BNK48 รุ่น 3 (BNK48 3rd Generation) เดบิวต์เปิดตัว 18 เมมเบอร์อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว พร้อมปล่อยซิงเกิ้ลแรก “First Rabbit” สุดคิวต์สดใสสะท้านใจแฟนๆ สุดสัปดาห์มีนัดกับ 6 เมมเบอร์ตัวแทนรุ่น 3 ได้แก่ ปาเอญ่า-นิพพิชฌาน์ พิพิธเดชา, อีฟ-อิสรีย์ ทวีกุลพาณิชย์, โยเกิร์ต-นพรดา เลิศวิริยะพร, ข้าวฟ่าง-ญาณิศา เมืองคำ, พีค-ภูษิตา วัฒนากรแก้ว, และแพนเค้ก-พิทยาภรณ์ เกียรติฐิตินันท์ มาพูดคุยถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง กว่าพวกเธอจะมาเป็นไอดอลหญิงนามสกุล BNK48 ว่าแต่ละคนต้องผ่านบททดสอบอะไรกันมาบ้าง
เล่าแบคกราวนด์ก่อนนิดนึงว่า ทางต้นสังกัด บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ iAM (ไอแอม) จุดพลุให้กับ BNK48 รุ่น 3 ด้วยซิงเกิ้ลเดบิวต์ “First Rabbit” ซึ่งเพลงนี้มีจังหวะสนุกสนาน และมีความน่าสนใจในหลายๆ มิติ ทั้งทำนองและท่าเต้น โดยเนื้อเพลงจะสะท้อนตัวตนของเมมเบอร์รุ่น 3 ที่มีความสดใส เป็นวัยรุ่นที่มีความฝัน เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ พร้อมที่จะเจอกับทุกอุปสรรค และก้าวไปข้างหน้าในแบบฉบับของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ตั้งใจจะส่งต่อพลังดีๆ เป็นกำลังใจให้แก่แฟนๆด้วย อีกความพิเศษคือ ซิงเกิ้ลนี้มี 2 เซ็นเตอร์มามอบความสุขแบบดับเบิ้ลให้แก่แฟนๆ นั่นก็คือ ปาเอญ่า – นิพพิชฌาน์ พิพิธเดชา และ ฮูพ – ปาฏลี ประเสริฐธีระชัย
BNK48 รุ่น 3 ปาเอญ่า-อีฟ-โยเกิร์ต-ข้าวฟ่าง-พีค-แพนเค้ก ฝูงกระต่ายสุดคิวต์ที่อาสามอบความสุขให้กับทุกคน
หลังจากเดบิวต์เปิดตัว BNK48 รุ่น 3 และปล่อยซิงเกิ้ล “First Rabbit” แฟนๆ ให้การตอบรับอย่างไรบ้างคะ
ปาเอญ่า: ฟีดแบ็กจากแฟนคลับดีมากเลยค่ะ แฟนๆ ชอบเพลงกันมาก “First Rabbit” เป็นการนำผลงานเพลงจากวงรุ่นพี่ AKB48 ที่เคยออกมาในปี 2012 มาดัดแปลงเป็นภาษาไทย ซึ่งแฟนคลับก็ดีใจมากที่ได้ฟังในเวอร์ชั่นภาษาไทย พวกเราเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าปล่อยเพลงไปแป๊บเดียวทะลุล้าน ดีใจมากๆ เลยค่ะ
ข้าวฟ่าง: ขอบคุณที่ช่วยกันปั่นวิวนะคะ (หัวเราะ) รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่แฟนๆ ชอบทั้งตัวเพลง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้อง ดนตรี จังหวะ รวมถึงเอ็มวี แฟนๆ เองก็ดีใจกับพวกเราที่มีวันนี้
อีฟ: แฟนๆ ให้การต้อนรับดีมากตั้งแต่วันแรกที่พวกเราเดบิวต์ พอเราปล่อยเพลงก็ช่วยปั่นวิวให้ ขอบคุณแฟนๆ ที่ทุ่มเทกับการเดบิวต์ของพวกเรานะคะ
เล่าถึง “First Rabbit” ให้ฟังสักหน่อยว่าเพลงนี้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
