PERSES กับบทพิสูจน์ในเส้นทางสายดนตรีที่ท้าทายและวัดใจ

account_circle
event

 

PERSES กับบทพิสูจน์ในเส้นทางสายดนตรีที่ท้าทายและวัดใจ  

PERSES สร้างปรากฏการณ์ไวรัลข้ามคืน กับการคัมแบ็คแบบปังเวอร์ สมการรอคอย ปล่อยเพลงแรกในอัลบั้ม 2 อย่าง BODYGUARD ออกมาปฏิบัติปลุกระดมความสนุก พร้อมเพอร์ฟอร์แมนซ์สุดเป๊ะ ท่อนฮุคติดหู “ทราบแล้วเปลี่ยน!!”

 

2 ปีในเส้นทางสายดนตรี ของ 5 สมาชิก จั๋ง-วิกร บูรณภิญโญ, เน-ณรัณ วิกัยรุ่งโรจน์, กฤติน-กฤติน สอสูงเนิน, ปาล์ม-พีรวิชญ์ พินธะ และ ปลั๊กกี้-ธรากร คำสิงห์ ที่แม้ไม่ได้ราบรื่นนัก แต่พวกเขาได้เติบโตอย่างแข็งแรง มุ่งมั่นสร้างผลงานคุณภาพ จนกลายเป็นหนึ่งกลุ่ม T-POP ที่มีแฟนคลับให้การสนับสนุนมากมายในวันนี้

 

2 ปีที่เดบิวต์อยากจะนิยามความเป็น PERSES ในเส้นทางของการเป็นศิลปินอย่างไร

จั๋ง:  ผมรู้สึกว่าพวกเรา อึด ถึก ทน ผ่านไรมาเยอะมาก ทั้งงานถ่าย mv เฟสติวัล มิตรภาพกับแฟนคลับ เรามีครอบครัวแฟนคลับจริงๆ ซึ่งมันต่างจากตอนแรกที่คิดไว้ คือเมื่อก่อนเราไม่เคยคิดว่าจะมีแฟนคลับเยอะขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าจะทรีตเขาอย่างไร แต่พอมีพวกเขาเข้ามาเป็นอีกหนึ่งครอบครัว ทำให้เราต้องดูแลพวกเขาเช่นกัน 2 ปีที่ผ่านมา เราต่างให้ใจกัน และช่วยต่อเติมพลังใจ พลังชีวิต เขาก็ช่วยเติมเต็มให้เรา เราก็ช่วยเติมให้เขา ต่างเติมเต็มให้กันและกัน คือความรู้สึกที่ดีมากๆ

 

เน:  น่าจะเป็น 2 ปีที่ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการซ้อม เพราะยิ่งซ้อมก็ยิ่งทำให้เรามั่นใจบนเวทีมากขึ้น ตารางงานก็ค่อนข้างเข้มข้น แต่เมื่อไรที่ไม่มีงาน เรายังซ้อมกันอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความทุ่มเทของพวกเรา ทีมงาน ครูสอนเต้น ทุกคนให้เวลา ให้ความทุ่มเทกับเรามากๆ ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนผลักดัน รวมถึงแฟนๆ ด้วยครับ

 

ปาล์ม:  รู้สึกเหมือนกันครับ เพราะเราก็ยังซ้อม ยังทุ่มเทกันตลอด อย่างผมกับปลั๊กกี้ยังเรียนมหาวิทยาลัย ต้องมีการแบ่งเวลาให้ดี เรียนเช้า บ่ายเย็นก็ต้องมาซ้อม ก็จะมีช่วงเวลาที่หนักหน่วงเหมือนกัน คือก่อนสอบทั้งอ่านหนังสือ ซ้อม ทำงาน เลยพักผ่อนน้อย เห็นตารางแล้วก็แอบห่วงจะไหวมั้ยนะ แต่ก็ไหวครับ เราผ่านกันมาได้ เออ… เราก็เก่งอยู่เหมือนกันนะ (ยิ้ม) รู้สึกดีมากครับ เพราะตอนแรกเรานึกภาพไม่ออกเลยว่าจะ hold ทั้งสองอย่างไว้ได้อย่างไร ต้องขอบคุณ พี่ป่อง (ผู้จัดการ) ที่ช่วยทำให้ทุกอย่างให้ราบรื่น ทั้งดูเรื่องงานและเรื่องเรียนให้ลงตัว ให้เราได้ทำงาน และให้สามารถไปใช้ในชีวิตมหาวิทยาลัยได้ด้วย

