6 ตัวตึง กับ ปฏิบัติการกู้หวย The Lost Lotteries ที่พากันมาสร้างความฮาและเสียงหัวเราะ

account_circle
event

6 ตัวตึง กับ ปฏิบัติการกู้หวย The Lost Lotteries  ภาพยนตร์คอมเมดี้แนวเอาใจคนสู้ชีวิตแบบไม่ทิ้งเสียงฮาเรื่องนี้ นำทีมโดย สกาย มินนี่ แจ๊ส แพท ปาน และสมจิตร  และ เป็นผลงานการกำกับของ ตุ๋ย – พฤกษ์ เอมะรุจิ ที่ผลงานก่อนหน้าของเขาก็เคยครองใจผู้ชมชาวไทยจนติดอันดับชาร์ต Netflix มาแล้ว โดยผู้ชมจะได้พบกับภารกิจโคตรปั่นของเหล่าคนกระจอก ที่อาจหาญกล้าวางแผนชิงลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กลับคืนจากแก๊งมาเฟียตัวเอ้ ความฮาวายป่วงจึงเกิดขึ้นพร้อมกระสุนและระเบิดที่ปลิวว่อน! รับชมได้แล้ววันนี้ทาง Netflix

6 ตัวตึง กับ ปฏิบัติการกู้หวย The Lost Lotteries ที่พากันมาสร้างความฮาและเสียงหัวเราะ

 

สกาย – วงศ์รวี นทีธร 

 

ช่วยสปอยล์เรื่องราวของภาพยนตร์ The Lost Lotteries (ปฏิบัติการกู้หวย) ให้ฟังสักนิดค่ะ

คนกลุ่มหนึ่งที่มีเป้าหมายและความฝันเดียวกัน คือต้องการให้ชีวิตของตนเองมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวยขึ้น สำหรับพวกเขาสิ่งที่จะทำให้ความฝันเป็นจริงได้ก็คือ การถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แล้ววันหนึ่งความฝันของพวกเขาก็เป็นจริง พวกเขาถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อลอตเตอรี่ถูกขโมยไปด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งต้องไปรอชมกันในภาพยนตร์ครับ

 

เล่าถึงบทบาทที่ได้รับ

ผมรับบทเป็น “เต” ลูกชายของแม่ต้อย ซึ่งแสดงโดยพี่ปาน ธนพร เตเป็นคนที่ค่อนข้างเนิร์ด แต่ไม่ใช่เนิร์ดแบบเรียนได้ที่ 1 หรือเล่นกีฬาได้ที่ 1 แต่เป็นเนิร์ดแบบได้ที่ 2 ไม่เคยทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เตจะมีความคิดที่เป็นระบบ มีการวางแผน เจ้าแผนการ รักครอบครัว เขาอยากรวยเพื่อที่แม่จะได้สบาย ไม่ต้องทำงานหนักและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเขาเห็นความลำบากของแม่ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวมาโดยตลอด

 

บทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ แตกต่างจากคาแรคเตอร์ที่ผ่านมาอย่างไร

ตอนอ่านบทครั้งแรก รู้สึกว่าเรื่องดูตื่นเต้นแล้วก็น่าสนุกมาก อ่านบทจบผมก็อยากแสดงแล้ว ผมไม่เคยแสดงแนวแอคชั่นคอมเมดี้มาก่อน ทำให้ได้ท้าทายตัวเอง ทั้งการที่ต้องไปเรียนและซ้อมฉากแอคชั่นกับพี่ๆ ทีมงานสตั๊นท์แมนอันดับต้นๆ ของเมืองไทย รวมถึงการฝึกเล่นหมากรุก เตเป็นนักวางแผน เขาจะคิดเป็นระบบ ผมต้องไปรีเสิร์ชเรื่องลอตเตอรี่ว่าพี่ๆ คนขาย เขารับมาขายไปยังไง ผมอยากรู้เพื่อความสมจริงในการแสดง จะได้เข้าถึงความคิดของเตมากขึ้นครับ

เล่าถึงฉากประทับใจที่สุดคือฉากไหนคะ

มี 2 ฉากครับ ฉากดราม่าก็ประทับใจ เรื่องการเล่นแอคชั่นเป็นความฝันของผม เรื่องนี้ถือเป็นการเริ่มต้น ถึงแม้จะไม่ใช่แอคชั่นจริงจัง แต่เราก็ได้ไปฝึกไปซ้อมจริงกับพี่ๆ ที่เป็นมืออาชีพ แล้วก็ได้มาร่วมฉากแอคชั่นกับมินนี่ (ภัณฑิรา พิพิธยากร) พี่แจ๊ส (ผดุง ทรงแสง) พี่แพท (ณปภา ตันตระกูล) พี่สมจิตร (สมจิตร จงจอหอ) และพี่ปาน (ธนพร แวกประยูร) สนุกมากครับ ซีนที่เราจะไปทวงลอตเตอรี่คืนเป็นซีนที่มีบทแอคชั่นเยอะ ทั้งเตะต่อย ต่อยสลับมาเตะ สลับมาใช้มีด สลับมาโยนของ เป็นแอคชั่นที่มีอะไรให้เล่นเยอะ

 

ได้มาทำงานร่วมกับนักแสดงในเรื่องนี้ สนุกสนาน เฮฮาอย่างไรบ้าง

เรื่องนี้ผมได้เจอกับนักแสดงทุกคนเป็นครั้งแรกเลย ทั้งพี่ปาน พี่แจ๊ส พี่แพท พี่สมจิตร และก็มินนี่ครับ เริ่มจากพี่ปาน (รับบท ต้อย) คุณแม่ในเรื่องของผมก่อน เป็นคนที่สนุกและพลังงานล้นเหลือ พี่ปานจะเป็นเหมือนครูฝึกการใช้เสียง (Vocal Coach) ประจำกองถ่ายครับ สอนร้องเพลง วอร์มเสียง ส่วนพี่แจ๊ส (รับบท เหวิ่น) กับพี่สมจิตร (รับบท คุ้ง) ตอนแสดงเขาเข้าขากันจนเหมือนเป็นดูโอ้ ถ้าเข้าซีนกับพวกเขาแล้วผมสมาธิไม่ดีก็จะหลุดขำเลย ทั้งๆ ที่ซีนนั้นเป็นซีนดราม่า แต่พวกพี่ๆชอบปล่อยของ ผมกับมินนี่จะหลุดขำตลอดเวลาที่เข้าซีนด้วยครับ

ส่วนพี่แพท (รับบท โซ่) นั้นมีประสบการณ์การแสดงเยอะ ผมจะคอยสังเกตุว่าเขามีวิธีการเล่นยังไง เพราะตอนแรกผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าการเล่นคอมเมดี้น่าจะมีวิธีการเล่นที่แตกต่าง เพราะการแสดงต้องเพิ่มเบอร์ เพิ่มความคม ผมก็ครูพักลักจำมาจากพี่ๆ เขาครับ  สำหรับ มินนี่ (รับบท บีท)ในเรื่องนี้คาแรคเตอร์ของผมกับมินนี่จะมีความแตกต่างกัน ตัวละครของมินนี่จะค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่เราก็แสดงได้เข้าขากันดีครับ

 

แล้วประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้กำกับล่ะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมได้ทำงานกับพี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับ) ซึ่งสนุกดีครับ พี่ตุ๋ยเป็นคนที่มีภาพในใจชัดว่าเขาอยากได้อะไร พอได้แล้วก็จะไปซีนถัดไปเลย ยกเว้นถ้ามีเวลาเหลืออาจจะมีซีนที่เขาคิดออกหน้างานแล้วเห็นว่ามันดีก็เอามาเพิ่ม เช่น ซีนต่อสู้  ผมว่าพี่ตุ๋ยเป็นคนที่มีเซ้นส์ด้านคอมเมดี้ชัด และเป็นผู้กำกับที่เก่งมากครับ

หวังอยากให้คนดูได้ความรู้สึกอย่างไรกลับไปหลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

ผมอยากให้ทุกคนเห็นคุณค่าของคนที่อยู่รอบตัวเรา บางครั้งถ้าเราอาจพยายามทำงานหาเงินจนลืม หรือละเลยคนที่อยู่รอบตัวเรา ภาพยนตร์เรื่องนี้จะให้ข้อคิดกับคนดูว่าบางทีการที่เรามีคนที่เรารักอยู่รอบตัวนั้น มันสำคัญกว่าการที่มีเงินมากๆ เพราะถ้าเราไม่มีคนที่เรารัก แม้จะมีเงิน เราก็ไม่มีความสุขอยู่ดี เงินอาจจะสำคัญ แต่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดครับ ความสุขของคนเราต่างกัน และการได้มาซึ่งความสุขก็ต่างกัน ลอตเตอรี่ในเรื่องนี้เป็นเหมือนตัวแทนของความฝัน ตัวละครในเรื่องล้วนทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่มันยากเหลือเกินสำหรับพวกเขา ทำให้อีกหนทางที่จะทำได้คือการพึ่งพาโชคซึ่งก็คือลอตเตอรี่นั่นเองครับ

