รวบตึงซีรีส์วายสุดฟิน ดูเมื่อไรก็ยังอินได้เมื่อนั้น

account_circle
event

รวบตึงซีรีส์วายสุดฟิน หลากหลายแนว ทั้งโรแมนติกคอมเมดี้ ดราม่า สืบสวนสอบสวน หรือแม้แต่แนวครอบครัว สะท้อนสังคม ซึ่งล้วนแต่เปิดมุมมองการชมซีรีส์วายได้หลายอรรถรส ซึ่งแต่ละเรื่องล้วนได้รับความนิยม เปิดดูเมื่อไรก็ยังฟินเมื่อนั้น ที่สำคัญในลิสต์ที่เรารวบรวมมานั้น ได้เข้ารอบชิงรางวัล สุดสัปดาห์ Y Awards ด้วยนะ รักและชื่นชอบซีรีส์เรื่องไหน อย่าลืมเข้าไปโหวตเป็นกำลังใจให้ทั้งทีมนักแสดงและทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังกันที่ www.sudsapda.com ปิดโหวต 16 พ.ย. 2565 เวลา 12.00 น.

กลรักรุ่นพี่ LOVE MECHANICS

มาร์ค (วอร์-วนรัตน์ รัศมีรัตน์) เด็กหนุ่มวิศวะปี 1 ที่ต้องเป็นศัตรูกับรุ่นพี่ วี (หยิ่น-อานันท์ ว่อง) เพียงเพราะหลงรักบาร์ (ก๊อต-คณิศร เลียวรักษ์โอฬาร) ที่กำลังคบหาอยู่กับทศกัณฑ์ (เจฟ-ณธเดช ปิติตรานันท์) วีจึงพยายามกีดกันมาร์คออกจากเพื่อนสนิทของตน แต่แล้วทุกอย่างก็กลับตาลปัตร เมื่อมาร์คและวีมีสัมพันธ์ต่อกันในค่ำคืนหนึ่ง แล้วความรักของทั้งสองคนก็ค่อยๆ ก่อตัวเพิ่มขึ้น แต่ติดตรงที่วีมีพลอย (เพิร์ธ-วีริณฐ์ศรา ตั้งกิจสุวานิช) แฟนสาวที่คบกันมานานอยู่ ทำให้วีเกิดความสับสนในจิตใจ และเกิดความไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์ มาร์คจึงปล่อยใจอีกครั้ง ทำให้เหนือ (พร้อม-ราชภัทร วรสาร) รุ่นพี่อีกคน และแพ๊ค (ริท-เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช) แฟนเก่าที่หวังรีเทิร์นอีกครั้ง ได้เข้ามาในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนครั้งนี้

เป็นซีรีส์ที่แฟนๆ ต่างก็รอที่จะชม แล้วก็ไม่ผิดหวังเพราะกระแสแรงสุดๆ เพราะหลังจากซีรีส์ “กลรักรุ่นพี่ LOVE MECHANICS” กลับมาแจกความฟินให้แฟนๆ  อีกครั้งในรอบ 3 ปี แค่ปล่อยตัวอย่างตอนแรกกลายเป็นที่พูดถึงบนโลกโซเซียลอย่างหนัก จนขึ้นเทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์ของไทยและอันดับ 4 ของโลก แถมยอดวิวรับชมตัวอย่างบนแอพพลิเคชั่น WeTV ทะลุ 1 ล้านวิวเพียงไม่กี่วัน คู่จิ้นสุดฮอต อย่าง “หยิ่น อานันท์” และ “วอร์ วนรัตน์” ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เสิร์ฟความจิ้นฟินกระจาย ต้องบอกว่าเรื่องนี้เสิร์ฟความสนุกครบทุกอรรถรสจริงๆ ทั้งฉากเรียกน้ำตา กับดราม่าเส้นทางรักที่ไม่สวยงาม ก็เสียน้ำตากันไม่ใช่น้อย ฉากฟินๆ ชวนจิกหมอน  รวมถึงฉากเลิฟซีนก็มีไม่น้อย จนพากลรักรุ่นพี่ ขึ้นแท่นซีรีส์อันดับ 1 บน WeTV และติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทุกวีคที่ออนแอร์

ใครคืออองชองเต Enchanté

เรื่องราววุ่นๆ ในนิยาย สู่ความรักสุดวุ่นวายในซีรีส์ “ใครคืออองชองเต” ซีรีส์วัยรุ่นเรื่องใหม่ล่าสุด ที่แฟนๆ รอชมและให้ความสนใจอย่างมาก จาก “GMMTV” คว้านักแสดงวัยรุ่นน้องใหม่ “ฟอส-จิรัชพงศ์ ศรีแสง” และ “บุ๊ค-กษิดิ์เดช ปลูกผล” มาประกบคู่เจอกันครั้งแรก ร่วมด้วยทีมนักแสดงคุณภาพอีกคับคั่ง ได้แก่ “ฟลุ๊ค-ภูสิษฐ์ ดิษฐพิสิษฐ์, ฟลุ๊ค-กวิน แคสกี้, อู๋-ธนบูรณ์ เกียรตินิรันดร์, บูม-ธราธร จันทรวรกาญจน์, เจเจ-ชยกร จุฑามาศ, อั๋น-ณภัทร พัชรชวลิต, จิมมี่-จิตรพล โพธิวิหค, ฝน-นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล, เพลง-คีตภัทร ป้องเรือ, ก้อย-นฤมล พงษ์สุภาพ, อั๋น-โอลิเวอร์ พูพาร์ท, ฟ้า-ยงวรี อนิลบล ฯลฯ” ผ่านฝีมือการกำกับของ “ฟิล์ม-ภาวิส เสาร์ศรีอ่อน” ที่ส่งความฟินจิ้นกระจาย ครบทุกอารมณ์