พีค: เพลงจะคล้ายๆ กับการเล่านิทานกระต่าย ซึ่งเปรียบพวกเราเป็นกระต่ายตัวแรกที่เข้าไปเจอโพรงหนึ่งที่น่ากลัว แต่พวกเราไม่กลัวที่จะเผชิญอุปสรรค พวกเราจะสู้ต่อไป เป็นเพลงที่สะท้อนตัวตนของพวกเราด้วยค่ะ มุ่งมั่น เดินตามความฝัน พร้อมที่จะเจอกับอุปสรรคและก้าวไปข้างหน้าค่ะ
ท่าเต้นน่ารักมากเลย เล่าถึงคอนเซ็ปต์ท่าเต้นสักนิดได้ไหมคะ
ข้าวฟ่าง: ท่าเต้นหลักของเพลง จะเป็นท่ากระต่ายตรงท่อนฮุก แล้วก็จะมีท่าอีกท่อนที่ร้อง “หัวใจ หัวใจ ทำไมถึงเต้นรุนแรงเหลือเกิน ไม่เป็นไร ฉันจะวิ่งลุยไป ก่อนใครทั้งนั้น” เป็นท่อนติดหูอีกท่อน ทุกคนสามารถเต้นตามได้ไม่ยากนะคะ เปิดดูเอ็มวีเพลงของพวกเราแล้วลองเต้นตามกันได้เลยค่ะ
ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงของตัวเองแต่ละคนรู้สึกอย่างไรกันบ้าง
โยเกิร์ต: ส่วนตัวดีใจมากค่ะ เพราะเราไม่เคยมีเพลงที่เป็นเสียงของพวกเราจริงๆ ได้ฟังครั้งแรกตื้นตันมาก พวกเรารอวันนี้มานานมากที่จะได้มีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง
แพนเค้ก: เรียกได้ว่าดีเกินต้านมากๆ (ยิ้ม) เพลงต้นฉบับเดิมเป็นของรุ่นพี่เป็นเพลงเสียงร้องภาษาญี่ปุ่น พอมาเป็นเพลงของรุ่น 3 ก็เป็นเสียงของพวกเรา ดีใจและภูมิใจในตัวเอง ภูมิใจเพื่อนๆ ในวงทุกคนด้วยค่ะ
เบื้องหลังการทำเพลงนี้เจออุปสรรคอะไรบ้างไหมคะ
ปาเอญ่า: ช่วงที่ทำเพลงช่วงนั้นโควิดกลับมาอีกระลอก หลายอย่างๆ ถูกจำกัด เรื่องเวลา เรื่องรักษาระยะห่าง ต้องรีบดำเดินการทำเพลงแล้ว ช่วงทำเพลงเราก็อยู่แต่ในหอ ห้ามออกไปไหน เรียนร้องเพลงทางซูมทุกวัน เวลาก็มีจำกัดในการเรียนร้องเพลงและเรียนเต้น ซึ่งเพลงนี้ได้ พี่ AUTTA (กร-อัษฎกร เดชมาก) แปลเนื้อเพลงฉบับภาษาไทยเนื้อเพลงออกมา ภาษาสวยไพเราะมากๆ ขอบคุณ พี่ AUTTA มากนะคะ
ย้อนกลับไปถามถึงก่อนที่จะได้เดบิวต์ อะไรคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้แต่ละคนตัดสินใจมาออดิชั่น BNK48 3rd Generation Audition
พีค: หนูตั้งใจจะเซอร์ไพรส์เพื่อน คือเพื่อนสนิทหนูที่โรงเรียน เห็นข่าวรับสมัครออดิชั่นพอดี เลยชวนมาด้วยกัน สรุปวันนั้นหนูไปออดิชั่นคนเดียวค่ะ เจอเซอร์ไพรส์กลับ (หัวเราะ) พอเราได้ลองมาออดิชั่น ได้ร้องเพลง ได้ลองฟังเพลงมากขึ้น ก็รู้สึกชอบค่ะ พอออดิชั่นผ่าน ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวง ก็เรารู้สึกว่าเรามีความสุขที่ได้ทำตรงนี้ค่ะ
โยเกิร์ต: ตอนนั้นหนูอยากลองมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ช่วงนั้นเรียนประมาณ ม. 4 เรากำลังค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบทำจริงๆ หนูไม่เคยร้องเพลง ไม่เคยเต้น ตอนออดิชั่นก็เป็นการลองฝึกครั้งแรก พอได้มาอยู่ตรงนี้ดีใจค่ะ ดีใจที่ได้เจอเพื่อนๆ
