ภณ – อ๋อง สู้สุดใจทั้งในจอและนอกจอ ในละคร นับ 8
กระแสดีตั้งแต่ออกอากาศ สำหรับละคร นับ 8 เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่รักกีฬามวยสุดชีวิต และมีความฝันว่าอยากเป็นนักมวยที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งต้องผ่านการต่อสู้มากมาย สุดสัปดาห์ชวน “ภณ ณวัฒน์ และ อ๋อง สิทธานต์” มาพูดคุยถึงการทำงาน และการเตรียมพร้อมที่ต้องสู้ทั้งในบทและนอกบท เรียกว่าทุ่มเทกันแบบสุดตัว
แนะนำตัวกับแฟนๆ สุดสัปดาห์กันหน่อย
ภณ : สวัสดีครับ ภณ-ณวัฒน์ ครับ
อ๋อง : สวัสดีครับ อ๋อง-สิทธานต์ ครับ
เล่าบทบาทในละคร “นับ 8”
ภณ : ผมรับบทเป็น “ธัญญ์” ครับ เป็นตัวละครที่เรียกได้ว่าสู้ชีวิตมากๆ มีความฝันอยากเป็นนักมวยที่เก่ง และก็อยากจะเปลี่ยนแปลงวงการมวยไทยให้มีความใสสะอาดมากขึ้น ปราศจากการพนันครับ ให้มวยเป็นกีฬาจริงๆ ที่ใช้ฝีมือในการที่จะสู้กันจริงๆ
อ๋อง : ผมรับบทเป็น “ฟ้าโปรด” กระทิงทองยิมครับ เป็นลูกมาเฟีย เป็นแชมป์ปัจจุบันของมวยไทยอยู่แล้ว จะผลักดันวงการมวยไปอีกแนวนึง อาจจะมีความรุนแรงบ้าง มีตุกติกบ้างแบบไม่ให้ใครรู้ ต้องไปดูกันครับว่า มีแบบเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหรือเปล่า ซึ่งบทบาทของผมจะดุดัน เป็นคนรุนแรง เข้มแข็ง ไม่เกรงใจใคร ดูเหมือนเป็นนักเลงหัวไม้หน่อยๆ ด้วยความที่เป็นแชมป์ด้วย จะอีโก้สูง มีฟอร์มหน่อย
ภณ : ส่วน ธัญญ์ จะมีความถ่อมตน แต่เวลาที่จะสู้ขึ้นมา คือสู้ขาดใจครับ ธัญญ์จะไม่ค่อยมีอีโก้ จะเป็นนักกีฬาจริงๆ พร้อมรับฟัง พร้อมผลักดัน แต่ถ้าผิดก็คือผิด แล้วก็พร้อมสู้เพื่อความถูกต้อง
บทที่ได้รับอะไรที่เหมือนหรือไม่เหมือนกับตัวเอง
ภณ : ที่เหมือนตัวผมคือ มีความเป็นนักสู้เหมือนกันครับ ถ้าสิ่งที่ไม่เหมือนเลย อืม… (ทำท่าคิด) คือการอยากแชมป์มวย เพราะเราเป็นนักแสดง แต่อันนี้เขาเป็นนักมวยอาชีพ เป็นนักมวยจริงๆ อาจจะต่างกันตรงนี้ครับ
อ๋อง : ค่อนข้างจะแตกต่างกับตัวผมมากพอสมควรนะครับ ด้วยความที่ผมไม่ใช่เป็นคนดุดัน หรืออารมณ์รุนแรงขนาดนั้น เลยต้องปรับตัวใหม่ ปรับเยอะพอสมควรครับ ที่ลิงก์กันก็อาจจะมีพวก ดราม่า โหมดอารมณ์กับครอบครัว อีกมุมหนึ่งที่เหมือนผมคือเป็นนักสู้เหมือนกันครับ แต่เราไม่อีโก้สูงอย่างเขา และเราก็ไม่เคยเป็นแชมป์