“อองชองเต” เป็นภาษาฝรั่งเศส ที่แปลว่า ยินดีที่ได้รู้จัก แต่ “ทิว” (รับบทโดย บุ๊ค-กษิดิ์เดช) จะทำอย่างไร เมื่ออองชองเตที่ตามหาดันมาปรากฏอยู่ตรงหน้าถึง 4 คน!!! กับภารกิจตามหาว่า ใครกันแน่ คือ อองชองเต ตัวจริง? ของ “ทิว” เด็กหนุ่มหน้าตาดี ดีกรีนักเรียนนอกจากฝรั่งเศส และผู้ช่วยอย่าง “อัคค์” (รับบทโดย ฟอส-จิรัชพงศ์)  เพื่อนสนิทบ้านตรงข้ามที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก จึงเริ่มต้นขึ้น ทำให้ทั้งคู่ต้องมาทำความรู้จักกับผู้ชายสุดเพอร์เฟคทั้ง 4 คน ได้แก่

“นที” (รับบทโดย ฟลุ๊ค-ภูสิษฐ์) รุ่นพี่ปี 3 เทพด้านศิลปะ แห่งคณะศิลปกรรม

“ภูผา” (รับบทโดย อู๋-ธนบูรณ์) รุ่นพี่ปี 3 รุ่นพี่สายรหัสผู้เก่งวิชาการ จากคณะศิลปศาสตร์

“สายฟ้า” (รับบทโดย ฟลุ๊ค-กวิน) รุ่นพี่ปี 3 อัจฉริยะด้านดนตรี จากคณะนิเทศศาสตร์

และ “วาโย” (รับบทโดย บูม-ธราธร) รุ่นพี่ปี 3 กัปตันทีมนักฟุตบอลของมหาวิทยาลัย จากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา

สุดท้ายแล้ว เรื่องราวความรักในครั้งนี้ ใครจะเป็นคำตอบสุดท้าย? มาร่วมลุ้นไปพร้อมกัน

KinnPorsche The Series

อีกหนึ่งซีรีส์วายสุดปังมาแรงแห่งปี ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกน่าติดตามแนวเอ็กชั่นมาเฟีย ก็จะมีเรื่องให้ลุ้นตลอด นอกจากความแอ็คชั่นแล้ว ยังผสมผสานความโรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่าเข้ามาไว้ในเรื่องอย่างลงตัว โดยเฉพาะฉากจิ้นๆ เลิฟซีนในเรื่องนั้น… คือแบบ โอ้โห… ฟินเวอร์มาก

คินน์พอร์ช เดอะ ซีรีส์ เป็นซีรีส์วายที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายออนไลน์ชื่อเดียวกันโดยผู้เขียน daemi คินน์ (นำแสดงโดย มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง) ลูกชายคนรองของตระกูลมาเฟีย เขาถูกศัตรูลอบทำร้าย ในขณะที่กำลังหนีเอาตัวรอด เขาก็มาพบกับ พอร์ช (นำแสดงโดย อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์) หนุ่มนักศึกษาที่ทำงานพิเศษในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในตอนที่เขาเห็นคินน์ถูกศัตรูตามล่า เขาไม่ได้มีความคิดจะไปช่วยเลยแม้แต่น้อย แต่แล้ว…คินน์และพอร์ชก็ได้ทำข้อตกลงกัน ถ้าจะให้พอร์ชช่วย คินน์จะต้องจ่ายค่าตอบแทน ความเห็นแก่เงินที่ครอบงำจิตใจทำให้พอร์ชผู้มีดีกรีแชมป์ยูโดระดับประเทศ จำเป็นต้องเข้าไปข้องเกี่ยว และเขาก็ได้ช่วยคินน์ให้รอดพ้นจากศัตรูได้สำเร็จ

ฝีไม้ลายมือและความโดดเด่นในการต่อสู้ของพอร์ช ทำให้คินน์อยากได้ตัวเขามาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว แม้ว่าต้องพลิกฟ้าล่าแผ่นดินเขาก็จะทำเพื่อตามหาคนที่เขาต้องการ… หลังจากนั้น พอร์ชก็ถูกคินน์และศัตรูของคินน์ตามรังควาน ชีวิตของเขาไร้สิ้นหนทาง เขาจึงทำได้เพียงยอมจำนนต่อโชคชะตา จึงต้องมาเป็นบอดี้การ์ดให้คินน์อย่างจำใจ แต่ในใจพอร์ชนั้นต่อต้าน เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบ้าๆ บอๆ พวกนี้ เพราะเขากลัวว่าน้องชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียวของเขาจะเป็นอันตรายไปด้วย ทว่าราวกับฟ้าดินกลั้นแกล้ง สุดท้ายเขาก็ต้องตอบรับเป็นบอดี้การ์ดของคินน์และเข้ามาอยู่ในตระกูลที่แสนจะวุ่นวายอย่างช่วยไม่ได้

การเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลมาเฟียสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฝีไม้ลายมือ ในระหว่างนั้นพอร์ชก็ได้พบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดมากมาย ยิ่งเข้าใกล้คินน์มากเท่าไร ในใจของเขาก็ยิ่งสับสน เขาเริ่มใจเต้นแรง และสุดท้ายก็ตกหลุมรักคินน์ในที่สุด ทว่าเส้นทางนี้กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ตามมาล้วนเป็นบททดสอบความรักของพวกเขา ปัญหาต่างๆ มากมายที่พอร์ชต้องเผชิญ กลับยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเขาที่มีต่อคินน์…

คาธ The Eclipse

ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง คาธ โดยผู้แต่ง Prapt กำกับโดยผู้กำกับมากฝีมือ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิฐ์  

“โรงเรียนคือบ้านหลังที่ 2” ที่จะหล่อหลอมให้พวกเขาเติบโตต่อไปในสังคม แต่ถ้ากฎระเบียบในโรงเรียน กลายเป็น ปัญหา นักเรียนเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้ เรียกร้องสิ่งที่พวกเขาโดนขโมยไปหรือ?

