คุยกับ แบมแบม, เจฟ, ญาญ่า และ TIA RAY แบบลึกสุดใจ ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของการเป็น เมนเทอร์ในรายการ CHUANG ASIA SEASON 2

account_circle
event

คุยกับ แบมแบม, เจฟ, ญาญ่า และ TIA RAY แบบลึกสุดใจ ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของการเป็น เมนเทอร์ในรายการ CHUANG ASIA SEASON 2

 

เรียกว่าเซอร์ไพรส์แรงมาก เมื่อรายการรายการเซอร์ไวเวอร์ดังระดับโลก “CHUANG ASIA Season 2” คว้าเมนเทอร์ระดับแนวหน้ามาร่วมสร้างสีสันและดึงศักยภาพของเด็กฝึกให้เฉิดฉายบนเวทีระดับโลก อย่าง “THE 8 (Xu Minghao) “สวีหมิงฮ่าว” ไอดอล K-POP เชื้อสายจีนจากวง SEVENTEEN และ ไอดอลเกาหลีสายเลือดไทย  “แบมแบม – กันต์พิมุกต์” รวมไปถึงการกลับมาเป็นเมนเทอร์อีกครั้ง ของศิลปินมากความสามารถอย่าง “เจฟ ซาเตอร์” ร่วมด้วยดีว่าสาวเสียงดีจากประเทศจีน “TIA RAY” (เทีย เรย์) และ “ญาญ่า – อุรัสยา” นางเอกสาวคนเก่ง ที่ได้พลิกบทบาทครั้งสำคัญมานั่งแท่นเป็นเมนเทอร์ในรายการนี้เป็นครั้งแรก สุดสัปดาห์ไม่พลาด คว้า 4 เมนเทอร์ แบมแบม, เจฟ, ญาญ่า และ TIA RAY มานั่งจับเข่าคุยแบบลึกสุดใจถึงการเป็นเมนเทอร์ ผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันเด็กฝึกหัดให้ไปถึงฝั่งฝันที่จะเป็นศิลปิน

 

เทีย:  สวัสดีค่ะ แฟนๆ สุดสัปดาห์ ฉันเทีย เรย์ จากประเทศจีนค่ะ ดีใจที่ได้พบทุกคนนะคะ

เจฟ: สวัสดีครับผมเจฟ ซาเตอร์ครับ

แบมแบม: สวัสดีครับแฟนๆ สุดสัปดาห์ ผมแบมแบมครับ

ญาญ่า: สวัสดีค่ะ แฟนๆ สุดสัปดาห์

แบมแบม: กรุ๊ปนานาชาติ

ความรู้สึกที่ได้มาเป็นเมนเทอร์ในรายการ Chuang Asia SS2

ญาญ่า: จริงๆ ตื่นเต้นมากๆ ค่ะ รู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ไม่เคยได้ลองมาก่อน หวังว่าจะมีคำแนะนำที่ส่งต่อให้น้องๆ จากประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมาค่ะ

แบมแบม: รู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ น่าจะเป็นอีกก้าวหนึ่ง และหวังว่าจะมีคำแนะนำที่ดีๆ ให้กับน้องๆ นะครับ

เจฟ: ผมว่าปีแรกกับปีที่ 2 ก็คือใช้อะไรจากของเดิมไม่ได้มาก เพราะปีนี้ก็คือกฎต่างกัน เอเนอร์จี้ต่างกัน เพราะฉะนั้นก็เหมือนเริ่มใหม่พร้อมทุกคน  ผมว่ามันมีความเข้มข้นอยู่มากๆ ในซีซั่นนี้

เทีย: ก็ตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ เป็นครั้งแรกเลยกับการทำงานต่างแดนในบทบาทของเมนเทอร์ ฉันก็หวังว่าจะได้เรียนรู้ และดูว่า inter group จะเป็นยังไงในอนาคต ตื่นเต้นจริงๆ ค่ะ

 

ความท้าทายและความยากในการเป็นเมนเทอร์

แบมแบม: ยากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องการให้คำแนะนำ หรือว่าต้องบอกอะไรที่บางทีอาจจะเสียน้ำใจไปบ้างครับ จริงๆ แล้ว ผมว่าเรา 3 คนเป็นคนที่ซอฟต์กันมากๆ เลยนะครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับพวกเรา ที่จะต้องบอกอะไรตรงไปตรงมาในบางที คิดว่านี่น่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากที่สุดแล้วครับ ส่วนเรื่องอื่น ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ถนัดไปแล้ว