 

ซื้อลอตเตอรี่ไหมคะ และเคยถูกรางวัลบ้างไหม

ผมเคยซื้อลอตเตอรี่ตอนไปทำบุญที่วัดต่างจังหวัด ซึ่งผมคิดว่าถ้าเราเลือกซื้อเองก็ไม่น่าจะถูกรางวัลหรอก เราต้องให้แม่ค้าเลือกให้ ผมว่าแต่ละคนจะมีเคล็ดลับในการซื้อลอตเตอรี่ไม่เหมือนกัน ผมก็เลยลองทำดู แต่ก็ไม่ถูกครับ ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่ไม่ได้เชื่อเรื่องของการถูกลอตเตอรี่นะ แต่พอมาออกกองถ่าย ผมซื้อทุกงวดเลยวันที่ 1 และวันที่ 16 แต่ก็ไม่ถูกสักงวดครับ (หัวเราะ)

 

ความรู้สึกที่ภาพยนตร์จะถูกเผยแพร่สู่สายตาของผู้ชมทั่วโลกทาง Netflix

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้ร่วมงานในภาพยนตร์ของ Netflix ผมรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากครับที่ The Lost Lotteries จะได้เผยแพร่สู่สายตาผู้ชมกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ผมหวังว่าผู้ชมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศจะชื่นชอบกันนะครับ

 

มินนี่ – ภัณฑิรา พิพิธยากร 

 

คาแรคเตอร์ที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้มินนี่รับบทเป็นใครคะ

มินรับบทเป็น “บีท” เป็นเด็กห้าวๆ มุ่งมั่น พูดน้อยต่อยหนัก สู้ชีวิต แต่ก่อนบีทก็เป็นเด็กผู้หญิงธรรมดา  ที่มีพ่อเป็นช่างทำกุญแจ แต่วันหนึ่งพ่อประสบอุบัติเหตุถูกรถสปอร์ตชนจนตกอยู่ในอาการโคม่า ทำให้ชีวิตบีทพลิกผัน จากเด็กธรรมดาคนหนึ่ง กลายเป็นต้องทั้งเรียนและทำงานสานต่อร้านกุญแจของพ่อไปพร้อมๆ กัน ตัวละคร “บีท” จึงเป็นคนค่อนข้างมีกำแพงกับคนที่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย แต่พอรู้จักคุ้นเคยก็จะค่อยๆ เปิดใจได้ เป้าหมายของบีท คืออยากหาเงิน เพื่อจะได้จ้างทนายนำตัวไฮโซที่ขับรถชนพ่อมารับผิดตามกฎหมายให้ได้ และนำเงินมารักษาพ่อให้หายจากอาการโคม่า ซึ่งพอถูกลอตเตอรี่ บีทเลยมองว่าเงินจำนวน 6 ล้านบาทนั้น น่าจะทำอะไรได้เยอะ และสำคัญกับตัวเขามาก

 

บทบาทที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้ แตกต่างจากคาแรคเตอร์ในเรื่องอื่นที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง

หลังได้อ่านบทเรื่องนี้แล้วก็อยากเล่น และถือเป็นการท้าทายตัวเองด้านการแสดงในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเป็นแนวคอมเมดี้ ก่อนนี้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่กะจังหวะไม่ค่อยได้ แต่พี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ
ผู้กำกับ) บอกว่าทำได้ แล้วบทบีทจะห้าวๆ ซึ่งต่างจากเรื่องอื่นที่เคยเล่น ซึ่งส่วนมากคนดูจะเคยเห็นตัวเราในบทที่หวานๆ เรียบร้อย ก็เลยโอเค ลุย ลองดู! เลยได้พบว่าว่าการเล่นคอมเมดี้ยากนะคะ เป็นเรื่องของการแสดงแบบถูกที่ถูกเวลา แล้วก็มีเรื่องของคำด้วย คำที่เลือกใช้ หรือว่าจังหวะที่จะเข้าอะไรอย่างนี้ มีความละเอียดอ่อนหลายจุดค่ะ

ประทับใจฉากไหนในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ

A: เป็นซีนที่ตลกค่ะ คือเป็นซีนนาทีชีวิต แต่มีความคอมเมดี้ที่เราใส่เข้าไปอีก เป็นซีนที่เขาจ่อปืนแล้ว มีเรา พี่สมจิตร (สมจิตร จงจอหอ)พี่แจ๊ส (ผดุง ทรงแสง) พี่แพท (ณปภา ตันตระกูล) พี่ปาน (ธนพร แวกประยูร) แล้วพี่สกาย (วงศ์รวี นทีธร)  คิวแอคชั่นคือพี่สกายจะเข้าไปแย่งปืนที่เขาจ่อ พอแย่งเสร็จเขาจะยื้อยุดด้วยการที่แบบเอนซ้าย สมมุติปืนเอนซ้าย ทุกคนที่อยู่ที่รอบวงจะยืนเป็นวงกลม แล้วก็วิ่ง วิ่งแบบตามเข็มนาฬิกาค่ะ พอเปลี่ยนองศาของปืนทุกคนก็จะวิ่งตาม ซึ่งถ้ามองจากด้านบนจะเห็นเป็นเหมือนเข็มนาฬิกาแล้ววิ่งอยู่อย่างนี้ เลยรู้สึกว่าซีนนี้โดดเด่นและเป็นนาทีชีวิตที่ตลกดี แบบชีวิตจริงใครจะมาทำอย่างนี้ เรียกว่ามีความคอมเมดี้อยู่ในทุกมุม ต้องรอชมในภาพยนตร์ค่ะ

 

เล่าถึงประสบการณ์ในการถ่ายทำ และการร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆ

A: ไม่เคยร่วมงานกับใครมาก่อนเลยค่ะ ก็เลยตื่นเต้นมากว่าถ้าออกกองแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ทราบอยู่แล้วว่าพี่ๆ ทุกคนล้วนโดดเด่นในสายคอมเมดี้ วันที่ไปซ้อมอ่านบทเลยเกร็งมากค่ะ แต่พอได้ออกกองจริงๆ เลยได้พบว่าทุกคนสนิทและเข้ากันได้ง่ายกว่าที่คิด เหมือนมีเคมีบางอย่างที่แม้ว่ารู้สึกว่าคนกลุ่มนี้ไม่น่ามารวมตัวกันได้ ไม่น่าจะมาอยู่ในแบบแผนหรือว่าภารกิจเดียวกันอย่างนีได้ แต่พอเข้าซีนด้วยกันแล้ว ก็พบว่ามีเคมีแล้วก็พื้นเพ เรื่องราวคาแรคเตอร์ที่สร้างมาบางอย่างที่ทำให้ความเป็นหนึ่งเดียวนี้เป็นไปได้ค่ะ

 

แล้วการทำงานกับผู้กำกับเป็นอย่างไรบ้าง

พี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ) เวลาอยู่หน้ามอนิเตอร์ จะมีโฟกัสบางอย่างในการทำงาน และเป็นคนที่มีเป้าหมายชัดว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วถ้าได้สิ่งนั้นมาตามต้องการแล้ว ก็จะไปต่อเลยทันทีค่ะ ทำให้การทำงานราบรื่นมากๆ

หวังให้คนดูได้ความรู้สึกอย่างไรหลังจากที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

อยากให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายเหมือนเป็นวันที่ได้หยุดอีกหนึ่งวัน แล้วก็รู้สึกสนุกและมีความสุขไปกับเนื้อเรื่องค่ะ

 

ซื้อลอตเตอรี่บ่อยไหม และเคยถูกรางวัลบ้างไหมคะ

จากที่เคยซื้อก็ไม่เคยถูกรางวัลเลย หลังจากนั้นก็ไม่เคยคิดจะซื้ออีกเลยค่ะ ยกเว้นจะเป็นวันที่อยู่ๆ เราก็มีเลขในหัวขึ้นมา แล้วจังหวะเดินผ่านพี่คนขายลอตเตอรี่เรียกเราพอดีก็จะซื้อบ้าง แต่ไม่เคยคิด ไม่เคยหวังว่าจะถูกเลยค่ะ จริงๆ เป็นคนที่รู้สึกว่าเราต้องทำงานหนัก เพื่อที่จะได้บางสิ่งบางอย่างมากกว่าการเสี่ยงโชคแล้วได้มาค่ะ

 

