จะเรียกว่าเป็นปรากฏการณ์อีกครั้งของวงการหนังไทยก็ว่าได้ เมื่อมีภาพยนตร์ที่ไทยจับนักแสดงตัวท็อปจากหลากหลายสัญชาติมาลงจอในเรื่องเดียวกัน
สุดสัปดาห์มีโอกาสได้ถ่ายปกแฟชั่นออนไลน์กับ 4 นักแสดงจาก “ร้านของเก่า” ได้แก่ มีน พีรวิชญ์ จากประเทศไทย, BAEJINYOUNG จากประเทศเกาหลี, Xu Bin จากประเทศสิงคโปร์ และ Rio Dewanto จากประเทศอินโดนีเซีย ขอบอกเลยว่าถึงแม้ทั้ง 4 คนจะมาจากหลากหลายประเทศ และต่างสไตล์กัน แต่เคมีเข้าขากันสุด แถมแต่ละคนยังโพสท่าเก่งกินกันไม่ลง ความหล่อ 4 คน 4 สไตล์ แทบทำเอาเลนส์กล้องระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
ไหนๆ ก็มีโอกาสได้เจอตัวกันพร้อมหน้า แค่ถ่ายแบบคงไม่พอ ขอจับทั้ง 4 หนุ่มแห่งร้านของเก่า The Antique Shop มาพูดคุยกันสักหน่อยละกัน
จับเข่านั่งคุยกับ 4 นักแสดงจากเรื่อง “ร้านของเก่า”
อยากให้แต่ละคนแนะนำคาแร็กเตอร์ของตัวเองที่ได้รับ รวมถึงตอนที่ตัวเองแสดงหน่อยค่ะ
มีน พีรวิชญ์ : มีนรับเป็น “แชมป์” จากตอน “Happy Birthday” นะครับ คาแร็กเตอร์ของแชมป์จะเป็นหัวหน้าแก๊ง หัวโจกที่จะรุมบุลลี่ “ซง” ตอนเด็กที่รับบทโดยแพจินยอง แล้วเหมือนเวลาผ่านไป ซงกลับมาชวนพวกเราไปงานปาร์ตี้วันเกิดอีกครั้งนึงที่บ้าน ก็รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในงานปาร์ตี้นั้นครับ
BAEJINYOUNG : สวัสดีครับ ผมแพจินยอง รับบทเป็น “ซง” ครับ ในหนังเรื่องร้านของเก่า ตอน Happy Birthday ซงจะมีคาแร็กเตอร์ที่มีความแค้นฝังหุ่นกับการโดนรุมกลั่นแกล้งจากคุณมีนและเพื่อนๆ ตั้งแต่ตอนเด็ก
Xu Bin : สวัสดีครับ ผม Xu Bin มาจากประเทศสิงคโปร์ครับ ผมรับบทเป็น “แอนดี้” เป็นนักธุรกิจที่มาเยี่ยมชมร้านขายของเก่าต่างๆ ครับ บทของแอนดี้เป็นบทที่ผูกเรื่องทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันครับ
Rio Dewanto : สวัสดีครับ ผม Rio Dewanto มาจากประเทศอินโดนีเซีย ผมรับบทเป็น “วาดิ” คนขับรถของมาเฟียใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งวาดิมาจากครอบครัวที่ฐานะยากจน เขาเลยดิ้นรนมาก ทำให้สุดท้ายเขาต้องมาเผชิญกับสถานการณ์บางอย่างที่ลำบากมากๆ โดยชื่อตอนของผมชื่อว่า “เก้าอี้มรณะ” ครับ
บรรยากาศตอนเจอหน้าเพื่อนนักแสดงครั้งแรกเป็นยังไงบ้างคะ พอรู้จักแล้วต่างจากภาพที่คิดไหม
มีน พีรวิชญ์ : เรื่องของมีนจะเข้ากับคุณแพจินยองเป็นหลักครับ แต่ตอนเจอพร้อมกัน 4 คนก็น่าจะเมื่อวานเลยครับที่เจอกันครั้งแรก พอได้เจอกันเป็นบรรยากาศที่สนุกดีมากๆ เลยครับ คุยกันเข้าใจบ้างไม่เข้าบ้าง (หัวเราะ) แต่เป็นสถานการณ์ที่สนุกดีครับ
BAEJINYOUNG : จริงๆ ผมจะถ่ายทำกับคุณมีนเป็นหลักอยู่แล้ว เลยได้เจอกันในกองถ่ายครับ นอกจากคุณมีนจะเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากๆ อันนี้ต้องยอมรับเลยครับ และคุณมีนยังนิสัยค่อนข้างเป็นกันเอง เราเข้ากันได้ดีครับ
