แม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับผู้หญิง แต่ ประจำเดือน ก็เป็นตัวบ่งบอกสุขภาพของเราได้นะคะ จึงควรหมั่นสังเกตอาการระหว่างมีประจำเดือน รอบเดือน และเลือดประจำเดือนให้ดีๆ เผื่อมีอะไรผิดปกติจะได้ไปหาหมอได้ทันท่วงที ก่อนที่จะเกิดอะไรร้ายแรง
สังเกตอาการ ประจำเดือน ดีๆ
- รอบเดือนมาตรงเวลาหรือเปล่า ปกติผู้หญืงเราจะมีรอบเดือนประมาณ 21-35 วัน ถ้าเร็วกว่านั้นหรือช้ากว่านั้น หรือรอบเดือนมาในเวลาไม่เท่ากันติดต่อเป็นเวลาหลายๆ เดือน แสดงว่าผิดปกติแล้วค่ะ ไปหาหมอดีกว่า
- ประจำเดือนมานานเกินไป ปกติสาวๆ ไม่ควรมีประจำเดือนนานกว่า 7 วันนะคะ ถ้านานกว่านั้นอาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าระบบภายในอาจมีความผิดปกติ ยิ่งถ้ามีท่าทางว่าจะไม่หมดง่ายๆ แล้วด้วยละก็ รีบไปหาหมอเลยค่ะ เพราะระบบสืบพันธุ์อาจจะมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นภาวะเนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนากว่าปกติ รังไข่ทำงานผิดปกติ การเสียสมดุลของฮอร์โมนเพศ โรคไทรอยด์ หรือเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิด
- เลือดประจำเดือนมากกว่าปกติ ปกติเราจะเปลี่ยนผ้าอนามัยไม่เกินวันละ 3-5 แผ่นกรณีมามาก แต่ถ้าหากมามากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยกว่าปกติ แปลว่าระบบสืบพันธุ์อาจมีความผิดปกติ ซึ่งเดาไปได้หลายโรคมาก เช่น เนื้องอกในมดลูก มดลูกอักเสบ หรือแม้แต่โรคมะเร็ง
- มีลิ่มเลือดขนาดใหญ่กว่าปกติ รอบเดือนของเรามักจะมีลิ่มเลือดออกมาด้วยอยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่อาการที่น่าเป็นห่วง แต่ถ้าขนาดลิ่มเลือดใหญ่ผิดปกติ อาจสันนิษฐานได้ว่ามีเนื้องอกในมดลูก หรือมีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม สังเกตตัวเองดีๆ แล้วปรึกษาแพทย์นะ
- ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ กลิ่นที่ว่าไม่ใช่กลิ่นคาวเลือดปกตินะคะ ถ้ามีกลิ่นแปลกๆ ที่ไม่เหมือนกลิ่นคาว อาจเป็นสัญญาณบอกว่ามีอาการติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด รีบหาหมอด่วนๆ ไม่งั้นเชื้ออาจลุกลามจนทำให้มดลูกอักเสบได้
- มีเลือดออกซ้ำหลังจากประจำเดือนหมดนานแล้ว อาจมีความผิดปกติของระบบภายใน ควรพบแพทย์ด่วน
ปวดท้องแบบนี้ ไปหาหมอเถอะ!
- ปวดประจำเดือนมากขึ้นๆ ทุกเดือน
- ปวดจนต้องกินยาแก้ปวดมากกว่าวันละ 1 ครั้ง อาการถึงจะดีขึ้น
- ปวดจนหน้ามืด เป็นลม ท้องเดิน ลุกไม่ไหว ต้องกินยาและนอนพักถึงจะหาย
- ปวดจนยาแก้ปวดเอาไม่อยู่
- ปวดตรงบริเวณท้องน้อยข้างขวาติดต่อกันนานกว่า 6 ชั่วโมง มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย รวมทั้งหากเกิดการกระเทือน หรือกดถูกบริเวณนั้นจะมีอาการเจ็บปวด
- ปวดและกดเจ็บตรงบริเวณท้องน้อย ร่วมกับมีไข้สูง อาจมีอาการตกขาวร่วมด้วย
- ปวดบิดเกร็งตรงบริเวณท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง และมักมีอาการปวดร้าวลงมาที่ช่องคลอดข้างเดียวกัน
ประจำเดือนแบบนี้ เป็นสัญญาณบอกโรคอะไร
- ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ประกอบกับอาการปวดศีรษะเรื้อรัง การมองเห็นไม่ชัดเจน และมีหนวด หรือขนขึ้นดกกว่าเดิม อาจเสี่ยงเป็น เนื้องอกในรังไข่ หรือมีความผิดปกติของต่อมหมวกไต หรือต่อมใต้สมอง
- ประจำเดือนมามากกว่าปกติ มาพร้อมกับอาการปวดท้องประจำเดือนร่วมด้วย หรือรู้สึกปวดท้องเวลามีเพศสัมพันธ์ อาจเสี่ยงเป็น เนื้องอกในมดลูก
- ประจำเดือนมาน้อยผิดปกติ บวกกับอาการเพลีย อ่อนแรง เต้านมแบนแฟ่บ และขนในร่างกายหลุดร่วง อาจเสี่ยงเป็น โรคต่อมใต้สมองขาดเลือด
- ประจำเดือนมาพร้อมลิ่มเลือด และมามากกว่าปกติ อาจเสี่ยงเป็น อุ้งเชิงกรานอักเสบ
- ประจำเดือนสีเข้มจัด ปริมาณน้อย มาพร้อมอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ อาจเสี่ยงเป็น โรคโลหิตจาง
- หน้าซีด ตัวซีด จากการมีประจำเดือนมากเกินไป อาจเสี่ยงเป็น ปีกมดลูกอักเสบ
- ปวดท้องผิดปกติ ยิ่งวันท้ายๆ ยิ่งปวด อาจเสี่ยงเป็น โรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรืออาจเป็นช็อคโกแลตซีสต์
ข้อมูลจาก www.newhealthadvisor.com , www.mayoclinic.org , www.verywell.com และ ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา
ภาพจาก ecofemme.org , www.curejoy.com และ Pinterest : Jenna Schultz , Kristin Demi , Leobardo Ybarra Matus
TEXT : Ploychompoo
เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ
โรคมะเร็งกับผู้หญิง รู้ไว รักษาได้