เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2023 จะแอบเห็นเทรนด์ทวิตเตอร์หนึ่งเกี่ยวกับหวังอี้ป๋อขึ้นมา บางคนอาจจะสงสัยว่าเอ๊ะ! มีอะไรน้า เรื่องของเรื่องคือผลงานภาพยนตร์จีนเรื่องใหม่ของหวังอี้ป๋ออย่าง “สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only” ได้มาเข้าโรงฉายที่ไทย และตัวหวังอี้ป๋อก็บินลัดฟ้ามาประเทศไทยเพื่อโปรโมตหนังด้วย ซึ่งสุดสัปดาห์ก็มีโอกาสได้ไปเข้าร่วมชมรอบปฐมทัศน์มา พอดูจบแล้วก็คิดกับตัวเองเลยว่าต้องมาจัดรีวิวป้ายยาทุกคนกันสักหน่อย ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ทุกคนจะได้เห็นการแสดงของหวังอี้ป๋อในอีกมิติหนึ่ง และยังได้เห็นทักษะการเต้นของหวังอี้ป๋อด้วย เรียกว่าเรื่องเดียวได้ดูสอง
สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only หนังจีนสุดตรึงใจที่มาเพื่อฮีลลิ่ง
ก่อนที่จะพบกับรีวิวจากความเห็นส่วนตัวของสุดสัปดาห์ที่ได้ไปเข้าชมรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์จีนเรื่อง “สเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only” เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าฉายในโรงที่ประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ สุดฯ ขอเท้าความถึงเรื่องย่อของเรื่องนี้กันก่อนนะคะ
ภาพยนตร์เรื่องสเต็ปกล้าท้าฝัน One and Only เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ “เฉินซั่ว” รับบทโดย หวังอี้ป๋อ ชายหนุ่มที่ขยันทำงานหาเงินอย่างหนัก ซึ่งหนึ่งในงานที่เขาทำเพื่อหาเงินคือเต้นสตรีทแดนซ์โชว์ ซึ่งเขามีความฝันที่อยากจะเป็นนักเต้นสตรีทแดนซ์ เพราะความรักที่เขามีต่อการเต้น วันหนึ่งก็มีโค้ชของทีมเต้นอาชีพชื่อดังที่เคยเป็นนักเต้นสตรีทแดนซ์ในตำนานมาดึงเขาเข้าทีม ซึ่งทำให้เฉินซั่วได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากขึ้น แต่แล้วเขาและทีมก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายที่เข้ามาที่ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน
คำนิยามที่เหมาะกับชีวิตของเฉินซั่วก็ต้องเป็นคำว่า “ชีวิตไม่ง่าย” ชีวิตของเฉินซั่วต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย แต่ถึงกระนั้นเฉินซั่วก็ยังมุ่งมั่นกับความฝันของตัวเอง ตัวเรื่องจะเล่าให้เราเห็นชีวิตของคนเราออกมาได้ค่อนข้างเรียลเลย ทุกคนต่างมีเป้าหมายหรือความฝันในชีวิตที่ต่างกัน แต่การทำความฝันให้สำเร็จอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะชีวิตคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มีต้นทุนในชีวิตมากนัก
ในเรื่องจะเล่าให้เราเห็นว่าความฝันของคนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนธรรมดาที่รักในการเต้น เขาเริ่มจากศูนย์ด้วยการฝึกฝนการเต้นด้วยตัวเอง โดยเรียนรู้ผ่านการดูวิดีโอ ไปพร้อมกับการต้องทำงานหาเลี้ยงชีพและครอบครัว ก่อนจะค่อยๆ ให้เราเห็นการเจริญเติบโตของตัวละคร
