เติร์ด ปอร์เช่ แจ๊คกี้ TRINITY กับลมหายใจแห่งความมุ่งมั่น

 

เป็นเวลาเกือบ 3 ปี ที่ 3 หนุ่ม เติร์ด ปอร์เช่ แจ๊คกี้ เดบิวต์เป็นศิลปินกลุ่มในชื่อว่า TRINITY พวกเขาสร้างความสุขและพิสูจน์ความสามารถ ด้วยทักษะการร้องที่มีเสน่ห์และโชว์การแสดงที่โดดเด่น จนได้รับความรักมากมายจากแฟนๆ ซึ่งตลอดระยะเวลาของการเป็นทรินิตี้ ทั้ง “เติร์ด-ลภัส, ปอร์เช่-ศิวกร และแจ๊คกี้-จักริน” เต็มที่เสมอในเส้นทางของเป็นศิลปิน ทุกการก้าวเดินเต็มไปด้วยลมหายใจแห่งความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง โดยทุกอย่างพิสูจน์ออกมาให้เห็นจากผลงานคุณภาพ

TRINITY 1ST FULL ALBUM EP.01 BREATH อัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ ความพยายาม และเพลงเพราะๆ ที่พวกเราไม่ควรพลาด ล่าสุดทรินิตี้ได้ปล่อย TRACK 3 กับลมหายใจแบบ “I DON’T MISS YOU” ที่จะได้ดู ได้ฟังพร้อมกันทั่วโลก  20 พ.ค.นี้ ก่อนจะได้ฟังเพลงลำดับที่ 3 มาอ่านบทสัมภาษณ์ที่ได้พูดคุยกันตั้งแต่จุดเริ่มต้น คอนเซปต์รวมของอัลบั้ม และเป้าหมายในเส้นทางดนตรีของพวกเขา

 

เติร์ด ปอร์เช่ แจ๊คกี้ TRINITY กับลมหายใจแห่งความมุ่งมั่น

 

ตอนนี้เวลาเดินทางมาถึงกลางปี 2022 แล้ว เป้าหมายในปีนี้ที่วางไว้ของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้างคะ

แจ๊คกี้:  เป้าหมายของพวกเราคือการเดินทางในเส้นทางสายดนตรีที่พัฒนามากยิ่งขึ้น ซึ่งพวกเราพยายามพัฒนาตัวเองกันอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะทำผลงานดีๆ ออกมาครับ

เติร์ด:  ปีนี้คือการได้มีอัลบั้ม TRINITY 1ST FULL ALBUM EP.01 BREATH  ซึ่งมีหลายเพลงมาก พวกเราได้อยู่กับทุกคนทั้งปีแน่นอน ไม่ห่างไม่หายไปไหนครับ

ปอร์เช่:  ปีนี้พวกเราเติบโตมากขึ้นในเรื่องการทำงาน เป็นปีที่เรามีส่วนร่วมในการทำงานเยอะขึ้นพอสมควรเลยครับ

 

ความรู้สึกในวันที่อัลบั้มเสร็จสมบูรณ์ แต่ละคนมีความรู้สึกอย่างไรกันบ้าง

เติร์ด:  ครั้งนี้เรามีอัลบั้มเต็มแล้ว เป็นความรู้สึกที่สดใหม่จริงๆ ครับ

แจ๊คกี้:  เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นครับ ที่ทรินิตี้ได้มีฟูลอัลบั้มเป็นครั้งแรก มันรู้สึกดีแบบบอกไม่ถูกเหมือนกันนะครับ

ปอร์เช่:  มีอัลบั้มเต็มแล้ว เราก็จะค่อยๆ ทยอยปล่อยเพลงนะครับ อาจจะไม่ปล่อยออกมาทีเดียว อยากให้มารอฟังเพลงของพวกเราไปพร้อมๆ กันนะครับ

อยากให้เล่าเรื่องราวการเดินทางของอัลบั้มเต็ม อัลบั้มแรกของทรินิตี้ให้ฟังสักหน่อยค่ะ 

เติร์ด:  จริงๆ ตอนนี้ทุกคนก็น่าจะพอรู้คอนเซปต์อัลบั้มกันบ้างแล้ว ว่าเราจะแบ่งออกเป็น 2 EP. ครับ ซึ่ง EP.1 จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับลมหายใจ แต่ละเพลงก็จะมีลมหายใจที่ไม่เหมือนกัน สื่อความหมายที่แตกต่างกันไป แต่ทุกอย่างเบสออนลมหายใจครับ