ความรู้สึกที่ภาพยนตร์จะถูกเผยแพร่สู่สายตาของผู้ชมทั่วโลกทาง Netflix

จริงๆ รู้สึกว่ามุกในหนังจะเป็นมุกที่ดูเข้าใจและย่อยง่ายสำหรับคนไทย แล้วก็มีเรื่องของการลุ้นลอตเตอรี่ที่คนไทยค่อนข้างจะอินอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าต่างประเทศจะเป็นยังไง ผู้ชมจะขำกับมุกที่ใส่เข้าไปไหม หรือจะรู้สึกอย่างไรตอนที่ดูหนังของเรา ซึ่งก็เป็นความท้าทายอีกอย่างนึง แต่ก็เชื่อว่าแก่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเป็นสิ่งที่ผู้ชมจากทั่วโลกเข้าใจในสิ่งที่เราอยากสื่อสาร และสามารถมีความรู้สึกร่วมไปด้วยกันได้ เช่นการเอาใจช่วยตัวละครทุกตัวในภารกิจทวงคืนลอตเตอรี่ที่หายไปเป็นต้น อยากรอดูฟีดแบ็คด้วยค่ะ และก็ตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Netflix ค่ะ ประทับใจหลายอย่างเลย และรู้สึกว่าทุกอย่างดูเป็นระบบแบบแผน ทั้งเรื่องคิว เรื่องเวลา เรื่องนักแสดง และเรื่องของการป้องกันโควิดด้วยที่เขาซีเรียสมากๆ นับเป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ

 

แพท – ณปภา ตันตระกูล 

 

แนะนำตัวและเล่าถึงบทบาทที่ได้รับ

แพทนะคะ รับบทเป็น “โซ่” ค่ะ พริตตี้สาวสวยที่มีความสามารถหลากหลายค่ะ เป็นสายเอ็มซี พริตตี้ รีวิวได้หมด ขายได้ทุกอย่าง เหมือนชีวิตจริงเลย ให้ทำอะไรก็ทำได้หมดเลยค่ะ

 

สปอยล์ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ฟังสักนิด

A: เกี่ยวกับลอตเตอรี่ค่ะ ชีวิตเราคนไทยพอถึงวันที่ 1 กับวันที่ 16 จะมีความหวังค่ะ แล้วพอวันนึงที่โอกาสของเรามาถึงแล้วหลุดไปเนี่ย เราจะทำอย่างไร หรือความฝันว่าก่อนจะถึงวันที่ 1 กับวันที่ 16 ถ้าเกิดลอตเตอรี่ในมือเราเกิดถูกขึ้นมาเนี่ย เราจะใช้เงินตรงนั้นอย่างไร คือยังไม่ถูกนะแต่คิดไว้ก่อนแล้ว แพทเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีความหวัง สมมุติบางคนซื้อด้วยความสงสารคนที่มาขาย หรือบางคนซื้อเพื่อหวังรวย สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้คือหวังรวยค่ะ

 

ครั้งแรกที่ได้อ่านบทรู้สึกอย่างไร

รู้สึกว่าโซ่เป็นตัวเราเลย แพทว่าที่ทีมงานเลือกเรา เพราะว่าด้วยความที่ชีวิตจริง แพทเป็นสายรีวิวอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่แบบพริตตี้จ๋า แต่ว่าสายของเราก็คือรีวิว ทุกคนมีอะไรส่งให้เรารีวิว ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบจริง ๆ ตั้งแต่ของราคาย่อมเยาอย่างน้ำพริก ของดอง จนของแพงๆ อย่างเพชร เราทำได้หมด จะเป็นอาหารก็ได้หมด ก็เลยคิดว่าส่วนนึงคือ โซ่ เขาเป็นผู้หญิงปกติ แต่พอใส่ชุดอะไรเนี่ย เขาสามารถปรับตัวเองเป็นคาแรคเตอร์นั้นได้หมด แล้วลุคของแพทเวลาคนมองผ่านอินสตาแกรมหรืออื่นๆ  เราก็จะเป็นผู้หญิงที่เข้าถึงง่ายแต่มีความเซ็กซี่ ตลก แล้วก็บ้านๆ มั้งคะ

ตอนอ่านบทหลังทีมงานติดต่อเข้ามาให้ไปทำแคสติ้ง ซึ่งหลังจากนั้นเราก็ได้รับบทเป็นโซ่ สิ่งที่เขาให้เล่นเนี่ย เราบอกเลยว่ามันคือเราแหละ แต่ในเวอร์ชั่นอีกแบบนึง คือโซ่จะเป็น แพท ณปภา ใน เวอร์ชั่นพีค หมายถึงว่าไต่ไปอีกระดังนึง คือแพท ณปภา นั่นแหละ เพราะว่าชีวิตจริง ๆ อ่ะ แพทก็เป็นแบบนั้น ถ้าอยู่บ้านก็จะเป็นแบบคนธรรมดา ดูแลลูก แต่พอแบบสวมเป็นบทอะไร ชุดอะไร เราก็จะอินกับ คาแรคเตอร์นั้น เราก็เลยคิดว่าใกล้เคียงกัน

 

ชอบอะไรในตัวละครที่ได้รับมากที่สุด

ดตอนแรกที่ได้บทมาเรายังไม่เข้าใจไอเดีย จนพบว่าเขาอยากให้นำเสนอหลากหลายอาชีพว่าคนเราก็มีความหวังทุกคนแหละ หนึ่งในนั้นก็คือแพท ที่เราทำงานหนักแล้วสามารถทำได้หมด หรือว่าเราไม่เลือกที่จะเป็นทั้งพริตตี้ เอ็มซี ให้รถหรู น้ำปลาร้า ส้มตำ หรืออะไรก็ตาม เป็นเพราะว่าเราอยากรวย และเราก็เป็นคนนึงที่ลุ้นวันที่ 1 กับที่ 16 ทุกวัน ทุกครั้งเหมือนกัน โซ่เนี่ย ก็คือแพท ณปภา นั่นแหละค่ะ ด้วยความที่ตอนเราเล่นเนี่ย คาแรคเตอร์ไม่ได้เรียบร้อย ไม่ได้หวาน คาแรคเตอร์ของ โซ่ ก็คือแพท ณปภา ที่ไปเป็นโซ่ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราเล่นเป็นตัวเองค่ะ

เล่นเองรู้สึกอย่างไรกับโซ่

ในเรื่องโซ่จะเลี้ยงน้อง โซ่ก็คือแพทจริงๆ ชีวิตจริงของแพทคือลูก เราทำทุกอย่างเพื่อลูก

แม้แต่การที่เราจะถูกลอตเตอรี่ ในหัวเรายังคิดเลยว่าเงินครึ่งนึงหรือเกือบทั้งหมดก็ได้ เราให้ลูก ซึ่งในเรื่องโซ่เองก็ตั้งใจเพื่อน้องชาย มันแทบจะไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะ เราเข้าใจในตัวบททันทีว่าคนเรามีความฝัน แล้วความฝันของเราก็เกิดทุกวันที่ 1 กับ 16 ความฝันของโซ่ รวมถึงความฝันของแพทเองก็มีทุกวันที่ 1 กับ 16 เหมือนกัน อย่างน้อยก็ต้องมีติดมือทุกงวด แล้วก็หวังว่า เออซักวันมันจะเป็นโชคดีของเราและถ้าเราได้มาแล้วจะไปทำอะไรอะไรดี ซึ่งแพทคิดว่าคาแรคเตอร์มันใกล้เคียงกันมาก ๆ สุดท้ายแล้วโซ่เขาก็มีความฝัน ความหวังว่า ถ้าเกิดเขาได้เงินคืนจะเอาไปทำอะไรบ้าง

 

ภารกิจของโซ่ในเรื่องคืออะไร

ภารกิจของโซ่ในเรื่องก็คือเหมือนกับเพื่อน ๆ เลย เราซื้อทุกงวด ลุ้นทุกงวด แล้วงวดนี้เราถูก มันเป็นความฝันของเรา คือเรามีความฝัน เราแพลนไว้อยู่แล้วว่าเราถูก 6 ล้าน แล้วมันหายไปไหนความฝันนั้น เพราะฉะนั้นภารกิจของเราคือเอาเงินตัวเองคืนมา

 

