เปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์สุดคูล OURS อาณาจักรแห่งความสุขของ อิน สาริน รณเกียรติ ซึ่งงานนี้หนุ่มอินเป็นคนบุกเบิกเริ่มต้น ก่อร่างสร้างแบบตั้งแต่ยังเป็นที่ดินเก่าของครอบครัว โดยปรับอาคารเดิมที่เป็นโรงเรียนเก่า จนกลายเป็นคอมมูนิตี้มอลล์สุดคูลที่พร้อมมอบความสุขให้กับทุกคน
ไปบุกอาณาจักรแห่งใหม่ของอินครั้งนี้ เรามีบทสัมภาษณ์ถึงความตั้งใจในการทำโปรเจ็กต์นี้ และภาพแฟชั่นมาฝากแฟนๆ อีกด้วย
เปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์สุดคูล OURS อาณาจักรแห่งความสุขของ อิน สาริน รณเกียรติ
กว่าจะมาเป็นโครงการ OURS
อินเริ่มนับหนึ่ง นับศูนย์ตั้งแต่มาดูพื้นที่ เป็นที่ดินของครอบครัวที่ซื้อเก็บไว้ เดิมเป็นโรงเรียนเก่าที่ปิดกิจการไปแล้ว เราก็รื้อหมด เก็บโครงเก่าไว้นิดเดียว อยากเปิดพื้นที่ให้โล่งที่สุดคครับ
อินเต็มที่ตั้งแต่การวางแผนงาน ถึงเราจะจบด้านสถาปัตยกรรมมาก็จริง แต่สิ่งที่เราเจอบางอย่างมันไม่ได้มีสอนในตำราเรียนครับ มันมีสิ่งที่เราต้องมาเจอเอง เรียนรู้เองในการทำงาน ยอมรับว่าโครงการนี้เหนื่อยมากจริง ไหนจะทำไม่ไหล ไฟดับ ก่อสร้างผิดแบบก็มีครับ ช่วงที่ก่อสร้างอินมาทุกวัน เพราะมีปัญหาที่เราต้องแก้ทุกวัน แก้นู่นแก้นี่กับช่างหน้างาน
ทุกขั้นตอนทำอินปวดหัวมาก แต่ที่มากหน่อยคือเรื่องการออกแบบ สถาปนิคเขียนมาแบบนี้ ช่างหน้างานทำอีกแบบ เราเป็นคนกลาง ก็ต้องคอยเคลียร์ คือเราก็เข้าใจได้นะว่าบางจุดมองในกระดาษก็ดูไม่ออก บางอย่างทำออกมาไม่สวยเหมือนในรูป ก็ต้องแก้ไข ทุกอย่างทุกจุดเราอยากให้ดีที่สุด สวยที่สุด เป๊ะที่สุด เพื่อที่ทุกคนมาจะมีความสุข ได้เจอวิวสวยๆ สวนสวยๆ เมนูร่อยๆ
ลูกหลานที่เติบโตมากับครอบครัวทำอสังหาริมทรัพย์
ครอบครัวอินทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ยอมรับว่าจุดนี้ทำให้เราซึมซับการทำงานนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เรารู้สึกว่างานด้านอสังหาฯ ไม่ใช่เรื่องไกลสำหรับ เพราะพื้นฐานเราเห็นงานสไตล์นี้มาตั้งแต่เด็กๆ อินอยู่กับป๊ากับอากงเราจะเห็นท่านทั้งสองทำงานอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เด็กๆ ประมาณ ป.1 ป.2 เรื่องงานอยู่แล้ว อินตามป๊ากับอากงไปเก็บค่าเช่าบ่อยๆ นั่งอยู่เบาะหลัง สมัยก่อนอากงปล่อยเช่าที่ดิน
พอมาถึงยุคป่าป๊า ก็มีการต่อยอดจากอากง มาทำลานจอด ทำอพาร์ทเม้นท์ โกดัง ทำตึกแถวขาย คุณแม่ก็มาช่วยบ้าง นั่นเลยเป็นที่มาว่า พอมาถึงรุ่นเรา เลยเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัว เป็นการต่อยอดจากรุ่นอากงและรุ่นคุณพ่อ บวกกับอินมีใจรักเรื่องการบริการ เลยอยากทำโครงการที่ให้คนมาแล้วได้ชิลเอาท์ มีความสุขกับการได้ใช้เวลาในสถานที่สวยๆ ที่เราตั้งใจทำครับ
ครอบครัวไม่ได้คาดหวังแต่ปูทางให้แบบเนียนๆ
การที่อินเรียนสถาปัตยกรรม ครอบครัวอินไม่ได้บังคับหรือคาดหวังอะไรเลยนะ อย่างที่บอกว่าเราซึมซับเองมาตั้งแต่เด็กๆ โชคดีที่อินชัดเจนว่าจะมาทางนี้ตั้งแต่เด็กๆ เขาก็เลยแฮปปี้กัน อีกอย่างด้วยอาจจะเป็นเทคนิคของป๊ากับอากงด้วยมั้งครับที่พาเราไปดูการทำงานตั้งแต่เด็กๆ อย่างป๊าก็จะชอบพาไปประกวดวาดรูป สร้างพื้นฐานความชอบให้เรา ให้เราซึมซับด้านศิลปะตั้งแต่เด็ก แล้วสุดท้ายอินก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย ในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง แต่เรียนดีขึ้นได้เพราะขยันมากพอ
