พันดาว-เนโกะ-เชลลี่ เสิร์ฟความสนุกสุดฟิน ใน Roller Coaster the Series รักขบวนนี้หัวใจเกือบวาย

พันดาว-เนโกะ-เชลลี่ เสิร์ฟความสนุกสุดฟิน ใน Roller Coaster the Series รักขบวนนี้หัวใจเกือบวาย

ทำเอาแฟนๆ กระชุ่มกระชวยหัวใจสุดๆ กับ ซีรีส์ Roller Coaster the Series : รักขบวนนี้หัวใจเกือบวาย โดย 3 นักแสดงรุ่นใหม่ พันดาว ปัญญาบารมี, เนโกะ-เนรัญชรา เสิศประเสริฐ และ เชลลี่-เพชรใส จันทร์เรือง สุดสัปดาห์ชวน 3 สาวถ่ายแฟชั่นเซ็ทปกดิจิทัล และสัมภาษณ์ถึงการทำงานด้วยกัน ที่มีทั้งความสนุกสนาน ตื่นเต้นราวกับขึ้นรถไฟเหาะ

แนะนำตัวเองกันสักนิดค่ะ
เชลลี่ : สวัสดีค่ะ เชลลี่ค่ะ ในเรื่องรับบทเป็น ลอฟต์

พันดาว : สวัสดีค่ะ พันดาวค่ะ ในเรื่องรับบทเป็นเพียว

เนโกะ : สวัสดีค่ะ เนโกะนะคะ ในเรื่องรับบทเป็นพี่แอร์ค่ะ

คาแรกเตอร์ที่ได้รับเป็นอย่างไรคะ
เชลลี่ : คาแรคเตอร์ของลอฟต์ เป็นคนสดใส อารมณ์ดี ขี้เล่น คือแบ็คอัพครอบครัวมีความสุข เลยเป็นคนที่มีความสุข พอเจอพี่เพียว ก็คลั่งรักมากเลยค่ะ (เน้นเสียง) เป็นเด็กรู้จักพูด รู้ว่าจะพูดอย่างไรให้เข้าถึงพี่เพียว

พันดาว : พี่เพียวจะเป็นคนแพรวพราวแล้วกัน เป็นคนที่ดึงดูดคน มีเสน่ห์ค่ะ อาจจะมีความดื้อเป็นของตัวเองบ้าง ชอบทำตามใจตัวเองด้วยเหมือนกัน

เนโกะ : พี่แอร์จะเป็นคนที่ค่อนข้างสุขุม คิดเยอะ และแคร์สายตาคนโลกภายนอกมาก ๆ เขาจะถูก Mastermind ทุกอย่างโดยคุณแม่มาตลอด

คาแรคเตอร์ที่ได้รับมีตรงไหนเหมือนหรือต่างกับเราบ้าง

เชลลี่ : ของหนูแทบจะเกือบ 100% เลยที่คิดว่าตัวเองมีความใกล้เคียงกับลอฟต์ แต่มีแค่สิ่งเดียว ที่ไม่เหมือนคือหนูพูดตลอด  ถ้าหนูไปจีบผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วเขายังมีใครในใจ หนูคงไม่สู้ต่อ แต่ลอฟต์สู้ จะได้เขามาครองหรือไม่ ก็ต้องติดตามใน Roller Coaster กันนะคะ

พันดาว : เพียวค่อนข้างตรงกับตัวเอง ด้วยประสบการณ์ที่เพียวได้เจอ หรือว่าประสบการณ์ที่ตัวเราเจอ มันค่อนข้างคล้ายกัน เวลาเราแสดงอะ เราจะใช้ประสบการณ์จริง และความรู้สึกเราจริงๆ มาแสดงเลย เพราะเราเข้าใจดีว่าสิ่ งที่เขาเผชิญคืออะไร หรือว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกอย่างไร เราคิดว่าหลาย ๆ อย่างในตัวเขาค่อนข้างเป็นเรามากๆ มีครั้งหนึ่งตอนที่แสดง เรารู้สึกว่าตัวละครนี้ทำให้ recall ตัวเราในอดีตมากๆ เลย ว่าเราเคยเป็นคนแบบนี้มาก่อน ส่วนสิ่งที่ไม่เหมือนกันคิดว่า พี่เพียวจะเป็นคนที่เฮลตี้มาก แต่เราไม่เฮลตี้แค่นั้นเอง เพียวดูแลตัวเองมากค่ะ

