู้จักวัฒนธรรมหลายประเทศจากเพื่อนๆ

แทยง : ผมเห็นด้วยกับที่เตนล์บอก นอกจากนี้ยังทำให้เราได้มีโอกาสเดินทางไปหลายประเทศ ก่อนที่จะมาเดบิวต์เราใช้เวลากับการฝึกเลยไม่ค่อยได้ไปทำงานต่างประเทศ การไปเจอโลกกว้างเท่ากับมุมมองเราก็กว้างขึ้นไปด้วย นี่ก็คือข้อดี

แทยง - เตนล์

 

มิตรภาพของแทยง x เตนล์

เตนล์ : เจอพี่แทยงครั้งแรกตอนนั้นกำลังกินข้าวอยู่ พี่เขาเข้ามาทักทายถามว่าเป็นไง พี่แทยงเป็นคนเฟรนด์ลี่มาก คอยดูแลเราเหมือนน้องคนหนึ่ง

 แทยง : เจอเตนล์ครั้งแรกผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนยิ้มเก่ง ยิ้มแล้วโลกสดใส พอได้คุยกันก็รู้ว่าเราชอบอะไรหลายอย่างเหมือนกัน เช่น ชอบเต้นเหมือนกัน คิดไว้ว่าคงมีโอกาสได้ซ้อมเต้นด้วยกันบ่อยๆ ซึ่งตอนเป็นเด็กฝึกหัดเราก็ซ้อมด้วยกันบ่อยจริงๆ เตนล์มีความสามารถมาก การได้อยู่กับคนเก่งก็ทำให้เราพัฒนาตัวเองไปด้วย มีอะไรเราจะก็คอยช่วยเหลือกัน ปรึกษากัน และเติบโตไปพร้อมกัน

เตนล์ : พี่แทยงเป็นคนที่เทคแคร์คนรอบข้างดีมาก ตอนเป็นเด็กฝึกเราจะซ้อมเต้นกันเป็นกลุ่ม ก็จะคอยแนะนำดีเทลเรื่องท่าต่างๆ พี่แทยงเก่งและมีประสบการณ์เยอะ ผมมีพี่เขาเป็นตัวอย่างในการทำงาน และจัดการเรื่องระเบียบในการใช้ชีวิตด้วย

แทยง x เตนล์ ดูโอ้คู่แรกของ ‘NCT U’

แทยง ผมกับเตนล์มีเพลงดูเอ็ตด้วยกัน ชื่อว่า ‘Baby Don’t Stop’  คือหนึ่งในเพลงที่อยู่ในอัลบั้มชุดแรก ‘NCT 2018 EMPATHY’ เป็นแนวซินธ์ป็อปที่ผสมผสานซาวด์แบบมินิมัล ทั้งซาวด์กลองและเบสริฟฟ์ ส่วนเนื้อร้องบอกถึงความรู้สึกดึงดูดของความรักที่อยากจะรู้จักแบบไม่มีที่สิ้นสุด และหยุดความรู้สึกที่อยากจะรู้จักหรือรักเขาไม่ได้ เพลงนี้ผมมีส่วนร่วมในการแต่งท่อนแร็พด้วย มีความสุขมากตอนที่เขียน เพราะไม่มีข้อจำกัด ผมได้อินสไปเรชั่นจากความรู้สึกที่มีต่อแฟนๆ ว่าเราอยากรู้จักกันมากขึ้น ก็เลยใช้เวลาเขียนไม่นาน

เตนล์ Baby Don’t Stop มีเวอร์ชั่นพิเศษเป็นไทยด้วย ได้พี่ขัน ไทเทเนียม และพี่โต้ง Twopee Southside มาเขียนเนื้อร้องภาษาไทยให้ครับ ต้องขอบคุณพี่ๆ ทั้งสอง และแม้จะยังไม่ได้เจอพี่ๆ อย่างเป็นทางการ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเจอเพื่อขอบคุณพี่ทั้งสองด้วยตัวเอง สำหรับความรู้สึกที่ได้ร้องเพลงไทยทั้งกังวลและดีใจครับ เตนล์ไม่ได้ร้องเพลงไทยมานาน ภาษาไทยของเตนล์ก็ไม่ค่อยแข็งแรง ด้วยความที่เป็นเพลงเร็วเลยกังวลว่าจะสำเนียงจะเข้ากับเพลงมั้ย ซึ่งตอนนั้นที่ได้เนื้อร้องมาก็ฟังเพลงไทยเยอะขึ้น พยายามที่จะออกเสียงเป็นคำภาษาไทย มีพี่โปรดิวเซอร์ช่วยแก้ ช่วยปรับให้ ผลงานเลยออกมาสมบูรณ์

แฟนคลับผู้น่ารัก

แทยง : ความน่ารักของแฟนคลับทุกประเทศมากมาย อธิบายคงไม่หมด แต่ที่บอกได้อย่างชัดเจน คือแพสชั่นและความรักที่มีต่อเรา ทุกที่ที่ไปเราสัมผัสได้ถึงความรัก และกำลังใจ เสียงเชียร์จะดังมาก ไม่ใช่แค่ในฮอลล์หรือตามงาน แต่แฟนๆ จะเริ่มเชียร์เราตั้งแต่สนามบิน ไปทำงานที่ไหนแฟนๆ จะตามไปให้กำลังใจตลอด

เตนล์ มีป้ายมาเชียร์ เหนื่อยจากการทำงานเห็นแล้วก็หายเหนื่อยเลย (ยิ้ม)

แทยง - เตนล์

 

ยังไม่หมด เราอยากให้รู้จักสองหนุ่มมากขึ้นอีกนิด คลิกที่หน้าถัดไปเลยค่ะ

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up