อินไม่ใช่เด็กเรียนดีตั้งแต่เด็กๆ สมัยมัธยมเรียนไม่เก่งเท่าไร มาเรียนดีช่วงมหาวิทยาลัยครับ คือมาถึงจุดนี้แล้ว เราต้องตัง้ใจ เพราะเรียนยาก เรียนหนัก แล้วเพื่อนๆ เก่งกันหมด เหมือนเป็นภาคบังคับให้เรา เคล็ดลับเรียนดีของอินคือ ขยัน ตอนมัธยมอินสอบเลขได้ 1.5 บางทีก็ได้ศูนย์ ศูนย์ไม่พอติด -1 เพราะครูจับได้ว่าลอกเพื่อน คือไม่เข้าใจเลย ได้แค่บวกลบคูณหาร อย่าถามถึงสมการ ไม่ได้เลย นั่นเพราะเราไม่ขยัน
พอถึงช่วงที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ม. 6 เลยคิดได้ว่าลองสักตั้งดู หันมาตั้งใจเรียน ตั้งใจอ่านหนังสือ ซึ่งมันทำให้อินได้รู้ว่า คนเราอยากทำอะไรทำได้หมด เพียงแค่เราต้องมีความพยายาม พยายามให้มากพอ และเรียนจบ ปี 4 ด้วยเกรด 3.5 อินไม่ได้เรียนเก่งนะ แต่เราแค่ตั้งใจ จากที่เคยนั่งหลังสุด ก็มานั่งข้าง ได้แชร์ความรู้มุมมองกับเพื่อนที่นั่งข้างหน้า บางคนก็เรียนสุด บางคนก็ทั้งเรียนสุด เที่ยวสุด เอาแค่ในห้องเรียนเราก็ได้เรียนรู้คนหลากหลายแบบแล้วครับ
ผันตัวเองเป็นนักแสดงอิสระพร้อมลุยทุกโอกาสที่เข้ามา
งานในวงการอินยังไม่ทิ้งนะครับ เรายังอยากเล่นหนัง เล่นซีรีส์ และละคร ในฐานะนักแสดงอิสระ ยังรับทุกงานอยู่ครับ รับได้หมดทุกช่อง ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องดูบทที่เราชอบด้วย ส่วนแพลนงานอื่นเร็วๆ ที่ดูไว้คือ อินมีโปรเจ็คที่อยากทำเอง คือเราเป็นคนชอบดูเรียลตี้มาก เลยอยากจะทำเรียลตี้แนวท่องเที่ยว โดยหาแคสต์ที่มีคาแร็คเตอร์ที่ต่างกันมาอยู่ด้วยกัน คาดว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งโปรเจ็คท์ในฐานะผู้จัดของเรา
งานธุรกิจ VS งานในวงการบันเทิง แตกต่างแต่ทำแล้วที่มีความสุขเหมือนกัน
งานด้านบริหารธุรกิจของตัวเอง กับงานในวงการบันเทิง ทั้งสองงานเป็นงานที่อินทำแล้วมีความสุขมาก อินเป็นคนเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข งานอีกฝั่งหนึ่งเน้นเรื่องอารมณ์และความรู้สึก อีกฝั่งหนึ่งใช้การวางแผน และเตรียมงาน
เวลาคนดูงานแสดงแล้วชอบผลงานเรา เรามีความสุข ส่วนเวลาคนเข้าร้านของเรา แล้วบอกว่าอาหารอร่อย แค่นี้หัวใจก็พองโตแล้ว ความสุขของอินมีแค่นั้นเลย เรื่องงานเป็นรอง ทำเต็มที่ทุกอย่าง ทำให้ถึง แล้วลูกค้าจะรู้ถึงความตั้งใจของเรา เขาจะรู้ว่าซื่อสัตย์ ว่านี่คือความตั้งใจของเรา
อินขอฝากโครงการ OURS ซอยเจริญนคร 10 ด้วยนะครับ คอมมูนิตี้มอลล์ที่เป็น Eatery & Wellness มาพักผ่อน ชิลเอาท์ในวันหยุด มากับครอบครัว มากับเพื่อน กับคนรักก็ตอบโจทย์ได้หมด มีสวนสวยๆ มุมสวยให้ถ่ายรูปได้เยอะเลย อาหาร และขนมอร่อยทุกร้านเลยครับ
Text: AuAi Photo: เนาวพจน์
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เคมีแอน-เคน สมการรอคอยในซุปตาร์ 2550 เจอกันในรอบ 12 ปี ครั้งนี้ไม่ธรรมดา
บัว-นลินทิพย์ สกุลอ่องอำไพ กับ 10 ปีในวงการบันเทิงที่ทำให้หลงรักการแสดงอย่างเต็มหัวใจ