แพนเค้ก: หนูเป็นคนชอบร้องเพลง ชอบเต้นอยู่แล้ว ชอบสายบันเทิง เพื่อนส่งข่าวมาให้ให้ดู ลองไปออดิชั่นดูสิ คือหนูไปออดิชั่นมาหลายงานหลายรอบ แต่มาครั้งนี้เราออดิชั่นผ่าน ได้เป็นไอดอลเต็มตัวแล้ว ดีใจมาก
ปาเอญ่า: คือก่อนหน้านี้หนูชอบวง BNK48 มาก ตอนเห็นรุ่น 2 เดบิวต์ หนูก็คิดว่าถ้าเปิดรุ่น 3 จะลองมาสมัครดู ทีนี้ทางต้นสังกัดทิ้งช่วงไปนานมากไม่เปิดรับสักที เลยปลง คิดว่าคงไม่สมัครแล้ว (หัวเราะ) พอเห็นประกาศออดิชั่น BNK48 3rd Generation Audition ตอนนั้นหนูก็เฉยๆ นะ ยังแคปส่งให้แม่ดูเลย แต่ก็บอกแม่ว่าหนูไม่สมัครหรอก แม่บอกว่าลองดูเถอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ พอลองก็ผ่านค่ะ
อีฟ: ของหนูช่วงที่ก่อนจะมาสมัคร BNK48 หนูอยู่ในช่วงออดิชั่นค่ายอื่น ซึ่งค่อนข้างมีกิจกรรมเยอะ พอดีเป็นช่วงวันหยุด เห็นประกาศเลยลองสมัครดู ก็แอบลุ้นจะติดมั้ย สรุปได้เข้ารอบลึกขึ้นๆ จนได้ออดิชั่นผ่าน เรียกว่าเราได้ลองอะไรที่ชอบ ได้ทำสิ่งใหม่ๆ ได้มาเป็นไอดอลสายหวาน (ยิ้ม)
ข้าวฟ่าง: หนูติดตาม BNK48 มานานแล้ว เราชอบร้องชอบเต้นด้วย มาลองออดิชั่นก็ไม่ได้คาดหวังนะคะ คิดแค่ว่าขอได้ลองมาทำก่อน จนเราได้เข้ามาอยู่ในจุดนี้ พอใจกับสิ่งที่ตัวเองทำและมีความสุขกับตรงนี้มากค่ะ
อยากให้เล่าบรรยากาศวันที่ประกาศผล แต่ละคนตื่นเต้นกันขนาดไหนคะ
ข้าวฟ่าง: ตอนประกาศผลคือช็อคมาก เราไม่คาดคิดว่าจะได้ เพราะว่าในวันออดิชั่นมีคนสวยเยอะมาก เต้นเก่งเยอะ ร้องเก่งเยอะ พอได้รู้สึกดีใจ ประกาศผลเสร็จกลับถึงบ้าน ยังคิดอยู่ว่าเราฝันอยู่มั้ย นี่คือเรื่องจริงเหรอ เราจะมีชื่อที่ลงท้ายด้วยนามสกุล BNK48 จริงๆ เหรอ (ยิ้ม)
อีฟ: วันนั้นคือตื่นเต้นไม่ไหว ไม่คิดว่าจะติด ยอมรับว่าไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาอยู่ตรงนี้เลยค่ะ ไม่คิดว่าจะมีนามสุกลต่อท้ายว่า BNK48 รู้สึกดีใจที่ได้มาทำงานตรงนี้ ได้มาเจอน้องๆ ที่น่ารัก ทั้งเก่งและและสวยกันทุกคนเลย
พีค: ตกใจมากจริงๆ ยืนอยู่ตอนนั้น ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ รู้สึกว่าเราได้ทำในสิ่งที่ชอบ ตื่นเต้นมากๆ รอวันที่ได้เดบิวต์ วันนี้ได้เดบิวต์แล้วดีใจมากๆ ค่ะ
ปาเอญ่า: หนูแทบไม่เชื่อเลยว่าตัวเองจะติด เพราะไม่ได้คาดหวัง ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พอติด หนูช็อคมาก เพราะเรารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีดีอะไร คนอื่นเก่งกว่าเยอะมาก สกิลการร้องเพลงการเต้นของหนูเป็นศูนย์ มันก็เลยทำให้หนูช็อคค่ะ (ยิ้ม)