อะไรคือความท้าทายในการเล่นเป็นตัวละครนี้

อย่างแรกคือโซ่แต่งตัวเยอะมาก ชีวิตจริงแพทไม่ได้แต่งขนาดนี้ อย่างเช่นชุดอวกาศที่นั่งสัมภาษณ์อยู่ตอนนี้ ฉันไม่ใส่แบบนี้รีวิว โซ่เขาเป็นพริตตี้ เพราะฉะนั้นธีมงานเป็นอะไร เขาก็ต้องใส่แบบนั้น ลูกค้าต้องการอวกาศ ฉันก็ต้องไปอวกาศกับเขา ลูกค้าต้องการชุดรัดรูป เห็นทรวดทรง เราก็ต้องไปกับเขา แต่ถ้าในชีวิตจริง ๆ ของแพท ลูกค้าแค่อยากให้เราเป็นเราเท่านั้นเอง ถ้าถามว่าโซ่เหมือนแพทตรงไหน คือเวลาเรารับงาน เราก็เลือกไม่ได้เหมือนกัน เวลาเราเล่นละคร เขาอยากให้เราตีทรงกระทุ่มที่เราไม่ชอบเลย เราก็ต้องทำ เพราะคาแรคเตอร์เราเป็นแบบนั้น เราไม่เห็นอยากใส่ผ้าแถบตลอดเวลา เราอยากใส่สไบบ้างก็ไม่ได้ เพราะว่าบทเรามันไม่ใช่ มันก็เหมือนกับโซ่ ที่เรารับงานไปแล้ว ลูกค้าอยากให้เราทำอะไร แต่งตัวแบบไหนเราก็ทำ เวลาเราเสนออะไรไปพี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับ) ซื้อหมด เขาคงมองเราว่า โดยปกติเนี่ย เราก็ทำอย่างงี้อยู่แล้วในแบบของเรา อย่างเช่น เวลาเรารีวิวขนมหรืออะไร แพทก็เป็นแบบ “โอ๊ยคุณแม่ มันอร่อย” ตอนเล่นหนังแพทก็ทำอย่างงี้ “อ้า มันอร่อย” พี่ตุ๋ยก็ซื้อ ไม่มีปฏิเสธ

 

เตรียมตัวอย่างไรบ้างสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้

นอกจากเตรียมลิปสติก โซ่จะเหนื่อยที่สุด คือพวกฉากบู๊ แบบเป็นบู๊ตลก คือสุดท้ายแล้ว แพทรู้สึกว่าเล่นเรื่องนี้สบายมาก เหมือนเล่นเป็นตัวเอง เราขายอะไรไปแล้วมันตอบโจทย์ มันใช่ ทั้ง 6 คนที่เราทำงานด้วยกัน ก็มีคาแรคเตอร์ของตัวเองชัดเจน ไม่มีใครต้องเปลี่ยนตัวเอง แพท ก็เอาแพทเข้าไปเล่นเป็นโซ่ พี่แจ๊สก็เล่นเป็นพี่เหวิ่นในแบบของเขา คาแรคเตอร์ที่เปลี่ยนเพราะว่าแต่ละคนเขามืออาชีพ

ทำให้คาแรคเตอร์ของเราชัดขึ้น แต่เราไม่ต้องเล่นหนัก เพราะมันชัดด้วยชุด ด้วยคาแรคเตอร์ของเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องเล่นอะไรให้มันชัดมาก เพราะมันชัดจากตัวเรา พี่เหวิ่นเอง พี่คุ้งเอง มันทางเขาอยู่แล้ว ส่วนฉากแอคชั่นเราไม่ต้องซ้อม เพราะเราโดนซ้อมค่ะ เราก็เลยไม่ต้องซ้อมอะไรเลย เราแค่รับเข่าจากเขาให้ถูกจังหวะเท่านั้นเอง

 

 ประสบการณ์การทำงานร่วมกับนักแสดงของเรื่องนี้เป็นอย่างไร

สนุกนะคะตอนเข้าฉากอยู่ด้วยกัน ทุกคนเล่นเป็นตัวเอง แล้วก็คิดคาแรคเตอร์มาแล้วว่าจะเล่นแบบไหน ก็เลยออกมาไม่ซ้ำกันเลย ทุกคนเป็นตัวเองในแบบของตัวเองที่ออกมาแล้วสนุก ถ้าให้แพทไล่เลยนะ เริ่มจากพระเอกของเรื่องก่อน น้องสกายที่เล่นเป็นเตเนี่ย เขาไม่จำเป็นต้องเล่นหล่อเขาหล่ออยู่แล้ว เวลาเล่นเขาอินคาแรคเตอร์จะเล่นแนวแบบ “เอ๊ะ” “อ๋อ” หรืออะไรประมาณนี้ ในบทเขาเป็นคนที่กำกับเรื่องทั้งหมด คือเป็นคนเล่าเรื่อง เพราะฉะนั้นเขาก็จะเป็นคนดำเนินเรื่อง

ส่วนพี่ปานก็เล่นเป็นตัวเองในแบบของตัวเองที่พูดไม่เยอะ ในเรื่องจะไม่มีใครพูดเยอะเท่าพระเอกเลย แต่ก็จะมีคนที่พูดเยอะอีก 2 คนก็คือพี่แจ๊สกับพี่สมจิตร ซึ่งด้วยคาแรคเตอร์กับบท ชัดเจนอยู่แล้วว่าพี่แจ๊สจะเล่นในแบบของเขาเลย คิดอะไรได้เขาเผื่อแผ่ด้วย เผื่อแผ่กันอยู่ 2 คน คุณสมจิตรกับคุณแจ๊ส “อันนี้ไม่คม เอาอันนี้ดีกว่าพี่” อะไรแบบนี้ ซึ่งมันลงตัวมากๆ น้องมินนี่ในเรื่องพูดน้อยมาก น้อยที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา ในเรื่องเขาจะเป็นคนติดหูฟังมีโลกของเขาจะไม่ค่อยพูด จะพูดในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น เป็นแบบเซอร์ๆ นิ่งๆ จะมาแบบยิงนิดเดียวแล้วได้ใจความ

 

เคยร่วมงานกับนักแสดงในเรื่องนี้คนไหนมาก่อนบ้าง

เคยร่วมงานกับพี่แจ๊สและน้องสกาย ส่วนพี่สมจิตรเคยผ่านกันไปกันมาแต่ยังไม่เคยได้ร่วมงานกันเต็มๆ แบบเรื่องนี้ กับพี่ปานก็เจอกันตามรายการ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เล่นด้วยกันยาวๆ แบบ 10 กว่าวัน ส่วนน้องมินนี่ยังไม่เคยร่วมงานกันเลยค่ะ แต่เคมีของทั้ง 6 คนลงตัวมาก เพราะคาแรกเตอร์ของแต่ละคนมันชัด และทุกคนเล่นในแบบของตัวเองที่มันพอดีมากๆ

ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้กำกับเป็นอย่างไร

เรื่องนี้เป็นการร่วมงานกับพี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ) เป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ เพราะฉะนั้นการทำงานกับพี่ตุ๋ยเลยง่ายมาก เพราะพี่ตุ๋ยรู้อยู่แล้วว่าแพททำอะไรได้หรือทำอะไรไม่ได้ ตอนไปแคสต์ พี่ตุ๋ยให้แพทลองเล่นหมดทุกแบบเลย แพทเลยมองว่าที่พี่ตุ๋ยเลือกเรา น่าจะเพราะเขาเห็นอะไรในตัวเราที่มันตรงกับ

คาแรกเตอร์ พี่ตุ๋ยคงดูมาแล้วว่าบทนี้แหละคือแพท เป็นสายเซ็กซี่ได้ ตลกได้ มันไปได้ในบทแบบนี้ แต่ตอนอยู่หน้ากองพี่ตุ๋ยจะเป็นคนพูดน้อยค่ะ เพราะพี่เขาต้องคิดตลอดว่าจะเพิ่มตรงไหน ยังขาดตรงไหน แล้วเขาจะเหมือนมีไอเดียตลอดเวลา เป็นคนประเภทพูดน้อยแต่ต่อยหนัก

 

ฉากที่ประทับใจที่สุดคือฉากไหน

ชอบทุกฉากเลย พอได้ทำงานร่วมกัน เวลาสิ่งที่เราคิดกับสิ่งที่ออกมามันไปทางเดียวกัน แล้วเรารู้สึกว่าคนดูต้องชอบแน่ๆ ขนาดเราเล่นเรายังมียิ้มเลย แล้วบทก็ส่งทุกคนเลย ประทับใจที่ทีมงานทำให้ตัวละคร 6 ตัวสามารถได้บทที่ส่งได้เท่าๆ กัน ฉากตลกก็ตลกทุกฉาก มันไม่มีหัวตลก ตรงกลางดรอปลง ท้ายกลับมาตลกใหม่ ไม่มีแบบนั้น ตลกหมด เราเล่นเองเรายังรู้เลยว่าทีมงานวางบาลานซ์มาให้เราหมดแล้ว

 

อยากให้คนดูได้ความรู้สึกอย่างไรกลับไปหลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