ทำไมต้อง “นับ 8”
อ๋อง : เป็นเรื่องเกี่ยวกับมวยไทยครับ ซึ่งนับ 8 มาจากกติกามวยไทย เพราะเวลานักมวยล้มจะนับถึงแค่ 8 ครับ เพื่อจะเช็คดูว่าคนที่ล้มไป มีสติพอที่จะชกต่อไหม จะสู้ต่อไปไหม ถ้าไม่สามารถลุกหรือมีสติพอในนับ 8 ก็จะปรับแพ้ครับ ดังนั้นเราทุกคนต้องลุกขึ้นมาให้ได้ภายในนับ 8 เหมือนกับเรื่องนี้แหละครับ ก็คือต้องสู้ครับ
ภณ : นับ 8 สามารถลิงก์กับชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอุปสรรคอะไร อยากให้ลุกขึ้นมาสู้ สุดท้ายแล้วผมว่าความตั้งใจแล้วความพยายามของเรา จะทำให้เราชนะได้
พูดถึงตัวละคร “ธัญญ์” กับ “ฟ้าโปรด” หน่อยค่ะ
อ๋อง : ฟ้าโปรด เป็นแชมป์อยู่ค่ายมวยระดับใหญ่อยู่แล้ว เป็นค่ายมวยอันดับต้นๆ ของประเทศเลย ส่วนธัญญ์จะเป็นเด็กที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาฝึกเป็นนักมวย มาเรียนรู้ว่าจะเป็นแชมป์ต้องทำยังไง แต่ว่าด้วยความที่ค่ายมวยเราจะมีการคัดคนเข้ามาครับ แต่เราไม่ได้เป็นคนคัดเขาหรอก กลายเป็นว่าแฟนเราเป็นคนคัดเข้ามา มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ฟีลจะเป็นรุ่นพี่รับรุ่นน้อง คอยเขม่นกัน
ภณ : ฟ้าโปรดกับธัญญ์ จริงๆ ไม่ได้เกลียดกันหรอก ผมมองว่าเขาไม่ชอบขี้หน้า เพราะคนที่เขาชอบ พาเราเข้ามาที่ค่ายมวย ฟีลมีผู้ชายไปอยู่ใกล้ผู้หญิงที่เราชอบ จะมีความเขม่นกันในเรื่องนี้ด้วยนอกจากเรื่องมวย
อ๋อง : ความหึงหวงเลยทำให้มีอคติ แล้วเขาก็ได้อภิสิทธิ์เยอะ ได้อะไรเยอะว่า เฮ้ย… แฟนเราเป็นคนดึงเข้ามาด้วยนะ ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันน่าหมั่นไส้หน่อยๆ เลยอยากสั่งสอน แล้วก็อยากรู้ว่าเขาเนี่ย… คิดอะไรกับแฟนเราหรือเปล่า
ภณ : “ธัญญ์” เข้ามาอยู่ค่ายกระทิงทองยิม มันก็จะมีอุปสรรคมากมายที่เกิดขึ้น จากฟ้าโปรดบ้าง จากคนอื่นๆ บ้างที่เขาหมั่นไส้เรา หรือต้องการกำจัดเราให้ออกไปจากที่นี่ แต่เราก็พยายามสู้ในทุกๆทาง สู้ทั้งบนเวทีมวย และก็สู้ทั้งนอกเวที ซึ่งเราจะต้องต่อสู้กันดุเดือดมากๆเลย ไหนจะเรื่องของเพื่อนที่เราต้องช่วย สุดท้ายเราก็อาจจะโดนอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เราไม่สามารถไปต่อได้ อยากให้ดูครับ หรือตามดูย้อนหลังได้ครับ
ฟีดแบ็กที่ได้รับเป็นอย่างไรบ้างคะ
