ปั้นจั่น-พรีม เคมีดี จับคู่เสิร์ฟความฮาในละครโรแมนติกสายมู ซ่อนกลิ่น

ปั้นจั่น-พรีม เคมีดี จับคู่เสิร์ฟความฮาในละครโรแมนติกสายมู ซ่อนกลิ่น

โคจรมาเจอกันทั้งทีคือไม่ธรรมดาสำหรับพระนางเคมีใหม่ ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย และ พรีม-รณิดา เตชสิทธิ์ เพราะทั้งคู่ต้องมาลุยไขปริศนาด้วยสัมผัสที่หก ที่ต้องมาเจอความป่วนทั้งคนทั้งวิญญาณใน ซ่อนกลิ่น ละครสุดหรรษาโรแมนติก คอเมดี้ ที่เห็นทั้งผี เห็นทั้งหวย สุดสัปดาห์ขอเบรกกองชวนทั้งคู่มาพูดคุยถึงเบื้องหน้าและเบื้องหลังความสนุกในละครเรื่องนี้ พร้อมกับแฟชั่น Digital Cover เล็กๆ ที่สวยหล่อไม่เบาเลย  

ซ่อนกลิ่น เรื่องราวของวิญญาณ…ความรัก..เครื่องรางของขลัง และสัมผัสที่หก

ณ หมู่บ้านหนองบ้านเลียบ ทุกคนต่างศรัทธาใน “แม่ซ่อน” หรือ “เจ้าแม่ดอกซ่อนกลิ่น” โดยมี พูนสวัสดิ์ (จตุรงค์ โพธาราม) เป็นร่างทรงของเจ้าแม่ดอกซ่อนกลิ่น เมื่อพูนสวัสดิ์มีลูกสาวเค้าจึงตั้งชื่อตามเจ้าแม่ว่า “ซ่อนกลิ่น” (พรีม – รณิดา เตชสิทธิ์) แต่ไม่นานนักพูนสวัสดิ์เกิดเสียชีวิตด้วยเหตุไม่คาดฝัน แม้พูนสวัสดิ์จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ซ่อนกลิ่นก็ยังเห็นพ่อเป็นวิญญาณอยู่ข้างๆ เธอเสมอ พูนสวัสดิ์บอกกับซ่อนกลิ่นว่าไม่อยากทิ้งกิจการ จึงขอให้ซ่อนกลิ่นสืบทอด ซ่อนกลิ่นยอมทำตามเพราะต้องหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนให้จบ แต่แท้จริงแล้วเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือ ซ่อนกลิ่นต้องการหาวิญญาณชมเดือนผู้เป็นแม่ที่เกิดอุบัติเหตุรถชนจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา แม้แต่วิญญาณก็ยังหาไม่เจอ ซ่อนกลิ่นมีสัมผัสพิเศษที่สามารถอ่านใจคนได้ เห็นผี เห็นทั้งหวย

ความสวยของซ่อนกลิ่นเตะตาสารวัตรหน้าใหม่ไฟแรง ผู้ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์อย่าง ศรัญ (ปั่นจั่น – ปรมะ อิ่มอโนทัย) ที่แฝงตัวมาจัดการคดีพิเศษในหนองบ้านเลียบ หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดจนเสียเพื่อนรัก ท็อป (ปอม – ภาสกร เครือโสภณ) ซึ่งเป็นคนรักของ ดาว (แคร์ – ฉัตรฑริกา สิทธิพรม) หนึ่งในทีม ศรัญเป็นคนไม่เชื่อเรื่องลี้ลับเลย

แต่พอมาอยู่ที่หนองบ้านเลียบ ศรัญได้รู้จักกับ ซ่อนกลิ่น และคนที่นี่ไม่ว่าจะเป็น สมบูรณ์ (บิ๊ก – ศรุต วิจิตรานนท์) หนุ่มใหญ่เจ้าของโรงสี ภาพลักษณ์ดี จิตใจอ่อนโยน กับ สิริ (แป้ง – พรรษชล สุปรีย์) รุ่นพี่ซ่อนกลิ่นที่สมบูรณ์หมายปอง และทุกครั้งในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ในหนองบ้านเลียบ ศรัญก็ได้ซ่อนกลิ่นช่วยจับคนร้ายด้วยความสามารถพิเศษของเธอหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ซ่อนกลิ่นก็ต้องผันตัวมาเป็นผู้ช่วยด้านไสยศาสตร์ให้ศรัญ เพื่อเล่นงานตัวการที่ทำให้แม่ของเธอต้องนอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับเดือน ทำให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดสนิทกันจนความรักก่อตัวขึ้น เรียกว่าภารกิจปะทะทำให้ความรักปะทุ