เนโกะ : ไม่มีอะไรเหมือนเลยค่ะ เพราะเนเป็นคนที่ค่อนข้าง Alert เป็นคนที่ตลก เฮฮา พูดเยอะ แต่สำหรับพี่แอร์เขาจะคิดเยอะ ค่อนข้างจะรอบคอบในการพูด การพูดแต่ละครั้งจะมีเหตุผลในคำพูดของเขา แม้แต่คำว่า “อืม” ก็จะมีเหตุผลในการที่เขาแสดงออกมา ใช่! มันออกมาทางน้ำเสียง ออกมาทางสายตา และพี่แอร์เป็นคนนิ่งมากๆ ค่ะ นิ่งจนถึงขั้นที่บางทีหนูต้องคัทตัวเอง เพื่อที่จะหายใจ คือเราต้องหายใจให้ช้าล่ะ เพราะเนค่อนข้างพูดเร็วมาก แอคทีฟมากๆ แต่เข้าบทพี่แอร์คือต้องนั่งนิ่ง ถือว่ายากที่สุดแล้วค่ะ คือเรื่องนี้ที่ท้าทายของอีกอย่างคือพี่แอร์เป็นคนไม่สื่อสารผ่านคำพูดค่ะ พี่แอร์สื่อสารผ่านการกระทำแล้วบางอย่าง พี่แอร์ไม่ได้สื่อสารออกมาทั้งหมด ต่อให้เราจะยิ้มออกไปทางหน้า แต่ลึกๆ ในใจเราไม่ได้ยิ้ม แต่ว่าเรายิ้มได้แค่ปาก ตาเรายิ้มตามไม่ได้ เยค่อนข้างที่จะต้องทำการบ้านเยอะพอสมควร สิ่งที่เหมือนกันน่าจะมีแค่เรื่องเดียวเลยคือ ถ้าวันหนึ่งเราต้องเลือก…  เราคงเลือกครอบครัวเหมือนกันค่ะ

มีวิธีเข้าถึงตัวละครอย่างไร

เชลลี่ : ก่อนเราเริ่มถ่ายเรามีเวิร์กช็อปค่ะ และมีการตีความแบบซีนดราม่า เลิฟซีนกันมาก่อนค่ะ เรื่องทำการบ้านแต่ละคนก็ไปจัดการของตัวเองกัน แต่พอมาเข้าซีนจริงๆ พวกเราก็ซัพพอร์ตกันและกันตลอด ซึ่งทุกคนสามารถแสดงออกมาตรงบทได้ค่อนข้าง 100% เลย เพราะตอนเราถ่ายทำก็อินกับบทมากๆ

เนโกะ(เสริม) : ถ้ามีซีนไหนที่สเปเชียลจะมาร์คไว้เวลาทำการบ้าน เนจะมาร์คว่าซีนนี้หินนะ ยากนะ ได้รับคำแนะนำจากพี่ที่รู้จักกันบอกว่า ถ้ามีซีนไหนยาก ให้ลองหาเพลงที่เข้ากับซีนนั้นมาฟังก่อนเข้าฉาก

ซึ่งมันช่วยได้ดีเลยค่ะ เมโลดี้บางอย่างทำให้เรานึกถึงถึงโมเมนต์ ณ ตอนนั้น  หรือแค่ได้ยินเสียงก็แบบดึงอารมณ์มาได้เลย เหมือนเวลาเราดูหนังแล้วมีเพลงคอยบิ้วท์อารมณ์ อย่างเน ที่ทำมาร์คสเปเชียลไว้ วันนั้นเราจะฟังเพลงนั้นวนไป ทุกคนทำการบ้านมาหมด ทุกคนมีเพลย์ลิสต์ของตัวเอง

พันดาว : หนูจะมีสมุดไว้จดประโยคที่หนูชอบไว้ หรือเวลาตัวเองกลับไปอ่านนิยาย ซึ่งปกติเป็นคนที่อ่านนิยายเยอะ เพราะในนิยายจะบรรยายเลยว่าตัวละครนี้กำลังเผชิญอะไรอีกบ้าง บรรยายว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ แล้วก็แกะออกมาได้ว่า เออ… ลึกๆแล้วตัวละครเป็นคนแบบไหน เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง หนูเลยเอาประโยคในนิยาย มา improvise ในซีรีส์ด้วย มันจะมีอยู่ แต่ว่า ไม่รู้บอกได้หรือยัง แต่ว่าก็จะมี เช่น ประโยคแบบ “ทำไมพี่แอนไม่เลือกเพียวก่อน” จริงๆ ในบทมันไม่มี ตอนที่เราพูดคำนี้ เรารู้สึกมากเราก็เลยพูดไปเป็นซีนอารมณ์ค่ะ พูดเพราะเรารู้สึกว่าตัวละครอยากพูดคำนี้