 

กฤติน:  2 ปีสำหรับผม เหมือนขับรถอยู่บนถนนวิบาก และมีจุดพักรถเป็นระยะๆ เป็นเส้นทางวัดใจที่ไม่ได้สวยงาม แต่เราก็ยังคงเดินหน้าขับไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็แวะพัก มีจุดพักพิเศษเป็นระยะๆ  ก็คือพี่ๆ ทีมงาน แฟนคลับ มีเพื่อนๆ เรียกว่าเป็นเส้นทางที่น่าตื่นเต้น เพราะขับรถไปก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง แต่สุดท้าย เมื่อจุดพักก็ทำให้เราหายเหนื่อย ได้เจอแฟนคลับที่น่ารัก ได้พูดคุย ได้แลกเปลี่ยนกัน จากนั้นก็ออกเดินทางต่อ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีจุดสิ้นสุด ยังขับไปเรื่อยๆ เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นดี อาจจะมีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่เราก็ได้พลังชีวิตด้วยกำลังใจจากแฟนคลับ

 

ปลั๊กกี้:  เป็น 2 ปีที่หนักหน่วงที่สุดในชีวิต 21 ปีของผม เป็น 2 ที่มีหลายหลายเรื่องเข้ามาในชีวิต เราออกมาใช้ชีวิตคนเดียว เราได้เผชิญโลกด้วยตัวเอง โดยส่วนตัวเราเติบโตขึ้นในอีกระดับ ส่วนในฐานะ PERSES ได้เริ่มอาชีพการเป็นนักร้องอย่างจริงจัง มันก็มีหลายอย่างที่ไม่เหมือนกับที่เราคิดไว้ หลายอย่างก็เป็นเหมือนอย่างที่คิดไว้เหมือนกัน อย่างเช่น เรื่องแฟนคลับซึ่ งเราไม่เคยมีมาก่อน ณ วันนี้เรามีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับเห็นต้นไม้ต้นนี้ค่อยๆ เติบโต ผมดีใจกับการเติบโตของ PERSES 2 ปีที่ผ่านมา เป็นการเติบโตที่ค่อยๆ ก้าวไป รู้สึกพวกเรายังเติบโตได้อีกเรื่อยๆ ครับ

ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในวงเหนี่ยวแน่นกันอย่างไรบ้างคะ

จั๋ง:  มีความผูกพันกันมากกขึ้น เพราะเราก็สนิทกันมาก อยู่ด้วยกันนานก็มีความคิดเห็นต่างกันบ้าง ความสัมพันธ์ของพวกเรา เหมือนพี่น้อง เหมือนครอบครัวกัน มีทะเลาะมีงอนกันฟีลแบบพี่น้อง ในส่วนของการทำงาน เราจะปรึกษาหารือกันตลอด ตรงนี้จำเป็นต้องจูนเพื่อให้เข้ากันจริง ซึ่งทำให้เราโตมากขึ้น และเข้าใจกันมากขึ้นครับ เรายึดงานเป็นหลักครับ หากมีปัญหาใดที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจ หันหาคุยกันให้มากๆ เพราะแต่ละคนก็มีวิธีรับมือต่างกัน

 

เวลางอนกันใครไกล่เกลี่ยคะ

กฤติน:  จะไม่ค่อยมีใครไกล่เกลี่ยแล้วครับ เหมือนจะรู้ว่าจะต้องทำยังไงกัน จะไม่มีใครห้าม เช่น มีสองคนที่แอบนอยด์กัน สองคนนั้นเขาก็ไปคุยไปเคลียร์กันเอง (หัวเราะ)