ภณ : ก็จะมีบางคนที่เขาเปลี่ยนความคิดหลังจากที่ได้ดู คือตอนแรกก็บอกว่า เฮ้ย… เกี่ยวกับมวยอีกแล้วเหรอ จะเป็นยังไง แต่หลังจากดูตอนแรกไป เขารู้สึกว่า เออ… เราก็ดูแนวนี้ได้นะ มีหลายเรื่องราวที่ดำเนินเนียนไปกับมวยไทย ไม่ได้มีแต่เตะ ต่อยอย่างเดียว
อ๋อง : จะผสมผสานดราม่าเข้าด้วยกัน ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะลงตัว กลมกล่อม นอกจากเรื่องมวยๆ ยังมีมุมอื่นให้ดูด้วย
ทำไมถึงตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้
ภณ : มันเป็นความท้าทายด้วย เพราะก่อนหน้านี้ เราเล่นบู๊มาหลายเรื่องแล้ว แต่บู๊แบบมวยไทยจริงๆ ยังไม่เคย ก็เลย ตัดสินใจรับเรื่องนี้ และด้วยความบทมีความยากด้วย ทั้งในตัวละครที่มีปมปัญหาต่างๆ เยอะ อุปสรรคเข้ามาเยอะ ดราม่าเยอะ น่าสนใจดี
อ๋อง : ตอนไปแคสต์ผมหวังกับเรื่องนี้มาก ซึ่งที่ผ่านมาก็หวังมาตลอด แล้วพอได้เรื่องนี้รู้สึกว่าดีใจมาก ด้วยความที่ดูมวยอยู่แล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าน่าจะเหมาะกับเรามากๆ แล้วเราก็คิดคาแร็กเตอร์มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ควรออกมาเป็นยังไง แต่ถึงเวลาทำงานลงสนามจริง ก็ต้องมีปรับตัวกันเยอะหน่อย ยอมรับว่ายาก เพราะเราใหม่มากกับงานแสดง
เบื้องหลังกว่าจะเป็น “ธัญญ์” กับ “ฟ้าโปรด”
ภณ : ผมไม่ค่อยดูมวย ไม่ได้มาทางมวยเท่าไหร่ เรื่องนี้คือนับ 1 ใหม่เลย ก่อนถ่ายทำผมไปฝึกที่ค่ายมวยของพี่สามารถ วันแรกที่ผมไป การเตะของผมจะเป็นแบบบู๊ทั่วไป ท่าผมไม่ใช่นักมวยไทยจริงๆ มันต้องปรับท่าใหม่หมดเลย ค่อนข้างยากมาก ตอนแรกผมก็แอบท้อใจว่า มันยากไปไหม กล้ามเนื้อไม่ได้ไปนักมวยเลย ก็พยายามฝึกช้าๆ เอาท่าให้ได้ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเลเวลไปเรื่อยๆ มีเวลาว่างเมื่อไหรก็ไปซ้อม พยายามฝึก คือเราต้องเป็นนักมวยจริงๆ เพราะฉะนั้นเราต้องเทรนให้เยอะๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อทั้งหมดมันจำว่าเราเคลื่อนไหวยังไง ให้มีเซนต์ของความเป็นนักมวยจริงๆ มันเหนื่อยมากนะครับ ช่วงแรกผมท้อมากเลย ผมรู้สึกว่ามันเหนื่อย มันหนักจังเลย เพราะผมแบบไม่เคยเรียนมวย ไม่เคยมาทางมวยเลย
อ๋อง(เสริม) : แล้วเหมือนในช่วงนั้น พี่เขาวิ่งด้วย วิ่งเยอะ มันจะมีหลายๆ กีฬาเข้ามาหาเขาในตอนนั้น