แต่ว่ากับทางคุณ Xu Bin เพิ่งได้เจอกันเมื่อวานครับ แต่ว่าความประทับใจแรกคือหล่อมาก แม้ว่าเราจะอายุต่างกัน แต่คุณ Xu Bin ดูแลผมดีมากครับ ผมเลยรู้สึกขอบคุณมากๆ เลยครับ
ส่วนคุณ Rio Dewanto เพิ่งเจอครั้งแรกเมื่อวานเหมือนกันครับ ตอนเจอครั้งแรกรู้สึกว่าเขาเท่มากครับ แต่วันนี้พอได้สัมภาษณ์ด้วยกัน สิ่งที่ผมเห็นอีกอย่างคือรู้สึกว่าเขาเป็นคนเซนส์ดีมาก เป็นนักแสดงที่ตลกมากเลยครับ
Xu Bin : ถ้าพูดถึงครั้งแรกที่เรา 4 คนได้เจอกันก็คือเมื่อวานนี้ ผมเจอคุณ Rio ครั้งแรก เราคลิกกันทันทีเลยครับ คุยกันไม่หยุดเลยครับ คุยกันเรื่องลูก คุยเรื่องโน่นเรื่องนี่ คุยกันน้ำไหลไฟดับเลยครับ รู้สึกว่าคลิกกันมากๆ เลยครับ
ส่วนคุณมีน ผมเคยมาประเทศไทยแล้วเกิดคลาดกัน เสียดายมากๆ เลยครับ แทนที่จะได้เจอกันนิดนึง แต่ก็ไม่ได้เจอกัน แต่พอเจอกัน คุณมีนเป็นคนที่ดูโฟกัสกับงานมากๆ เงียบๆ สุภาพ แล้วก็เป็นคนยิ้มตลอดเวลานะครับ อันนี้เป็นความรู้สึกที่มีต่อคุณมีน
ส่วนคุณแพจินยองนะครับ ตอนเจอครั้งแรกตกใจมากครับ รู้สึกว่าผู้ชายอะไรทำไมหล่อขนาดนี้ ผิวดีมาก ผมชอบจ้องหน้าของเขาตลอด เพื่อดูผิวของเขา ผิวสดใสมากๆ เลย มีออร่าของความเป็นไอดอลออกมาเต็มเปี่ยมเลยจริงๆ
Rio Dewanto : ตอนที่ผมได้เจอทุกคนครั้งแรก ผมรู้สึกว่าทุกคนดูเด็กจังเลย รู้สึกตัวเองดูแก่ไปเลยเมื่อเทียบกับทุกคน (หัวเราะ) แล้วไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะมีโอกาสได้มานั่งข้างๆ กับพวกเขาแบบนี้ ซึ่งคุณมีนมีแฟนคลับอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียเยอะมากเลยครับ เป็นดาราที่ยอดนิยมในประเทศของผม คุณ Xu Bin เองก็เช่นกัน
แล้วคุณแพจินยองก็เคยไปจัดคอนเสิร์ตที่จาการ์ตาด้วยนะครับ เหมือนเราเคยรู้จักเขา แต่ผมไม่เคยมีโอกาสได้เจอเขาตัวจริงมาก่อน ก็รู้สึกประทับใจมาก แล้วก็หวังว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้อีกที่จะได้ร่วมงานกับทุกคน เพราะว่าผมชอบทุกคนมากๆ ครับ
อยากให้เล่าบรรยากาศถ่ายทำให้ฟังหน่อยค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง
มีน พีรวิชญ์ : เราถ่ายทำเร็วมากเลยครับ ผมคิดว่าใช้เวลาถ่ายจริงๆ แค่ 1 สัปดาห์ ทุกอย่างมันราบรื่นและบรรยากาศค่อนข้างชิลล์ อาจจะมีช่วงนึงที่คุณแพจินยองป่วยนิดหน่อย แล้วทุกคนก็กังวลว่าเขาจะเป็นยังไงบ้าง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับผม คุณแพจินยองมีสปริตมากเลยครับ
BAEJINYOUNG : เหมือนที่คุณมีนบอกเลยครับ การถ่ายทำผ่านไปรวดเร็วมากครับ ผมค่อนข้างรู้สึกเสียดายด้วยซ้ำที่เวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้ จริงๆ ผมอยากจะใช้เวลาพูดคุยกับทั้งมีนและนักแสดงคนอื่นๆ ให้มากกว่านี้ครับ