ปลั็กกี้:  จะมีปาล์มกับพี่เนที่ไม่ค่อยทะเลาะกับใคร ไม่มีปากเสียงกับใครแม้แต่ครั้งเดียวเลย (ยิ้ม)

กฤติน:  สองคนนี้เป็นคนเงียบๆ เป็นคนเย็นๆ ทำอะไรเบาๆ

เน:  มีอะไรก็อยากให้คุยกัน แต่เราจะไม่จับมือให้เขาคุยนะ ให้เขาเคลียร์กันเอง

กฤติน:  เพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่

ปลั๊กกี้:  ก็แค่พูดไม่เข้าหูกัน (หัวเราะ)

 

ส่วนใหญ่งอนกันด้วยเรื่องอะไรคะ

เน:  ฟีลแบบต่างคนต่างเหนื่อย แล้วก็พูดอะไรบางอย่างที่ไม่ทันคิด อีกฝ่ายก็เหนื่อยเหมือนกัน พอได้ยินมันก็มีอารมณ์มีความรู้สึก คือเราก็รู้ว่าไม่ได้ตั้งใจกันหรอก

กฤติน:   แบบน้ำเสียงพูดห้วนๆ ใส่กัน แต่มันก็ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โต รุนแรงนะครับ เดี๋ยวเดียวเราก็จบกันตรงนั้น แค่ 5 นาที 10 นาทีผ่านไปเราก็จบเลย ไม่ได้โกรธกัน แค่ทำไมอะ ทำไมพูดแบบนี้  แล้วเราเป็นคนวิถีบ่อน้ำตาตื้น ร้องไห้ง่าย ดูหนังนิดๆ หน่อยๆ ก็ร้องไห้แล้ว เลยเซนซิทีฟง่ายครับ

 

มาถึงวันนี้ภูใจกับตัวเองอย่างไรบ้าง

จั๋ง:  ภูมิใจครับ แต่ยังไม่พอใจ รู้สึกว่าเรายังไม่เก่ง เรายังเก่งได้มากกว่านี้ ยังพัฒนาได้กว่านี้ ตอนนี้ T-POP ในเมืองไทยมีหลายศิลปินมาก เป็นอะไรที่น่ายินดีสำหรับอุตสาหกรรม T-POP ในเมืองไทย แต่ละคน แต่ละวงก็เก่งกันมากๆ ทุกคนวิ่งกันเร็วมาก วิ่งมาราธอนกันเลย

 

ปาล์ม:   เป็น 2 ปีที่เจอเหตุการณ์ดีๆ มากมาย ถ้าไม่ได้เป็น PERSES คงไม่เจอเรื่องราวดีๆ แบบนี้ อย่างเช่น วันเกิดก็จะมีคนมาเซอร์ไพรส์ มีแฟนๆ มาหาที่ตึกแกรมมี่ อย่างเมื่อก่อนตอนเราเป็นแดนซ์เซอร์ ก็จะเห็นศิลปินลงมาเจอแฟนคลับที่มารอ เราเห็น เคยแอบคิดว่า วันหนึ่งถ้าเรามีแบบนี้บ้างก็คงจะดี และวันนี้ได้มีกับเขาแล้ว (ยิ้ม)

 

กฤติน:  ภูมิใจมากครับ เพราะเราก็เปลี่ยนไปมาก ผมเย็นลงเยอะ แต่ก็ยังร้อนอยู่บ้าง ทุกวันนี้รู้จักปล่อยวางกับหลายๆ เรื่อง แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ยังถืออยู่ แต่มันเบาลงมากๆ ครับ การเป็น PERSES มันค่อยๆ เปลี่ยนเราในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นมากเลยครับ ก็ภูมิใจในตัวเอง แต่ก็ยังไม่พอใจ เพราะเรารู้สึกว่ายังไปได้อีก ไม่พอใจในที่นี้ หมายถึงว่าอยากจะสร้างอะไรดีๆ ให้มากขึ้น คือมนุษย์ไม่รู้จะพอในการหาความสุขอยู่แล้ว ตัวผมเองก็อยากมอบความสุขให้กับคนอื่นอีกต่อไปเรื่อยๆ นาน