ภณ : ช่วงแรกด้วยความที่ไม่ชิน ผมบาดเจ็บบ่อยมาก ต่อยมวยมันเจ็บอยู่แล้ว กลับบ้านมาคือเจ็บตลอด เคยมีคำถามแว่บๆ กับตัวเองนะว่า คนที่เป็นนักมวย เขาอยู่กับสิ่งนี้ได้ยังไง คือเขาอดทนกันมากเลย คือพอถึงจุดที่ผมได้ลองเองจริงๆ ผมรู้เลย โอ้โห… นักมวยต้องเจ็บตัวกันเยอะเลย อดทน และพยายามกันมากๆ ชื่นชมมากครับ
เรื่องโปรแกรมดูแลตัวเอง อาหารการกิน เป็นอย่างไรบ้าง
ภณ : ก็นอกจากออกกำลังกาย มีเรื่องการกินที่เราต้องดูแล เพราะต้องดูแลหุ่นด้วย ถอดเสื้อออกมาแล้วมีพุงก็ไม่น่าดูเราเป็นนักมวยด้วย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องคุมอาหาร แต่วันแรกที่รู้เลยว่าต้องเล่นเรื่องนี้ จะไม่กินอาหารกองถ่ายที่ปกติเราเคยกิน จะกินอาหารคลีน กินผัก เมนูที่หลักคือ ไข่ต้ม อกไก่ ข้าวกล้อง และแทบจะไม่ปรุงเลย
อ๋อง : ใช่ครับ กินเหมือนกัน ของหวานก็งดเลย
ตอนฝึกคอร์สนักมวยที่บอกว่าท้อ ให้กำลังใจกันเองอย่างไร
ภณ : ผมว่าอ๋องน่าจะท้อยาก เพราะชอบทางนี้อยู่แล้วด้วย
อ๋อง : มันเป็นสิ่งที่ผมชอบ เลยฝึกให้เยอะขึ้นด้วย ผมอาจจะซาร์ดิสหน่อย (หัวเราะ) มีฝึกแบบลงนวมจริง ฝึกกับฝรั่งจริงๆ จนแบบเจ็บเยอะ จนบางทีรู้สึกว่า เราฝึกเยอะจนเป็นไข้ คือมันน่วม จนมีรอยม่วงๆ จนช้ำใน รู้สึกว่าเดี๋ยวต้องเพลาๆ หน่อย ที่เราฝึกเยอะๆ เพราะอยากรู้ฟีลนักมวยให้สุดครับ
ตอนฝึกเจ็บตัวสุดขั้นไหน
อ๋อง : มีข้อเท้าพลิกครับ หลังช้ำ ข้อพับบวมด้วยครับ
ภณ : ผมยังไม่ต่อยกับใครผมก็เจ็บแล้ว (หัวเราะ) อย่างการเตะ บางทีมันเป็นจุดกล้ามเนื้อที่ยังทำไม่ได้ ก็ต้องฝึกอยู่อย่างนั้น แล้วเวลาเตะ เท้ามันต้องบิด ไม่งั้นเท้ามันจะเสียดสีกับพื้น มันจะมีอาการพองแล้วจะมีน้ำใสๆ พอจะเตะอีกก็ไม่กล้าแล้ว ต้องรอให้หาย บางทียังไม่หายก็ต้องถ่ายเลย เลยรู้สึกแบบ ทำไมต้องมาเจ็บอะไรอย่างนี้ด้วยน้าาา แต่ก็สู้จนผ่านมาได้ครับ
อะไรที่ยากที่สุดในการเล่นเรื่องนี้
ภณ : มันคือการสู้กับตัวเอง สู้กับความอยากอะไรก็แล้วแต่ เช่น เรื่องการกิน อยากจะกินของหวาน อยากกินนู่นนี่นั่น ต้องต่อสู้กับตัวเองว่า เราไม่สามารถกินได้ เพราะมีงานที่รออยู่ หรือแม้แต่เรื่องการออกกำลังกาย ถ้าเราพักผ่อนพอ เราจะไปขี้เกียจออกกำลังกายไม่ได้ เราต้องดูแลรูปร่างนะ เราก็ต้องไปออกกำลังกาย หลายอย่างเหมือนต่อสู้กับตัวเองตลอดเวลา