เนโกะ : อันนี้เนจำได้ เพราะในซีนมันไม่มีบทนี้ แล้วน้อ improvise มา หลังจากนั้นก็เลยคลิกเลยว่าพันดาวจะอ่อนไหวมาก ซีนที่ยากที่สุดของพวกเรา 3 คน ซีนที่เรารวมกันอ่ะ ตอนที่เล่นกับน้องแล้วมารับหน้าน้อง ก็เลยพูดบทในนิยายออกไป อืม ใช่ค่ะ แล้วพอนิยายปุ๊บน้องน้ำคลอแล้ว

ฉากไหนที่รู้สึกปลดล็อกตัวเอง

เชลลี่ : ซีนที่เข้ากับพี่พันดาวค่ะ มันเหมือนแหลกสลายด้วยกันทั้งคู่ หนูใช้วิธีการนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ นานมาก จนข้างในเราช้ำมาก ข้างในเราเจ็บมากๆ

พันดาว : ซีนเดียวกันค่ะ เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่าระเบิดจริง ๆ และพันดาวเป็นคนมีกำแพงด้วย ก็เลยคุยนั่นแหละค่ะ นั่งคุยกับเชลลี่ จนรู้สึกว่ากำแพงนี้มันถูกทำลายไปแล้วในช่วง 15 นาทีที่เราคุยกันตรงนี้ แล้วเราก็ทำได้ เราแสดงออกมาเป็นอีกคนนึงไปเลยอะไรอย่างนี้

เชลลี่ : ฉากที่หนูมาหาพี่ที่ห้อง ตอนนั้นเปิดประตู ผู้กำกับบอกว่า “เชลลี่อย่าเพิ่งร้อง อย่าเพิ่งร้อง” แต่แบบความรู้สึก พอเขาเปิดประตูมา มันไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันเห็นหน้าเขาแล้ว ไม่ไหวจริงๆ หนูรู้สึกเหมือนเริ่มเข้ากับตัวละครกันมากๆ จนรู้สึกได้มากจริงๆ ค่ะ

เนโกะ : เป็นการปลดล็อกกับตัวละครแล้วกัน คือเป็นการเข้าใจเขาอย่างถ่องแท้ว่า เขารู้สึกอย่างนี้ มันเป็นซีนที่หนูต้องเดินออกจากห้องของเขา แล้วต้องทำว่าเราไหว คือปกติพี่แอร์จะทำได้ พี่แอร์จะยิ้ม ต่อให้สายตาเศร้าแค่ไหน พี่แอร์ก็จะยิ้มออกไปค่ะ แต่วันนั้นเป็นซีนที่พี่แอร์ปล่อย ปล่อยให้ตัวเองได้เสียใจ ปล่อยให้ตัวเองได้ร้องไห้ รู้สึกว่าเขาพยายามจะยิ้มแล้ว เขาเดินออกมาแล้วเขาพยายามจะยิ้มแล้ว  ฟีลคือความไม่ไหวเป็นแบบนี้สินะ

ได้มาร่วมงานกันรู้สึกอย่างไรบ้าง

เนโกะ : หนูแอบรู้จักเชลลี่ค่ะ ช่วงที่หนูทำงานเป็นแคสติ้ง วันนั้นเครียดมากเพราะหาเด็กไม่ได้ ลูกค้าอยากได้ผู้หญิงหน้าลูกครึ่งพูดไทยชัด! และตลก แล้วเชลลี่มาแคสต์เกือบคนสุดท้าย พอเชลลี่มา เราคิดเลยว่า… รอดแล้ว (หัวเราะ) มีวันหนึ่งเราเคลียร์รูปในไอแพดตัวเอง มีไฟล์งานหนังโฆษณาหนึ่ง เราเปิดดูเห็นรูปน้องคนหนึ่งหน้าคุ้นจังเลย ก็คือเชลลี่ค่ะ คือเชลลี่จ๊ะ ฉันเคยดูแลเธอมาก่อน ตอนเด็กๆ เป็นอะไรที่อะไรตลกดี
เชลลี่ : เราสนิทกันเร็วมาก เพราะมีนิสัยที่คล้ายๆ เราไปทำงาน ก็อยู่กับบรรยากาศที่สนุกสนาน ตลกเฮฮา

พันดาว :  หนูเข้าโปรเจ็กต์คนสุดท้าย จำได้เลยว่าตอนแรกก็คือพี่เนโกะเข้าชาร์จเลย มาขอนัดเจอหนูก่อน

เนโกะ : ใช่ๆ หนูขอเจอน้องก่อน ขอ motion mind ด้วยความที่เราบ้านใกล้กัน ก็เลยทักไป นัดเจอที่คาเฟ่ ประมาณนั้น

บรรยากาศการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง  

เนโกะ : สนุกค่ะ ทุกคนใจดีน่ารัก ทุกคนน่ารัก

ถ้าให้เปรียบเทียบความรักในเรื่องนี้กับ รถไฟเหาะ 1 ขบวน ของแต่ละคนจะเป็นแบบไหน

3 นักแสดง : Roller Coaster รักขบวนนี้หัวใจเกือบวายเลยค่ะ ตามนี้เลย ดูแล้วต้องกรี้ดมันออกมา ตั้งแต่เริ่มเรื่องก็จุกเลย คือไม่ว่าจะสุข หรือเศร้ามันคิดได้หมดเลย บางอีพีดูแล้วอาจจะมีแบบ ตีลังกา 18 ตลบได้เลยก็มีนะ เมื่อกี้ร้องไห้เช็ดน้ำตาเสร็จก็หัวเราะต่อได้เลย มันมีทั้งกรี๊ดดีใจ ที่เสียใจ

หากวันหนึ่งมีความรัก คิดว่าความรักของเราจะเป็นอย่างไร

เชลลี่ : ถ้าหนูมีแฟนหนูขี้อ้อนนะ ชอบอ้อนแฟนมาก ชอบทั้งดูแลเขาในเรื่องที่เราสามารถซัพพอร์ตเขาได้ แล้วเขาดูแลเราในเรื่องที่เขาถนัด มีการแชร์กันตรงกลางในเรื่องที่ต่างคนต่างถนัด หนูชอบ relationship ที่เหมือนเพื่อน พี่น้อง ไม่ใช่เป็นแค่เป็นคนรัก แต่เป็นทุกอย่างให้กันและกันได้ หนูว่าเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ ใช่ค่ะ

เนโกะ : หนูคนดูแลตัวเองค่อนข้างเก่ง ขอเป็นความรักที่ไม่ได้แค่เป็นห่วงกัน แต่เรามั่นใจว่า ต่อให้เราอยู่อีกที่หนึ่ง เขาสามารถดูแลตัวเองได้ หรือเราอยู่ที่นึง เขาก็ดูแลตัวเองได้ แต่พอเรามาเจอกัน แล้วก็ดูแลซึ่งกันและกัน เป็นความรักที่สบายใจ

พันดาว : หนูเป็นคนคลั่งรักมาก เป็นคนชัดเจนมาก ถ้ามีแฟนทุกคนจะรู้ว่าคนนี้คือแฟน คือเรารักเลย ไม่สนอะไรทั้งนั้น เต็ม 100 ให้แฟนทุกอย่าง แฟนเป็น priority ของหนูเลย หนูชอบดูแลแฟน และชอบได้รับการดูแลเหมือนกัน อุดมคติของความรักก็คือ อยากได้แบบความรักที่ เราให้ให้ไปเท่าไหร่ ขอให้ได้กลับเท่ากัน หมายถึงเรารู้จักกันและกันอย่างดีว่าเราควรจะทรีตกันอย่างไร จะไม่มีใครพยายามมากกว่าหรือน้อยว่า ผ่านมาจนอายุ 26 ปี หนูอยากมีความรักที่สบายใจมากกว่าความหวือหวา อยู่ด้วยกันแบบซัพพอร์ตกันและกันดีที่สุดค่ะ

อยากให้สรุปความรักของตัวละครที่ตัวเองเล่นคนละประโยค

เนโกะ : ขอบคุณที่เคยรักกัน
เชลลี่ : ดีใจที่เข้ามา ทำให้รู้ว่ารักแท้มันเป็นยังไง

พันดาว : รักต้องเลือก

ฝากซีรีส์ Roller Coaster

พันดาว : พวกเราตั้งใจกันมากจริง ๆ ไม่ได้พูดให้สวยงามนะคะ เพราะในทุกคิวที่ผ่านมาเราเต็มที่กับมันจริงๆ และเราก็ซัพพอร์ตกัน มีอะไรคุยกันเยอะจริงๆ กับซีรีส์เรื่องนี้ หรือแม้แต่ทีมงานเบื้องหลัง ทุกคนก็เต็มที่ และน่ารักกันมากๆ ทางค่ายก็ตั้งใจให้ซีรีส์ Sapphic เรื่องนี้เป็นซีรีส์คุณภาพดีด้วย ซึ่งในแง่ของโปรดักชั่น ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

เนโกะ : ฝากด้วยนะคะกับซีรีส์ “Roller Coaster the Series : รักขบวนนี้หัวใจเกือบวาย” ออนแอร์ทุกวันพุธ เวลา 22.30 น. ทางช่อง 3 ดู uncut เวอร์ชันได้ผ่านทางช่องทาง Motion minds เอ็นเตอร์เทนเมนท์แชนแนลในยูทูบค่ะ

Entertainment Editor: AuAi
Photo: @gur_kerdsup
Text:  Text:  Ohhioh

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

สิ้นสุดการรอคอย PERSES กับคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งแรก INTO THE ALTERLAND