แพทเชื่อว่าคนดูจะอินกับหนังเรื่องนี้ เพราะมันเป็นพล็อตที่เกิดจากเรื่องจริง มันคือความหวังของหลายๆ คน มันคือความหวังทุกวันที่ 1 กับ 16 ว่าเมื่อไรจะถึงตาเรา เราเองก็อยากได้ แต่ทุกครั้งที่เราอ่านข่าว มันจะไม่ใช่เราที่เป็นคนถูกรางวัล แต่เป็นคุณพี่ที่ซื้อแค่ 2 ใบเพราะฝันดี เราก็จะคิดว่า “โห ฉันก็ฝัน ทำไมไม่ฝันเรื่องเดียวกัน ขอ 3 ตัวหน้า 2 ตัวหลัง” อะไรแบบนี้ หรือแม้แต่เจอข่าวคนซื้อเพราะอยากช่วยอุดหนุนคนขาย แล้วบังเอิญถูกรางวัล 30 ล้าน เราแบบ “ขอซัก 6 ล้านได้รึเปล่า” เดือนนึงเราลุ้นกันอยู่ 2 ครั้ง แล้วทุกคนก็หวังทุกครั้งให้เป็นเรา หนังเรื่องนี้มันจะสะท้อนว่าทุกคนอยากมีวันนั้น และทุกคนก็มี
แพลนที่จะใช้กับเงินในอนาคต ถึงแม้จะยังไม่ได้ แต่ทุกคนมีแพลนแล้วว่าถ้าได้จะใช้ไปกับอะไร

 

ชอบซื้อลอตเตอรี่ไหมและเคยถูกรางวัลบ้างไหม

ไม่เคยเลย แพทจะซื้อเพราะบางทีเราเห็นคนขายเป็นคุณป้า คุณยาย หรือคนที่อาจจะไม่ได้สมบูรณ์บ้าง แล้วเราเห็นเขาเหนื่อยเราก็จะช่วยเขาซื้อมากกว่า แต่ถามว่าหวังไหม ก็ตรวจรางวัลตลอดนะ ใจตอนซื้อคือช่วยคน แต่พอถึงเวลาก็ตรวจซิ ใครจะไปรู้ ตรวจหน่อย แต่งวดที่จะถึงเนี่ย ฝันนะ จดเลย ก็คาดหวังว่าจะได้บ้าง แต่ถ้าไม่ได้ก็จะบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร ถ้าถูกมันอาจจะไปขัดกับดวงงานของเรา งานเรามันอาจจะดรอปก็ได้ เพราะเราได้เงินจากตรงนี้ไปแล้ว อันนี้เป็นการคิดเข้าข้างตัวเอง ให้ตัวเองสบายใจ แต่บอกไม่ได้นะว่าฝันเห็นอะไร เดี๋ยวเลขเคลื่อน (หัวเราะ)

 

ผ่านงานแสดงมาหลายเรื่องสำหรับเรื่องนี้คาดหวังมากน้อยเพียงใดที่ภาพยนตร์จะถูกเผยแพร่สู่สายตาของผู้ชมทั่วโลกทาง Netflix

รู้สึกดีใจมากๆ นะคะที่ได้รับเลือกมาเล่น ยิ่งเป็นภาพยนตร์ที่เป็นคอนเทนต์ไทยของ Netflix ด้วยก็ดีใจมาก แล้วก็จะได้เผยแพร่ไปทั่วโลกด้วย แต่อีกสิ่งหนึ่งเลยคือเพื่อนๆ นักแสดงทุกคนเป็นคนที่แพทอยากร่วมงานด้วยเต็มๆ มาตั้งนานแล้ว และนี่คือครั้งแรก ตอนแรกแพทยังไม่รู้เลยนะว่าจะได้เล่นกับใครบ้าง เพราะรับงานนี้เพราะบทของเรา แต่วันที่ไปอ่านบทแล้วรู้ว่าได้เล่นกับใครบ้าง นี่คือสิ่งที่แพทพูดกับตัวเอง คือ “เราเลือกถูกแล้ว” ตอนแรกแพทกลัวเหนื่อยเหมือนกัน เพราะเรารับละครไปแล้ว และคิวถ่าย 10 วันก็หนักอยู่เหมือนกัน ลังเลมาก แต่บทน่ารักจังเลย บทมันคือเรามาก ก็เลยตอบตกลง แล้วพอมาได้เล่นเต็มๆ ได้อ่านบทเต็มๆ ได้ทำงานเต็มๆ ก็รู้สึกว่าขนาดเราเล่นเองเรายังสนุกเลย เราก็เลยไม่ได้คาดหวัง แต่เราคิดว่าคนดูต้องสนุกไปกับเราแน่ๆ ค่ะ

 

 

ปาน – ธนพร แวกประยูร

คาแรคเตอร์ที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไร

รับบทเป็น “แม่ต้อย” แม่ของเต ซึ่งรับบทโดย สกาย (วงศ์รวี นทีธร) เป็นผู้หญิงต่างจังหวัดที่เป็นแม่เลี่ยงเดี่ยว ถูกสามีทิ้งในขณะที่กำลังท้องแก่ ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงลูกชายคนเดียว เป็นคนที่จำเป็นต้องเข้มแข็งเพราะว่ามีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องดูแล เรียกได้ว่าย้ายหัวใจที่เคยเศร้ามาอยู่ที่ลูก พอกันทีกับความเศร้าทั้งหมด ตอนนี้ทั้งชีวิตฉันต้องทำเพื่อลูก แม่ต้อยจึงพาลูกย้ายมากรุงเทพฯ และมีอาชีพเป็นคนขายลอตเตอรี่ ตัวละครนี้จะดุ ปากร้าย เพราะชีวิตเขาต้องดิ้นรนทำมาหากิน จึงไม่ได้มีการแสดงออกด้านความรักกับลูกมากมาย แต่ลึกๆ คือรักมาก เป็นความรักที่รู้กัน ดูแลซึ่งกันและกัน แม่ต้อยเป็นหัวใจของเต เตก็เป็นหัวใจของแม่ต้อย สองแม่ลูกจับมือฝ่าฟันชีวิต เพื่อเป้าหมายที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น

 

บทบาทที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้ แตกต่างจากคาแรคเตอร์ในเรื่องอื่นที่ผ่านมาอย่างไร

คิดว่าเรื่องนี้เป็นตลกร้าย จากที่พูดกับคุณตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับ) ก็เห็นตรงกันว่า “แม่ต้อย” เขาซ่อนความระทมทุกข์อยู่ภายใต้ความตลก ภายใต้เสียงหัวเราะนั้น ลึกๆ แล้วมีน้ำตาข้างใน ตอนอ่านบทก็ชั่งใจอยู่ เพราะว่ายังไม่เคยแสดงภาพยนตร์หรือละครมาก่อน ที่ผ่านมาเล่นแต่ละครเวทีซึ่งเป็นอีกศาสตร์หนึ่ง และไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลย แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้ว จึงตัดสินใจลองดู ลองเปิดประสบการณ์ให้ตัวเองได้ทำอะไรใหม่ๆ

การแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ให้ประสบการณ์หลายอย่าง ได้เห็นมุมมองอะไรเพิ่มขึ้น ได้เห็นชีวิตคนที่เราต้องแสดงเป็นเขาเหล่านั้น เมื่อก่อนเราเห็นคนหาเช้ากินค่ำตามท้องถนนในทุกวัน ไม่เคยรู้รายละเอียดในชีวิตเขา เมื่อได้ลองเล่นเรื่องนี้ทำให้เห็นรายละเอีดต่างๆ ในชีวิตของเขามากขึ้น ว่าเขากินข้าวกันแบบนี้ มีชีวิตแบบนี้ ช่วงก่อนเล่นจะทำการบ้านด้วยการสังเกตแม่ค้าขายลอตเตอรี่ว่าเขาทำอะไร แต่งตัว นั่งขาย มีชีวิตอย่างไร เพราะถ้าเราแสดงไปด้วยความรู้สึกที่อินหรือเข้าใจจริงๆ เราจะเข้าใจเขาในฐานะมนุษย์มากขึ้น และถ่ายทอดออกมาได้ดีขึ้น บทบาทของแม่ต้อยเป็นตัวละครที่ค่อนข้างจริง คือเป็นมนุษย์ปกติมากๆ ที่ไม่มีมายา ไม่มีความซับซ้อนอะไร ไม่มีความรู้มากมาย ไม่มีอะไรสูงส่ง รู้แค่ว่าตัวเองต้องทำมาหากิน ต้องหาข้าวกลับมาให้ลูกกิน ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าคนที่เขาต้องมีชีวิตวันต่อวัน เขาไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นหรอก เขารู้แค่ว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรกินแค่นั้นเอง ซึ่งต่างจากตัวละครอื่นที่เคยแสดง