แต่ความรักของสารวัตรกับเจ้าแม่ก็ต้องสะดุด เมื่อ ปรานต์ (บอล – กัมมัญญ์ กลมแก้ว) นายแพทย์หนุ่มที่มีคุณแม่นอนป่วยอยู่และเชื่อว่าเป็นเพราะวิญญาณของท่านยังกลับเข้าร่างไม่ได้ เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากซ่อนกลิ่น และหวังหลอกใช้ความสามารถพิเศษในการตามหาเครื่องรางสำคัญ 5 ชิ้น และความใกล้ชิดจากการทำภารกิจนี้ ทำให้เขาตกหลุมความน่ารักของเจ้าแม่ตัวแสบ จนกลายเป็นคู่แข่งเรื่องความรักของศรัญโดยไม่รู้ตัวงานนี้ทั้งศรัญ ซ่อนกลิ่น และปรานต์ ต้องจำใจจับมือกันจัดการกับคนที่ทำให้เกิดเรื่องราวแปลกๆในหนองบ้านเลียบ ความรักสามเส้าที่มาพร้อมความฮาอันลิมิเตด เจ้าแม่สายเผ็ชจะจัดการกับความรักและภารกิจยังไงต้อง ติดตาม

คุยกับ พรีม-ปั้นจั่น พระนางเคมีดี แท็กทีมเสิร์ฟความฟิน

ละครออนจนมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว ฟีดแบ็กจากแฟนๆ เป็นไรบ้างคะ 

พรีม:  ดีมากเลยค่ะ แฟนๆ จะไม่ค่อยเห็นพรีมเล่นบทแบบนี้ ฉีกคาแร็คเตอร์จากที่เราเคยเล่นมา คนดูเซอร์ไพรส์ว่าพรีมเล่นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ เขาดูกันแล้วก็สนุกไปกับตัวละครที่เราเล่น

ปั้นจั่น:  ช่วงที่ละครซ่อนกลิ่นออนแอร์ ผมจะมีอีกเรื่องออนด้วยก็คือเรื่องสร้อยสะบันงา ซึ่งเป็นบทที่ต่างกันมาก มีการเปรียบเทียบความต่างกันอย่างชัดเจน เป็นอะไรที่คนดูจะได้เห็นความหลากหลายที่เราได้แสดง สำหรับซ่อนกลิ่น เป็นอีกบทที่คนดูจะไม่ค่อยเห็นผมเล่นคอเมดี้ ซึ่งดีนะครับ เหมือนเราได้เป็นตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง เอาตัวเองมาเล่น กวนๆ มีมุกหน่อยๆ สนุกมากครับ

เล่าถึงบทบาทที่ได้รับสักนิดเผื่อใครที่ยังไม่ได้ดู และจะตามมาดูย้อนหลัง

พรีม:  รับบทเป็นซ่อนกลิ่น เด็กสาวที่เกิดและโตที่บ้านเลียบ มีอาชีพเป็นร่างทรง เธอมีเซ้นส์ขึ้นมาได้เพราะเกิดอุบัติเหตุ หลังจากนั้น ถ้าได้จับมือใครก็จะเห็นเรื่องราวของคนนั้น เห็นวิญญาณรอบตัว ซ่อนกลิ่นเลยใช้เซ้นส์ที่ตัวเองมีไปช่วยเหลือชาวบ้าน จนวันหนึ่งสารวัตรศรัญย้ายมาบ้านเลียบ ต้องการสืบคดียาเสพติด จัดการผู้มีอิทธิพล เลยให้เราช่วยในการสืบคดี โดยการใช้เซ้นส์ให้มีประโยชน์ ระหว่างทางก็เกิดเรื่องราวและมีตัวละครอีกหลายตัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ปั้นจั่น:  ผมรับบทสารวัตรศรัญ ตำรวจที่มีคุณธรรม รักความถูกต้อง เรานำทีมไปจับผู้ร้าย แล้วเพื่อนในหน่วยเราตาย ศรัญก็เลยขอย้ายมาประจำต่างจังหวัดที่บ้านเลียบ ย้ายมาก็มาเจอเรื่องราวต่างๆ มากมายอีก ทั้งเรื่องผิดกฏหมาย ทั้งเรื่องวิญญาณ