Xu Bin : เป็นช่วงเวลาที่สั้นนะครับ แต่รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ เลยครับ รู้สึกคุ้มค่ามากๆ และถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ครับ ตอนแรกก็คิดว่าจะมีอุปสรรคเรื่องภาษาบ้าง ปรากฏว่ารู้สึกไม่มีเลย รู้สึกว่าทุกอย่างราบรื่นมากครับ
Rio Dewanto : ผมรู้สึกว่าทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์มากๆ เลยครับ ไม่สามารถจะขออะไรที่มากกว่านี้ได้อีก เพราะการทำภาพยนตร์สักเรื่องนึง เป็นความร่วมมือของหลายๆ ฝ่ายด้วยกัน อย่างในส่วนของผม ผมก็โฟกัสในฐานะนักแสดง พยายามจะโฟกัสไปที่บทและการตีความตัวละคร แล้วก็แชร์ให้กับผู้กำกับฟังครับ
ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นแนวสยองขวัญ ปกติแต่ละคนกลัวผีหรือความสยองขวัญไหม เชื่อในพวกเรื่องลี้ลับไหมคะ
Xu Bin : ผมเชื่อครับว่ามีจริง ผมรู้สึกได้เวลาที่เราเข้าไปในที่ที่ดูขนลุก รู้สึกมีอะไรไม่ชอบมาพากล ผมจะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างครับ
Rio Dewanto : ผมก็คิดเหมือนคุณ Xu Bin ครับ เวลาที่เราไปที่ที่มีพลังงานบางอย่าง จะรู้สึกได้ครับ เราก็แค่ต้องเคารพและไม่ลบหลู่ครับ
BAEJINYOUNG : แม้ว่าผมจะไม่เคยเจอ แต่ผมเชื่อว่ามี โดยเฉพาะเมมเบอร์ในวง CIX เล่าให้ผมฟังบ่อยๆ ว่าเขาเจอผี แต่ตัวผมยังไม่เคยเจอครับ
มีน พีรวิชญ์ : มีนก็เชื่อครับ แต่ไม่เคยเจอตัวเป็นๆ แต่เคยเจอเป็นเสียง เป็นโน่นนั่นนี่ หรือเห็นเป็นเงาๆ เป็นอะไรแบบนี้ แต่ไม่เคยเจอครับ และไม่อยากเจอด้วย แล้วก็เชื่อเรื่องพลังความดีด้วยครับ ผมเชื่อว่าจะความดีจะคุ้มครองเราได้
แล้วมีเรื่องอะไรน่ากลัวหรือชวนขนลุกในกองถ่ายไหมคะ
Rio Dewanto : ของผมวันสุดท้ายก็หลอนอยู่ครับ เพราะไม่รู้มีอะไรหล่นมาจากเพดาน ตอนนั้นผมก็รู้สึกตกใจและกลัวพอสมควร ไม่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงมีอะไรหล่นลงมา ตอนนั้นผมก็ได้แต่สวดมนต์อย่างเดียวเลย
ในเรื่องคุณแพจินยอง, Xu Bin และ Rio Dewanto ต้องพูดภาษาไทยไหมคะ
มีน พีรวิชญ์ : คุณแพจินยองมีพูดภาษาไทยครับ
BAEJINYOUNG : คำว่า “ช่วยด้วย” ครับ (ยิ้ม)
อยากรู้ว่าแต่ละคนมาไทยครั้งแรกเมื่อไหร่ แล้วตอนมาไทยครั้งแรกเป็นยังไง
Rio Dewanto : ผมมาไทยครั้งแรกตอน Fullmoon Party ครับ
Xu Bin : จำครั้งแรกที่มาไทยว่าเมื่อไหร่ไม่ได้แล้วครับ เพราะนานมาก น่าจะประมาณอายุ 25 ปีได้ครับ ตอนนี้อายุ 33 ปีแล้ว (ยิ้ม) ตอนนั้นผมมาถ่ายทำเรื่อง “Love Song Love Series ตอนลาออก” แสดงกับคุณน้ำตาล พิจักขณา ตอนนั้นสนุกมากครับ
BAEJINYOUNG : ผมมาไทยครั้งแรกตอนปี 2017 มาจัดแฟนมีตติ้งที่ไทย ผมจำได้ว่าน้ำแตงโมปั่นอร่อยมากครับ
แล้วครั้งนี้คุณมีน พีรวิชญ์ทำหน้าที่ในฐานะเจ้าบ้านยังไงบ้างคะ