เจฟ: ผมว่าด้วยที่ซีซั่นนี้มีกติกาการให้อำนาจอยู่ที่เมนเทอร์ เพราะฉะนั้นการทำอะไรทุกอย่าง ต้องคิดให้ดีๆ ก่อนตัดสินออกไป บางทีเรารู้สึกว่าโชว์นี้อะไรขาดหายไป แต่เรานึกไม่ออกว่าอะไร เรามีเวลาจำกัดในการต้องดึงคำเหล่านั้นออกมา โดยที่ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงตัวเขา หรือนำเขาในทางที่ผิด เพราะคำพูดของเมนเทอร์ค่อนข้างจะศักดิ์สิทธิ์ น้องๆ ที่ฟัง เขาจะจำสิ่งที่เราพูดนั่นแหละ และเขาก็จะทำตามเรา เพราะฉะนั้นเราต้องคิดให้ดีๆ เวลาจะพูดอะไรออกไป ไม่อยากจะพาน้องไปในทางที่ผิด เพราะฉะนั้นก็ต้องใส่ใจมากๆ กับคำพูดของเราที่พูดออกไป เพราะเราเองก็มีความเป็นตัวตนของอาร์ติสต์ เลยไม่อยากให้ไปเจือปนไปอยู่ในน้องๆ ผมอยากให้น้องๆ ต้องเติบโตเป็นตัวของตัวเอง

ญาญ่า: สิ่งที่ยากที่สุด น่าจะเป็นการให้คะแนนค่ะ เหมือนกับเรามีสิทธิ์ที่จะให้ A B C กับ F ใช่ไหมคะ ญ่ารู้สึกว่าในฐานะนักแสดง ให้คะแนนอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่เขาอยากที่จะเป็น ก็คือไอดอลใช่ไหมคะ บางทีเราก็ต้องแอบไปมองเพื่อนข้างๆ เขาให้คะแนนอะไรบ้าง แล้วก็เหมือน เเบบ… มองแล้วก็อ้าว… ทำไมห่างจากของเราขนาดนั้นนะ เหมือนมันเป็นโมเมนต์ที่ไตร่ตรองความคิดของตัวเอง ว่าเอ๊ะ! เรา…  Wait, am I…?

เจฟ: เราจะไปต่อ หรือเราจะ

ญาญ่า:  เราใช้เกณฑ์อะไรในการให้คะแนน ก็ยากตรงที่ต้องให้คะแนน

เทีย:  ฉันคิดว่าความท้าทายอยู่ที่เวทีนี้ เพราะมีผู้คนจากหลากหลายประเทศ เช่น นักร้องและผู้แสดงบนเวทีอื่นๆ ดังนั้นสำหรับพวกเรา การรวมพวกเขาเข้าด้วยกัน และค้นหาทีมที่สมบูรณ์แบบจริงๆ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา แต่กระบวนการนี้จะทำให้พวกเขาเป็นคนดียิ่งขึ้น หรือศิลปินที่ดียิ่งขึ้นบนเวที นั่นคือภารกิจของเรา ภารกิจของเราคือ การทำให้พวกเขาเป็นคนดียิ่งขึ้นหรือศิลปินที่ดียิ่งขึ้นบนเวที มันเป็นการทำงานเป็นทีม และฉันก็ตั้งตารอคอยมันมากค่ะ

ทั้ง 4 คนได้มาร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง

แบมแบม: ชิลดีครับ เหมือนเจอพี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานานครับผม

ญาญ่า: รู้สึกว่าไม่ได้มีการ ice break อย่างหนึ่งที่ชอบมาก เป้าหมายค่อนข้างที่จะคล้ายกัน พวกเรามีความตั้งใจที่จะทำรายการพัฒนาให้ดี อยากให้เทรนนีได้ดี

เจฟ: โฟกัสไปอยู่ที่น้องๆ

ญาญ่า: ใช่ๆ

เทีย: ฉันคิดว่าฉันเป็นคนที่โชคดีที่สุดเลยค่ะ พวกเขาทำให้ฉันรู้สึกได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและจริงใจมาก ๆ ประสบการณ์การทำงานและวิธีที่เขาสื่อสารกับเทรนนีบนสเตจ มีส่วนทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันตัดสินใจถูกต้องแล้วที่มาร่วมรายการนี้ค่ะ

แบมแบม:  ซึ้งใจจังเลย

 

เทียใช่ค่ะ มันเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ประสบการณ์เพิ่มเติม จากศิลปินหลากหลายคนที่มาจากสถานที่ต่างๆ ฉันจะจดจำช่วงเวลานี้ไว้ และมันจะเป็นการเดินทางที่น่าจดจำค่ะ

 

