วันก่อนเราได้ไปดู ทองดี ฟันขาว รอบปฐมทัศน์มาละ บอกเลยว่าเห็นหน้าพระเอกก็รู้แล้วว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับหมัดมวย ก็แหม… ชื่อ “บัวขาว” มีคำว่า นักมวย แปะอยู่ที่หน้าผากไปแล้วนะ!
หนังเปิดมาเป็นเรื่องสมัยปลายกรุงศรีฯ พระเอกในวัยเด็กถูกลูกชายขุนนางไล่รังแก แต่ไม่ย้อมศิโรราบเหมือนคนไทยส่วนมากในยุคนั้นที่มักจะกลัวชนชั้นศักดินา เมื่อเติบโตขึ้น พระเอกของเราก็เลือกเดินเส้นทางนักสู้ ได้ฝึกฝนกับครูมวยชื่อดังหลายท่าน จนกลายเป็น “พระยาพิชัยดาบหัก” ยอดฝีมือคู่ใจของพระเจ้าตากสินในที่สุด
…ในความเห็นของเรา เราคิดว่าหนังส่วนใหญ่จะสะท้อนตัวตนของผู้กำกับในระดับหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาที่ เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ดูแล้วสบายใจ ดูจะเป็นสไตล์ที่เราคุ้นเคยกับผลงานเด่นๆ ของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ( เช่น ปัญญา เรณู ) ทว่าในความไม่ซับซ้อนนั้น ยังประกอบไปด้วยความละเอียด ประณีต ภาพสวย แม้จะไม่ได้ลงตัวในทุกจุดแต่ก็สัมผัสได้ถึงความตั้งใจ
อีกอย่างที่ชอบคือการแคสต์นักแสดงได้สมบทบาททุกคน ตั้งแต่ตัวแสดงหลักไปจนถึงสมทบต่างๆ โดยเฉพาะทองดีตอนเด็ก เหมือนบัวขาวมาก-ก-ก ชอบที่ไม่ได้คัดเด็กหน้าตาน่ารัก แต่คัดเด็กดูที่เหมือนบัวขาวย่อส่วน นี่ถ้าบอกว่าเป็นลูกที่พลัดพรากเราก็เชื่อนะ แอบขัดใจเมคอัพนักแสดงหญิงนิดหน่อย หน้าแน่นเกินยุคสมัยไป 3 สเต็ป แต่ยังดีที่ไม่ใส่คอนแทคเลนส์สีมีขอบให้เราตะลึงเหมือนละคร – หนังย้อนยุคหลายๆ เรื่อง
สำหรับ แม่ไม้มวยไทย อันเป็นจุดขายของหนังนั้น ได้ชื่อ บัวขาว บัญชาเมฆ การันตีอยู่แล้ว การได้นักมวยจริงๆ เคยออกหมัด – ฟันเข่าจริงมาแสดง มันสมจริงกว่า ถึงจะมีการเซตท่าสวยก็เถอะ แต่… มันคือ และมันถึงใจ
( กระซิบว่าแม่ไม้มวยไทยจัดเต็ม ไม่ได้มีแค่ท่าที่เราเห็นจนชินตาอย่างจระเข้ฟาดหาง แต่มาครบทั้งหักงวงไอยรา สลับฟันปลา หนุมานถวายแหวน ฯลฯ ยกตัวอย่างได้แค่นี้เพราะเรียกไม่ใคร่จะถูก คนวงในมาชี้แนะได้นะคะ )
สุดท้ายขอปรบมือให้เพลงประกอบหนัง* ที่ขึ้นมาตอนเอนด์เครดิต ถือเป็นการส่งท้ายผู้ชมออกจากโรงอย่างเต็มอิ่มจนเราต้องยิ้มออกมา เพราะมันใช่มาก!
…เราว่าหนังเรื่องนี้น่าจะทำเงินนะ และน่าจะดังในต่างแดนด้วย
** เข้าฉาย วันที่ 9 ก.พ. 60 …ไปดูกันนะ สนุกดี
* เพลง นายทองดีฟันขาว โดย แอ๊ด คาราบาว
ติดตามหนังที่เข้าฉายช่วงนี้ได้ที่ Link ด้านล่างนี้
“มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ“