เซรั่มชาเขียว Innisfree รุ่นใหม่ vs รุ่นเก่า มีดีต่างกันยังไง มาดูกัน

เซรั่มชาเขียว Innisfree รุ่นใหม่ vs รุ่นเก่า มีดีต่างกันยังไง

ว๊ายตายแล้ววววว เซรั่มชาเขียว Innisfree ปรับสูตรใหม่หรือนี่!! ว่าแต่ปรับสูตรใหม่แล้วดีกว่าเดิมยังไงมาดูกัน แล้วไหนๆก็ไหนๆ ขอพ่วงรีวิวผลิตภัณฑ์ใหม่ตระกูลชาเขียว จัดเต็มไปด้วยเลยทีเดียวละกันนะคะ เพราะ #เรื่องบิวตี้ต้องที่สุดฯ ฮ่ะ

ก่อนอื่นขอเท้าความก่อนว่า เมื่อพูดถึง Innisfree สายบิวตี้ก็ต้องนึกนึกเซรั่มชาเขียว หรือ Green Tea Seed Serum เพราะความใช้ดี และราคาไม่สูงลิบลิ่วเกินงาม ปริมาณ 80 มล. ราคา 1,000 บาทเท่านั้น

สุดฯเองเคยมีโอกาสไปเยือนไร่ชาเขียวที่เกาเชจู ประเทศเกาหลี แหล่งต้นกำเนิดส่วนผสมของ เซรั่มชาเขียว Innisfree นี้มาแล้ว ขอบอกว่าเป็นไร่ชาเขียวขนาดใหญ่ยักษ์เป็นอันดับ 3 ของโลก และมีการจดสิทธิบัตรชาเขียวเพื่อความงามมากมาย และของดีขึ้นชื่อก็คือผลิตภัณฑ์ตระกูล Green Tea นี่ละค่ะ

(เป็นเจ้าของไร่เองขนาดนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่สามารถผลิตของดีในราคามิตรภาพออกมาให้เราใช้กันได้สินะ)

ล่าสุดเซรั่มชาเขียวยอดฮิตที่ว่า เขาเพิ่งปรับสูตรใหม่ไฉไลกว่าเดิม!!! สุดฯก็เลยหยิบมาเปรียบเทียบให้ดูกันจะจะว่าของใหม่กับของเก่า มันดีงามต่างกันยังไงบ้าง

เรามาเริ่มเปรียบเทียบหน้าตาแพ็กเกจจิ้งกันก่อน รุ่นเก่ากล่องจะสีอ่อนกว่า และชื่อสินค้าจากแต่เดิมเขียนว่า The Green Tea Seed Serum เปลี่ยนเป็น Green Tea Seed Serum ตัดคำว่า The ทิ้งค่ะ ส่วนคำบรรยายก็มีเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีการปรับสูตรนะคะ

มาถึงหน้าตาขวดกันบ้างค่ะ ขวดเก่าเป็นสีเขียวอ่อน ฝาสีน้ำตาลเข้ม ส่วนขวดใหม่เป็นสีเขียวเข้มและฝาก็สีเขียวเข้มด้วยค่ะ รูปทรงขวดและขนาด 80 มล. เท่าเดิมค่ะ

ทีนี้เรามาพิสูจน์เนื้อเซรั่มกันบ้าง

ลองกดมาแล้วหน้าตาเหมือนกันแบบแยกไม่ออกค่ะ

กลิ่นมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย น่าจะเป็นเพราะส่วนผสมเปลี่ยน แต่กลิ่นยังเป็นหอมสดชื่นเหมือนเดิมค่ะ

เรื่องการซึบซาบลงสู่ผิวทำได้ดีเหมือนเดิมเช่นกัน ลูบไล้ไปไม่เท่าไรก็ซึมซาบแล้ว โดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวเลย

ต่อมาวัดเรื่องความชุ่มชื่นของผิวกันบ้างค่ะ

ผิวของนุ่นปกติก่อนทาเซรั่มชาเขียว Innisfree วัดค่าน้ำมันได้ 16.4% ความชุ่มชื้น 36.6% (จัดว่าผิวแห้งไปหน่อยค่ะ ถ้าจะให้ดีความชุ่มชื้นควรจะเกิน 50%)

พอลองใช้เซรั่มรุ่นเก่าวัดค่าน้ำมันได้ 27.2% ความชุ่มชื้น 60.5% นี่ก็จัดว่าดีแล้ว

แต่พอปรับสูตรใหม่ยิ่งดีกว่าเดิมอีกค่ะ ค่าน้ำมัน 29.0% ความชุ่มชื้น 64.6% ดีงามมมมม ไม่มันแถมยังชุ่มชื้นอีก เริดค่า…

พอไปทำการบ้านเพิ่มเติมก็ได้ข้อมูลมาบอกคุณผู้อ่านค่ะว่า เหตุที่มีความดีงามขนาดนี้ เพราะสูตรใหม่มีส่วนผสมของ Dual-Moisture-Rising Technology™ ช่วยให้ผิวรักษาความชุ่มชื้นด้วยน้ำสกัดจากชาเขียว และพร้อมสร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นในผิวด้วย น้ำมันจากเมล็ดชาเขียว ซึ่งส่วนผสมนี้มีความเข้มข้นกว่าชาเขียวทั่วไปถึง 3.5 เท่า อุดมด้วยกรดอะมิโนถึง 16 ชนิด ช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื่นและเปล่งปลั่ง

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ยังอ่อนโยนด้วย 5 Free-system คือ ปราศจากพาราเบน สีสังเคราะห์ Mineral Oil ส่วนผสมจากสัตว์ และ Imdazolidinyl Urea ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองค่ะ

แอบมีเคล็ดลับการใช้มาบอกกันด้วยค่ะว่า หลังล้างหน้าซับผิวให้แห้งแล้วทา เซรั่มชาเขียว Innisfree (Green Tea Seed Serum) ทันทีค่ะ เพราะช่วงเวลานี้ผิวเราจะสามารถรับคุณค่าการบำรุงได้ดีที่สุดค่ะ

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาคุณผู้อ่าน นุ่นขอแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ใช้ควบคู่กันแล้วเวิร์คนะคะ นั่นคือ Green Tea Morning Cleanser (410.-) คลีนเซอร์เนื้อเจลใส ไม่มีฟอง สูตรนี้ไว้ใช้ยามเช้านะคะ เพราะมีกรดอ่อนๆ (ไม่เป็นอันตรายต่อผิวค่ะ) สำหรับชำระล้างสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นยามหลับใหล (เช่น ปลอกหมอนที่ไม่ได้ซัก 555) ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวหลังล้าง และเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งหน้าค่ะ ลองใช้แล้วรู้สึกสดชื่นดีค่ะ หลังล้างหน้าไม่แห้งตึง ถือว่าผ่าน!

ชิ้นต่อไปเป็น Green Tea Seed Essense – in – Lotion (820.-) เนื้อโลชั่นเป็นสีขาวเหมือนน้ำนม บางเบาสบายผิวดีค่ะ มีส่วนผสมเช่นเดียวกับเซรั่ม แต่เป็นตัวช่วยเสริมในเรื่องความชุ่มชื่นให้มากขึ้นและยาวนานตลอดวัน เพราะลำพังเซรั่มเติมความชุ่มชื่นได้ดีก็จริง แต่ไม่คงอยู่ยาวนานเท่าตัวนี้ เมื่อใช้ควบคู่กับ เซรั่มชาเขียว Innisfree จะยิ่งเสริมประสิทธิภาพ ให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่นได้ตลอดทั้งวัน ที่สำคัญไม่ทำให้ผิวมันด้วยนะจ๊ะ