ตอนที่ได้ยินชื่อและได้เห็นตัวอย่าง ALONG WITH THE GODS: THE TWO WORLDS ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า บอกตามตรงว่านึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นหนังแนวไหน มโนเอาว่าอาจจะคล้ายๆ Train to Busan (เพราะมีการกล่าวถึงในการโปรโมท) แต่พอได้ดูจริง บอกตามตรงว่านิยามไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นแนวไหน… แอ๊คชั่น ดราม่า แฟนตาซี คือจริงๆ ทางหนังเค้านิยามตัวเองไว้ว่าเป็นแอ๊คชั่นแฟนตาซี แต่เรารู้สึกว่ามัน “มีอะไร” มากกว่านั้น ทว่าสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนจนเราการันตีได้คือ หนังสนุก เข้าใจง่าย ซาบซึ้ง และมันส์
การจะเล่าถึงแบ็กกราวน์ตัวละครและท้องเรื่องก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้เราลำบากใจ เพราะหนังมีการหักมุมตลอด ถ้าบอกน้อยไปก็ไม่เข้าใจ บอกมากไปก็จะเป็นการสปอยล์ ขอบอกสั้นๆ แค่ว่าเป็นเรื่องของเหล่ายมทูตที่พาวิญญาณคนดี (พระเอก) ผจญนรกทั้ง 7 ด่านเพื่อไปเกิดใหม่ภายใน 49 วัน และระหว่างนั้นหนังจะค่อยๆ รีวิวถึงชีวิตของพระเอก ซึ่งมีจุดหักมุมและมีความดราม่าเคล้ามาในจังหวะที่ลงตัว ทำให้ทั้งสนุก ตื่นเต้น มันส์ ซึ้ง เศร้าจนน้ำตาไหล และฮาเบาๆ สลับกันไป (อาการใกล้ๆ ไบโพล่าเลยทีเดียว) ตรงนี้ต้องชมคนเขียนบทและผู้กำกับเลย เพราะถ้าจะหลากอารมณ์ขนาดนี้ แต่จังหวะไม่ดี – ทำไม่ถึง หนังจะไม่กลมกล่อม และเมนพอยท์ของหนังจะไม่ชัด #กราบค่า
ในส่วนของ CG มีความอลังการ ภาพนรกมีความคล้ายกับคติความเชื่อของคนไทยประมาณหนึ่งเลย ดูแล้วเก็ททันที เราชอบที่ทีมงานถ่ายทอดภาพนรกออกมาได้สวย ไม่ได้สวยแบบน่าอยู่ มันเต็มไปด้วยสิ่งน่ากลัวและการทรมาน แต่ภาพรวมมันสวย ทำให้หนังน่าดูขึ้นอีกระดับ สำหรับภาพส่วนอื่นๆ ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานหนังเกาหลี ไม่มีอะไรขัดตา
นักแสดงมีความสามารถทุกคนและเข้ากับบทบาท คนที่ต้องหล่อ-เท่ก็เป็นไปตามนั้น คนที่ไม่จำเป็นต้องหล่อก็ไม่หล่อเอาซะเลยแต่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีจนเราทึ่ง โดยเฉพาะน้องชายพระเอก – แม่พระเอก ทำเอาคนแทบทั้งโรงต้องหยิบทิชชู่มาซับน้ำตา ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ทำได้ดีตามบทบาทที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นพระเอก เหล่ายมทูต หรือนักแสดงสมทบ อ่อ แอบกระซิบว่า เราจะได้เห็นนักแสดงจาก Train to Busan โผล่มาสร้างสีสันในเรื่องแบบขำๆ ด้วย (แต่ไม่มีอปป้ากงยูนะ …เสียใจ)
เมื่อดูจบแล้ว นอกจากความอิ่มเอมตาและอารมณ์แบบที่หนังดีถึงดีมากสักเรื่องหนึ่งจะให้เราได้แล้ว ยังสร้าง “อะไรบางอย่าง” ไว้ในหัวใจและสมองของเราได้ด้วย ทำให้เราอยากทบทวนว่า ทุกวันที่ผ่านมาเราทำอะไรในชีวิตบ้าง ทำอะไรกับคนอื่นบ้าง เราได้เรียนรู้และพยายามแก้ไขสิ่งที่เคยพลาดแล้วหรือยัง …จัดไป 9.5 คะแนน!
…และเหมือนชะตาลิขิต หนังเข้า 27 ธันวาคม 2560 เป็นช่วงสิ้นปีซึ่งคนส่วนใหญ่จะได้ใช้เวลาทบทวนถึงชีวิตในปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าหมายการใช้ชีวิตในปีถัดไปพอดิบพอดี ดังนั้น ไปดูเถอะ มันดี มันใช่ มันเหมาะ!
Review : Nicharee W.
อ่านเรื่องราวอื่นๆ เกี่ยวกับหนังที่น่าสนใจได้ที่นี่ค่ะ
(รีวิว) Fireworks, Should We See It from the Side or the Bottom?
Loving Vincent …หนังที่ทรงคุณค่าที่ต้องไปดู!
ปีใหม่ไม่รู้จะไปไหน? ไปดูหนังกันดีกว่า กับ 8 หนังน่าดู ช่วงนี้
Loving Vincent ภาพสุดท้ายของแวนโก๊ะ …งานประณีตจากฝั่งตะวันตก!