แพนเค้ก: ตอนประกาศดีใจและมีความสุขมากๆค่ะ ประกาศเสร็จพอถึงบ้าน หนูยังคิดอยู่ว่าเราติดจริงๆ เหรอ นี่คือเราเป็น BNK48 จริงๆ เหรอ ตั้งแต่พรุ่งนี้เราจะเป็น BNK48 แล้ว ก็คือยังไม่ค่อยแน่ใจกับตัวเองเลยค่ะ พอได้เดบิวต์แล้ว หนูรู้สึกว่านี่แหละเราได้เป็น BNK48 เต็มตัวสมกับที่ตั้งใจแล้ว (ยิ้ม)
โยเกิร์ต: ตอนประกาศเขาประกาศชื่อหนูคนแรกค่ะ หนูคิดไว้สัก 1% ว่าอยากจะติด หนูคิดว่าเพื่อนข้างๆ สองคนนี้ต้องติดแน่นอน แล้วเราก็ไปจำแต่หมายเลยเพื่อน พอเขาเรียกหนู หนูก็ยังงง “ใครๆ เหรอ” (หัวเราะ) เพื่อนข้างๆ ก็ตีให้รู้ตัวว่าเป็นหนูได้ สังเกตหน้าหนูตอนนั้นคือ จะร้องไห้และยิ้มไปด้วย ผสมความช็อครวมกัน คือหนูจำเลขตัวเองไม่ได้ค่ะ
ปาเอญ่า: โยเกิร์ตร้องไห้ตั้งแต่ก่อนประกาศแล้วค่ะ
โยเกิร์ต: คือหนูดีใจที่ได้มาเจอเพื่อนๆ ที่จะเป็น BNK48 อุ๊ย ฉันรู้จักเพื่อนที่เป็น BNK48 ด้วย
ปาเอญ่า: หนึ่งในนั้น คนที่ตีโยเกิร์ตคือหนูค่ะ (หัวเราะ)
อันนี้ถามปาเอญ่า ในฐานะที่ได้เป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ของเพลงเดบิวต์เพลงแรก ( เซ็นเตอร์อีกคนคือ ฮูพ – ปาฏลี ประเสริฐธีระชัย) รู้สึกอย่างไรบ้างคะ
ปาเอญ่า: ถ้าตัวเองในตอนนั้นได้มาเห็นตัวเองตอนนี้คงรู้สึก Unexpected มากๆค่ะ ไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ อย่างที่หนูบอกสกิลเราเป็นศูนย์จริงๆ ทีมงานและผู้ใหญ่อาจจะเห็นความตั้งใจและพัฒนาการของหนูก็เลยได้มาถึงจุดนี้
สำหรับการมาเป็นเซ็นเตอร์ ยอมรับว่ามีความกังวลและกดดันนิดหน่อยค่ะ เนื่องจากเป็นเพลงแรกของตัวเอง และนับว่าเป็นเพลงของ BNK48 3RD GENERATION ด้วย เมื่อรู้ว่าต้องมาอยู่ในตำแหน่งนี้หนูก็ตั้งใจทำให้ออกมาดีที่สุดค่ะ เพลงนี้ท้าทายความสามารถของหนูตรงที่มันเหมือนการเล่านิทาน ต้องใส่อารมณ์เข้าไปในการร้อง เพื่อถ่ายทอดให้คนฟัง หนูมีท่อน bridge ต้องใช้เทคนิคเสียงสูงมากร้องยากจริงๆ แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ ส่วนช่วงเวลาการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ ค่อนข้างหลายเทค เพื่อตัดต่อให้ออกมาดีที่สุด แต่ก็สนุกมากค่ะ เพราะได้อยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ในรุ่น 3 ตลอด
ช่วงที่หนูประทับใจมากคือ ช่วงการถ่ายทำ choreography ที่ต้องเต้นแข่งกับแสงแดดที่กำลังจะหมด บวกกับสภาพอากาศวันนั้นฝนตก ทำให้บริเวณพื้นเป็นโคลน แต่สถานที่ถ่ายทำสวยมาก เป็นโลเกชั่นในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนตัวหนูชอบธรรมชาติอยู่แล้วด้วยค่ะ