 

ปลั๊กกี้:  ภูมิใจมั้ย… ก็ 50-50 แล้วกันนะครับ ไม่กล้าบอกว่าเต็ม 100 เพราะกลัวว่าตัวเองจะหยุดพัฒนา เราอยู่ในจุดที่ตัวเองเคยฝันว่าอยากยืนแล้ว ที่ตรงนี้มันยังต้องไปต่อ เส้นที่เรายืน ยังมีแมพอื่นต่อ มีอีกหลายด้านให้เราต้องพิสูจน์ตัวเอง เส้นทางนี้ยังต้องเดินต่อไปอีกยาวไกล ยังต่อสู้ชีวิตต่อไปครับ

เน:  เป็นความรู้สึกที่พอใจกับตัวเองมากกว่าครับ เออ… ยังรอดมาได้ เราทำได้ แต่ก็ยังมีส่วนที่เรายังต้องพัฒนา ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องภูมิใจอะไรกับตัวเองขนาดนั้น คิดว่าตัวเองยังต้องไปต่อเรื่อยๆ

อยากลองงานด้านอื่นๆ ในวงการบันเทิงกันบ้างมั้ยคะ

เน:  สนใจเยอะเลยครับ ทั้งงานเขียนบท เบื้องหลังต่างๆ งานตากล้อง คิดว่าน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีหากได้ลองทำ

ปลั๊กกี้:  อยากลองงานด้านการแสดง ผมเรียนด้านฟิล์ม เรียนงานเบื้องหลังอยู่ มีโอกาสได้ไปฝึกงานบ้าน ได้ทำงานส่งอาจารย์ รู้สึกว่างานเบื้องหลังก็น่าสนใจ เช่น งานออกแบบ งานคอสตูม เป็นอีกทางหนึ่งที่น่าสนใจ

จั๋ง:  คือผมอยากลองทำงานด้านการแสดงตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายแล้ว ที่อยากเข้าวงการเพราะอยากเข้ามาเป็นนักแสดง ตอนเรียน ม. ปลาย ซีรีส์ฮอร์โมนมา scouting หานักแสดงที่โรงเรียน แต่ครูภาษาอังกฤษไม่ให้ออกนอกห้องเรียน ไม่งั้นผมไปแล้วครับ ที่มาเข้าค่าย MBO ผมก็คิดว่าเป็นค่ายนักแสดง แต่เป็นค่ายนักร้อง แต่สุดท้ายวันนี้ก็มานักร้อง เลยยังไม่ได้เป็นนักแสดงสักที อยากลองงานแสดงดูบ้างครับ

ปาล์ม:  เหมือนกันครับ อยากลองงานแสดง เพราะเรียนเกี่ยวกับการแสดง หรือที่คิดไว้ก็อยากเป็นโคโรกราฟด้วย ได้คิดท่าเต้นให้ศิลปิน เป็นอีกงานที่สนใจ

 

กฤติน:  ผมชอบวงการนี้อยู่แล้ว ผมอยากทำทุกอย่าง ผมชอบชอบศิลปะ ชอบการแสดง งานพิธีกรผมก็สนใจ ผมทำได้หมด ก็เคยมีประสบการณ์เล่น MV เล่นหนังสั้นมาบ้าง ซีรีส์นิดหน่อย รู้สึกว่าอยากทำงานแสดงแบบจริงจัง การได้ลองคาแร็คเตอร์ใหม่ๆ ได้เป็นคนอื่น น่าสนใจ

