เปิดฉากเผชิญหน้าครั้งใหม่ ยิ่งใหญ่กว่า ของนักแสดงคุณภาพแถวหน้า “หมาก ปริญ” ปะทะ “นก ฉัตรชัย” ปะทะ “ก๊อต จิรายุ” ร่วมด้วย “นก สินจัย”, “คิทตี้ ชิชา” และ “แพร์ พิชชาภา” ภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีเดือดสุดแห่งปี ถล่มอาคมพร้อมกัน 14 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ จอมขมังเวทย์2020
ถ้าอยากชนะตำนาน จงเป็นให้ได้ยิ่งกว่าตำนาน! จอมขมังเวทย์2020
หนึ่งคลั่ง หนึ่งแค้น หนึ่งตำนาน
ใคร “ขลัง” ของจริง!
ดำดิ่งสู่โลกไสยเวท อาคมขลัง แอคชั่นมันส์ระอุ
กำหนดฉาย 14 พฤศจิกายน 2562
บริษัทผู้สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทดำเนินงานสร้าง เฉลิมไทย สตูดิโอ
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ที่ปรึกษา อวิกา เตชะรัตนประเสริฐ, จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ, ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมและดำเนินงานสร้าง อดิเรก วัฏลีลา, ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์
ผู้ช่วยดำเนินงานสร้าง ราชิน พรรัชกิจ
กำกับภาพยนตร์ ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์
เรื่อง ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์
บทภาพยนตร์ อดิเรก วัฏลีลา, ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์
กำกับภาพ ณัฐวุฒิ กิตติคุณ, ประเทือง เพียโคตร
ออกแบบงานสร้าง พัชร เลิศไกร
กำกับศิลป์ ธรรศนัยน์ เลิศไกร, ฐานทัพ เรืองธารา
ออกแบบเครื่องแต่งกาย กัญญา ผ่องภักดี
เทคนิคแต่งหน้าพิเศษ กิตติชนม์ กุลรัตน์ชล, ระพีร์พัชร์ รวมธรรม
ลำดับภาพ เมธัส ถือซื่อ
เทคนิคภาพพิเศษ Human Farm VFX Studio
ดนตรีประกอบ ไจแอ็นท เวฟ
ฟิล์มแล็บ กันตนา โพสท์ โปรดักชั่น
บันทึกเสียง กันตนา ซาวด์ สตูดิโอ
ทีมนักแสดง ปริญ สุภารัตน์, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, จิรายุ ตันตระกูล, สินจัย เปล่งพานิช, ชิชา อมาตยกุล, พิชชาภา พันธุมจินดา
เรื่องย่อ
ความเชื่อ ศรัทธา อาคม งมงาย ล้วนอยู่รายรอบตัวเรา
คุณเชื่อมั้ยล่ะ?