มีการแชร์ทักษะและประสบการณ์ให้กับเทรนนีอย่างไรบ้าง

แบมแบม:  อืม… อย่างหนึ่งที่น่าจะเหมือนกันทุกคนก็คือ อยากให้น้องๆ ได้หาตัวตนที่แท้จริงของเขานะครับ ไม่ว่าจะในทางไหนก็ตาม และก็… ส่วนตัวผมก็คือ อยากหาคนที่เพอร์เฟ็กต์และมีทักษะพอ และเขาเหมาะสมพอที่จะอยู่ในกรุ๊ปตอนที่เดบิวต์ 7 คน  น่าจะเป็นสิ่งที่ผมหาอยู่ในตอนนี้ครับผม

เจฟ : ผมมองหาคนที่… ทำให้เรารู้สึกว่าเราถูกดึงเข้าไปในโชว์เขา คนที่โชว์แล้วเราไม่รู้สึกว่าเราเป็นเมนเทอร์ คนที่เขาโชว์แล้วเรารู้สึกว่าเราเป็นแค่คนที่มานั่งดูเขาโชว์ ผมมองหาคนแบบนั้น และคนแบบนั้นแหละที่จะตรึงคนดูอยู่ คนที่เหมาะสมที่จะอยู่ในบอยแบนด์แล้วคนจำเขาได้ อ๋อ… คนนี้เขาเป็นแบบนี้ สกิลแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ บุคลิกแบบนี้ผมว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมมองในฐานะเมนเทอร์

ญาญ่า: จริงๆ ญ่าเต้นกับร้องอาจจะไม่ได้เท่าคนอื่น แต่อย่างหนึ่งที่เราเก็บเกี่ยวมาเรื่อยๆ คือประสบการณ์ที่เรามีค่ะ มันก็จะมีทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่เหมือนทำให้คนดูเขาเห็นเรามากขึ้นหรือว่าจะมีวิธีที่จะดึงแต่ละอย่างในตัวเราที่เป็นเอกลักษณ์ออกมาได้ง่ายขึ้น เพราะเหมือนเขา… เขาอยู่ในคอร์สที่มันสั้นมากค่ะ เขามีเวลาค่อนข้างน้อยที่จะแสดงให้เห็นทั้งหมดบางทีเราก็อาจจะหยอดวิธีนิดๆ หน่อยๆ เพื่อป็นพื้นฐานให้เขาไปพัฒนาตัวเองค่ะ

เทีย:  ฉันคิดว่ามันต้องใช้เวลานะคะ กว่าจะพัฒนาได้จริงๆ  อย่างเมื่อวาน ฉันรู้สึกว่ามีกลุ่มบางกลุ่ม ที่ยังไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างดีสำหรับการขึ้นเวที พูดตรงๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็เตรียมตัวมาดีมาก ทุกคนพร้อมกันจริง ๆ แต่บางครั้งเมื่อเราเจอช่วงเวลาแบบนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่ยากสำหรับพวกเรา ที่จะพูดความจริงออกไป ทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นี่ พวกเขาต้องเตรียมตัวมาให้ดี เมื่อเข้ามาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะช่วยพัฒนาพวกเขาในหลาย ๆ ด้าน ดังนั้น ความท้าทายของฉันก็คือ ฉันเองก็ต้องเรียนรู้จากกระบวนการนี้ด้วย ว่าจะช่วยให้พวกเขาค้นหาตัวเองได้อย่างไร และช่วยพวกเขาในวิธีที่ถูกต้องเพื่อให้เป็นศิลปินที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการร้อง การแสดงบนเวที การสร้างตัวตนบนเวที ทักษะการเต้นและอื่น ๆ รวมถึงบุคลิกด้วยค่ะ ฉันคิดว่าพวกเราทุกคนจะได้เรียนรู้จากสิ่งนี้ไปด้วยกันค่ะ

 

สิ่งที่สำคัญที่ผู้เข้าแข่งขันควรมีบนเวที CHUANG Asia SS2 คืออะไร 

เจฟ:  จะไม่ได้นึกถึงเรื่องของสกิลเป็นอย่างแรก ผมรู้สึกถึงสปิริตของการเป็นอาร์ติสต์มากกว่าที่ต้องอยู่ในตัวของเขา ซึ่งเป็นอะไรที่อธิบายไม่ได้ด้วยนะ  เพราะว่ามันค่อนข้างจะเป็นอิสระมากๆ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าทำตรงนี้แล้ว นี่คือสปิริตที่ดี หรือสปิริตของการเป็นอาร์ติสต์อะไร มันแค่เรารู้สึกเฉยๆ พอเรารู้สึกปุ๊บ เราก็โอเค นี่แหละที่เรามองหา มันใช้ความรู้สึกจับอย่างเดียว มันไม่มีรูปธรรมว่าต้องเป็นแบบนี้ ต้องเป็นแบบนั้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นผมว่า นั่นแหละ คือสิ่งที่ผมมองหา ต้องใช้ความรู้สึกหาเอา