ขอ 1 คอนเสิร์ตที่จำไม่ลืม

กฤติน:   นี่ไม่เคยเล่าที่ไหนมาก่อนเลยนะ คือคอนเสิร์ตแรก ก็คือ OCTOPOP ที่ราชมังฯ พวกเราเตรียมตัวกันมาอย่างดี พร้อมมาก พร้อมจะสู้เพื่อเวทีนี้ พอถึงเวลาขึ้นโชว์ เกิดปัญหาเรื่องเครื่องเสียง เพลงรวนไปหมด พอลงเวทีปุ๊บ ผมร้องไห้ฟูมฟายเลย เปราะบางมากวันนั้น คาดหวังสุดๆ ต้องปลอบกันยกใหญ่ เครื่องสำอางหลุดทั้งหน้า แล้วต้องมีถ่ายรูปต่อด้วยนะ เป็นคอนเสิร์ตที่ไม่ลืมเลย พอเราอยู่ตรงนี้มาเรื่อยๆ ถึงเข้าใจว่า อ๋อ… มันเป็นเรื่องปกติ มันเกิดขึ้นได้เรื่องเครื่องเสียง เพราะสัญญาณมันตีกัน มันมีหลายสัญญาณอยู่ในอากาศ

ปลั๊กกี้:   GOTCHA POP 2 CONCERT เรื่องมันมีอยู่ว่า… มันดันเกิดขึ้นเพลงแรกเลย ‘Catch the Night’ ร้องเป็นพันรอบ วันนั้นพี่จั๋งชนผมแบบรุนแรงมาก แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชนแรงมากลงไปที่พ้น ด้วยนอนน้อย และไฟบนเวทีแรงมาก แต่ก็รันโชว์ต่อ ตอนร่วงลงไปปวดหัว โฟกัสไม่ได้ เริ่มรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะตกใจ ช็อค กลัวผิดจังหวะไปหมด มีแว๊บออกไปรวบรวมสติแป๊ปนึงแล้วกลับมาใหม่ คือปกติไม่เคยชนกันเลยเคย

 

ปาล์ม:  GOTCHA POP CONCERT ปีแรก ตอนร้องเพลง ‘น่ารักน้อยลงหน่อย’ คือคนทั้งฮอลล์ร้องตาม จนเราต้องเอาอินเอียร์ออกจากหู เราอยากฟังด้วยหูของเราเอง ประทับใจมากครับ

จั๋ง:   Tencent Music Entertainment Awards 2024 ที่ มาเก๊า เวทีใหญ่ในต่างประเทศ เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก วันที่ไปซาวนด์เช็คก่อนขึ้นจริง เราเละมากเลย คอนโทรลเสียงและไลน์เต้นต่างๆ ได้ไม่ดี ด้วยความตื่นเต้นและสเตจใหญ่ พวกเราเครียดกันมาก กลับมาก็นัดซ้อมกันตอนกลางคืน และตอนเช้าซ้อมอีกรอบ วันจริงออกมาเพอร์เฟ็กต์ ทุกอย่างลงตัว เวทีนี้เหมือนเติมเต็มเป้าหมายในชีวิตอย่างหนึ่ง ที่อยากจะโชว์ Performance ให้ชาวต่างชาติได้ดู

 

เน:  The Golden Melody Awards & Festival 2023 (GMA) ที่ไต้หวัน เป็นการได้ไปโชว์ต่างประเทศครั้งแรก เรียกว่าเป็นเวทีเปิดโลก ทำให้เราเจอคนเก่งๆ ในวงการดนตรีระดับโลก เจอโปรดิวเซอร์ของ บรูโน มาส์ ตื่นเต้นมากครับงานนี้

 