ในโรงเรียนเมื่อมีผู้คุมกฎ ก็ย่อมมีผู้ที่จ้องจะแหกกฎ ความต่างกันที่ดันทำให้เกิดความรักระหว่างคนสองคนขึ้น

“คาธ The Eclipse” ซีรีส์ที่จะทำให้คุณได้ตั้งคำถาม ได้เรียนรู้ ได้เติบโตเพื่อที่จะใช้ชีวิตเป็นตัวของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะรักใครสักคน

โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และยังเป็นโรงเรียนที่มีกฎระเบียบเคร่งครัด แต่ก็มีเรื่องราวอาถรรพ์เกี่ยวกับคำสาปที่จะคอยลงโทษเด็กนักเรียนที่ทำตัวนอกคอก และอาถรรพ์นี้จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปอีกเมื่อใกล้ถึงช่วงสุริยคราส

เมื่อโรงเรียนมีกฎระเบียบ ก็ย่อมมีกลุ่มคนที่ไม่อยากปฏิบัติตามกฎ “แก๊งโลกไม่ลืม” นักเรียนที่รวมตัวกันเพราะมีอุดมการณ์เดียวกันคือ ไม่ต้องการปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนที่ล้าหลัง จึงออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิ์และความเป็นธรรม ทำให้ประธานสารวัตรนักเรียนดีเด่นที่เป๊ะทุกระเบียบนิ้วอย่าง “อักก์” (คณพันธ์ ปุ้ยตระกูล) และเพื่อนสนิทที่เป็นสารวัตรนักเรียนเหมือนกัน “ครรลอง” (ตรัย นิ่มทวัฒน์) และ “วสุวัฒน์” (ชยพล จุฑามาศ) ต้องคอยห้ามปรามนักเรียนกลุ่มนี้อยู่ตลอด

แต่ก็ดันมีเด็กใหม่ “อายัน” (ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล) เด็กหนุ่มท่าทางน่าสงสัย ชอบทำตัวแปลกๆ เหมือนมีความลับอะไรบางอย่าง พยายามจะท้าทายกฎของโรงเรียนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ “อักก์” ต้องคอยจับตามอง “อายัน” ไว้ ซึ่งสาเหตุที่ “อายัน” ย้ายเข้ามาในโรงเรียนนี้ก็เพื่อตามหาความจริงว่าใครเป็นต้นเหตุให้ “ฎีกา” (ภัทรภณ โตอุ่น) น้าชายของเขาต้องฆ่าตัวตาย และหลักฐานเดียวที่มีก็คือสมุดบันทึกเล่มเก่า ที่บอกเขาว่าต้นเหตุคือคนที่อยู่ในโรงเรียนนี้

และ “อายัน” เมื่อรู้ตัวว่ากำลังโดน “อักก์” ตามดู ก็เกิดความรู้สึกท้าทาย และอยากแกล้งอีกฝ่าย จนทำให้ทั้งสองคนกลายมาเป็นคู่กัดกันไปโดยปริยาย แต่เมื่อต้องใกล้ชิดกันและใช้เวลาด้วยกันบ่อยๆ “อักก์” ก็เริ่มมีอาการเขินและใจเต้นแรงกับ “อายัน” จนต้องปฏิเสธตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเด็กใหม่คนนี้ และเกิดอาการหึงอายันกับ “ถั่วพู” (ธณวิน ธีรโพสุการ) เด็กหัวกะทิของโรงเรียนที่ดูเหมือนจะสนิทกับ “อายัน” เป็นพิเศษ แต่อาการใจเต้นนี้ก็มาพร้อมความสงสัย เมื่อ “อักก์” สังเกตว่า “อายัน” มีสมุดบันทึกเก่าๆ เล่มหนึ่ง ที่ไม่ยอมให้ใครแตะต้อง “อักก์” จึงพยายามหาทางที่จะเอาหนังสือเล่มนั้นมาเผื่อจะรู้สาเหตุที่ “อายัน” ย้ายมาโรงเรียนนี้ เพื่อไปรายงาน “อาจารย์ชาดก” (วัชรเกียรติ บุญภักดี) ที่ขอให้เขาตามดูพฤติกรรมของอายัน

ถึงแม้อาจารย์ทุกคนในโรงเรียนนี้จะไม่พอใจกับพฤติกรรมของเด็กในโรงเรียนที่ออกนอกลู่นอกทาง แต่ก็ยังมี “อาจารย์ศนิ” (ภัชธร ธนวัฒน์) อาจารย์หัวสมัยใหม่ ที่คอยช่วยเหลือนักเรียนอยู่ห่างๆ เพราะตนเองไม่มีอำนาจในโรงเรียนมากพอ เมื่อเวลาผ่านไป นักเรียนในโรงเรียนเริ่มไม่เชื่อเรื่องราวอาถรรพ์และพยายามตามหาว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวบ้าๆ เหล่านี้ เพื่อสร้างความหวาดกลัวทำให้นักเรียนไม่กล้าทำอะไรผิดจากกฎของโรงเรียน จนทำให้การต่อต้านเริ่มรุนแรงมากขึ้น