พอผ่านการคัดเลือก เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดของ BNK48 แล้ว แต่ละคนต้องฝึกซ้อมกันหนักขนาดไหนคะ
อีฟ: ของหนูจากที่เคยเรียนอย่างเดียว ว่างจากเรียนก็ดูหนัง ดูซีรีส์ พอมาเป็น BNK48 พวกเรามีซ้อมทุกวัน เรียนร้องเพลงทุกวัน หลังจากที่เราเรียนหนังสือ เราก็ต้องกลับมาเรียนร้องเพลง เรียนเต้นที่หอต่อถึง 3 ทุ่ม ทำให้เราต้องแบ่งเวลาให้ดี ทั้งการเรียนและการฝึกซ้อม จัดแบ่งเวลาทั้งทำการบ้าน อ่านหนังสือ คือซ้อมหนักมากค่ะ บางทีถ้ามีสเตจ ก็ต้องจะต้องขออนุญาตลาเรียนบ้าง
ข้าวฟ่าง: อีกอุปสรรคคือเราเข้า BNK48 ตอนโควิด มันเหมือนทำให้หลายอย่างเลื่อนออกไป ช่วงนั้นเราทำได้แค่ซ้อมๆๆ มีความหวังลึกๆ ว่าจะได้เดบิวต์เร็วๆ ซึ่งจริงๆ เราใช้เวลานานนะคะ มีการขยับกำหนดการ ต้องรอคอยกว่าจะได้เดบิวต์ พอมีวันนี้รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมาไม่สูญเปล่าค่ะ
ปาเอญ่า: ระยะเวลารอปีครึ่งเกือบสองปีเลยค่ะ นานมากๆ ถ้าพูดตามตรง พวกเรามีช่วงที่ท้อและดาวน์กันทุกคน เราได้ให้กำลังใจกัน อยู่ข้างๆ กัน พยายามสร้างแรงจูงใจให้กัน สร้างบรรยากาศคลายเครียด จัดปาร์ตี้กันวันหยุด คริสต์มาส ฮัลโลวีน ช่วยให้เราผ่อนคลายและเหนียวแน่นมากขึ้น พอกลับมาซ้อม เราเครียดน้อยลง มีความสุขในการซ้อมมากขึ้น ดึงโฟกัสตัวเองกลับมาได้ในเรื่องการฝึกซ้อม
พีค: เวลาเจอเพื่อนเราจะคอยให้กำลังใจกัน ชมกันตลอดว่าเขาเก่งขึ้นนะ เพราะเราเห็นเพื่อนตั้งแต่วันแรก แล้ววันนี้เขาเก่งขึ้นจริงๆ อยากเป็นกำลังใจให้เพื่อน เสริมพลังบวกให้เพื่อน เหมือนที่เขาก็ให้เราเช่นกัน
สิ่งที่ประทับใจกันและกันในทีม BNK48 รุ่น 3
แพนเค้ก: หนูประทับใจความเป็นกันเองในรุ่น 3 ความวุ่นวาย ความซุกซน เมื่อก่อนเราอาจจะยังไม่สนิทกัน มันเลยกดดันและเครียด พอสนิทกันมากขึ้น เราก็มีความเป็นกันเองมาก รู้สึกว่าการซ้อมเต้นเป็นเรื่องสนุก ทำให้เราอยากเรียน อยากซ้อมกันไปเรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย
โยเกิร์ต: ความตลกและเฟรนด์ลี่ของทุกคน กำลังเครียดๆ อย่าง พี่ข้าวฟ่างก็มาทำตลกปล่อยมุกได้ทุกสถานการณ์ ทำให้เราผ่อนคลาย (หัวเราะ)
ปาเอญ่า: อย่างน้องโมเน่ต์ น้องเล็กก็จะมาคอยเอ็นเตอร์เทนพี่ๆ ทำให้พวกเราขำ แล้วก็น้องซนด้วย กวนด้วย
หลังจากเดบิวต์เป็น BNK48 แต่ละคนเติบโตขึ้นอย่างไรบ้าง
ข้าวฟ่าง: ตั้งแต่เป็น BNK48 ภาระเยอะขึ้น สอนให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น เราโตเป็นผู้ใหญ่มากขื้น เพราะมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบนอกจากการเรียน ที่สำคัญเราต้องแบ่งเวลาให้เป็น เพราะเราต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียนไปพร้อมกัน กดดันบ้างในบางครั้ง