ปอร์เช่:  เราเล่นกับ element ครับ ซึ่งธีมหลักของอีพีของเราก็จะเป็นประมาณนี้ โดยลมหายใจในแต่ละเพลงก็จะไม่เหมือนกัน

แจ๊คกี้:  เราใช้คอนเซ็ปต์ลมหายใจมาเป็นตัวกลางในการสื่อสารความหมายของเพลง ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจที่มีเอนเนอร์จี้ ลมหายใจที่รู้สึกเศร้า เหงา ลมหายใจที่มีความสุข

เติร์ด:  เพลงแรก LIFE AIN’T OVER เป็นลมหายใจแบบฮึกเหิม หายใจแบบดิ้นรนต่อสู้เพื่ออะไรบ้างอย่าง

ปอร์เช่:  จะหายใจเร็วๆ หน่อย
เติร์ด:  เพลงสอง NOBODY เป็นลมหายใจแบบช้าๆ ชิลๆ เบาๆ ล่องลอยหน่อยๆ

ปอร์เช่: ส่วนเพลงที่สาม เป็นลมหายใจแบบ I DON’T MISS YOU อยากให้ลองฟังและลองดูเอ็มวี วันที่ 20 พ.ค. 2022 แล้วตีความกันดูนะครับว่าเป็นลมหายใจแบบไหน

 

แล้ว EP. 2 จะเล่าเรื่องราวประมาณไหนคะ

เติร์ด:  ยังบอกไม่ได้ครับ

แจ๊คกี้:  ต้องมาสัมภาษณ์อีกรอบครับ (หัวเราะ)

(สุดสัปดาห์:  หลอกให้มาอีกอะเนอะ)

 

ถ้าอย่างนั้นเล่าให้ฟังสักหน่อยแล้วกันว่า อัลบั้มนี้ทั้งเติร์ด ปอร์เช่ และแจ๊คกี้มีส่วนร่วมอย่างไรกับบ้าง

เติร์ด: เรามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มคุยคอนเซ็ปต์แล้วครับ พวกเราจะเป็นคนที่แชร์ไอเดียกับทีมงานค่อนข้างเยอะ ซึ่งทีมงานมีไอเดียที่ค่อนข้างดีมากๆ อยู่แล้ว เราแค่เสริมตัวเองเข้าไป เพื่อให้เกิดเป็นภาพรวมที่เราต้องการ พาร์ทด้านร้อง แต่ละคนก็มีการ input ที่ไม่เหมือนกัน อย่าง ปอร์เช่ จะมีเนื้อแร็ปที่เน้น ผมกับแจ๊คกี้ก็จะเสนอเมโลดี้ใหม่ๆ วิธีการร้องใหม่ๆ ซึ่งก็จะมีการใช้เสียงที่ไม่เหมือนกัน

 

พาร์ทไหนของการทำงานที่ยากที่สุดคะ

เติร์ด:  ผมว่าทุกพาร์ทเลยครับ ในอัลบั้มนี้กว่าจะสำเร็จสมบูรณ์ ไม่มีอะไรที่มันได้มาง่ายเลย แต่ละคอนเซ็ปต์ก็ได้ผ่านการประชุม การคุยมานับไม่ถ้วน ผ่านการรีเสิร์ชนับไม่ถ้วน ไม่ใช่แค่พวกเราทรินิตี้นะครับ แต่ทั้งทีมเลย ต้องขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายที่ช่วยให้ทำให้งานนี้ออกมาดีที่สุด

แจ๊คกี้:   process การเตรียมงานใช้เวลานานพอสมควรน่าจะเกินหนึ่งปี แต่ในส่วนของขั้นตอนการลงมือทำเราพยายามทำให้กระชับขึ้น

ปอร์เช่:  เตรียมตัวนานหน่อย แต่พอมีวัตถุดิบแล้วทำไม่นานมาก เรารู้แล้วว่าเพลงคืออะไรยังไงทั้งอีพี 1 และอีพี 2 จากนั้นก็จะมาคิดวิธีเรียง และจะให้เพลงเดินทางอย่างไร นำเสนอรูปแบบอย่างไร ตอนไหน จังหวะไหน เป็นการทำงานที่สนุกแต่ก็ยากพอสมควร

เติร์ด:  บางเพลงในอัลบั้มนี้เราได้ฟังตั้งแต่ก่อนจะเดบิวต์เป็นทรินิตี้อย่างเป็นทางการอีกนะครับ

ปอร์เช่:   บางเพลงเรียกว่าเราได้ยินตั้งแต่ 9×9 เล่าไปเล่ามาจะว่าไปกว่าจะมีอัลบั้มเต็ม ก็เป็นการรอคอยที่นานเหมือนกันนะครับเนี่ย