คุณหมีปาฏิหาริย์ The Miracle Of Teddy Bear

สำหรับใครที่ชอบดูซีรีส์ย่อยง่าย ดูแล้วได้อมยิ้มตาม แถมยังมีเรื่องราวแฟนตาซีให้ว้าว รับรองว่า คุณหมีปาฏิหาริย์ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน เพราะซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องตุ๊กตาหมีสีขาวที่อาศัยอยู่ในห้องนอนของชายหนุ่มนามพีรณัฐ จนกระทั่งวันหนึ่ง ปาฏิหาริย์ทำให้เจ้าหมีกลายร่างเป็นชายหนุ่ม นอกเหนือจากบทพูดที่ฟังแล้วอารมณ์ดีจนเขินตาม คุณหมีปาฏิหาริย์ ยังเป็นอีกเรื่องราวอบอุ่นที่ย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของความเข้าใจ และการยอมรับของคนรอบข้าง

ในเช้าวันหนึ่ง ตุ๊กตาหมีชื่อว่า “เต้าหู้” (อิน สาริน) ได้กลายร่างเป็นคน คนที่มีลมหายใจ ภายในบ้านของพีรณัฐ (จ๊อบ ธัชพล) แต่คนที่เจอเต้าหู้เป็นคนแรกกลับกลายเป็นมทนา (อุ๋ม อาภาศิริ) แม่ของพีรณัฐที่คิดว่าเต้าหู้ตกลงมาจากฟ้าเหมือนกับเจ้าชายน้อยในหนังสือที่อ่าน แต่พีรณัฐไม่ได้คิดแบบนั้น และนั่นเป็นที่มาของความโกลาหลวุ่นวายที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น

แค่เพื่อนครับเพื่อน BAD BUDDY SERIES

จากคนที่ไม่มีวันเป็น “เพื่อน” กันได้…สู่คนที่ไม่มีวันเป็นได้ “แค่เพื่อน” ภัทร หนุ่มทะเล้น กากเกรียน และ ปราณ หนุ่มเนี้ยบ มาดคุณชาย ผู้ที่ถูกฟ้าลิขิตให้เป็นศัตรูกันตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า เพราะพ่อแม่เปิดร้านอุปกรณ์ก่อสร้างอยู่ข้างกัน แข่งกันตัดราคา แย่งลูกน้อง เกลียดกันชนิดไม่เผาผี ทำให้ทั้งคู่ถูกวางตัวเป็นคู่แข่งกันตั้งแต่เกิด ไม่ว่าใครคลานได้ก่อน เดินได้ก่อน เรียกพ่อแม่ได้ก่อน ทุกอย่างล้วนถูกเอามาเปรียบเทียบเกทับกัน

แต่วันหนึ่งตอนที่ทั้งคู่อายุ 12 ปี กำแพงความเกลียดชังของทั้งคู่ก็เริ่มมีรอยร้าว เมื่อ ภา น้องสาวของภัทรขี่จักรยานพลัดตกน้ำในคลองหมู่บ้าน ระหว่างที่ภัทรยังทำอะไรไม่ถูก เป็นปราณที่กระโจนลงน้ำไปช่วยภาขึ้นมา เหตุการณ์นั้นก็ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เปลี่ยนไป แม้ภายนอกจะดูเป็นคู่แข่งกันเหมือนเดิม แต่ลึกๆ ข้างในก็ไม่เกลียดชังกันเท่าเดิม จน ม.3 อาจารย์ให้ทั้งคู่ฟอร์มวงดนตรีด้วยกัน ทำให้ทั้งคู่ต้องใกล้ชิดกันมากขึ้น

4 ปีต่อมา โชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อส่งให้ ภัทร เข้าเรียนปี1 เป็นประธานรุ่นฝั่งวิศวะ ขณะที่ ปราณ เป็นประธานรุ่นคณะสถาปัตย์ โดยที่ทั้ง 2 คณะเป็นคู่แค้นกันมานาน ทำให้ภัทรและปราณต้องกลับมาตีกันอีกครั้ง เมื่อภารู้เรื่อง ก็วีนแตก ยื่นคำขาดห้ามภัทรทำร้ายปราณเด็ดขาด เพราะบุญคุณที่เคยช่วยไว้ ทำให้ภัทรไปขอทำข้อตกลงกับปราณว่าจะแอบแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ทั้ง 2 คณะทะเลาะกัน ปราณเองก็ไม่ชอบมีเรื่องเลยยอมตกลง ทำให้ทั้งคู่เริ่ม “ความสัมพันธ์แบบลับๆ” ที่จะเป็นเพื่อนก็ไม่ใช่ ศัตรูก็ไม่เชิง แต่บันเทิงใจคนดู สุดท้ายแล้วมิตรภาพบนความขัดแย้งของภัทรและปราณจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ความลับจะแตกลงเมื่อไหร่ พ่อแม่จะยอมรับหรือไม่ หรือสุดท้ายจะมีวันที่ความขัดแย้งคลี่คลายหรือไม่

จุดหมายคือท้องฟ้า You’re My Sky

เพราะกีฬามักจะมาพร้อมกับการแข่งขัน คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาจึงเป็นเหมือนศูนย์กลางของการแข่งขัน คณะที่เหล่านักกีฬาต่างตบเท้าก้าวเข้ามาด้วยความหวังเต็มเปี่ยมที่จะได้ไปสู่จุดสูงสุดของการเป็นนักกีฬา น่าเศร้าที่แท่นรับรางวัลมีที่ยืนจำกัด เมื่อเข้ามาแล้ว การแข่งขันนั้นจึงดุเดือดขึ้นเป็นเท่าทวี

แต่ใครจะรู้ว่า ในมุมหนึ่งของสมรภูมิแห่งนี้ ยังมีความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่ม 7 คน ที่กำลังผลิบานและเติบโต พวกเขาต้องจับมือกันสุดแรง ด้วยหวังว่าจะไปสู่เส้นชัย โดยไม่มีใครตกหล่นระหว่างทาง แต่ว่ายิ่งเข้าใกล้ฝัน มือที่จับกันไว้ก็ยิ่งคลายลง ในขณะที่พยายามรักษาคนสำคัญในชีวิตเอาไว้ ความฝันก็ราวจะปลิวไปทุกนาที หรือว่าแท้จริงแล้ว ความรักต่างหาก ที่เป็นอุปสรรคสำคัญบนเส้นทางของการเป็นนักกีฬา?