แบมแบม: ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งน่าจะเป็น การที่เป็นตัวของตัวเอง และ… การที่รักในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ และมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ เป็นเป้าหมาย คนที่มีเป้าหมายที่มันแน่นอนจริงๆ ไม่ว่าตอนนี้เขาจะด้อยกว่าคนอื่น หรือเก่งกว่าคนอื่น ไม่ว่าเขาจะอยู่ในเลเวลไหนก็ตาม หากมีเป้าหมายที่แน่นอน เขาก็จะพยายามทำให้ตัวเองไปอยู่ตรงเป้าหมายนั้นจนได้ครับ ผมว่ามันก็เลยอยู่ที่แพสชั่น และเคารพเกี่ยวกับตัวเองและความเป็นตัวเอง

ญาญ่า: ชอบมากเลยที่เขาต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนจริงๆ สิ่งนี้ขอเป็นนัมเบอร์วันเลยเหมือนกันค่ะ ว่าต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ว่ายืนอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร เพราะอะไร อยากได้อะไร เพราะไม่งั้นเราอาจจะมองผ่านไปได้ และอยากเห็นความกล้าหาญที่จะแสดงออกค่ะ เมื่อเขารู้จักตัวเองดีพอ เขาก็จะกล้าที่จะเปล่งประกายค่ะ

เทีย: ฉันกำลังมองหาอะไรอยู่เหรอคะ ฉันกำลังมองหาซูเปอร์สตาร์อยู่ค่ะ

แบมแบม/ญาญ่า: มันธรรมดามากเลยนะ

เทีย:  พูดง่ายแต่ทำยาก  การเป็นดาราไม่ใช่เรื่องง่าย การเป็นศิลปินง่ายกว่า เพราะคุณสามารถฝึกฝนทักษะต่างๆ ได้ แต่การเป็นดารานั้นยากมากๆ  เราอยากเห็นดาราเกิดขึ้นบนเวทีในทันทีเลยค่ะ มันคือสิ่งที่เราต้องการเห็น

แบมแบม: มันก็สมเหตุสมผลดีครับ

เทีย: ใช่ค่ะ

เห็นความสามารถของเด็กฝึกหัดในซีซั่น 2 แล้วเป็นอย่างไร 

เจฟ : คือผมว่าสิ่งที่ไม่ต่างกันก็คือ ไม่ว่าจะเป็นบอยกรุ๊ป เกิร์ลกรุ๊ป เขาต่างมีจุดมุ่งหมายคล้ายกัน แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ ผมว่าแต่ละคนในกรุ๊ป ของแต่ละคนที่มา เขามาด้วยเอเนอร์จี้ที่ต่างกัน เพราะว่าเขาเป็นอาร์ติสต์คนละแบบอยู่แล้ว ด้วยความที่เจเนอเรชั่นนี้ มีสื่อมีช่องทางต่างๆ ที่เปิดกว้างมากขึ้น มันทำให้ความสามารถน้องๆ พุ่งทะยานไปเหมือนกันเราได้เห็น เราเองก็ประทับใจ อย่างซูเปอร์ไทย โอ้… มาถึงเต้นพร้อมกันหมดเลย ทุกคนมาด้วยเอเนอร์จี้ที่เรามานั่งดูโชว์ของเขาเฉยๆ ประทับใจ และก็ช่วยเติมไฟในตัวเราเหมือนกันนะ โห…น้องมาขนาดนี้ เราก็ต้องเป็นอาร์ติสต์ที่ดีขึ้นป่ะว่ะ ในเวลาเดียวกันเราก็ได้เรียนรู้อะไรจากน้องๆ และเรารู้สึกได้ว่าน้องๆ มีความที่อยากจะเรียนรู้ เช่นกัน

แบมแบม:  เป็นครั้งแรกนะครับที่ผมได้อยู่ในที่นี้ครับผม และนั่งดูเด็กฝึกเขาเพอร์ฟอร์มเนอะ ดีกว่าที่ผมคิดนะครับผม เก่งกันมากๆ บางคนผมว่าพร้อมที่จะเดบิวต์แล้วด้วยนะครับ คือตอนนี้ทักษะเขาได้แล้ว แต่สิ่งที่เขาต้องการคือประสบการณ์ครับ แค่นั้นเขาก็จะกลายเป็นอาร์ติสต์ ที่น่าจะโอเคเลยครับผม