พร้อมกับมีการสอดแทรกเนื้อหาเรื่องของความสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว เพื่อนร่วมทีม โค้ชกับลูกศิษย์ หรือความสัมพันธ์แบบหนุ่มสาว รวมไปถึงถ่ายทอดเงื่อนไขและปัญหาชีวิตว่าแต่ละคนอาจจะเจอเงื่อนไขหรือปัญหาชีวิตไม่เหมือนกัน ที่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถทำในสิ่งที่รักของตัวเองได้ตลอดชีวิตก็ได้
ด้วยความที่เรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักและความฝันในการเต้น พร้อมกับสอดแทรกเนื้อหาเรื่องของชีวิตและความสัมพันธ์ จึงไม่ยากเลยที่เราในฐานะผู้ชมจะอินไปกับเรื่องราว แล้วต้องบอกว่าตัวหนังเล่าชีวิตคนคนหนึ่งที่เจออุปสรรคมากมายในการทำความฝันออกมาได้กระแทกใจ และเล่าเรื่องความสัมพันธ์ออกมาได้ซึ้งกินใจอีก แล้วถึงแม้เรื่องราวชีวิตของตัวละครหลักในเรื่องจะค่อนข้างขม แต่ตัวเรื่องก็ยังมอบพลังและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมไปด้วย เหมือนให้เราได้ตระหนักถึงชีวิต แต่ก็ให้พลังกับเราให้มีแรงลุกขึ้นสู้ ชีวิตคนเรามันอาจจะขมบ้าง แต่ถ้าเรารักในตัวเอง และเชื่อในตัวเอง วันหนึ่งเราอาจจะพบความสำเร็จและความสุขกับสิ่งที่ทำ
ส่วนตัวมองว่าเส้นเรื่อง วิธีการเล่าเรื่อง และไดอาล็อกต่างๆ ถูกจัดวางมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว เปิดด้วยฉากเร้าใจเพื่อตึงให้เราหันมาสนใจแล้วอยากจะติดตามเรื่องราวไปจนจบ ก่อนจะตัดมาที่การเริ่มปูเข้าเรื่องราวชีวิตของตัวละคร ก่อนจะค่อยๆ ไต่เรื่องราวและอารมณ์ไปเรื่อยๆ จนไปปิดด้วยฉากไคลแม็กซ์ที่พีคที่สุด ซึ่งเป็นจุดที่ผู้กำกับและนักแสดงก็แอบสปอยล์ไว้ในงานแถลงข่าวว่าต้องรอชมฉาก 20 นาทีสุดท้ายของเรื่อง
นอกจากเรื่องการปูเส้นเรื่องและไดอาล็อกต่างๆ ที่ตัวบทก็มีหลายท่อน หลายซีนที่กระแทกใจแล้ว การใส่จังหวะอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ก็ใส่เข้ามาได้ถูกจังหวะ มีความตลกสอดแทรกที่ทำให้หัวเราะได้อยู่เรื่ยๆ มีความโรแมนติกเข้ามาชวนใจเต้นเบาๆ และมีความดราม่าที่ทำให้เราน้ำตาไหลตาม ไหนจะใส่ความซึ้งอบอุ่นหัวใจมาทำให้เราอิ่มเอม และปิดด้วยความมันแบบลุกออกจากโรงแล้วความรู้สึกยังคงติดอยู่ในใจ ส่วนตัวรู้สึกมีฉากตราตรึงใจหลายฉากเหมือนกัน
ไหนๆ ก็เกริ่นถึงฉาก 20 นาทีสุดท้ายของเรื่องแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งซีนที่ส่วนตัวสุดฯ ชอบมากๆ ด้วยความที่เป็นคนติดตามวงการสตรีทแดนซ์มาบ้าง ด้วยความที่พ้อยต์หลักของเรื่องคือเล่าเรื่องสตรีทแดนซ์ ก็ต้องมีฉากเต้นและฉากแข่งขันให้ได้ชม แม้ว่าระหว่างเรื่องอาจจะไม่ได้ใส่ฉากสตรีทแดนซ์มามากมาย แต่เรื่องก็ค่อยๆ เล่าถึงการเติบโตของตัวละครพระเอก และทีมอีมาร์ค จนไปแตะจุดไคลแม็กซ์ในช่วง 20 นาทีท้ายของเรื่องที่ใส่ฉากการแข่งขันสตรีทแดนซ์ที่เป็นซีนแบทเทิลออกมาได้เดือดมาก ชนิดที่ว่าถ้าภาพในหนังเป็นการแข่งขันจริงๆ ก็คงจะถูกจารึกเป็นแบทเทิลระดับตำนานของวงการสตรีทแดนซ์จีนได้เลย