เรื่องราวของไสยเวทอาคมขลังแห่งโลกยุคใหม่กำลังเริ่มต้น…
หลังการสูญเสียครอบครัวครั้งใหญ่ทำให้ “วิน” (หมาก ปริญ) ชายหนุ่มผู้รอดชีวิตกลับต้องเปลี่ยนความเชื่อและศรัทธาที่มีต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ โดยมุ่งเข้าสู่ศาสตร์ลึกลับและอาคมเวทต่างๆ เพื่อสืบหาและจัดการฆาตกรด้วยตนเอง
แต่ยิ่งสืบหามากเท่าใด เขาก็ยิ่งถลำลึกสู่ด้านมืดมากขึ้นทุกที จนทำให้ต้องเข้าไปพัวพันกับ “จอมขมังเวทในตำนาน” (นก ฉัตรชัย), “ผู้คลั่งพลังทำลายล้าง” (ก๊อต จิรายุ) และ “เจ้าลัทธิใหม่แห่งยุค” (นก สินจัย) ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมด้วยกันทั้งสิ้น
การปะทะอันดุเดือดของ “เหล่าจอมขมังเวท” ที่มีศรัทธาแห่งตัวตนเป็นเดิมพันและอาคมปาฏิหาริย์เป็นตัวชี้ชะตา กำลังปะทุถึงขีดสุด…
บทบาท-คาแร็กเตอร์
“คนชั่วๆ อย่างมึงไม่สมควรมีชีวิตอยู่…”
วิน (รับบทโดย หมาก-ปริญ สุภารัตน์)
หนุ่มนักสู้ผู้สุขุม อารมณ์ดี และไม่เคยเชื่อเรื่องงมงาย แต่การสูญเสียครอบครัวได้นำเขาไปเกี่ยวพันกับไสยเวทและอาคมต่างๆ รวมถึงเรื่องร้ายๆ ที่ถาโถมเข้ามาในคราวเดียวกัน ก็อาจเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
“หมาก ปริญ” ดำดิ่งสู่ด้านมืด ทุ่มสุดตัวไม่มียั้ง แอคชั่นเดือดในภาพยนตร์เรื่องแรก
“ภูมิใจและดีใจมากครับที่ได้มาอยู่ในภาคต่อหนังในตำนานเรื่องนี้ ก็ต้องฟิตร่างกายมากๆ เพราะว่าเรื่องนี้บู๊หนักมาก ทุกคิวคือมีบู๊ ต้องเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้ดี ส่วนเรื่องการแสดงหนังมันก็จะ Real กว่า เราทำอะไรได้เยอะกว่า ก็สนุกมากๆ เรื่องนี้ก็เปลี่ยนลุกส์ไปเลย ต้องสักทั้งตัวครับ รอยสักเนี่ยก็ทุกคิวเหมือนกัน ก็แปลกดี ผมว่าถ้าใครได้เห็นก็คงโห…แปลกดี หายไปเลยครับความเนี้ยบ ความหน้าใส ทรงผม คาแร็กเตอร์ สายตาเปลี่ยนไปหมดเลย ก็อยากให้ดูการแสดงเรื่องนี้ด้วยครับ
ความน่าสนใจอยู่ที่ทีมนักแสดงและบทด้วย น่าสนใจตรงที่มันเป็นภาคต่อ เพราะฉะนั้นมันจะมีจอมขมังเวทรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่มาเจอกัน แอคชั่นเดือดมากเลย มันเป็นแอคชั่นที่เค้าอยากจะให้เรียลมากๆ ไอ้นี่มันก็เป็นนักต่อสู้นักมวยอยู่แล้ว เค้าก็อยากให้ดูจริง ไม่ค่อยใช้อาวุธเท่าไหร่ ก็จะเป็นมือเปล่าต่อยกันมากกว่า ความล้ำทันสมัยของเอฟเฟกต์ซีจี แล้วก็ทำให้เห็นถึงความเป็นปัจจุบันว่าคนยังมีอะไรแบบนี้อยู่ ความเป็นเมืองสมัยใหม่ แต่ของขลังมันก็ต้องมี”
“ทางเดินมันมีไม่เยอะ มีแค่สองทาง อยู่ที่เราเลือก…”
อิทธิ (รับบทโดย นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช)
จอมขมังเวทรุ่นใหญ่ที่หายสาบสูญไปนาน แต่เหตุการณ์สำคัญบางอย่างทำให้เขาต้องกลับมาปลุกตำนานขมังเวทอีกครั้ง
“นก ฉัตรชัย” จอมขมังเวทตัวพ่อ ผู้กลับมาตอกย้ำตำนานอมตะ
