ส่งท้ายปี 2018 ด้วยหนังดี 2 เรื่องในเดือนเดียวอย่าง The Wife เมียโลกไม่จำ และ Green Book
ใครว่าหนังดี หนังเข้าชิงรางวัลจะต้องเข้าใจยาก The Wife เมียโลกไม่จำ และ Green Book 2 หนัง 2 สไตล์อัดแน่นไปด้วยความรู้สึก เหมือนจะฮาแต่เจ็บจี๊ด!
The Wife เมียโลกไม่จำ
กลายเป็นที่พูดถึงมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา สำหรับหนังThe Wife เมียโลกไม่จำ ที่สร้างจากวรรณกรรมขายดีชื่อเดียวกันของนักเขียนหญิง Meg Wolitzer เรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ศาสตราจารย์โจเซฟ แคสเซิลแมน (รับบทโดยJonathan Pryce) นักเขียนชื่อดัง และโจอัน แคสเซิลแมน (รับบทโดยGlenn Close) ภรรยาที่คอยทำหน้าที่ดูแล สนับสนุนสามีอยู่ข้างหลัง กระทั่งวันหนึ่งโจเซฟได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งบอกว่า เขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม ให้เดินทางมารับรางวัลที่เมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ทั้งโจเซฟและโจอันต่างก็ดีใจกับข่าวนี้ แต่ดูเหมือนสิ่งสวยงามที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชนวนระเบิดของความสัมพันธ์ของโจเซฟและโจอันมากกว่า
ในเรื่องThe Wife เปิดฉากมาด้วยการแสดงให้เห็นว่ายอดนักเขียนโจเซฟและสุดยอดภรรยาโจอันรักกันหวานชื่นขนาดไหน โดยโจเซฟก็ยกย่อง เชิดชูเมียของเขากับทุกคนอยู่เสมอ แต่ยิ่งเชิดชูบูชาเท่าไรก็เหมือนยิ่งทำให้เรื่องราวแย่ลงไปอีกขั้น เนื้อเรื่องที่ค่อยๆ บีบคั้นมากขึ้นทุกนาทีหลังจากที่ทั้งคู่เดินทางไปรับรางวัลที่สต็อกโฮล์ม และเพิ่มความกดดันมากขึ้นไปอีกขั้นเมื่อมีนักข่าวชื่อนาเธเนียล โบน (รับบทโดยChristian Slater) ที่ระแคะระคายอะไรบางอย่างจนคอยจับผิดสามีภรรยาคู่นี้ทุกครั้งที่มีโอกาส
หลายคนที่เคยอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้มาก่อนคงพอทราบกันบ้างแล้วว่าเนื้อเรื่องจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ความพิเศษของหนังThe Wife ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมและนักวิจารณ์หนังทั่วโลก นอกจากจะเป็นเพราะเนื้อเรื่องที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best Film and Literature จาก Film by the Sea International Festival 2018 แล้ว ยังต้องขอยกความดีความชอบให้กับฝีมือการแสดงของ 2 นักแสดงนำรุ่นใหญ่วัย 71 ปีอย่าง Jonathan Pryce และ Glenn Close ที่การันตีคุณภาพด้วยการเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 ครั้ง และหลังจากหนังเรื่องนี้เข้าฉาย ชื่อของ Glenn Close ก็กลายเป็นตัวเต็งคนแรกของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ซึ่งก็มีหลายเสียงชื่นชมบทโจอัน แคสเซิลแมนว่าเป็นบทที่ดีที่สุดของเธอด้วย