ญาญ่า: ในหัวญ่า เหมือนมาตรฐานมันสูงมาก เพราะทุกคนตรงนี้เก่งกันทั้งนั้นเลย

เจฟ : คือด้วยความเด็กฝึก โอ้โห มันหนักหน่วงมาก กว่าจะคัดออกมาแต่ละคน

เทีย: ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญคือ…. คุณภาพคืออะไรล่ะคะ ฉันคิดว่ามันมีบางคนที่ดีจริงๆ และฉันก็รู้สึกประทับใจมาก  แต่โดยรวมแล้ว ฉันคิดว่าทุกคนยังมีโอกาสอีกครั้ง พวกเขายังมีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพของตัวเอง และเราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนกว่าพวกเขาจะทุ่มเทเต็มที่ ฉันหวังว่าพวกเขาจะถ่อมตัวและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพ ทั้งในตัวบุคคล นิสัย และพฤติกรรม เพราะการเป็นดาราไม่ใช่แค่การมีชื่อเสียง แต่มันคือทุกอย่าง มันคือผลกระทบและความสมบูรณ์ในทุกด้าน ฉันคิดว่าคำพูดไม่สามารถอธิบายความรู้สึกทั้งหมดได้เอาเป็นว่าเรามารอดูกันค่ะว่ารายการนี้จะพาเราไปถึงไหน แล้วมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นค่ะ!

ญาญ่า:  มีหลายคนเลยค่ะที่ยังติดอยู่ในใจญ่า

เทีย: ใช่ แน่นอนว่าฉันมีคนที่เลือกไว้ในใจแล้ว

เจฟ: แน่นอน

แบมแบม: ผมมีคนหนึ่ง

เทีย:  พวกเราแอบบอกตอนนี้ไม่ได้หรอกค่ะ

 

ในวันที่ต้องบอกลาเด็กฝึกที่ไม่ได้ไปต่อในรายการคุณรู้สึกอย่างไร

เทีย:  มันไม่ใช่แค่เรื่องของความเศร้าหรือความสุขนะคะ  มันคือธรรมชาติของมนุษย์ ฉันคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องไปโฟกัสที่ส่วนนั้นมากเกินไป แต่ควรที่จะโฟกัสความกล้าหาญ และส่งเสริมให้พวกเขาสร้างสรรค์มากขึ้นในเส้นทางนี้ นี่คือโอกาสที่สำคัญมากสำหรับพวกเขา ในการเริ่มต้นบทบาทหรือเส้นทางที่พวกเขาอยากจะเป็น ฉันไม่ได้พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ฉันแค่คิดว่าฉันอยากจะเป็นธรรมชาติ ถ้าฉันรู้สึกเศร้า ฉันก็เศร้า ถ้าฉันมีความสุข ฉันก็แค่มีความสุข นั่นแหละค่ะ

ญาญ่า: นั่นคือสิ่งที่ฉันรักในตัวคุณเลยค่ะเทีย

เทีย: ใช่ค่ะ แค่ซื่อสัตย์

เจฟ:  ถามว่าเศร้าไหม เขาก็ยังอยู่ในเจอร์นีย์ของเขานะ มันไม่ใช่เรื่องเศร้า อย่างน้อยเขาได้เรียนรู้ และก็…เขาไม่ได้…ไปแล้ว เขาจะเลิกเป็นอาร์ติสต์ไปเลย มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เขามาเรียนรู้ที่นี่ เขาอาจจะออกไปเติบโตที่อื่นก็ได้ หรืออาจจะ…ทำตรงนี้แล้วรู้สึกว่ายังไม่ใช่ก็ได้ เพราะฉะนั้นผมว่ามันมีอะไรอีกหลายอย่าง แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาได้อะไรจากที่เขามาเจอร์นีย์มากกว่า เราไม่ได้บอกลากันด้วย ทัศนคติที่แบบ…ยูไม่สมควรจะเป็นอาร์ตติสไปเลย ก็เลยรู้สึกว่า เออยูได้เรียนรู้นะ ยูก็ไปเติบโตถ้าเรามีเดสตินี แล้วเดี๋ยวมาเจอกันใหม่ ถ้ายูยังทำสิ่งนี้อยู่ เดี๋ยวเรามาเจอกันใหม่ ก็หวังว่าความฝันจะเป็นจริง สิ่งที่เรียนรู้มันจะทำให้เขาเติบโตขึ้น