ฉากที่ประทับใจที่สุดคือฉากไหน

เป็นฉากที่อยู่กับลูก เป็นโมเม้นต์ที่ไม่ต้องมีบทพูดอะไรกัน แต่คุณตุ๋ย เขาจะเก็บบรรยากาศเวลาแม่ลูก            ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พี่รู้สึกว่ามันเป็นความลึกซึ้งของแม่ลูก สองแม่ลูกอยู่ภายใต้หลังคาสังกะสี  นอนดูทีวีเก่าๆ ตีกัน แกล้งกัน ทะเลาะกันบ้าง แต่ทำไมตัวละครดูไม่เป็นทุกข์นะ เขาก็อยู่ด้วยกันได้ รู้สึกว่าชอบโมเม้นต์ที่เป็นแบบนี้ รู้สึกว่านี่คือ “ความอบอุ่น” เวลาผู้ชมได้ดูหนังเรื่องนี้ก็จะเห็นถึงความสัมพันธ์ เห็นความรักของสองแม่ลูกได้โดยง่าย โดยที่ไม่ต้องพูดคำว่ารักออกมาสักคำ

 

เล่าถึงประสบการณ์ในการถ่ายทำ และการร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆ

A: เพราะเขาเป็นมืออาชีพ ในเรื่องการแสดงเขาส่งและช่วยเราด้วยซ้ำ สำหรับนักแสดงคนอื่น จะเจอกันในบางฉากที่ต้องวางแผนร่วมกัน มีพี่สมจิตร (สมจิตร จงจอหอ)  แจ๊ส  (ผดุง ทรงแสง)  น้องแพท (ณปภา ตันตระกูล) และมินนี่ (ภัณฑิรา พิพิธยากร)  แสดงร่วมกับพวกเขาสนุก บรรยากาศในกองถ่ายก็สนุก รู้สึกว่าการได้ทำงานร่วมกันทำให้เราได้รับเอาพลังงานดีๆ เข้ามา แล้วก็ได้เห็นความสามารถของแต่ละคนที่ช่วยกัน ส่งกัน กลายเป็นมิตรภาพที่น่ารักมาก และเราก็ได้ทำงานกับคนรุ่นใหม่ ที่ทำให้เราเห็นอะไรบางอย่างในตัวเขา เราเห็นไฟ เห็นวิธีคิด เห็นความอดทนในตัวเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีนะ

 

ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้กำกับเป็นอย่างไร

เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับคุณตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ) เขาเป็นคนเงียบๆ แต่พอกำกับเขาจะชัดเจนว่าอยากได้แบบนี้ ส่วนใหญ่ถ้าบรีฟเสร็จแล้ว และเราเข้าใจพอสมควร เขาจะปล่อยให้เราแสดงไป แต่ถ้าตรงไหนที่อยากได้จริงๆ ถึงจะบอกว่าอันนี้ผมอยากได้ อันนี้พี่เพิ่มตรงนี้ให้หน่อย ตรงนี้ผมชอบแล้วนะ พี่มีความสุขดีที่ได้ทำงานกับคุณตุ๋ย เขาไม่ตีกรอบเยอะ แล้วก็ปล่อยให้เราแสดงแบบอิสระ

6 ตัวตึง กับ ปฏิบัติการกู้หวย

อยากให้คนดูได้ความรู้สึกอย่างไรกลับไปหลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

อยากให้ผู้ชมรู้สึกอิ่มเอมและมีความสนุกกับหนังคอมเมดี้เรื่องนี้  คนดูจะได้เห็นอะไรหลายต่อหลายอย่าง ภายใต้เสียงหัวเราะก็มีครบรส มีน้ำตา ลึกๆ มีสะเทือนใจบ้างในบางจังหวะ อาจจะไม่ถึงกับน้ำตาไหล แต่น่าจะสะเทือนใจและสงสารในชะตากรรมของตัวละคร สงสารที่เขาต้องดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อให้มีความหวัง

 

ในชีวิตจริงมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับลอตเตอรี่อย่างไรบ้าง เคยถูกรางวัลบ้างไหม

เมื่อก่อนคือไม่ซื้อเลย แต่พักหลังลองซื้อสนุกๆ แบบใบสองใบ ซึ่งไม่เคยถูกเลย ก็เลยคิดว่าตัวเองคงไม่มีดวงด้านนี้  ในหนังเรื่องนี้ ลอตเตอรี่เป็นความหวังของคนที่เสี่ยงโชค เป็นการวัดดวง สุดท้ายจริงๆ คือทุกคนอยากจะมีทางลัด อยากได้รางวัลอะไรบางอย่างให้กับชีวิต เพราะฉะนั้นลอตเตอรี่จึงเหมือนเป็นความหวัง ทุกวันที่ 1 กับ 16 จะมีการสั่นสะเทือนกันมากมาย มีกระแส มีเลขอะไรมา แล้วก็จะเห็นหน้าฟีดในโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและสมหวังของหลายๆ คน

 

 เรื่องนี้คาดหวังมากน้อยเพียงใดที่ภาพยนตร์จะถูกเผยแพร่สู่สายตาของผู้ชมทั่วโลกทาง Netflix

เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องแรก และไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งเราจะได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่จะเผยแพร่ไปทั่วโลก การได้ร่วมงานกับ Netflix เป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อได้รับโอกาสมา ก็อยากทำให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นความประทับใจและจะเป็นความทรงจำที่ดีอีกเรื่องหนึ่งในชีวิต ขอขอบคุณ Netflix มากๆ ที่ให้โอกาส

 

  แจ๊ส – ผดุง ทรงแสง 

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลอตเตอรี่ ลอตเตอรี่ที่เราจะต้องไปตามหา ไปเอาคืนมาด้วยวิธีที่แยบยลครับ

 

 คาแรคเตอร์ที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไร

รับบทเป็น “เหวิ่น” มีอาชีพเป็นตัวประกอบในกองถ่ายที่มีความฝันอยากเป็นนักแสดงที่โด่งดังเหมือน คนอื่นเขา แต่สิ่งที่ได้กับสิ่งที่คิดกลับไม่เหมือนกัน เหวิ่นเป็นคนทะเล้น กวนๆ แบบรุ่นใหญ่ พูดจาไม่ค่อยเข้าหูใคร แต่ในตอนท้ายเรื่องจะมีจุดพลิกของตัวละครตัวนี้อยู่ ซึ่งต้องไปตามชมในภาพยนตร์ครับ

 บทบาทที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้ แตกต่างจากคาแรคเตอร์ในเรื่องอื่นที่ผ่านมาอย่างไร

เป็นบทที่น่าสนใจ พอได้อ่านแล้วก็จินตนาการตามว่าภาพจะเป็นอย่างไร และค่อนข้างโอเคที่ทางผู้สร้างบอกให้เป็นตัวเราเองโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากมาย อาจมีเพียงการเพิ่มเติมในส่วนของคาแรคเตอร์เล็กน้อย ส่วนความแตกต่างกับบทบาทในเรื่องอื่น มีความแตกต่างในคาแรคเตอร์บางอย่าง เราจะมีจังหวะการเล่นมากขึ้น แบบพอดีๆ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป แต่ยังคงมีความเป็นเราอยู่ในนั้นครับ

 

 ประทับใจฉากไหนในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ

ประทับใจทุกฉากเลยครับ อยู่กับทีมนักแสดงแล้วสนุก อบอุ่น ไม่เครียด พี่ๆ น้องๆ นักแสดงก็น่ารักด้วย

 

 เล่าถึงประสบการณ์ในการถ่ายทำ และการร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆ

เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับสกาย  (วงศ์รวี นทีธร) และมินนี่ (ภัณฑิรา พิพิธยากร) แต่พี่สมจิตร (สมจิตร จงจอหอ) กับแพท (ณปภา ตันตระกูล) เจอกันบ่อยมาก บรรยากาศในการทำงานกลมเกลียว ไม่เกร็ง ไม่ประหม่า เล่นไปก็หัวเราะกันไปบ้าง ใครสงสัยอะไรก็ถาม เราทำงานเป็นทีมเวิร์ค แล้วก็ถือว่าเป็นทีมที่เวิร์คเหมือนกัน เพราะว่าเราช่วยกันและแบ่งปันประสบการณ์ของแต่ละคน

 

การทำงานกับผู้กำกับเป็นอย่างไร

ผมเคยร่วมงานกับพี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับ) มาแล้ว แต่ในรูปแบบของซิทคอม พี่ตุ๋ยเป็นคนที่เข้าใจบทบาทของแต่ละ ทำงานด้วยแล้วไม่เครียด สบายๆ เป็นคนใจเย็นมาก และมีการวางแผนงานมาดีหมด ทำให้การทำงานราบรื่นไปด้วยดี

 

 อยากให้คนดูได้ความรู้สึกอย่างไรกลับไปหลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