หากถามว่า การแสดงของ Glenn Close ในเรื่องนี้เป็นอย่างไร ทำไมถึงมีคนชื่นชมเธอมากมายขนาดนั้น เราไม่สามารถให้คำจำกัดความที่ตรงตัวที่สุดได้ แต่สิ่งที่รู้สึกหลังจากได้เห็นการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านทางสายตาและสีหน้าของ Glenn ผ่านตัวละครโจอัน บอกสั้นๆ ได้แค่ว่า เห็นชัดว่ารู้สึก แต่ความรู้สึกนั้นถาโถมและถูกสะสมมามากเกินกว่าจะระบุได้ว่าโจอันรู้สึกอะไรบ้าง ของแบบนี้พูดแล้วจะหาว่าโม้ ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองแล้วจะรู้ว่า เมียที่โลกไม่จำ แต่สามีควรจำให้ได้ว่า ความเป็นเมียยิ่งใหญ่ขนาดไหน เหมือนสโลแกนของหนังที่ว่า “ทุกความสำเร็จของยอดบุรุษ ย่อมมียอดสตรีอยู่เบื้องหลังเสมอ”
ทีเซอร์หนังThe Wife เมียโลกไม่จำ เข้าฉาย 20 ธันวาคม 2018
Green Book กรีนบุ๊ค
อีกหนึ่งหนังคุณภาพที่ใครๆ ก็เรียกว่า หนังม้ามืดของปี 2018! Green Book กรีนบุ๊ค หนังที่บอกเล่าความสัมพันธ์ของผู้ชาย 2 คนคือ โทนี่ ลิป (รับบทโดยViggo Mortensen) การ์ดเฝ้าผับที่ต้องหางานพาร์ทไทม์ทำชั่วคราว ระหว่างรอผับปิดปรับปรุง และนักเปียโนผิวสีระดับโลก ดร.ดอน เชอร์ลีย์ (รับบทโดยMahershala Ali) ที่แตกต่างกันทั้งฐานะ ชนชั้น และสีผิว กระทั่งวันหนึ่งโทนี่จับพลัดจับผลูได้มาเป็นคนขับรถให้ดอนไปเล่นคอนเสิร์ตที่ทางใต้ของอเมริกาเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งในช่วงยุค 60 ยังมีการเหยียดสีผิวอย่างรุนแรงอยู่ ทั้งคู่จึงออกเดินทางไปด้วยกัน พร้อมสมุดเล่มเขียวที่มีสถานที่ที่เป็นมิตรกับคนผิวสีอยู่
ระหว่างการเดินทางแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของทั้งคู่ชัดเจนมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงแนวคิด นิสัย วัฒนธรรมบางอย่างด้วย แต่นี่ยังไม่เทียบเท่ากับสิ่งที่โทนี่และดอนต้องเจอตลอดการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นกลายเป็นกาวที่เชื่อมความไม่ลงรอยกันของโทนี่และดอนให้เปลี่ยนเป็นมิตรภาพอันยิ่งใหญ่
เรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก 2 คนในหนัง Green Book ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของ Dr.Don Shirley และ Tony Lip โดยถูกหยิบมานำเสนอในรูปแบบของหนังคอเมดี้ดราม่าที่ใต้เสียงหัวเราะลั่นโรงหนังนั้นมีน้ำตาซ่อนอยู่ ยิ่งได้การแสดงของ 2 นักแสดงมือรางวัลอย่าง Viggo Mortensen และ Mahershala Ali มารับหน้าที่ถ่ายทอดอารมณ์ ยิ่งบีบคั้นใจคนดูได้มากขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะเราที่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้อยู่จริงๆ ความฮาที่เกิดจากการเสียดสีความจริงนั้นโหดร้ายกว่าที่คิด!