แบมแบม:  คงเสียใจนะครับ

ญาญ่า:  กำลังคิดเหมือนกัน เลยไม่แน่ใจว่าจะตอบยังไงดี

แบมแบม:  เพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนคัดเลือก คนดูเป็นคนเลือก ถ้าเขาต้องไป ผมว่ามันก็เป็นเดสตินีของเขาครับผม และเขาก็ต้องยอมรับ และคนที่ต้องไปประกาศอย่างพวกเรา ก็ต้องยอมรับครับผม อาจจะแบบว่า… เชียร์น้องคนนี้มากๆ หรือว่าเป็นแฟนคลับน้องคนนี้มากๆ หรือในสายตาเรา เราอาจจะคิดว่าน้องคนนี้ไปไกลก็ได้นะ แต่ว่าคนดูอาจจะไม่ได้มองเหมือนเรา

ญาญ่า: คล้ายๆ กับที่เจฟพูด เหมือนว่าทุกคนเข้ามา ด้วยความเป็นศิลปินที่เขาเป็นกันอยู่แล้ว เราเริ่มออดิชั่นแรกด้วยบรรทัดฐานที่ทุกคนมีประสบการณ์มาแล้วเพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ไปต่อ เขาก็ได้มีแอร์ไทม์ คนรู้จักเขาแล้วแน่นอน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะพัฒนาตัวเองไปในทางไหนใช้พื้นที่สิ่งที่เขาได้มาไปยังไง แม้ว่าเราจะพูดคำว่า “ลาก่อน” แต่มันไม่ได้หมายความว่ามันคือจุดจบค่ะ

 

สิ่งที่ได้รับจากการป็นเมนเทอร์ 

เจฟ: ผมว่าสิ่งหนึ่งที่เราได้จริงๆ ก็คือเราได้เห็นเจเนอเรชั่นใหม่ ที่เหมือนแบบ เออ… ไม่ใช่แค่เขาได้แรงบันดาลใจจากศิลปินรุ่นก่อน เราก็ได้แรงบันดาลใจจากเขาเหมือนกัน และได้กลับมามองตัวเอง ได้สะท้อนตัวเองว่าทเฮ้ย ตอนนี้เรายังทำโชว์ได้ดีอยู่เปล่าวะ เราหละหลวมอะไรป่ะว่ะ ที่เราคอมเมนต์ไป เราทำหรือเปล่า สิ่งเหล่านั้นมันจะกลับมาที่ตัวเรา ให้เรากลับมา freshing up สิ่งนั้นคือสิ่งที่ได้จากเด็ก

ผมว่าสิ่งที่ได้จากการเมนเทอร์เลยก็คือ เราได้ภูมิความรู้ของคนที่เก่งมากๆ ในแต่ละสาย ได้ฟังคอมเมนต์จากเขา เราได้ฟังจากทุกคนเลย มันทำให้เราเรียนรู้ในโพรเซสนี้เช่นเดียวกันแล้วเป็นโพรเซสที่สนุกด้วย มันก็รู้สึกว่า… ได้มิตรภาพด้วย รู้สึกอบอุ่น อยู่กับเพื่อนๆแล้ว รู้สึกว่าเราเป็นทีมที่คุยกันได้ทุกเรื่องในการคอมเมนต์หรือว่าการ move show forward ก็เป็นอะไรที่ดีครับ

แบมแบม:  ผมได้เรียนรู้ว่าคนดูเขาชอบอะไร เพื่อนำไปปรับปรุงใช้กับงานของผมในอนาคตก็ได้นะครับผม เป็นเรื่องที่ดีครับ

ญาญ่า:  ประสบการณ์อันหนึ่งที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต คือการที่จะมีหนุ่มๆ ประมาณ 60 คน มามองตาเราระหว่างที่เขาร้อง  เพราะญ่าน่าจะคอมเมนต์ไปตั้งแต่กลุ่มแรก… ฉันรู้สึกว่าไม่ได้อายคอนแทคส์ หลังจากนั้นนะ โอ้โห…ผู้ชายทุกคนมองญ่าแล้วก็ร้องเพลงให้ฟัง ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยค่ะ (หัวเราะ)

แบมแบม:  ต้องเตือนในรายการครับ อย่ามองมาก พี่ญ่าเขาจะแต่งงานแล้ว (หัวเราะ)

เจฟ: พี่เขามีคู่หมั้นแล้วครับ

ญาญ่า: รีบมอง มองเลย มองเลย คืออย่างหนึ่งที่ได้แล้วกันค่ะ

 