เลิฟ@นาย Oh! my Sunshine Night

คิม (โอห์ม ฐิติวัฒน์) กับ เรน (โน่ ภูหลวง) สองพี่น้อง แห่งตระกูลกรรณกุล ลูกชายของ คชา (ถา สถาพร) และ อรณี (แพร รัชนี) ครอบครัวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับต้น ๆ ของประเทศ เรน พี่ชาย หนุ่มนิสิตปี 4 ซึ่งอัธยาศัยดีจนเป็นที่รักใคร ๆ ซึ่งแตกต่างกับน้องชาย คิม นิสิตปี 3 ผู้เงียบขรึม มีโลกส่วนตัวสูงมาก ด้วยความรักในเสียงดนตรีของเชลโล่ และมีความใฝ่ฝันแค่จะไปแสดงเชลโล่บนเวทีเดียวกับศิลปินคนโปรดของตัวเอง โดยมี พายุ (ปีเตอร์แพน ทัศน์พล) หนุ่มวัยเดียวกับเรน ที่เป็นลูกชายของบัทเลอร์สันติ (ลิฟท์ สุพจน์) ผู้ดูแลทุกอย่างในครอบครัวกรรณกุล พายุเป็นเสมือนเพื่อนและบอดี้การ์ดดูแลพี่น้องทั้งสองคน เพราะทั้งสามคนเติบโตมาด้วยกัน ครอบครัวกรรณกุลก็เอ็นดูและดูแลพายุด้วยเช่นกัน

โลกของคิมต้องเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้พบกับ ซัน (ฟลุ้ค ณธัช) ที่เพิ่งย้ายมาเทียบโอนที่มหาวิทยาลัยนี้ตอนปี 3 ซันผู้มองโลกในแง่ดี ฝึกฝนการเล่นกีตาร์เพราะต้องการเข้าใกล้สิ่งที่เขารัก ซันโชคร้ายเกิดมามีเส้นเลือดแดงสองเส้นวิ่งเข้าหัวใจ ทำให้เกิดผิดปกติทางหัวใจ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ซันเติบโตขึ้นมาได้ แม้ไม่แข็งแรง แต่ก็ถือว่าเป็นผู้รอดชีวิตที่เติบโตมาแบบนักสู้ ซันพยายามเข้าชมรมดนตรีคลาสสิคของมหาวิทยาลัยให้ได้ แต่ก็พลาดจากการเข้านัดออดิชั่น ทำให้ซันรู้สึกผิดหวังในตัวเองมาก แต่ อ.วรรณสิงห์ (นัททิว ณัฏฐ์) ก็ช่วยให้โอกาสซันเข้าในวงจนได้

เรื่องราวของโชคชะตาและความผูกพัน ระหว่างเพื่อนวัยนักศึกษาที่ยากจะลงตัวของคิมและซัน ที่เหมือนว่าความสัมพันธ์และความรู้สึกดีๆกำลังก่อตัวขึ้นจากความสนิทสนมกันในชมรมดนตรีและเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมีพาย (ดิว นิติกร) และเพชร (กันต์ กฤติกร) สองหนุ่มจากชมรมฟันดาบสุดฮอต ในมหาวิทยาลัย เข้ามาเกี่ยวพันกับทั้งคิมและซัน ยิ่งทำให้เกิดความวุ่นวายพัลวัน ทำให้ โอ (ไรอัน ปัญญา) เพื่อนในชมรมฟันดาบต้องเข้าช่วยเหลืออยู่เสมอ

ส่วนที่ชมรมรักบี้ของเรน ก็มีชุน (ยูฟ่า ณัฏฐวัฒน์) เพื่อนของซันที่เข้ามาเป็นสต๊าฟและตัวสำรองของทีมคอยสร้างสีสันให้กับชมรม นอกจากนั้น ใบบัว (ใยไหม ชินารดี) สาวสวยน่ารักเพื่อนของคิมมาแอบชอบรุ่นพี่อย่างพายุ จนทำให้เรื่องทุกอย่างดูคึกคักชุลมุน ผ่านกลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่อย่างโทนี่ (มีน ณัฐกฤต) เพื่อนรักชมรมรักบี้ของเรน และทอย (พีท วสุธร) เพื่อนในชมรมดนตรีของใบบัว ที่ต้องคอยสังเกตุการณ์เรื่องราวความรักอบอวลอันน่าปวดหัว

แต่เมื่อเส้นทางธุรกิจของตระกูลกรรณกุลต้องมาพัวพันกับปัญหาหุ้นส่วน และชีวิตรวมถึงทุกๆอย่างในโลกนี้คงไม่มีอะไรน่าจดจำเลย ถ้ามันไม่เกิดเรื่องที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน และนั่นคือเส้นทางชีวิตของทุกตัวละครที่จะร่วมกันฟันฝ่าไม่ว่าชะตาฟ้าลิขิตให้ชีวิตพวกเขาลงเอยแบบไหน…