ปาเอญ่า: อย่างที่พี่ข้าวฟ่างบอกเลย มีเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบเยอะมาก ก่อนเข้าวง BNK48 หนูเรียนม.ต้น เราเป็นเด็กไม่ค่อยมีระเบียบ เราเน้นชิลๆ พอเข้าในวง BNK48 เราต้องปรับทุกอย่าง หนูจะยากกว่าคนอื่น เพราะหนูเป็นเด็กขี้เกียจ สายชิล ไม่รับผิดชอบ ไม่ตรงต่อเวลา ต้องปรับตัวเยอะมากค่ะ ทุกวันนี้หนูมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น เพื่อนที่โรงเรียนบอกว่าหนูโตขึ้น เปลี่ยนไปในทางที่ดี BNK48 สอนให้เราเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน
พีค: เมื่อก่อนไม่ดูแลตัวเอง เข้ามาทำงานตรงนี้ เราต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี หลังๆ ก็ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น เริ่มรู้จักมาสก์หน้า เลือกเครื่องสำอาง หนูเสียเงินกับเรื่องนี้เยอะมาก (หัวเราะ)
อีฟ: เมื่อก่อนหนูไม่ค่อยเข้าสังคมเท่าไร คุณแม่จะคอยบอกว่าไปทำตรงนั้นสิ ทำนี่สิ หนูไม่ค่อยทำอะไรด้วยตัวเอง คุณแม่คอยช่วยทุกอย่าง พอเราเจอปัญหาที่ต้องแก้ด้วยตัวเอง จะเครียด เพราะเป็นคนขี้กลัว วิตกกังวลโดยทุนเดิม พอเดบิวต์เราได้สะสมประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น ว่าควรแก้ปัญหายังไง เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องให้แม่ช่วยแล้ว ไม่ต้องมีใครป้อนโปรแกรมว่าต้องทำอะไร เราตัดสินใจเองได้แล้ว
แพนเค้ก: ความคิดหนูโตขึ้นค่ะ เมื่อก่อนหนูยังเป็นเด็กที่หน้าม้าหนาๆ ไม่รู้จักเครื่องสำอางเลย ไม่ดูแลตัวเองเลย อยู่บ้านนอนไปวันๆ กินไปวันๆ ตอนนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงเยอะ ความคิดโตขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น รู้จักเลือกกิน รู้จักดูแลหุ่น
โยเกิร์ต: เหมือนพี่พีค หนูดูแลตัวเองมากขึ้น หลังออดิชั่น 2 ปีผ่านไป หนูคิดว่าตัวเองพัฒนาขึ้นมาก โตขึ้นมากในทุกๆ ด้าน
คิดว่าการเป็นไอดอลต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างในการที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับแฟนๆ
โยเกิร์ต: เดี๋ยวนี้ก่อนทำอะไรหนูจะคิดเยอะขึ้น จะมาคิดแล้วทำเลยเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้ มีคนเห็นเราเป็นไอดอลมากขึ้น ถ้าหนูทำไม่ดี พูดไม่คิด จะส่งผลต่อตัวเรา แฟนๆ รวมถึงภาพลักษณ์ของ BNK48 ได้ค่ะ
ปาเอญ่า: หนูก็คล้ายๆ โยเกิร์ต คิดก่อนทำ ใช้เหตุผลทำสิ่งต่างๆ คิดหน้าคิดหลังว่าถ้าทำอย่างนี้จะส่งผลอะไรบ้าง ระวังตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะการแต่งตัว บุคลิกภาพ การทำงานทำให้ได้เรียนรู้ว่าการกระทำทุกอย่างส่งผลต่อเราเสมอค่ะ