ได้เห็นความสามารถของน้องๆ เจนฯ ใหม่เป็นอย่างไรบ้าง

แบมแบม:  ไม่ต้องพูดถึงแค่เด็กฝึกก็ได้ครับ พูดถึงแค่อาร์ติสต์ที่ออกมา อย่างเกาหลี เคป็อป ผมนับว่า ผมอยู่ที่ยุค 3 นะครับ ยุค 3 ยุค 4 ยุค 5 แต่ละคนก็แตกต่างกันแล้วครับผม การกระทำตัว การวางตัวของแต่ละคน ก็ไม่เหมือนกันแล้วครับผม ซึ่งมันก็ตามยุคไปนะ ผมไม่ได้บอกว่าใครดีกว่า หรือไม่ดีกว่า อย่างเทรนนีรุ่นน้องๆ  เขาดูกล้าขึ้น ดูชิลขึ้น แต่อย่างผมตอนเดบิวต์ออกมาคือ เราอาจจะไม่กล้าทำอะไรเท่าไรเลย เพราะเราก็ต้องใช้เวลาซ้อมเยอะ ผมรู้สึกว่าพวกเราทักษะดี แต่กว่าที่เราจะกล้าพูด ทำนู่น ทำนี่  มันใช้เวลาที่จะต้องอยู่กับ public นิดนึง

 

ศิลปินที่ดีต้องมีคุณสมบัติอะไร

เจฟ: ผมว่าต้องมีโอเพ่นมายเซ็ต คือการเป็นศิลปินมันไม่ได้มีอะไรทีฟิกซ์ เพราะด้วยความที่มันเป็นอาร์ต ค่อนข้างอิสระ ฟิกซ์อะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้น ให้พูดอีกทีก็เหมือนเดิมคือ ก็ต้องหาตัวเองให้เจอ มันไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่านั้น หาเส้นทางตัวเอง งานศิลป์แบบของตัวเอง วิธีในการร้อง วิธีในการเต้นเเบบของตัวเอง สิ่งนั้นแหละที่ทำให้เราเป็นอาร์ตติสต์ที่ดี และที่สำคัญที่สุด อ่อนน้อมถ่อมตนมากๆ สำหรับสิ่งที่เข้ามา เพราะว่าเมื่อไรก็ตามที่เรารู้สึกว่าอีโก้มามากแล้ว เมื่อนั้นแหละเราจะกลายเป็นคนที่จะเลิกเป็นอาร์ตติสต์ไปเลย  มันจะทำร้ายเราอย่างรุนแรงในฐานะอาร์ตติสนะ มันจะไม่ไปไหนแล้ว

แบมแบม: จริงๆ ที่สำคัญต้องเก่งเท่านั้นแหละครับ อย่างเดียวเลยครับ แค่เก่งก็จบแล้วครับเกมนี้ ถึงคุณอาจจะไม่ได้เป็นคนที่หน้าตาดีที่สุดในโลก แต่ถ้าคุณเก่งนะ ความเก่งจะทำให้คุณดูหล่อเอง อย่างผม จริงๆ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อเลยนะครับ

เจฟ: เฮ้ย… แบม… เฮ้ย… คุณต้องมั่นใจแล้วตอนนี้

แบมแบม: แต่ผมรู้สึกว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น คือเวลาผมขึ้นเวทีแล้ว ผมเอาสกิลของผมออกมาให้ทุกคนได้ดูในพื้นที่นั้นนะครับผม จากคนที่เขาไม่ค่อยสนใจผม เขาก็เริ่มที่จะสนใจผม

ญาญ่า:  ถ้าจะให้เสริมนิดนึง คือคล้ายๆ กับที่เจฟพูดคือ ถ้าเรารู้จักตัวเองดีพอค่ะ เราก็จะรู้เลยว่าเราดีในจุดไหนบ้าง แล้วการหยิบมาวางลูกหมากในเกม ก็คือเราหยิบแต่ละอย่างในตัวเราที่ดี เราก็ให้สิ่งนั้นมัน shine ให้มากที่สุด จะทำให้คนสนใจเรามากขึ้นค่ะ ก็แค่ต้องรู้จักตัวเองให้ดีมากๆ เลยว่าแบบฉันมั่นใจสุด ในตอนที่ฉันเต้น หรือร้อง หรือว่าเพอร์ฟอร์ม และพัฒนานั้นให้ดีที่สุด เท่าที่เป็นไปได้

เจฟ: ผมอยากเสริมนิดนึง คือสิ่งที่ได้จากที่ดูโชว์มาหลายวัน คือ… เมื่อไรก็ตามที่มีน้องคนหนึ่งยืนขึ้นมาแล้ว อยากได้รับการยอมรับจากพวกเรามากๆ เลยนะ ส่วนมากจะไม่ค่อยได้รับกัน แบบว่าให้ไปต่อ เพราะสุดท้ายแล้ว มันเหมือนว่าเขาไม่ได้ยอมรับตัวเอง เขาแค่อยากได้การยอมรับจากคนอื่น เราแค่อยากเห็นตัวตนเขา