เล่าถึงอัลบั้มล่าสุดของ PERSES กับการคัมแบ็คอัลบั้มที่ 2 บ้าง

จั๋ง:  อัลบั้มที่ 2 ชื่อว่า “ALTERLAND”  ตั้งใจเชื่อมโยงกับอัลบั้มแรก ‘MY TIME’ คอนเซ็ปต์อัลบั้มที่ 2 คือ Destroy To Create มุ่งสู่ดินแดน ALTERLAND (อัลเทอร์แลนด์) สถานที่ที่ไร้ขีดจำกัด ให้อิสระ สามารถทำได้ทุกอย่างที่ใจคิด โดย ALTERLAND มาจากคำว่า  ALTER EGO (อัลเทอร์ อีโก้) การสร้างตัวตนขึ้นมาใหม่ หรือเปรียบได้กับตัวตนในอีกเวอร์ชั่น ที่สามารถคิดและทำอย่างอิสระ

 

เน:  ในอัลบั้ม  ALTERLAND  มี 2 EP ซึ่ง EP 1 คือ FREEDOM (อิสระ) และ  EP2 CREATION (สร้างสรรค์) ภายใต้คอนเซ็ปต์ Without freedom, There is no creation หากไม่มีอิสระ ก็ปราศจากความสร้างสรรค์ จะได้เห็นเราในมิติใหม่ๆ ที่โตขึ้น กล้าออกจากกรอบ และทำตามความต้องการตัวเอง ผ่านคอนเซ็ปต์ ROLE PLAY ในบทบาทที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงได้ลองสไตล์เพลงที่แปลกใหม่ ในแบบที่ PERSES ยังไม่เคยทำมาก่อน กับแนวเพลงดนตรี POP ที่ผสมกับกลิ่นอายหลากหลายของแนวดนตรี เช่น  Hip Hop , R&B และ Electronic

“BODYGUARD” เปิดตัวเพลงแรกก็ไวรัลเลย

กฤติน:   การกลับมาของ PERSES ครั้งนี้ อยากให้ทุกคนอิ่มเอมกับผลงานนี้ พวกเราตั้งใจมาก และเป็นโปรเจ็กต์เปิดศักราชใหม่ของ PERSES ทั้ง MV และตัวเพลงในอัลบั้มทั้งหมด เรามีการสอดแทรกความเป็นไทย ทั้งเนื้อหา และสอดแทรกดนตรีไทยด้วย

ปลั๊กกี้:   “BODYGUARD”  เล่าถึงการที่อยากจะดูแลคนที่เรารักให้มีความสุข  และรู้สึกปลอดภัย เหมือนมี BODYGUARD ปกป้องอยู่ข้างกาย โดยเพลงนี้เป็นเพลงแนว Pop ผสม HipHop  ที่ได้ แชมป์ ไมยราพ และ GENIEPAK (จีนี่ ณภัคกมนตร์ ทวีโรจน์มงคล) มาเขียนเนื้อร้อง และ ได้ TIGGER (ทิกเกอร์) มาอัดเสียงในท่อน “ทราบแล้วเปลี่ยน ทราบแล้วเปลี่ยน” มีพี่ปณต GETSUNOVA เป็น Executive Producer ท่าเต้นผสมผสานระหว่าง Contemporary กับ B-boy เป็นความแปลกใหม่ที่ PERSES ไม่เคยทำมาก่อนครับ

กฤติน:   MV เพลง BODYGUARD หยิบประเด็นสังคมมาพูดถึงความเลื่อมล้ำทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพชีวิต ปัญหาแรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ และ การละเมิดสิทธิมนุษยชน มาถ่ายทอดผ่านบทบาทอาชีพ คือทุกคนมีอาชีพเป็นของตัวเอง ผม คือ THE THIEF เด็กรับจ้างขนของในตลาด แต่กลับเป็นโจร เป็นหัวขโมยในชุมชนแออัด ขโมยเพื่อเอาชีวิตรอด เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ขโมยไปให้คนยากไร้ เอาไปให้เด็กยากไร้ สะท้อนปัญหาคุณภาพชีวิต ปากกัดตีนถีบเพื่อความอยู่รอด

 

ปาล์ม:  เป็น THE BLACKSMITH ช่างตีเหล็กฝีมือดี ที่กำลังได้รับการแจกอาหารจากโดรน โดยเหล่าคนมีอำนาจ ที่เหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง กดขี่ใช้แรงงาน แต่ตอบแทนด้วยอาหารง่ายๆ ที่กลับเป็นมื้อที่วิเศษของชาวชุมชน