“ช่วงเวลาแห่งความสุข กับครั้งนึงในความทรงจำที่งดงาม”…ความรู้สึกดีๆกำลังจะก่อตัวขึ้นหรือกำลังจะหายไป เมื่อความเหงาในสายลมหนาวกำลังจะพัดผ่านมา…

แปลรักฉันด้วยใจเธอ

ซีรีส์แนว Coming of Age ที่ใน Part แรก จะพาผู้ชมไปซึมซับบรรยากาศเมืองภูเก็ต ความสัมพันธ์ของเพื่อนรัก ที่กลับมาเจอกัน พร้อมความฝัน และ เรื่องค้างคาใจในวัยเด็ก เต๋ และ โอ้เอ๋ว จึงกลายมาเป็นศัตรูคนสำคัญ ที่ยิ่งสำคัญ ก็ยิ่งอยู่ในสายตา จนพาไปสู่ความรู้สึกใหม่… มาแปลความรู้สึก และเติบโตไปพร้อมกัน ใน ซีรีส์แปลรักฉันด้วยใจเธอ

ต่อเนื่องกันมาถึง แปลรักฉันด้วยใจเธอ Part2 ความสัมพันธ์จากเพื่อน เลื่อนขึ้นมาเป็นแฟน ของ เต๋และโอ้เอ๋ว เมื่อขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพฯ ทั้งคู่ต้องพบความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คำสัญญาว่า จะรักกันไม่มีวันเปลี่ยน จะถูกรักษาไว้ได้จริงหรือไม่?

นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ Cutie Pie Series

‘นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ Cutie Pie’ คือซีรีย์วายแนวคู่หมั้นครั้งแรกของไทย  จากนิยายสายวายขายดีสุดฮิตสู่ซีรีย์สุดปัง จากค่ายคุณภาพ ‘Mandee Work’ นำทีมนักแสดงนำดาวรุ่งกระแสแรงและเคมีดีอย่าง ‘ซี พฤกษ์ – นุนิว ชวรินทร์ – แม้ก กรธัสส์ – ณฐ ณฐสิชณ์ – ติวเตอร์ กรภัทร์ – ยิม ปริญญากรณ์’ มาถ่ายทอดเรื่องราว พร้อมส่งความจิ้นให้แฟนๆ ได้ฟินจิกหมอนกระจาย

‘นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ Cutie Pie’ เป็นเรื่องราวของนายเอก ‘เกื้อ กีรติ’ รับบทโดย ‘นุนิว ชวรินทร์’ คุณหนูตระกูลผู้ดีเก่า ดีกรีลูกชายท่านทูต ที่ต้องทำตัวให้เรียบร้อยดูดีเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของครอบครัว แต่ตัวจริงนั้นแสนจะห่าม ถูกจับให้หมั้นหมายกับพระเอก ‘เหลียน กิเลน หวัง’ รับบทโดย ‘ซี พฤกษ์’ นักธุรกิจหล่อรวย จากครอบครัวเชื้อสายจีน ทำให้ทั้ง 2 สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆแต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องห่างกัน จนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งแต่ความสัมพันธ์ก็เต็มไปด้วยความสงสัยในความรู้สึกที่มีต่อกันแลกัน จึงทำให้เป็นเหตุของการอยากถอนหมั้นของนายเอก! ดังนั้นพระเอกจึงต้องหาวิธีล้มเลิกการถอนหมั้นครั้งนี้ให้ได้!! แล้วสุดท้ายเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะจบลงอย่างไร? ใครดูก็รู้กันแล้วอะเนอะว่าเป็นอย่างไร ที่คอนเฟิร์มคือ คู่นี้เขาฟินทั้งนอกเจอและในจอเลยอะ น่ารักกก


NOT ME เขา…ไม่ใช่ผม

ฉีกกฏซีรีส์ที่คุ้นเคย เพราะ NOT ME เขา…ไม่ใช่ผม ได้มีการแฝงประเด็นมุมมืดของสังคมเข้าไปในเนื้อหาซีรีส์อย่างเข้มข้นลงตัว นำแสดงโดยคู่จิ้นสุดฮอต อย่าง ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร และกัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์

เพราะพี่ชายฝาแฝดโดนทำร้ายจนสาหัส แฝดน้องเลยสวมรอยเป็นคนพี่เพื่อสืบหาว่าใครเป็นคนทำร้ายพี่ชายเขากันแน่ จนเกิดเป็นเรื่องราวความรักท่ามกลางการเรียกร้องความเป็นธรรมจากปัญหาสังคมอย่างเข้มข้น นับเป็นซีรีส์คุณภาพทั้งเนื้อหาและงานสร้างสรรค์ โดยฝีมือทีมงานคุณภาพระดับมือรางวัล กำกับโดย นุชี่-อนุชา บุญยวรรธนะ

แบล็ค กับ ไวท์ (กัน-อรรถพันธ์) เป็นฝาแฝดที่มีความเชื่อมโยงถึงกันอย่างน่าประหลาด เมื่อคนหนึ่งได้รับอันตรายอีกคนก็จะสัมผัสได้เช่นกัน วันที่พ่อกับแม่แยกทางกัน พ่อพาไวท์ไปอยู่ต่างประเทศ เมื่อเวลาผ่านไปความเจ็บปวดที่เคยเชื่อมถึงกันก็ค่อยๆ เลือนลางตามกาลเวลาและระยะทาง ผ่านไปสิบห้าปี ไวท์เติบโตกลายเป็นหนุ่มนักเรียนนอกจากรัสเซีย เมื่อไวท์เดินทางกลับมาไทยเป็นครั้งแรกตั้งแต่แยกจากแบล็ค อดุลย์ ทูตเกษียณราชการผู้เป็นพ่อ ไม่เคยพูดถึงแม่อีกเลย ส่วนแบล็คก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน จู่ๆ ไวท์ก็ทุกข์ทรมานสาหัสทั้งที่กำลังกินข้าวอยู่ ไวท์รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะตาย เขาถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลจนหายดี แต่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไร

แต่แล้วไวท์ก็ได้รับโทรศัพท์จาก ต๊อด (หฤษฎ์ ชีวการุณ) เพื่อนวัยเด็ก บอกกับเขาว่า แบล็คกลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว แบล็คโดนทำร้ายจนโคม่า ไวท์ต้องการหาตัวคนร้ายที่ทำร้ายแบล็คให้ได้ ต๊อดได้เล่าเรื่องที่แบล็คได้กลายมาเป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่ไม่สนใจชีวิต ไวท์ตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองเป็นแบล็ค เข้าไปอยู่ในแก๊งเพื่อนสนิทที่มี ฌอห์ณ (ออฟ-จุมพล) แกรม (ธนัชชัย วิจิตรวงศ์ทอง) และหยก (คณพันธ์ ปุ้ยตระกูล)  ที่ไวท์สงสัยว่าหนึ่งในนี้คือคนที่ทำร้ายแบล็ค ทั้งแก๊งชอบรวมตัวกันที่อู่ซ่อมรถของ กุมภา ไวท์พยายามหาคนที่คิดว่าน่าจะเกลียดแบล็คมากที่สุด แต่กลับพบว่า ทุกคนดูเกลียดแบล็คแทบทั้งหมดทั้งที่เป็นเพื่อนแก๊งเดียวกัน ไวท์เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขารู้จักตัวตนของพี่ชายฝาแฝดตัวเองมากแค่ไหน หรือว่าเขาไม่เคยรู้อะไรเลยกันแน่ ความสับสนในใจของไวท์ทำให้ฌอห์ณสงสัยและจับพิรุธไวท์ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน เพราะมันไม่เหมือนแบล็คที่เขารู้จัก

ฌอห์ณไม่ถูกกับแบล็คมาตลอด ด้วยนิสัยของแบล็คที่ไม่ไว้ใจและไม่เคยสนว่าใครจะรู้สึกอย่างไร แตกต่างจากแบล็คคนใหม่ที่ดูตรงกันข้ามไปเสียทุกอย่าง แตกต่างจนทำให้ฌอห์ณรู้สึกหงุดหงิดที่ดันไปรู้สึกดีด้วยทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไวท์จะค้นหาความจริงที่เกิดกับพี่ชายฝาแฝดได้หรือไม่ แล้วความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นระหว่างไวท์กับฌอห์ณล่ะ ยังไงดีนะ


นิทานพันดาว 1000stars  

จากนิทานรักที่ทุกคนรอคอย สู่ซีรีส์รักโรแมนติกที่ตราตรึงใจใครหลายคน “นิทานพันดาว”

เรื่องเล่าในนิทาน… จะกลายเป็นจริงด้วยแรงอธิษฐานแห่งดวงดาวนับพัน เธียร (มิกซ์ สหภาพ) ได้เกิดหัวใจวายกะทันหัน เขาได้รับบริจาคหัวใจจากทอฝัน (อ้าย สรัลชนา) ที่เสียชีวิตวันเดียวกับที่เธียรหัวใจวาย หัวใจดวงใหม่ถูกแทนที่ดวงเก่า และได้เปลี่ยนชีวิตเธียรไปตลอดกาล เขาอยากตอบแทนทอฝันที่ให้ชีวิตที่สองกับเขา และค้นหาความหมายของชีวิตว่าทำไมคนอย่างเขาถึงมีสิทธิ์ที่จะอยู่บนโลกต่อเป็นครั้งที่สอง

เธียรได้ขึ้นไปบนหมู่บ้านผาปันดาวเพื่อไปเป็นครูอาสาแทนทอฝัน ที่นั่นเขาได้เจอกับ หัวหน้าภู (เอิร์ท พิรพัฒน์) เจ้าหน้าที่อุทยานฯ หัวหน้าหน่วยพระพิรุณที่ดูแลหมู่บ้านผาปันดาว คอยมาดูแลเธียร แต่เพราะความลูกคุณหนูของเธียร ทำให้ภูผาไม่พอใจที่เขาไม่เตรียมพร้อมที่จะเป็นครูอาสาและไล่เขากลับ แต่เธียรก็พยายามพิสูจน์ตัวเองจนภูผาเห็นความตั้งใจ และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีขึ้นและค่อยๆพัฒนาความรู้สึก จนเธียรเองสงสัยว่าความรู้สึกนี้เกิดจากหัวใจของทอฝันที่เคยรักหัวหน้าภูผา หรือเกิดจากเขาเองเริ่มหวั่นไหวกับความสัมพันธ์นี้เอง แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นความลับเดียวที่เขาไม่อยากให้หัวหน้าภูผา และชาวบ้านผาปันดาวรู้คือ ทอฝันได้จากพวกเขาไปแล้ว และเขามีหัวใจของทอฝันอยู่ในตัวของเขา

This image has an empty alt attribute; its file name is %E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7.jpg


Triage ทริอาช

เต้-ตี๋ คู่จิ้นในตำนานกลับประกบคู่อีกครั้งในรอบ 5 ปี กับบทสุดท้าทายในซีรีส์ทริอาช ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งผลงานฟอร์มยักษ์ที่ “AIS PLAY ORIGINAL” และ “ทีวี ธันเดอร์” ตั้งใจเสิร์ฟความสนุกเข้มข้นให้กับแฟนๆ ทุกอีพี