ความรู้สึกที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้ 

ปั้นจั่น:  ดีใจที่ได้เล่นเรื่องนี้เพราะว่าผมเป็นคนที่อยากจะเล่นคอเมดี้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะได้บทร้ายก็ร้ายเลย เครียด พีเรียด หรือถ้าเป็นคนดีก็ดีนิ่งๆ ซึ่งมันขัดกับความเป็นตัวเราค่อนข้างเยอะ (หัวเราะร่วน) เรื่องนี้เล่นเป็น ศรัญ ตำรวจที่ไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์เลยแต่ก็ต้องมาพัวพันเกี่ยวข้องต้องใช้เรื่องพวกนี้ในการไขคดีต่างๆ ก็จะมีทั้งมาดเข้ม ตลก โก๊ะ ต่อล้อต่อเถียง แล้วผมก็ได้ทำหลายอย่างด้วย มีทั้งเจอบู๊ เล่นกับซีจี รวมทั้งพาร์ทของโรแมนติกก็พ่วงมาพร้อมกับความตลกด้วยสนุกครับ

ผมว่าแฟนๆ ทุกเพศทุกวัยน่าจะชอบเพราะมีผีตลกน่ารัก มีความป่วนของพระนางที่ง้องอนกัน ขิงกันตลอดเวลายิ่งฉากไหนที่มีผีพ่อ (จตุงรงค์ โพธาราม) มาด้วยก็จะสนุกนานปั่นป่วนกันไป และนักแสดงแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา เข้าฉากรวมกันทีก็คือจะแกล้งกันไปกันมาสนุกสนานทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่นอน

พรีม:  ตื่นเต้นมากค่ะกับบทนี้ เพราะพรีมเป็นคนที่ชอบเล่นคอเมดี้อยู่แล้วเหมือนกัน แล้วตัวของ เจ้าแม่ซ่อนกลิ่น มีความก๋ากั๋นไมกลัวใคร พลังเยอะเหลือล้น แล้วยังต้องมาสืบทอดกิจการของครอบครัวที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นนั่นคือ เป็นร่างทรงคอยช่วยเหลือชาวบ้าน ใครเดือดร้อนมาก็ช่วย เพราะฉะนั้นในเรื่องพรีมก็เลยได้ทำอะไรหลายอย่างมากๆ แล้วในเรื่องเป็นคนกลัวผีด้วยนะ แต่ก็ต้องมาเห็นผี คือก็จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรามีเซ้นส์แหละ แต่พออยู่ใกล้พระเอกก็จะไม่เห็นตรงนี้ก็จะทำให้เราอุ่นใจ และก็จะมีภารกิจของตัวเองที่ต้องทำให้สำเร็จก็คือตามหาวิญญาณของแม่ เพราะฉะนั้นก็เลยอาจจะมีบู๊ด้วยค่ะ สนุกดีค่ะได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง มีทั้งม้วนตัวบนหลังพี่ปั้นด้วยก็ต้องไปรอติดตามชม

ส่วนการเล่นกับซีจีพรีมค่อนข้างชินเพราะในเรื่องเราเจอผีบ่อย กลายเป็นว่ากลับบ้านไปก็คุยกับตัวเองตลอด (หัวเราะ) ก็ไม่อยากให้แฟนๆ พลาดเลยค่ะกับซีนที่มีการรวมตัวกันของเหล่านักแสดง ซีนหมู่มวล เพราะทุกคนได้ปล่อยของกันเต็มที่ ชนิดที่ว่าไม่ยั้งเลยมีอะไรเล่นกันสุดฤทธิ์ อยากรู้จะเด็ดฮาหรรษา ต้องดูค่ะ ใครยังไม่ได้ดูก็สามารถดูย้อนหลังได้นะคะ

นอกจากความสนุกที่ได้ดูละครเรื่องนี้แล้ว คนดูน่าจะได้แง่คิดดีๆ อะไรจากละครเรื่องนี้บ้าง