 

ปลั๊กกี้:  ผมคือตัวแทน THE TAILOR ตัวแทนแรงงานในอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่มีข่าวให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ในเรื่องการใช้แรงงานหนักอย่างต่อเนื่องโดยไม่พัก และการละเมิดสิทธิมนุษยชน

 

จั๋ง:  ผมคือ THE GANGER ตัวแทนของกลุ่มคนใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ

เน:   ผมเป็น THE REBEL ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการปฏิวัติเพื่อปกป้องคนในชุมชน เป็นกระบอกเสียงเพื่อปกป้องคนในชุมชน พวกเราฝาก MV ด้วยครับ พวกเราเต็มที่กันมาก โปรดักชั่นคือจัดเต็ม

เดินทางร่วมกันมา 2 ปีแล้ว มีอะไรอยากบอกกันและกันบ้าง

ปลั๊กกี้:   คือหลังๆ พี่จั๋งชอบกวนผมซะเยอะ ผมก็แกล้งคืนบ้าง เราสู้กลับ คือเขาอาจจะมีความสุขเวลาที่ได้แกล้งผม แต่รักเขานะ ต้องบอกว่าเรื่องภาพรวมควอลิตี้ของวง พี่จั๋งเป็นคนดูแลอยู่เสมอ เขาคอยบอกคอยเตือนทุกคนตลอด ก่อนหน้านี้อย่างที่เคยเล่า ผมจะคอยเก็บไลน์เต้น แต่ตอนนี้คือพี่จั๋ง จัดระเบียบทุกอย่าง ความรับผิดชอบต่อวงสูงมาก อยากให้พี่จั๋งรักษาสุขภาพ เป็นพี่คนโตสุดของสง ผ่านการใช้ร่างกายนานสุด (หัวเราะ) เราไม่ได้เป็น PERSES ไปตลอดชีวิต ดูแลตัวเองเยอะๆ นะ เรายังต้องใช้ร่างกายนี้อีกนาน

 

เน:  กฤติน น่าจะเป็นคนที่เหนื่อยสุดในการอยู่กับพวกเรา คือในแง่ของคาแร็คเตอร์หรืออะไรต่างๆ ในตัวเอง เขาต้องปรับตัวเยอะมาก เรารับรู้มาตลอด เพราะเขาจะคอยแชร์ให้ฟังว่าตลอดที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นบ้างกับเขา อยากบอกว่าเขาเก่งมากที่พยายามปรับตัวจนมาอยู่จุดนี้ได้ รู้ว่าบางอย่างก็ยังมีความเป็นกฤติรอยู่ข้างในบ้าง ก็ไม่เป็น ซึ่งในความเป็นคนไวของเขา มีข้อดีนะ ช่วยพวกเราได้หลายสถานการณ์ ยิ่งวันนี้พอเขาปรับตัวเองให้เย็นลง ก็ช่วยพวกเราได้เยอะ energy ของเขามีส่วนช่วยดึงวงไปได้ไกลมากขึ้น อยากบอกว่าทำได้ดีในการบาลานซ์ตัวเองนะ

 

ปลั๊กกี้: ขอเสริมครับ พี่กฤตินเขาเป็นคนพูดเก่ง คอนเน็คชั่นเยอะมาก รู้จักคนทั้งในและนอกวงการ บางทีโอกาสดีๆ ที่ได้รับ ก็เพราะคอนเน็คชั่นของเขาด้วยนะ เขาเป็นทะเบียนราษฏร์ของวงครับ (หัวเราะ)

 