อ๋อง : สิ่งที่ยากน่าจะเป็นฉากแอ็คติ้งต่างๆ การเข้าซีนดราม่าเป็นอะไรที่ต้องเริ่มใหม่ จะเป็นความเครียดตรงนั้นซะเยอะ แล้วเราต้องกินคลีนอยู่แล้ว ด้วยความเครียดเกินไปตรงนี้ อาจจะไม่สามารถคุมได้แบบ 100% มีหลุดคลีนบ้าง กินกล้วยบ้าง กินน้ำแดงบ้าง บางทีถ้ากินคลีนเยอะไป แล้วไม่ได้รับน้ำตาลเลย จะยิ่งเครียดกว่าเดิม อาจจะมีหลุดๆคลีนบ้าง ก็พยายามคุมให้อยู่ครับผม ไม่ไหวก็ปล่อยบ้าง
ทั้งคู่ได้ร่วมงานกันเป็นยังไงบ้าง
ภณ : เรายังไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนเลย ได้เจอเรื่องนี้เรื่องแรก เรียกว่าอ่านคาแรคเตอร์มาในบท ก็คือคนนี้แหละที่ใช่เหมาะที่จะเป็น ฟ้าโปรด ด้วยคาแรกเตอร์ หนวด รูปร่าง ทุกอย่างมันใช่!!! แต่พอร่วมงานกันจริงๆ ห๊ะ?! ค่อนข้างไกลตัวเหมือนกันนะบทนี้ (หัวเราะ) อ๋องต่างจากบท “ฟ้าโปรด” มากเลยครับ “ฟ้าโปรด” เป็นยังไงเขาตรงข้ามเลย แต่ในเรื่องของการทำงาน เขาเป็นคนที่ตั้งใจมาก ตั้งใจจนบางทีลืมดูแลสุขภาพ หรือร่างกายของตัวเอง เช่นบางทีเข้าซีนแอ็คชั่นแล้วมีอาการบาดเจ็บ คือเข้าใจว่าคือสปิริตนักแสดง แต่บางทีอาการมันค่อนข้างที่จะหนัก ถ้าเราฝืนเล่นต่อไปอาการจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ควรต้องบอก และควรที่จะหยุด ต้องเซฟตัวเองไว้ด้วย แต่ด้วยความที่เขาตั้งใจมากๆ แล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องแรก เพราะฉะนั้นอยากจะทำให้ดี เราคือเห็นความตั้งใจจริงๆ แต่นั่นแหละ ไม่อยากให้ทำแบบนี้อีก
อ๋อง : คล้ายๆ กัน พี่ภณตรงตามบท “ธัญญ์” เลย หุ่นทรงนักมวย พี่เขาแนวลีน แม้กระทั้งการออกท่าทาง ทั้งอารมณ์ และความนิ่งของเขาถือว่าสุดยอด พอได้รู้จักกันแล้ว ทำงานด้วยกันก็สนุกดี ด้วยความที่พี่เขาเป็นคนร่าเริง ชอบเอนเตอร์เทน ติดตลกด้วย
ภณ (เสริม) : ชวนกันเล่นติ๊กต่อกบ้าง ผมก็อยากทำให้บรรยากาศมันรีแลกซ์ด้วย จะได้ทำงานด้วยกันง่ายๆ
พูดถึงเพื่อนๆ คนอื่นในกองบ้าง
ภณ : ผมว่าเรื่องนี้แคสต์นักแสดงมาดีมาก อย่างพี่น้ำตาล (พิจักขณา) เป็นคุณหลิน จะมีความห้าว ความเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายมวย คือใช่คุณหลินจริงๆ แล้วพี่น้ำตาลน่ารัก แต่ชอบเอาขนมมาล่อน้องๆ ซึ่งพวกเรากินไม่ได้