สำหรับ “ทริอาช” เป็นซีรีส์แนวเมดิคัลดราม่า ( Medical Drama) ผสมกลิ่นอายแฟนตาซีที่เน้นเรื่องราวของนาทีเป็นนาทีตายในห้องฉุกเฉิน เรื่องนี้ดึงผู้กำกับฝีมือคุณภาพ “มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล” มากำกับการแสดง พร้อมส่งคู่จิ้นในตำนาน Boys’ Love อย่าง “เต้-ดาวิชญ์ กรีพลฤกษ์” และ “ตี๋-ธนพล จารุจิตรานนท์” กลับมาสร้างกระแสจิ้นอีกครั้งในรอบ 5 ปี ซึ่งเรื่องนี้นับเป็นบทบาทที่ท้าทายความสามารถของทั้งคู่เลยก็ว่าได้ 

“ทริอาช” คือระบบการคัดแยกผู้ป่วยเพื่อจัดลำดับก่อนหลังของการรักษา โดยบอกเล่าเรื่องราวของ “หมอติณห์” (เต้-ดาวิชญ์) แพทย์ประจำบ้านปี 3 ที่ทั้งเก่งและเข้มงวด วันหนึ่งเขาต้องเจอกับ ต้อลนักศึกษาหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พร้อมๆ กับลุงขับซาเล้งคู่กรณีที่อาการสาหัส ถือเป็นทริอาชสีแดงทั้งคู่ แต่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตทั้งสองคนเอาไว้ได้ หลังจากลงเวร หมอติณห์ (ตี๋-ธนพล) กลับห้องพักแพทย์เพื่อผักพ่อนตามปกติ แต่เมื่อตื่นขึ้นมากลับพบว่า ชีวิตของเขาติดอยู่ในลูปเวลา พบเจอเหตุการณ์ซ้ำเดิม เจอต้อลและซาเล้งคนเดิม หนทางเดียวที่จะช่วยให้เขาหลุดออกจากลูปเวลาคือการช่วยชีวิตนักศึกษาคนนั้นให้รอดจากความตาย


พินัยกรรมกามเทพ Cupid’s Last Wish

เมื่อ “พินัยกรรม” คือจุดเริ่มต้นที่นำความวุ่นวายเข้ามาสู่ครอบครัววโรดม ไหนจะเรื่องที่ 2 พี่น้อง “วิน” และ “ลิน” ประสบอุบัติเหตุจนสลับร่างกัน วินในร่างลินจึงต้องหาทางแก้ไขด้วยการเดินทางขึ้นเขา เข้าป่า เพื่อไปตามหาน้ำมนต์จาก 4 วัด ภายในเวลาแค่ 7 วัน กับ “ไอ้กรณ์” เพื่อนรักที่กลายมาเป็นเพื่อนแค้น เพื่อกลับร่างเดิมให้ได้! แล้วยังต้องปกป้องฟาร์มจากมือของสองอาที่ต้องการจะแย่งสมบัติไปอีก การออกเดินทางครั้งนี้ จะทำให้ความสัมพันธ์ของ กรณ์ และ วิน เปลี่ยนไปหรือไม่ แล้วพินัยกรรมแห่งความขัดแย้งนี้ จะกลายมาเป็นพินัยกรรมกามเทพได้อย่างไร

ส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITE ME

เป็นอีกหนึ่งมิติความแปลกใหม่ในการนำเสนอ เพราะเรื่องนี้คือซีรีส์วายกินได้ ซึ่งในระหว่างที่ออนแอร์นั้น ผู้ชมจะอิ่มทั้งความสนุกของซีรีส์ และอิ่มท้องไปกับความอร่อย โดยสามารถสั่งอาหารจากเมนูในเรื่องมากินเห็นในเรื่องมากินได้จริงๆ แต่ละเมนูคืออร่อยมาก และบางเมนูก็หากินยาก เช่น ข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ สูตรพิเศษจากทางร้านอิ่มเอื้อ ขนมมัศกอด ขนมไทยโบราณ หารับประทานยาก น้ำกระชายผสมน้ำผึ้งเป็นต้น

เรื่องราวของส่งร้อนเสิร์ฟรัก BITEME เล่าถึง เอก (มาร์ค ศิวัช จำลองกุล) เด็กเหนือในวัย 21 ปี เติบและโตที่จังหวัดน่าน มีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ คณะบัญชี เอกหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือด้วยการส่งไลน์แมน และมีความฝันอยากเป็นเชฟระดับโลก

ส่วน เชฟเอื้อ (ซุง กิดาการ ฉัตรแก้วมณี) เชฟวัย 30 ปี เจ้าของร้านอาหาร อิ่มเอื้อ ที่เปิดขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเอง เพราะสิ่งที่เชฟเอื้อขาด ไม่สามารถมีอะไรมาเติมเต็มได้นอกจากพรสวรรค์ โดยเชฟเอื้อไม่เคยคาดคิดเลยว่าสิ่งที่เขาขาดหายไปจะถูกค้นพบในตัวของเอก เด็กส่งอาหาร

เมื่อหนึ่งคนผู้มีความฝันแต่ขาดโอกาส กับหนึ่งคนผู้มือความเชี่ยวชาญและความสามารถแต่ขาดรสมือ เมื่อทั้งสองคนมาพบกัน … ความมหัศจรรย์ของอาหารชวนให้ท้องหิวจึงเริ่มขึ้น

Text: AuAi

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทสัมภาษณ์พิเศษชวนอมยิ้มของ นาอินอู พระเอกเกาหลีดาวรุ่ง ผู้ตกหลุมรักหมูกระทะ!

สุดฯ แยกพัฒนาการ ความสวยตี๋ลี่เร่อปา หลังคร่ำหวอดในวงการ 10 ปี!

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up