ต้องขอบอกว่าตัวหนังทำออกมาได้ถึงอยู่นะ ส่วนตัวตอนดูฉากช่วงท้าย เกือบเผลอปรบมือออกมา เพราะดูเป็นการแข่งขันจริงๆ มากๆ แต่ต้องเบรกตัวเองไว้ว่านี่เรากำลังดูหนังอยู่แม่ คิดดูว่าตัวหนังทำฉากนี้ถึงขนาดไหน จนอิฉันต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอปรบมือหรือร้องว้าวออกมา 555+ คือฉันอินมากแบบเหมือนกำลังเชียร์ทีมที่ชอบแข่งอยู่ ซึ่งถ้าใครเป็นสายที่เคยดูการแข่งขันสตรีทแดนซ์มาก่อน เชื่อว่าอาจจะชอบเรื่องนี้ หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยติดตามวงการสตรีทแดนซ์มาก่อนก็ตาม แต่สุดฯ ว่าก็จะสามารถอินกับฉากนี้ได้เหมือนกัน แอบดูจากคนรอบตัวแล้ว ทุกคนต่างอินไปกับฉากนี้จริงๆ
ส่วนในแง่ของงานภาพ เทคนิกการเล่าเรื่อง โลเกชั่นต่างๆ สุดฯ ชอบเทคนิกการเล่าเรื่องของเรื่องที่มีกิมมิกและลูกเล่นอยู่หลายจุดที่ช่วยบิลด์อารมณ์ให้เรายิ่งอินกับเรื่องราวมากขึ้น ซึ่งก็ต้องใช้องค์ประกอบของงานภาพ และแสงเข้ามาช่วย ในหนังก็เลือกมุมภาพ องค์ประกอบ แสง รวมไปถึงเทคนิกการตัดต่อออกมาค่อนข้างดี มีการใช้การตัดสลับ การสโลโมชั่น การเบรก เป็นต้น โลเกชั่นก็ดีงาม โดยเฉพาะโลเกชั่นใน 20 นาทีสุดท้าย รวมถึงงานภาพในช่วงนั้นคือสุดค่ะ
ส่วนเรื่องการแสดงของนักแสดงแต่ละคนในเรื่อง ทุกคนถ่ายทอดออกมาได้ดี สมบทบาทที่ได้รับ เริ่มด้วยหวังอี้ป๋อที่เรื่องนี้ต้องมารับบทเป็น “เฉินซั่ว” หนุ่มที่หลงรักในการเต้นและมีความฝันอยากจะเป็นนักเต้น แต่ชีวิตของเขามันไม่ง่าย เขาต้องต่อสู้เพื่อครอบครัวและคนที่รัก ไปพร้อมกับพยายามฝึกฝนเพื่อเป็นนักเต้นให้สำเร็จ ไม่ว่าเขาจะต้องอยู่ในตำแหน่งไหนของสังคม เขาขอเพียงแค่ให้ตัวเองได้ทำตามความฝัน ได้เข้าใกล้กับความฝันหรือความรักที่ตัวเองมีต่อการเต้นก็พอ
ซึ่งตัวเฉินซั่วเป็นคนที่รักครอบครัว และคนรอบตัวของตัวเอง มีความซื่อๆ จริงใจ ที่กลายเป็นความน่ารักที่ทำให้คนรอบตัวต่างรักและเอ็นดูเขาอย่างมาก ขอบอกเลยว่าหวังอี้ป๋อถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้ดีจริงๆ เล่นเป็นธรรมชาติ ส่วนตัวไม่มีอะไรติดกับการแสดงของหวังอี้ป๋อเลย เราเชื่อว่าหวังอี้ป๋อคือเฉินซั่วจริงๆ ไม่มีภาพของหวังอี้ป๋อ พ่อหนุ่มซุปตาร์ติดออกมาเลย แล้วเป็นบทที่มีความมนุษย์ เรียลๆ ต้องดูมีความเป็นคนธรรมดา แล้วเป็นบทที่ต้องเจอทั้งฉากดราม่า โรแมนติก คอเมดี้อีก ทำให้ได้เห็นหวังอี้ป๋อในอีกมิติหนึ่งเลยก็ว่าได้