อ๋อง : คนอื่นๆ ก็จะวัยใกล้เคียงเหมือนกัน พออยู่ด้วยกันแล้วสนุก ส่วนพี่ๆ นักแสดงรุ่นใหญ่ มืออาชีพมากๆ ในเรื่องของการทำงาน เรียกว่าส่งอารมณ์มา ทำให้เราสามารถที่จะเล่นได้ดี
ขอคนละ 1 ซีนที่พีค
ภณ : ถ้าบอกไปมันจะสปอลย์รึเปล่านะ เอาเป็นฟีลๆ ดราม่าแล้วกัน คือธัญญ์จะมีปัญหาหลายๆ อย่าง แต่จะไม่บอกปัญหาของซีนที่ผมพูดถึงนะว่าคืออะไร เพราะว่าจะพีคเลย แต่เป็นซีนที่ผมรู้สึกว่า มันสุดๆแล้ว คือมันสุดๆ ของความรู้สึกที่เจอแล้ว ต้องไปติดตาม ก็ดราม่าสุดอยู่เหมือนกันนะ คือธัญญ์มันโตมากับอะไร ประมาณนี้แล้วกัน คือมันเป็นจุดเปลี่ยนของตัวธัญญ์
อ๋อง : มันเป็นซีนที่เราต้องการจะปกป้องคนๆ หนึ่ง จากที่ตัวละครโปรดแทบจะไม่มีการปกป้องใครเลย แต่ด้วยความที่เขาพยายามจะปกป้องคนๆ หนึ่งโดยไม่แสดงออกอะไรเลย ทำได้เพียงแค่ไล่เขาไป เป็นซีนที่ผมจะจำได้ตลอดและความรู้สึกนั้นก็พลุ่งพล่านครับ
คิดว่าคนดูน่าจะได้อะไรจาก นับ 8 บ้างคะ
ภณ : มีเรื่องของความรักในรูปแบบต่างๆ ทั้งของครอบครัว เพื่อน คนรัก หรือตัวละครอย่างเช่น ฟ้าโปรดกับธัญญ์ ที่โตกันมาคนละรูปแบบ อยู่ในสังคม สภาวะแวดล้อมที่ต่างกันมา คือเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่าคนที่โตมาในครอบครัวแบบนี้จะเป็นยังไง คนที่โตมาในครอบครัวอีกแบบหนึ่งจะเป็นยังไง จะเห็นชัดมาก ๆ
อ๋อง : ในเรื่องของการสู้หรือการที่เราไม่ยอมแพ้ครับ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม มันไม่ใช่แค่อยู่บนเวทีเสมอไป เราใช้ในชีวิตจริงได้ เรารู้สึกว่าเราไม่ควรจะยอมแพ้กับสิ่งใด สู้มันลุกขึ้นมา ไม่ว่ามันจะนับแค่ 8 หรืออาจจะเลย 8 ก็ได้ ค่อยๆลุกขึ้นมาครับ
ฝากละคร “นับ 8”
อ๋อง : ติดตามเรื่อง “นับ 8” ทางช่อง 3 กด 33 ดูมือถือกด 3 Plus ครับ เรื่อง “นับ8” เป็นละครแนวแอ็คชั่น บู๊ ดราม่า ครบรส จะมีเรื่องมวยไทยเข้ามาด้วย จะได้เห็นทั้งกติกามารยาทของมวยไทย ทุกๆ ประโยคในละคร เห็นได้เลยว่าสอดแทรกกติกาไว้เยอะมาก และข้อคิดต่างๆ ตามวิถีชีวิตของนักมวยจริงๆ ครับผม
ภณ : นอกจากความสนุกแล้วก็จะมีเรื่องข้อคิด ถ้ามองดูดีๆ ในละครนี้แล้ว เราก็ลองย้อนดูตัวเราได้ด้วย ได้ข้อคิดดีๆ เยอะมากเลยครับ ฝากด้วยนะครับ
Photo: ณัฐวรรธน์ ไทยเสน
Text: Ohhioh