อยากให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้กินของหวานที่ใส่ทุกอย่างไว้ครบครัน เหมือนกินรวมมิตรที่ไม่ใช่มีแค่ทับทิมกรอบ หรือมันเชื่อมเพียงอย่างเดียว คือเราใส่รวมทุกอย่างไว้ในนั้น ได้ครบรสจริงๆ ทั้งคอมเมดี้และดราม่า อยากให้ทุกคนสนุกสนานไปกับเรื่องนี้ด้วยกัน  ขนาดบรรยากาศในการถ่ายทำยังสนุก เราเล่นเอง เรายังหัวเราะออกมาเอง แล้วถ้าเราเองยังสนุก เชื่อว่าผู้ชมก็น่าจะต้องชอบ ผมขอฝากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งนักแสดง ผู้กำกับ ทีมงานทุกคนตั้งใจกันจริงๆ และวางแผนงานกันนานก่อนจะเกิดภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา ทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจมากๆครับ

6 ตัวตึง กับ ปฏิบัติการกู้หวย

ในชีวิตจริงมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับลอตเตอรี่อย่างไรบ้าง เคยถูกรางวัลบ้างไหม

ภรรยาผมซื้อ เขาอยากถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นความฝันเขาเลย คือทั้งได้เงินและมีค่าทางจิตใจด้วย เป็นแบบนั้นตั้งแต่สมัยรุ่นตา รุ่นยายเขาแล้ว ถ้ามีรถลอตเตอรี่มาจอดหน้าบ้านจะเหมาเลย คนขายลอตเตอรี่จะปั่นจักรยานไปขายที่ไหนมาก็แล้วแต่ แจง (ภรรยา) จะเป็นคนซื้อที่เหลือหมดเกือบทุกงวด บางทีซื้อ 8,000 ถูก 3,000 ซื้อ 10,000 กว่า ถูก 6,000 เขาก็ไม่ท้อ แต่ว่าก็ยังไม่ถูกเต็มๆ สักที คนไทยส่วนใหญ่ซื้อลอตเตอรี่เยอะ เรียกได้ว่าอยู่คู่กับคนไทย ถ้าพูดกันธรรมดาคือเหมือนเป็นการเสี่ยงโชคที่ถูกกฎหมาย บางคนมีเงินอยู่แล้ว แต่ก็ยังชอบซื้อชอบลุ้น หรือบางคนไม่มี ก็ซื้อเพื่อหวังว่าตัวเองจะรวย หรือบางคนซื้อไว้เผื่อถูก ผมว่ามันเป็นการเสี่ยงโชคที่สนุกดีเหมือนกัน

 

เรื่องนี้คาดหวังมากน้อยเพียงใดที่ภาพยนตร์จะถูกเผยแพร่สู่สายตาของผู้ชมทั่วโลกทาง Netflix

ตื่นเต้น เพราะเราได้ทำงานกับต่างประเทศเป็นครั้งแรกในผลงานถูกผลิตโดยคนไทย แล้วเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าเสียงตอบรับจะเป็นยอย่างไร มุกที่เราเล่นไป คนทั่วโลกจะขำไปกับเราไหม เพราะถูกแปลภาษาไปทั่วโลกด้วย แล้วการวันหนึ่งที่เราเข้า Netflix ไปดูภาพยนตร์ที่เป็นผลงานของตัวเองคงจะเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ อยากรู้เหมือนกันว่าเวลาพอผลงานเราเผยแพร่ใน Netflix แล้ว ภาพจะออกมาเป็นแบบไหน ผลตอบรับจะเป็นอย่างไรหลังจากเผยแพร่ไปทั่วโลก

 

สมจิตร จงจอหอ 

 

 แนะนำตัวและเล่าถึงบทบาทที่ได้รับ

ผม สมจิตร จงจอหอ ครับ รับบทเป็น “คุ้ง” เซลล์แมนที่ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพ เลยฝากความหวังไว้กับลอตเตอรี่เพราะอยากรวย ซึ่งสุดท้ายก็โชคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่ลอตเตอรี่หาย เลยต้องหาทางไปเอาลอตเตอรี่นั้นกลับคืนมาให้ได้ครับ

 

เล่าถึงความรู้สึกครั้งแรกที่ได้อ่านบท

ผมอ่านบทแล้วสนุกมาก รู้สึกว่าบทแปลกใหม่ ไม่เคยเล่นหนังแบบนี้ บทเรื่องนี้จะให้พระเอกเป็นคนเดินเรื่อง เล่าเรื่องต่างๆ แล้วตัดสลับกับตัวละครอื่นๆ และตัวละครก็มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน ต่างคนต่างอาชีพ แต่สุดท้ายได้มาเจอกัน ถึงไม่ได้เป็นพี่น้องกัน แต่มีความรักความสามัคคีกันที่จะปฏิบัติภารกิจนี้ให้สำเร็จ และสุดท้ายจะสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามชมครับ

 

ชอบอะไรในบทที่ได้รับมากที่สุด

ชอบความเป็นคุ้งทั้งหมดครับ จริงๆ แล้วชอบบทของทุกคนเลยนะ ผมมองว่าแต่ละคนต่างคนต่างช่วยกัน เพราะว่าภารกิจของแต่ละคนก็ล้วนสำคัญไม่แพ้กัน ผมชอบบททุกตอนที่ให้มา ถึงแม้บางทีไม่มีบทพูดเลย มีแค่การแสดงสีหน้า  ทุกบท ทุกตอน ทุกซีนที่ให้มา คิดว่าทุกอย่างสำคัญสำหรับตัวคุ้งครับ

6 ตัวตึง กับ ปฏิบัติการกู้หวย

ภารกิจของคุ้งในเรื่องคืออะไร

ภารกิจของคุ้งมีหลายอย่างครับ พระเอกจะเป็นคนแบ่งหน้าที่ว่าคุ้งต้องทำอะไร ใครต้องทำอะไร เพราะเขาเป็นคนวางแผนทั้งหมด ผมเองก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่พระเอกบอก

 

บทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ แตกต่างจากคาแรคเตอร์ที่ผ่านมาอย่างไร

เป็นเรื่องแรกที่ฉีกความเป็นตัวเองมากนะครับ ไม่เหมือนตัวละครอื่น ไม่เหมือนหนังเรื่องอื่นที่เคยเล่นมา ก็ต้องบอกว่าเป็นความสร้างสรรค์ของผู้กำกับและทุกๆ คน ขอบคุณให้โอกาสเรา อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้าว่าผลชอบบทคุ้งทุกตอน ทุกอย่างมีมิติ มีความสำคัญมาก พี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ ผู้กำกับ) ไม่ให้ผ่านง่ายๆ ถึงแม้จะไม่มีบทพูดก็ต้องให้มีอะไรเกี่ยวกับซีนนั้น ไม่ว่าจะให้เห็นดวงตา เห็นใบหน้า ที่สื่อสารออกมา นั่นแสดงว่าเขาเองก็ให้ความสำคัญกับตัวคุ้งมาก ผมเองก็ภูมิใจครับที่ได้เล่นบทคุ้งแล้วก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุดครับ

 

อะไรคือความท้าทายในการเล่นเป็นตัวละครนี้

การปลอมตัวครับ ต้องปลอมตัวเป็นนักมวย ซึ่งคุ้งต่อยมวยไม่เป็น แต่ขึ้นเวทีไปก็พยายามต่อยเต็มที่ คุ้ง เคยเป็นนักมวยแต่ว่าต่อยมวยมาน้อยเหลือเกิน แค่เพียง 2-3 ไฟต์ พอได้รับภารกิจที่จะต้องเอาไปแลกกับเงิน 6 ล้าน ซึ่งเป็นเงินของเขา จึงยอมทำทุกอย่าง ยอมปลอมตัว ยอมเจ็บตัว ต่อยมวยให้เก่ง  ตัวผมที่จริงๆ ต่อยมวยเป็นก็ต้องพยายามทำให้ดูขัดๆ เขินๆ นะให้ดูแล้วไม่เก่ง พยายามนึกถึงตอนที่เราเรียนมวยใหม่ๆ ฝึกมวยใหม่ๆ ต้องยืนยังไง ต้องต่อยยังไง

 

มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้

ผมจะพยายามนึกว่าจะต้องทำยังไงที่จะให้ถ่ายทอดคาแรคเตอร์เป็นสองคนในคนเดียวให้ได้ อย่างตอนคุ้งเป็นเซลล์แมนที่ต้องพูดขายของ ก็พยายามทำความเข้าใจว่า ไม่รู้คนที่เราพูดด้วยจะซื้อของเราไหม พยายามนำเสนอทุกอย่างโดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะตอบรับในสิ่งที่เรานำเสนอหรือไม่ แต่สิ่งนึงที่มันตอบโจทย์ได้คือการถ่ายทอดความพยายามของคุ้งที่ทำแล้วทำอีก ผมพยายามนึกถึงคาแรคเตอร์ของมิสเตอร์บีน รั่ว ๆ หน่อย ทำตามความรู้สึกเหมือนต่อยมวย โดนเขาเตะก้านคอก็พูดว่า “รอแป๊บ เดี๋ยวมา” แล้วยกเอาขาเขาออกเป็นต้น เป็นบทที่เรานึกไม่ถึง รู้สึกว่าเราต้องทำบทนั้นให้ได้ แม้จะงงๆ แต่ก็มั่นใจในตัวเองอยู่ครับ

 

ประสบการณ์การทำงานร่วมกับนักแสดงของเรื่องนี้เป็นอย่างไร

เรารู้จังหวะจะโคนกัน รู้มุกกัน ว่าจะเล่นมุกอะไร แจ๊ส (ผดุง ทรงแสง) เป็นตัวนำมุกครับ ก็มีผม มีแจ๊ส แล้วก็มีแพท (ณปภา ตันตระกูล) หลัก ๆ ก็ 3 คน ผมเคยเจอกับแจ๊สกับแพท ในรายการสัมภาษณ์ รายการเกม แต่ไม่ได้คุยกัน อย่างมินนี่ (ภัณฑิรา พิพิธยากร) กับสกาย (วงศ์รวี นทีธร) ไม่เคยร่วมงานกันเลย พอรู้จักกันวันแรกก็สนิทกันเลยครับ การทำงานง่ายมาก เพราะว่าเรามาอยู่กองถ่าย มันเป็นการเปิดใจเข้าหากัน ไม่มีใครกั๊ก อยากเล่น อยากพูดอะไร ก็ละลายพฤติกรรมเข้าหากัน เหมือนเรารู้จักกันมานานแล้ว คุณแพทเขาจะสวยมากองเลยนะ มาถึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ถ่ายได้เลย แจ๊สจะเป็นแนวสบายๆ ยิ้มๆ มากองก็ส่งมุกกันนิดหน่อยก่อนทำงาน สกายเป็นเด็กที่น่ารัก อ่อนน้อมถ่อมตน อยากจะเรียนรู้ มุกตลก เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เข้าใจโลก หัวไว ส่วนมินนี่เป็นเด็กกินเก่งครับ อยู่กองนี้รู้สึกว่าง่ายต่อการใช้ชีวิตมาก อยากกินไรดีๆ อร่อยๆ มินนี่จัดให้ โชคดีมาก ส่วนพี่ปานเป็นแม่พระครับ ต้องบอกว่าเป็นรุ่นใหญ่ ผมคุยเรื่องพระ เรื่องเจ้า เรื่องการปฏิบัติธรรม เขาก็จะแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ ด้วย

 

ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้กำกับเป็นอย่างไร

ครั้งแรกที่ผมรู้จักพี่ตุ๋ย (พฤกษ์ เอมะรุจิ) คิดว่าเขาน่าจะดุ แต่พอได้เข้ากองถ่าย เขาช่วยเติม ช่วยต่อมุกให้ เราอยากนำเสนออะไร นำเสนอมาก่อน เอาไม่เอาเดี๋ยวว่าอีกที มันเป็นการทำงานที่บางสิ่งบางอย่างเขาเป็นครู แต่ก็สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ด้วย “สมจิตรพูดอย่างนี้ให้หน่อย เติมความรู้สึกนี้ได้เลย หรือเติมแววตาให้หน่อย” ทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นผู้กำกับที่ให้โอกาสเรามาก เสริมความรู้ให้กับเรา ให้โอกาสเสริมมุกโดยที่ไม่จำกัดแค่ในบท ทำงานแล้วรู้สึกดีใจ ภูมิใจ มั่นใจ ถ้าเป็นมวย เตะต่อยมั่นใจ เหมือนมีพี่เลี้ยงที่ดี เหมือนมีโค้ชที่ดี ก็เลยรู้สึกว่าทำงานสบายมาก ไม่มีวันไหนที่เราเครียดเลยครับ

 

 

ฉากที่ประทับใจที่สุดคือฉากไหน

ถ้าความเป็นคุ้ง ผมชอบทุกฉาก แต่ฉากที่ผมชอบมากคือ ฉากที่เพื่อนจะตายและต้องสั่งเสียกัน บทช่วงนี้ซึ้งมาก เพราะว่าเป็นเพื่อนปฏิบัติภารกิจเดียวกัน เราจึงรู้สึกสงสารเพื่อนหากจะต้องจากไป สงสารคนที่ร่วมปฏิบัติภารกิจมาด้วยกัน ส่วนอีกฉากที่ชอบจะเป็นฉากที่ต้องปลอมตัว แล้วก็เปิดตัวรถถัง ตอนประจันหน้ากับรถถัง (รถถัง จิตรเมืองนนท์) ผู้กำกับบอกว่า “ให้ทำสีหน้าไม่ต้องกลัว ให้นึกว่าเราคือสมจิตร ขู่มันไว้ แต่ในใจกลัว สีหน้าสู้ แต่ใจกลัว” ผมก็เล่นอยู่ 2-3 เทคได้ รถถังบอกว่า “พี่คือไอดอลของผมเลย ผมชอบพี่มาก บนเวทีไม่ต้องออมมือนะ ผมก็ไม่ออมมือพี่เช่นกัน” ผมก็ผยองเลยสุดท้ายก็ทำได้ครับ จริงทุก ๆ ฉาก ที่ได้เข้ามันมีคุณค่าสำหรับตัวผมมาก มันเป็นส่วนนึงของเนื้อเรื่องเลยชอบทุกฉากครับ

6 ตัวตึง กับ ปฏิบัติการกู้หวย

อยากให้คนดูได้รับความรู้สึกอย่างไรกลับไปหลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

เรื่องราวในภาพยนตร์จะเกี่ยวกับคนในหลายๆ อาชีพ ที่ต่างก็ตั้งใจทำงานเพราะอยากอยู่ดีกินดี อยากมีความสุข อยากมีเงิน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพพ่อค้า แม่ขาย หากเรามีความพยายาม มีความเพียรกับสิ่งสิ่งนั้น  ก็จะเกิดเป็นความสุขกับตัวเราเอง แล้วความสำเร็จมันอาจจะตามมาก็ได้ เพราะฉะนั้นจงมีความรักและความศรัทธาในอาชีพของเราที่ทำอยู่ ถ้าเรามีความเพียรความพยายาม อาชีพนั้นอาจจะสำเร็จก็ได้ครับ

 

ความสำคัญของลอตเตอรี่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไร

ผมว่ามันเป็นความสำคัญของคนไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ความหวังของเราทุกคนหรือกำลังใจบางสิ่งบางอย่างทำให้เกิดความสุข ถึงแม้จะเป็นความสุขเล็กๆ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็มีความสุขและมีความหวัง คนเราอยู่ด้วยความหวัง เราก็หวังว่าพรุ่งนี้จะดี หวังว่าพรุ่งนี้เราจะทำงานได้ดี หวังว่าพรุ่งนี้เราจะมีความสุข หวังว่าพรุ่งนี้เราจะรวย ผมเชื่อว่าคนไทยที่รู้จักลอตเตอรี่ต้องเคยซื้อและมีความหวัง สุดท้ายแล้วรอฟัง รอโชคดี พอดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันตรงกับคนไทย ตรงใจคนดู ถ้าถูกรางวัลที่ 1 จะดีใจแค่ไหน ดูในเรื่องนี้ได้เลยว่ามันสุดยอดครับ

 

ความรู้สึกที่ภาพยนตร์จะถูกเผยแพร่สู่สายตาของผู้ชมทั่วโลกทาง Netflix

เป็นเรื่องแรกของผมที่จะออกสู่สายตาผู้ชมกว่า 190 ประเทศทั่วโลก เรื่องนี้เราตั้งใจมากครับ ตั้งใจทุกอย่าง อ่านบทกัน ซ้อมบทกัน ซ้อมคิวบู๊กัน ตั้งแต่บ่ายจนถึงตีสี่ตีห้า อยากจะให้งานที่เราทำออกมายอดเยี่ยม หวังว่าพอเรื่องนี้ถูกพากย์เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ จะยังตลก สนุก เหมือนที่เราเล่น และหวังว่าคนไทยจะดูกันเยอะๆนะครับ ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านครับ ที่มองเห็นนักมวยตัวเล็กๆ อย่างผม ขอบคุณที่ให้โอกาสร่วมงานกับ Netflix ครับ

เรียบเรียง: AuAi Photo: Netflix /Virunan Chiddaycha