หลายคนที่คิดว่า การดูหนังแนวอิงประวัติศาสตร์จะต้องมีความรู้ก่อนเข้าไปดู ไม่งั้นจะดูไม่รู้เรื่อง ขอบอกเลยว่าไม่ใช่กับหนังเรื่องนี้ จริงอยู่ที่การรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ทำให้เราเข้าใจหนังลึกชึ้งกว่าคนทั่วไป แต่ต่อให้คุณไปดูแบบไม่รู้อะไรเลยก็จะต้องรู้สึกอะไรบางอย่างจากการบอกเล่าของ 2 ตัวละครโทนี่และดอนไม่มากก็น้อย
ใครไม่เชื่อว่าหนังเรื่อง Green Book เต็มไปด้วยคุณภาพจริงๆ เราขอนำเสนอรายชื่อรางวัลของหนังเรื่องนี้และรางวัลที่มีชื่อเข้าชิงซึ่งรวมแล้วเกินกว่า 10 รางวัล แถมคำชมแบบเป็นเอกฉันท์อีกเพียบ ได้แก่
- รางวัลขวัญใจผู้ชม จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต ครั้งที่ 43, เทศกาลภาพยนตร์บอสตัน, เทศกาลภาพยนตร์ฟิลาเดลเฟีย, เทศกาลภาพยนตร์นิว ออร์ลีนส์, เทศกาลภาพยนตร์มิลล์ วัลเลย์, เทศกาลภาพยนตร์ฮาร์ทแลนด์, เทศกาลภาพยนตร์มิดเดิลเบิร์ก
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์ทวินซิตี้
- ทีมเขียนบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากฮอลลีวูด ฟิล์ม อวอร์ดส์
และยังได้เข้าชิงบนเวทีใหญ่ระดับโลกอีกเพียบคือ
- ลูกโลกทองคำ 2019 ถูกเสนอชื่อเข้าชิงกว่า 5 รางวัลใหญ่ ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ตลก/มิวสิคัล), ผู้กำกับยอดเยี่ยม (ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี), บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (วิกโก้ มอร์เทนเซน – ตลก/มิวสิคัล) และ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (มาเฮอร์ชาลา อาลี)
- Critics’ Choice Awardsเข้าชิงถึง 7 รางวัลได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (วิกโก้ มอร์เทนเซน), นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (มาเฮอร์ชาลา อาลี), ผู้กำกับยอดเยี่ยม (ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี),บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (นิค วัลเลลองก้า, ไบรอัน เฮยส์ เคอร์รี่และ ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี), นักแสดงชายยอดเยี่ยมในภาพยนตร์คอมเมดี้(วิกโก้ มอร์เทนเซน) และ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- Seattle Film Critic Award เข้าชิงในสาขา นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (มาเฮอร์ชาลา อาลี)
- San Diego Film Critics Society’s Award เข้าชิงมากถึง 9 รางวัล ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม,ผู้กำกับยอดเยี่ยม (ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี),นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (วิกโก้ มอร์เทนเซน), นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (มาเฮอร์ชาลา อาลี),บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (นิค วัลเลลองก้า, ไบรอัน เฮยส์ เคอร์รี่และ ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี),ลำดับภาพยอดเยี่ยม, ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม, การใช้ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และทีมงานภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
“หนังเรื่องนี้คือเพชรอันล้ำค่าแห่งโลกภาพยนตร์” – Deadline
“มอร์เทนเซนและอาลีมอบการแสดงระดับออสการ์”–Rolling Stone
“อาลีถ่ายทอดบทอย่างละเมียดบวกกับทักษะด้านดนตรีสุดสมจริง”–Variety
“คนดูจะรักหนังเรื่องนี้เพราะสองนักแสดงนำ”–Hollywood Reporter
“ผลงานที่สร้างได้สุดประณีต วิพากษ์วิจารณ์สังคมชนิดตีแสกหน้า”–The Playlist
นี่คือตัวแทนเสียงจากผู้ชมและนักวิจารณ์ทั่วโลกที่ได้พิสูจน์แล้วว่า หนังเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าแค่เสียงหัวเราะและน้ำตา เราคงไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ขนมาขนาดนี้ไม่ต้องลังเลอะไรแล้ว ส่งท้ายปี 2018 ทั้งทีต้องไปให้สุดกับหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดแห่งปี 2018!
ทีเซอร์หนัง Green Book ฉายรอบพิเศษ 27 ธันวาคม 2561 (ฉายจริงวันที่ 3 มกราคม 2562)
คลิปจาก Mongkol Major Mongkol Cinema
รูปและข้อมูลบางส่วนจาก : sahamongkolfilm.com
เรื่องโดย : Lizhu