จั๋ง:   สำหรับปาล์ม เสมอต้นเสมอปลาย มีความเป็นเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบมากกว่าซะผม เขาเป็นคนที่จัดสรรอะไรต่างๆ ได้ดีที่สุดในวง เดี๋ยวนี้พูดเยอะขึ้นนะ แต่ก็เป็นกราฟต์นะ ขึ้นๆ ลงๆ บางวันก็พูดเยอะ บางวันก็ไม่พูด เดี๋ยวนี้เก่งรู้จักชวนคุยแล้ว ดีใจที่ปาล์มพูดกับพวกพี่บ้าง ไม่เก็บอะไรไว้คนเดียว ต้องบอกว่าช่วงแรกที่มี 4 คน การเต้นของพวกเรายังไม่แข็งแรงเท่าไร แต่พอมีปาล์มเข้ามา ภาพรวมแข็งแรงขึ้น และชัดขึ้น ทุกอย่างพุ่งไปข้างหน้า เขาช่วยดึงภาพให้เราแข็งแรงขึ้น เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่มาเติมเต็มให้วง

 

ปาล์ม:   ปลั๊กกี้เป็นเพื่อนคนแรกของผมในค่าย เขาคือสัมพันธไมตรีในการเข้ามาอยู่ในค่าย เข้ามาแรกๆ ผมเงียบมาก ไม่กล้าคุยกับใครเลย ก่อนเดบิวต์เป็นช่วงโควิด เราก็ซ้อมกันทาง zoom เจอกันทาง zoom พอเข้าค่ายมาแรกๆ ผมเป็นคนเงียบมากๆ ไม่กล้าคุยกับใคร

 

ปลั๊กกี้:  แล้วเน็ตบ้านปาล์มแย่มาก เต้นแล้วค้าง เต้นแล้วค้าง (หัวเราะ)

ปาล์ม:   ปลั๊กกี้ทำให้ผมรู้จักทุกคน อยากบอกปลั๊กกี้ให้พักผ่อนเยอะนะ เข้าใจว่าต้องเรียนด้วยทำงานด้วย เพราะเราก็ยังเรียนเหมือนกัน

กฤติน:  ขอบคุณวง PERSES ที่ทำให้เรารู้จักกัน ถึงแม้ว่าเมื่อก่อน ผมกับพี่เนจะอยู่โมเดลลิ่งเดียวกัน แต่ไม่เคยได้คุยกัน เพราะผมกับพี่เนแตกต่างกันมาก เวลารอแคสต์แม้จะนั่งใกล้กัน ก็ไม่มีทางคุยกัน อยู่ที่นี่เหมือนพี่เนทำให้ผมเย็นลงด้วย พี่เนเป็นเหมือนน้ำเย็น ผมเป็นไฟ บางทีผมอารมณ์ร้อน เจอพี่เนเข้าไปเย็นเลย เวลาผมบ่นอะไร พี่เนเขาก็จะคอย เออๆ รับฟังตลอด ขอบคุณที่รองรับ รับฟัง ขอบคุณที่เป็นเพื่อนเล่นกับผมเวลาผมเหงา ถึงแม้พี่เนจะไม่ตอบโต้อะไร พี่เนเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงมาก คอยช่วยเหลือทุกคนในกลุ่ม เป็นสวัสดิการ เป็นตากล้อง เป็นฝ่ายอาร์ตบ้าง ตัดต่อคลิป เวล่อยู่ในกองถ่ายจะอยเป็นทุกอย่างให้วง เขาเป็นคนรับทุกอย่างด้วยตัวเอง คงจะเหนื่อยแต่ไม่เคยบอก แต่หลังๆ เริ่มบ่นบ้างแล้ว ผมดีใจนะที่ได้ยินเขาบ่น เขาเริ่มพูดแล้วว่าเหนื่อย (หัวเราะ) ดีใจที่เขาพูดเยอะขึ้นครับ

 

Text: AuAi 

Photo: Auto, Pearwa

 

ติดตามข่าวสารและร่วมเป็นกำลังใจให้กับ PERSES ได้ทาง: Youtube: gnest_official, Instagram/Twitter /TikTok: @perses_official @gnest_official , Facebook: Perses และ Gnest รอไว้ได้เลย! #PERSES #PERSES_TH #GNEST #GMMMusic #TPOP