ในขณะที่หวงป๋อที่รับบทเป็นโค้ชติง ก็เล่นออกมาได้ธรรมชาติมาก ดูเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ไม่เหมือนกำลังแสดงอยู่ ซึ่งเป็นบทที่โดนเผินๆ เหมือนจะไม่ยาก แต่จริงๆ บทที่ก็มีมิติที่ท้าทาย กับการเป็นโค้ชที่ต้องแบกรับทีม ภายนอกอาจจะดูเป็นคนชิลล์ๆ แต่เขาก็มีหน้าที่รับผิดชอบใหญ่ที่ต้องแบกรับไว้ ช่วงท้ายๆ ก็ได้โชว์การแสดงในมิติของความดราม่าออกมาให้ได้เห็นด้วย
นอกจากสองนักแสดงหลักแล้ว ยังมีนักแสดงสมทบอีกหลายคนในเรื่องที่สร้างความประทับใจให้กับเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบทคุณแม่และคุณน้าของเฉินซั่ว สมาชิกในทีมเต้น หนุ่มแชมป์ระดับประเทศ หนุ่มสปอนเซอร์ของทีมอีมาร์ค ผู้ช่วยของช่ายเหวิน ทุกคนต่างเติมเต็มให้เรื่องออกมาสมบูรณ์ แล้วบางบทคือไม่ใช่แค่ต้องแสดงอย่าง แต่ต้องโชว์การเต้น ซึ่งการเต้นในเรื่องก็ยากมาก แล้วต้องแสดงไปด้วย แต่ทุกคนเล่นได้ดีจริงๆ ทั้งนักแสดงหลักและนักแสดงสมทบ ไหนจะเคมีนักแสดงก็เข้ากัน ทำให้พอเราชมแล้วเราอินไปกับความสัมพันธ์กับพวกเขามากขึ้น
งานเมสเสจของหนังเรื่องสเต็ปกล้าท้าฝันแทบไม่ต้องพูดถึง เป็นเรื่องที่สะท้อนเรื่องราวความฝันของคนออกมาได้ดี ซึ่งการจะทำตามความฝันหรืออยู่กับสิ่งที่รักได้นั้น คนเราต่างเจอเงื่อนไขชีวิตไม่เหมือนกัน คนที่เกิดมาพร้อม มีต้นทุนในชีวิต ก็อาจจะมีสิทธิ์เลือกหรือเป็นผู้ถูกเลือกมากกว่า ในขณะที่คนต้นทุนชีวิตน้อยก็ต้องพบกับอุปสรรคในชีวิต เรียกว่าหยิบประเด็นต้นทุนในชีวิตออกมาเล่าผสมผสานกับเรื่องความฝันได้อย่างกลมกล่อมและทัชใจ
ส่วนตัวหลังชมเรื่องสเต็ปกล้าท้าฝันแล้ว รู้สึกชอบและประทับใจ เป็นอีกเรื่องที่อยากแนะนำให้ไปชมกัน บางครั้งชีวิตเราอาจจะต้องเจอปัญหาที่ทำให้ท้อแท้ในชีวิตบ้าง แต่การได้ชมเรื่องนี้ก็ทำให้ได้รับพลังบางอย่างกลับไป เหมือนเป็นหนังแห่งการฮีลใจเลยก็ว่าได้ เรียกว่าใครที่ต้องการการเยียวยาหัวใจต้องพุ่งไปชมเรื่องนี้ที่โรงด่วนๆ จะเข้าฉายที่ไทยวันแรกในวันที่ 10 สิงหาคมนี้แล้วค่า
.
.
TEXT : ImJinah
PHOTO : ARTOP MEDIA
.
.
อัพเดตข่าวบันเทิงเกาหลี ซีรี่ย์เกาหลี ดาราเกาหลี ไอดอลเกาหลีได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
รีวิวสารคดี Super Junior: The Last Man Standing พร้อมบทสัมภาษณ์สุดพิเศษ Super Junior !!!
รักวัยรุ่นใสๆ แน่นะวิ! รีวิวหนังเกาหลี 20th Century Girl จาก Netflix เรื่องราวรักแรกที่มูฟออนยาก!
สปอยล์เล็กๆ กับรีวิว The Glory แนวแก้แค้นแบบสับ และเหตุผลที่ทำให้ไม่ควรพลาดชมเรื่องนี้!
รีวิวรายการเดทเกาหลี EXchange 2 ที่มีแบมแบมเป็นสมาชิกประจำ สนุกจนทำคนดูอินประหนึ่งอยู่ในรายการด้วย!
รีวิว รายการวาไรตี้เกาหลี Earth Arcade สุดฮา ที่ยกกองมาถ่ายทำที่ไทย!
ย้อนรีวิว Thirty but Seventeen ผลงานของชินฮเยซอน – ยังเซจง – อันฮโยซอบ – อีโดฮยอน!