ปั้นจั่น:  ละครเรื่องนี้เอาความเชื่อมาเป็นเนื้อเรื่อง มีเรื่องหมอดู ไสยศาสตร์ ของขลัง ซึ่งมันก็รีเลทกับวัฒนธรรม สังคมบ้านเราที่ยังมีความเชื่อตรงนี้่อยู่ ต่อให้เทคโนโลยีจะทันสมัยไปไกลแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่สังคมไทยยังเชื่อเรื่องนี้กันอยู่ ในเรื่องก็จะสะท้อนความเชื่อ ที่เชื่อแล้วทำให้เกิดประโยชน์และเชื่อแล้วไม่เกิดประโยชน์ ผมว่าคนดูเข้าใจง่าย ดูให้สนุกก็ได้ ดูให้ลึกซึ้งก็จะสะท้อนมุมมองได้ว่า ความเชื่อในแบบที่เราเชื่อมีความจริงแค่ไหน มีผลกระทบกับเราหรือคนอื่นหรือเปล่า ซึ่งละครก็อาจจะสื่อในแง่นั้นด้วย

พรีม:  ถ้าดูเพื่อบันเทิงก็บันเทิงแน่นอน แต่ความเชื่อยุคนี้ถูกดัดแปลงออกมาในรูปแบบไหน ในแง่ความรู้สึกของตัวะคร เรื่องของความรัก อารมณ์ ทุกตัวละคร มีเหตุผล มีแรงจูงใจว่าทำไมต้องไปยืนจุดนั้น การตัดสินใจหลายอย่าง สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกของคนจริงๆ อย่าง ในแง่ของความรัก ซ่อนกลิ่นไม่กล้ารัก กลัวการลาจาก เพราะเคยเจอการสูญเสีย เขาเลยเป็นคนแบบนี้และสร้างกำแพงขึ้นมา ศรัญก็จะมีความรู้สึกผิดในใจ กลัวการสูญเสีย พรีมว่าความรู้สึกเหล่านี้มันจับต้องได้ ซึ่งมันก็ทำให้เราได้กลับมามองว่าเราเป็นคนแบบนั้นอยู่หรือเปล่า

ความประทับที่ได้มาร่วมงานกัน

ปั้นจั่น: ผมมองภาพเขาไว้อีกแบบหนึ่ง  เราคิดว่าเขาเป็นนางเอกต้องเข้าถึงยาก แต่พอได้มาทำงานด้วยกัน ไม่ได้เป็นแบบนั้น เขากินง่ายอยู่ง่าย ทุ่มเท ตรงเวลา ยิ่งพอพูดคุยกัน เราก็พอได้รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง แม้จะไม่ได้เล่าอะไรให้เราฟังเยอะ แต่เราก็พอรู้ ซึ่งเขาเป็นคนที่ดูแลครอบครัว เป็นผู้หญิงสตรองคนหนึ่ง พรีมเหมือนเป็นน้องสาวอีกคนหนึ่งของเราที่น่ารักทั้งในจอและนอกจอ

พรีม:  (ยิ้ม) แต้งกิ้ววว คือหนูก็โชคดีที่ได้เล่นกับพี่ปั้น หนูเครียดทุกฉาก เพราะบทนี้ฉีกจากที่เราเคยเล่นมา เราตื่นเต้นหมือนเล่นละครเรื่องแรก กลัวทำออกไม่ดี พอได้พี่ปั้นมาเล่นด้วยกันก็อุ่นใจ อืม… เราต้องทำได้นะ เขาเป็นที่พักพิง เวลาเข้าฉากด้วยกัน ทำให้เราไม่รู้สึกกดดัน เหมือนเป็นบัดดี้ในการทำงานที่ดีว่า เราจะไปด้วยกัน ทำด้วยกัน เขาช่วยให้เราเล่นคอเมดี้ดีขึ้น พี่ปั้นเป็นพี่ชายที่มีแรงบวกที่ดีให้กับพรีมเลยค่ะ

ติดตามในละคร “ซ่อนกลิ่น” ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus

Tex: AuAi Photo: เนาวพจน์ 
สถานที่ถ่ายทำ: โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ www.banyantree.com/thailand/bangkok

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

เทอมสอง สยองขวัญ เจมมี่เจมส์-กิต Three Man Down ชวนเปิดตำนานหลอนใน มหา’ลัยที่ “คนในอยากหลอก คนนอกอยากเล่า”