“ก็กลับมารับบทบาทเดิมที่เคยแสดงไว้เมื่อ 14-15 ปีก่อน ก็รู้สึกดีใจที่ได้กลับมารับบทนี้นะครับ ในเรื่องจริงๆ แล้วเป็นตำรวจที่หมกมุ่นอยู่กับคาถาอาคม จนกระทั่งตัวเองเข้าไปติดอยู่ในวังวนของความเป็นขมังเวท พอมาในภาคนี้ก็เป็นภาคต่อที่หลังจากเหตุการณ์มันล่วงเลยมานาน อิทธิก็ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อมาตามทวงคืนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรื่องราวในยุคปัจจุบัน พอมาเห็นพวกขมังเวทในยุคปัจจุบันเป็นแบบไหน ตัวเองก็รู้สึกว่ามองเห็นสิ่งที่เป็นไปของโลกมากขึ้น ก็ต้องมาเจอตัวละครใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา แล้วก็เห็นว่าเด็กๆ รุ่นใหม่เป็นยังไง เราก็รู้สึกว่าเราควรจะทำยังไงดีกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน
ถ้าจะพูดถึงหนัง ‘จอมขมังเวทย์’ ในยุค 2020 นี้นะครับ มันก็อาจจะเป็นอะไรที่ไกลตัวนิดนึง เพราะว่ามันมีพวกโซเชียลต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ว่าถ้าเราสังเกตดีๆ ไอ้พลังลึกลับพวกนี้เนี่ยมันยังมีอยู่ ไม่ว่าจะมีคลื่นโทรศัพท์มาแทรกก็ตาม แต่ไอ้พลังลึกลับพวกนี้เราก็ยังเห็นอยู่เป็นประจำว่ามันยังคงอยู่ เพราะฉะนั้นคำว่าจอมขมังเวทมันก็ยังขลังอยู่ครับ”
“ไอ้พวกขมังเวทในโลกนี้ มันมีเยอะเกินไปว่ะ…”
ก็อด (รับบทโดย ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล)
หนุ่มรุ่นใหม่อนาคตไกล ผู้มีเสน่ห์เฉพาะตัวให้คนหลงใหล เขาหมกมุ่นกับศาสตร์มืดจนกำหนดชีวิตผู้คนได้ นั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนพระเจ้าในโลกยุคใหม่นี้
“ก๊อต จิรายุ” ระเบิดความคลั่ง ปล่อยพลังการแสดงขั้นสุด
“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกอีกฝั่งหนึ่งของผู้ที่มีคาถาในตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าคนที่มีวิชาก็อยากจะเป็น The Best อยากจะเก่งที่สุด ทีนี้ไอ้ตัวนี้ก็เหมือนกัน อยากจะเป็นเดอะเบสต์ มันก็พยายามดีไซน์ทุกอย่างให้เดอะเบสต์ จากตรงนั้นตรงนี้มาคอนเนกต์กัน เพราะมันรู้สึกอยากจะเอาชนะ ไม่ใช่เอาชนะแค่ด้วยเวทมนตร์ แต่เอาชนะด้วยทัศนคติ มันพยายามจะเปลี่ยนความคิดคนอื่นให้คิดแบบมันด้วย
โดยส่วนตัวผมไม่ได้สร้างเบื้องหลังให้ตัวละครเพียงเพื่อการแก้แค้น เพราะมันจะเป็นการลงลึกสู่ตัวละครแค่ระดับตื้นไป ผมมองลึกไปจนถึงที่ว่าไอ้ตัวละครนี้เนี่ย มันเป็นเพียงร่างหนึ่งที่อาศัยของดวงวิญญาณของปีศาจ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันมีอายุอยู่เป็นพันๆ ปี แล้วมันมาใช้ร่างนี้เพื่อที่จะทำให้คนหลงผิดขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งคนหลงผิด คนก็ยิ่งอยู่ในบ่วงมารมากขึ้น นี่คือสิ่งที่มันต้องการ เป้าหมายของมันก็คือทำให้คนจำนวนมากที่สุดไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่ากำลังศรัทธาในอะไร ทำให้คนมากที่สุดโง่งมงายมากขึ้นกว่าเดิม นั่นคือเป้าหมายของมัน คนโง่ปกครองง่าย”