แจ๊คกี้:   มีแพลนไว้แล้วก็ขยับก่อน ด้วยจังหวะ ด้วยอะไรหลายๆ อย่างครับ ผมว่าบางทีเราก็ต้องรอ

ปอร์เช่:   บางเพลงทำเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ปล่อย เราต้องรอจังหวะที่ปล่อยแล้วมันโอเคที่สุด บางเพลงปล่อยตอนนี้ยังไม่โอเค ยังไม่เหมาะ แต่ในอนาคตอาจจะโอเคก็ได้ รออีกสักหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก

เติร์ด:   การทำงานเพลงมันก็ต้องผ่านการรอนะ ไม่ใช่นึกอยากปล่อยก็ปล่อย

แจ๊คกี้:   ทุกอย่างมีไทมิ่งของมัน

เติร์ด:   ผมรู้สึกว่าไม่ว่าจะทำอะไร ทุกอย่างมีจังหวะของมัน เราแค่ต้องรอ พวกเราเองไม่ได้เร่งอะไร มันเป็นลมหายใจที่รู้จังหวะครับ

แจ๊คกี้:  พอวันนี้ได้มีอัลบั้มเราดีใจมาก ได้มีเพลงปล่อยออกมาให้คนได้ฟัง มีเอ็มวีให้ได้ชมกัน

ปอร์เช่:  เอาจริงๆ ถ้าเราใจร้อน ปล่อยในช่วงโควิดแรกๆ เราอาจจะทำอะไรได้ไม่มากอยู่ดีครับ ปล่อยแล้วก็คงเงียบ

 

ตั้งแต่เดบิวต์เป็นทรินิตี้ ทั้งเติร์ด ปอร์เช่ และแจ๊คกี้เติบโตกันอย่างไรบ้าง

แจ๊คกี้:   สำหรับผมเปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควรในเรื่องของความคิด ไม่ว่าจะทำอะไรก็คิดเยอะขึ้น จะไม่มองมุมเดียวที่เรา แต่จะมองกว้างๆ คิดถึงคนอื่นๆ ด้วย ถ้าเราเป็นเขาจะคิดอย่างไร

ปอร์เช่:   กล้ามขาเราแข็งแรงมากขึ้นในการเดินทาง (หัวเราะ) คือเรารับผิดชอบในการทำงานมากขึ้น มีความคิดเห็นมากขึ้นในการทำงาน พวกเราก้าวสเต็ปเดียวกันมากขึ้น แม้จะลักษณะการก้าวไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นสเต็ปเดียวกัน จังหวะเดียวกัน

เติร์ด: ผมรู้สึกว่าแต่ละคนโตขึ้นในส่วนของตัวเอง อย่างที่ปอร์เช่บอก เราสามคนมีวิธีการก้าวไม่เหมือนกัน แต่ก้าวสเต็ปเราเท่ากัน เหมือนเรา synchronize กันมากขึ้น เรารู้สึกว่าแต่ละคนช่วยพยุงกันประคับประคองกันมากขึ้น เป้าหมายเราชัดมาก รู้ว่าต้องทำอะไรในก้าวต่อๆ ไปครับ

วางแผนอนาคตตัวเองไว้อย่างไรในวงการนี้

ปอร์เช่:  เบื้องหน้าก็ทำอยู่ แต่ในอนาคตผมคงจะเน้นทำงานงานเบื้องหลังมากกว่า ทั้งหมดทั้งมวลผมยังรักที่จะทำตรงนี้ครับ

แจ๊คกี้:  คงจะทำตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ เท่าที่เราทำได้และได้รับโอกาส

เติร์ด:  สำหรับผมตอบยากเหมือนครับ เพราะอนาคตคาดเดาไม่ได้จริงๆ สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือโฟกัสกับเส้นทางที่จะเดิน และเป้าหมายต้องชัดเจนไว้ก่อน