แพนเค้ก: ของหนูคงเป็นเรื่องการแบ่งเวลา เพราะทำงานด้วยเรียนด้วย เช้าไปเรียน เย็นกลับมาซ้อม เลิกดึกมาก แทบไม่มีเวลาทำการบ้าน อ่านหนังสือด้วยซ้ำ การที่เราแบ่งเวลาได้ดี เราจะได้รักษาเกรดอยู่ในมาตรฐานได้ รักษาความเป็น BNK48 ที่ดี เรียนต้องดี งานต้องดี
พีค: เมื่อก่อนหนูรักอิสระมาก อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน พอมาอยู่ตรงนี้ ต้องระวังตัว คิดให้มากขึ้น มีเหตุผลในการใช้ชีวิตมากกว่าแต่ก่อน อย่าง แฟนคลับ DM มาหา บอกว่าเราเป็นตัวอย่างของเขา ขอบคุณที่มาอยู่ตรงนี้นะ ทำให้เขามีความสุขในการใช้ชีวิตต่อ รู้อย่างนี้แล้วทำให้หนูอยากเป็นคนที่ดีขึ้น เพื่อที่จะทำให้คนอื่นมีความสุขที่มีเราอยู่
อีฟ: หนูปรับปรุงเรื่องอารมณ์ร้อนค่ะ เมื่อก่อนร้อนปุ๊บไม่เอาอะไรเลยค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้อารมณ์เย็นและนิ่งกว่าเมื่อก่อนมาก
ข้าวฟ่าง: หนูคิดว่าพวกเรารู้จักที่จะเรียนรู้และสร้างวินัยจากข้อผิดพลาด ทั้งของตัวเองและเคสอื่นๆ ที่เคยมี นำมาปรับปรุงแก้ไข ไม่ว่าคำพูด การวางตัว บุคลิก พวกเราหวังว่าเราจะสามารถเป็นคนที่ดีขึ้นได้ เพื่อเป็นไอดอลที่ดีให้กับทุกคนค่ะ
ฝากผลงานให้ได้ติดตามกัน
ปาเอญ่า: อัพเดตกิจกรรมและผลงานของพวกเราจาก เพจ FB: BNK 48 ได้เลยค่ะ และขอฝากซิงเกิ้ล First Rabbit ซึ่งเป็นความตั้งใจของพวกเรารุ่น 3 ทุกคน เพลงนี้แฟนๆ รอคอยกว่า 1 ปีครึ่ง เมื่อทุกคนฟังครั้งแรกจะรู้ได้ทันทีว่า นี่คือเพลงของพวกเรารุ่น 3 จริงๆ เพลงนี้จะเต็มไปด้วยความสดใส มุ่งมั่นตั้งใจรวมถึงสะท้อนถึงความอดทนของพวกเรา
นอกจากนั้นก็ขอฝากเพลงหลักซิงเกิ้ลที่ 11 “ Sayonara Crawl” สไตล์เพลงเป็นแนว J -pop ในแบบฉบับ 48 group ผสมผสานจังหวะ disco สนุกสนาน มีเซ็มบัตสึ 32 คน 32 คาแรคเตอร์จาก วงBNK48 และ CGM48 มีเซ็นเตอร์ 4 คน สมาชิกเยอะ อบอุ่นมากค่ะ
โยเกิร์ต: สุดท้ายขอขอบคุณแฟนคลับที่เป็นกำลังใจ และคอยอยู่เคียงข้างกันตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ จากวันแรกที่เรายังไม่เก่งอะไรเลยจนค่อยๆ พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ขอบคุณแรงผลักดันที่ทำให้เราอยากเป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะคะ
Text: AuAi
Photo: เนาวพจน์ โพธิเกษม
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ภารกิจชีวิตนอกจอ Mission Unscripted กับการเปิดใจ 5 พระเอกดาวรุ่งของช่องวัน31
BNK48 กับออริจินัลเพลงแรก ดีอะ และความลับในวงที่แอบมาเล่าสู่กันฟัง