มีน พีรวิชญ์ : สารภาพว่าผมไม่ค่อยได้ดูแลใครเลยครับ เหมือนทุกคนจะดูแลผมมากกว่า (หัวเราะ) ผมว่าเวลาพวกเราอยู่ด้วยกันมันเหมือนเป็นการแชร์กันเรื่องของวัฒนธรรมมากกว่า เรื่องของวิธีการแสดง และเรื่องต่างๆ ถ้าทุกคนได้ไปชมภาพยนตร์กัน จะเห็นเลยว่าแต่ละคนก็จะมีศาสตร์การแสดงของตัวเองที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ผมว่านี่เป็นโอกาสดีที่เราจะได้แชร์ประสบการณ์พวกนี้ผ่านศิลปะการทำหนังครับ
คิดว่าความพิเศษอะไรของหนังเรื่องร้านของเก่าที่ไม่อยากให้คนดูพลาดคะ
Xu Bin : เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่ทั้ง 4 ประเทศ ไทย เกาหลี สิงคโปร์และอินโดนีเซีย นักแสดงตัวท็อปได้มารวมตัวกัน สร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน ขอฝากให้ทุกคนติดตามชมเรื่องร้านของเก่าด้วยนะครับ
Rio Dewanto : เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับผมเอง และสำหรับประเทศอินโดนีเซียด้วย เพราะประเทศอินโดนีเซียก็ไม่เคยมีหนังที่นำนักแสดงหลากหลายประเทศมารวมกันแบบนี้ และสำหรับผมเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรกด้วย ดีใจที่ได้ร่วมงานกับทุกคนที่นี่ ถ้าทุกคนมาประเทศของผม ผมก็ยินดีต้อนรับที่ร้านกาแฟของผมครับ (ทุกคนหัวเราะพร้อมเพรียงกันไปเลยจ้า 555+)
BAEJINYOUNG : เป็นโอกาสที่ไม่ง่ายเลยที่นักแสดงจาก 4 ประเทศมารวมตัวกันแบบนี้นะครับ ตัวผมเองก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และการที่ผมได้รับเลือกเป็นตัวแทนของนักแสดงจากเกาหลีก็รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ผมคิดอย่างเดียวว่าจะพยายามไม่ให้เป็นภาระกับการถ่ายทำในครั้งนี้ ก็รู้สึกดีใจที่ผลงานออกมาดีครับ
มีน พีรวิชญ์ : ก็เหมือนที่ทุกคนพูดไปนะครับ อีกหนึ่งความสนุกคือผีไทยจะได้ไปโชว์ต่างชาติ และเราได้ผสมผสานวัฒนธรรมความสยองแบบไทยและความสยองของต่างประเทศเข้าด้วยกัน อันนี้น่าจะเป็นอะไรที่คนไทยก็ดูสนุก คนต่างชาติก็ดูสนุก และพาเราไปได้ไกลกว่าประเทศที่พวกเราอยู่ครับ อาจจะไปได้ไกลถึงหลายๆ ประเทศทั่วโลกเลยด้วย ติดตามกันได้ที่โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศครับ
TEXT : ImJinah
PHOTO : เนาวพจน์ โพธิ์เกษม
อัพเดตข่าวบันเทิงเกาหลี ซีรี่ย์เกาหลี ดาราเกาหลี ไอดอลเกาหลีได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
สัมภาษณ์พิเศษกงยู – แบดูนา – จองอูซอง จาก The Silent Sea #จองอูซองแย้มอยากมาไทย
ฮันโซฮีแสดง My Name แบบหน้าสด พร้อมเล่าความลับฉากเลิฟซีน!
สัมภาษณ์พิเศษ NCT 127 กับการกลับมาแบบสุดปัง และความผูกพันกับ Thai NCTzen
อีซึงกิ & โจโบอา ยก KAI เป็นมันสมองของทีม New World – ฮีชอลเผยรู้จักพัทยาดีทุกซอกทุกมุม!