ตอนนี้นอกจากงานเพลงแล้ว มีงานด้านอื่นๆ ที่อยากลองทำมั้ย

เติร์ด:  ผมไม่ปิดกันโอกาสที่เข้ามาในชีวิตครับ ผมพร้อมทำทุกอย่าง ขอแค่เข้ามาแล้วเราทำมันได้ เราก็พร้อมจะเรียนรู้และพัฒนา อย่างตอนนี้ผมก็มีงานแสดงที่ได้ทำ ซีรีส์ ถึงเธอจิ๊กซอว์ของฉัน To My Puzzle Pieces รับบทคีย์ คาแร็คเตอร์จะเงียบๆหน่อย ห่างกับตัวจริง เพราะผมคุยกับทุกคน การแสดงทำให้เราเรียนรู้คนๆ หนึ่งจากบทที่เราเล่น ได้รู้ว่าคนนิ่งเงียบเป็นแบบนี้ และการที่เป็นคนเงียบแล้วมีคนพูดเยอะๆ กับเรารู้สึกอย่างไร ผมเข้าใจหัวอกปอร์เช่เลย รู้เลยว่าคนเงียบๆ อย่างปอร์เช่เวลาเจอคนพูดเยอะๆ ใส่รู้สึกอย่างไร  (หัวเราะ)

แจ๊คกี้:    งานแสดงก็เป็นอีกอย่างที่อยากทำในชีวิต เป็นการทำงานคนละรูปแบบกับงานเพลง ศิลปินเป็นการเพอร์ฟอร์มคาแร็คเตอร์ตัวเองเพื่อให้ทุกคนรักในสิ่งเราเป็น แต่การเป็นนักแสดงเราได้ลองเป็นตัวละคร สวมบทเป็นคนอื่น ซึ่งมันคนละแบบกันเลย แต่ผมก็ชอบทั้งสองงานเลยนะครับ อยากจะขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสเราได้ลองทำงานด้านการแสดง ผมเองก็พร้อมที่จะได้ลองและเรียนรู้บทอื่นๆ ที่หลากหลายมากขึ้น

 

แล้วปอร์เช่อยากลองทำงานแสดงบ้างมั้ยคะ 

ปอร์เช่:          ดีใจกับสองคนที่ได้ลองทำงานที่ท้าทายความสามารถอีกรูปแบบหนึ่ง ถามว่าอยากลองมั้ย ก็อยากครับ แต่ผมสนใจงานแสดงน้อยกว่าการเป็นศิลปิน แต่ผมไม่ปิดกั้นนะครับ เพียงแค่รอบทที่ใช่จริงๆ อยากเล่นบทที่ฉีกจากการเป็นตัวเอง อย่าง ฆาตกรโรคจิตครับ

 

ฝากผลงานเพลงและมีอะไรอยากจะบอกแฟนๆ ชาว TWILIGHT (ทไวไลท์: ชื่อแฟนคลับ) บ้าง

ปอร์เช่:   ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กัน ขอบคุณที่รับพลังงานจากเราแล้วทุกคนมีความสุข ตรงนี้เหมือนเป็นการแลกกำลังใจกัน เป็นการเติมพลังให้กัน เวลาที่เรารู้ว่าทุกคนรู้สึกไม่ดี แต่พอได้ฟังเพลง เห็นรูปเรา ได้ดูสัมภาษณ์ของเรา แล้วยิ้มได้ ผมได้ดีใจมากที่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรแบบนี้ ทำให้เรามีพลังในการทำงานดีๆ ต่อไป

แจ๊คกี้:  อยากขอบคุณที่เสพย์งานของเรา ชิ้นงานทุกอย่างผ่านกระบวนการความคิดมาพอสมควร ขอบคุณที่คุณมีความสุขกับงานของเรา ขอบคุณที่ตีความในรูปแบบของตัวเอง เรามีความสุขมากที่ได้รู้ว่าผลงานของเรามีการสื่อสารได้หลายความหมาย ขอบคุณที่คุณมีส่วนช่วยทำให้วงการเพลงได้เดินหน้าต่อไปครับ

เติร์ด:  ขอบคุณที่ซัพพอร์ตพวกเรามาตลอด เพราะสุดท้ายแล้วผลงานที่เราตั้งใจทำก็เพื่อนชาวทไวไลท์ เราจะทำผลงานดีๆ ออกมาเพื่อทุกคน อยู่ด้วยกันยาวๆ ไปเลยครับปีนี้

ปอร์เช่:   ฟังเพลงในอัลบั้มเต็มแบบจัดเต็มกันไปเลยครับ

Text: AuAi 
Photo: เติมสิทธิ์ ศิริพานิช 

ช่างแต่งหน้า : จิรณัท ตั้งไพศาลกิจ
ช่างทำผม : พิเชษฐ ภูบรรทัด
เครื่องแต่งกาย :  Versace, Prada, Loewe, Zegna, Bottega veneta

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

BNK48 รุ่น 3 ปาเอญ่า-อีฟ-โยเกิร์ต-ข้าวฟ่าง-พีค-แพนเค้ก ฝูงกระต่ายสุดคิวต์ที่อาสามอบความสุขให้ทุกคน