เทีย:  ฉันคิดว่าคุณภาพคือทุกอย่าง ตั้งแต่วิธีการที่คุณร้องเพลง วิธีที่คุณเต้น วิธีที่คุณพูด ความคิด และสร้างสรรค์ รวมถึงความใส่ใจด้ว สำหรับบนเวทีนี้ เพราะพวกเขากำลังจะเป็นกลุ่มสุดท้าย 7 คนใช่ไหม  ฉันคิดว่าหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญคือ  การเรียนรู้ที่จะสนับสนุนและดูแลกันและกัน มันไม่ใช่แค่การแสดงตัวเอง แต่มันเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม

แบมแบม: เห็นด้วยครับ

เทีย:  ฉันคิดว่าคุณภาพของศิลปินยังรวมถึงการถ่อมตัว การมีความมุ่งมั่น และยังต้องสุภาพ มีน้ำใจ และเปี่ยมไปด้วยความรักด้วยค่ะ

 

ส่งกำลังใจให้กำลังน้องๆ ที่มีความฝันในเส้นทางการเป็นศิลปิน

ญาญ่า:  จริงๆ อยากให้กำลังใจแล้วกันค่ะ ถ้ามีความฝันอะไรที่อยากให้มันเป็นจริง มันขึ้นอยู่กับตัวเราค่ะ ว่าเราจะไขว่คว้ามันถึงจุดไหน ถ้าเราคิดว่าเราไปสุดแล้ว แล้วมันไปไม่ถึงไหน เราก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่า… ทำไม มันมีอะไรที่เราสามารถปรับปรุง มีอะไรที่เราสามารถทำให้พัฒนาตัวเองเผื่อที่จะมีคนมาสนใจเราให้มากขึ้น ก็อยากให้ทุกคนสู้ต่อไป ความฝันมันจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อ เราตั้งใจให้มันเป็นจริงค่ะ มันซิมเปิ้ลมากๆ เลย แต่ก็สู้ๆ ค่ะ เชื่อว่าสักวันหนึ่งทุกคนจะทำได้

 

 

ขอ 3 คำให้กับ CHUANG Asia SS 2  

แบมแบม: see the world

เทีย: find yourself

เทีย:  is loving it

แบมแบม:  รักมัน ใช่เลย

ญาญ่า: ฉันชอบนะ ขอให้เป็นคำของฉันด้วยได้ไหม

เทีย: ได้สิ ได้เลย

ญาญ่า:   แบมพูดว่าอะไรนะ

แบมแบม:  ผมว่าผมเหมือนกำลังรวมทุกคนอยู่นะ

เจฟ: โอเค ใช่เลย  ขอบคุณ

เทีย: งั้นเรามารวมกัน

 

ฝากรายการ CHUANG Asia SS 2  

แบมแบม:  จริงๆ ซีซั่นนี้เป็นน้องๆ ผู้ชายนะครับ ผมว่าไฮไลต์คือ จะมีหลายอารมณ์ในรายการนะครับผม และนอกจากความจริงจังในการซ้อม ในการแสดงของเขา จะมีโมเมนต์หลายๆ อย่างที่ผมว่า ทุกคนสามารถดูแล้วแบบว่า อาจจะเป็นโมเมนต์ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงเสน่ห์ของน้องๆ และทำให้ทุกคนสามารถตกหลุมรักน้องๆ ได้มากขึ้นครับผมผมอยากให้ทุกคนเอาใจช่วยน้องๆ กันนะครับ

เจฟ: ผมว่าความรู้สึกผมเอง ซีซั่นนี้ก็ค่อนข้างเข้มข้นใน ไม่ว่าจะเป็นตัวกฎ หรือว่าอะไรก็ตาม แล้วเราก็จะเดินทางไปพร้อมกัน มันก็จะมีความรู้สึกทุกอย่างแหละ มันก็มีความตลก ความเสียใจ ร้องไห้ หรือว่าบางทีเรารู้สึกว่า เฮ้ย… คนนี้ควรจะอยู่ คนนั้นควรจะไม่อยู่ มันก็เป็นเสน่ห์ของรายการ เพราะฉะนั้นก็อยากให้ติดตามน้องๆ และให้กำลังใจน้องๆ ไปพร้อมกัน ทุกคนมาแบบเต็มที่กันมากๆ ฝาก CHUANG Asia SS 2 ครับ

 

Interview: AuAi, วริษา โรจนภักดี
Text: AuAi

Photo: Tommy Tong