ต้องบอกว่าช่วงปีหลังๆ มานี้การเติมเต็มและปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็ม หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์” เป็นนวัตกรรมความงามที่ฮอตฮิตมาก เพราะความที่เป็นหัตถการเล็ก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีระยะพักฟื้น แถมเทคโนโลยีของสารเติมเต็มก็มีการพัฒนาขึ้นมาก มีเทคนิคใหม่ๆ เกิดขึ้น …จะเป็นอย่างไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง หมอเพชร Fiora Clinic จะมาเล่าให้ฟัง
เชื่อว่าการฉีดสารเติมเต็ม หรือโปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีความงามที่สาวๆ และหนุ่มๆ ที่รักในการดูแลตัวเองมักจะจดไว้ใน To Do List ทั้งที่สมัยก่อนการฉีดสารเติมเต็มเป็นหัตถการที่คนรู้สึกกังวล ไม่ค่อยกล้าทำ อาจเพราะเคยได้ยินข่าวเคสที่ฉีดแล้วพลาด ต้องไปขูดออก หรือไปแก้ไข แต่ในปัจจุบันการฉีดสารเติมเต็มได้พัฒนาไปไกลกว่านั้นมาก อะไรทำให้โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ได้รับความไว้วางใจมากขึ้น และท่ามกลางคลินิกความงามมากมายที่ให้บริการหัตถการนี้ Fiora Clinic มีจุดต่างอะไรที่ทำให้ลูกค้าประทับใจและบอกต่อ งานนี้ต้องฟังจากปาก หมอเพชร – น.พ.ชัยรัตน์ เสริมศิลป์ แพทย์ผู้ก่อตั้ง Fiora Clinic
Fiora Clinic กับชื่อเสียงด้านโปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ที่คนบอกต่อ
ฟิออร่า คลินิก เป็นหนึ่งในคลินิกที่มีชื่อเสียงด้านโปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ คนไข้ประทับใจและบอกต่อ งานนี้คุณหมอเพชรเปิดใจว่า “ส่วนหนึ่งที่คนเปิดใจและยอมรับฟิออร่า คลินิก ในด้านโปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์ คิดว่าเป็นเพราะเราทำออกมาได้เหมือนกับที่เราให้การแนะนำไปครับ เช่น การเติมในตำแหน่งนั้นๆ จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ พอเขาเข้ามาทำจริงๆ ก็เห็นผลตามนั้นเลยมีการแนะนำต่อ หรือแม้กระทั่งเมื่อเห็นเคสรีวิวของเราแล้วเข้ามาปรึกษาว่าอยากได้เหมือนเคสรีวิว เราก็สามารถทำให้เห็นผลตามนั้นได้ เรียกว่า “ตรงปก” ครับ
“นอกจากนี้ทางฟิออร่าของเรายังรับแก้ไขเคสที่พลาดด้วย ความที่ไม่ค่อยมีใครอยากรับเคสแก้ แต่เมื่อเรารับและคุยกับคนไข้ตามตรงว่าผลลัพธ์ของการแก้จะเป็นอย่างไร เช่น ถ้าฉีดสลายมันจะยุบลงไปเยอะมากเลยนะแต่เราจะแก้แล้วก็พยายามทำใหม่ให้ออกมาดี พอเขายอมรับและเข้าใจ เราแก้ไขให้ตามที่คุยกัน ก็ทำให้คนไว้วางใจและก็แนะนำต่อกันมากขึ้นครับ”
พัฒนาการของเทคโนโลยี&เทคนิคสารเติมเต็ม
นอกจากนี้ ด้วยความที่คุณหมอเพชรเป็นเทรนเนอร์สอนการฉีดสารเติมเต็มด้วย จึงได้เห็นแนวโน้มของการทำหัตถการนี้ในมุมกว้าง “ความจริงเคสแก้ไขเดี๋ยวนี้น้อยลงมาก ส่วนมากเคสของฟิออร่า คลินิกจะเป็นเคสใหม่และเคสที่มาเติมต่อเนื่องเพื่อคงผลลัพธ์เอาไว้ เคสแก้มีไม่เกิน 10% เพราะปัจจุบันนี้มีการเทรนแพทย์ในเรื่องสารเติมเต็มค่อนข้างแพร่แหลาย ผมเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเทรนเนอร์สอนการฉีดสารเติมเต็มด้วย สังเกตได้ว่าน้องๆ แพทย์ที่มาเรียนใหม่ค่อนข้างขวนขวายในการเรียนเพิ่มเติมนะครับ ทำให้แพทย์หลายๆ ท่านมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เป็นผลดีต่อคนไข้ครับ
“รวมไปถึงตัวคนไข้เองก็สนใจศึกษาหาข้อมูลมากขึ้นกว่าเดิม สมัยก่อนอาจจะไปฉีดที่ไหนก็ได้ แต่หลังๆ มาเขาจะเริ่มเลือกมากขึ้น ดังนั้นส่วนมากก็จะไปหาคนที่มั่นใจว่าฉีดได้ดี ซึ่งทำให้ผลข้างเคียงที่ไม่ดีน้อยลงเยอะมากๆ ครับ”
รู้จักเทคนิคที่ทำให้ Fiora Clinic โดดเด่นและแตกต่าง
ในเมื่อมาเจอกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว เราก็ต้องขอความรู้ด้านสารเติมเต็มกันหน่อย ซึ่งบางคนอาจยังไม่รู้ว่าสารเติมเต็มใช้เติมได้หลายหลากส่วน อีกทั้งยังมีเทคนิคในการฉีดที่พัฒนาขึ้นมาก
“สารเติมเต็มใช้แก้ปัญหาได้หลากหลายมากครับ ไม่ว่าเป็นการเติมเต็มหน้าผาก เช่น บริเวณหน้าผากบุ๋มๆ เราสามารถเติมให้ดูเต็ม มีโหนกนูนสวย บริเวณขมับที่บุบตามอายุหรือผอมลงเยอะ ก็สามารถช่วยให้ขมับดูโค้งมนออกมาเป็นหน้ารูปไข่ได้
“นอกจากนี้ยังใช้เติมบริเวณใต้ตาที่ลึก บริเวณหน้าแก้มที่แบน ร่องแก้ม คาง มุมหน้าหรือที่เรียกว่าขากรรไกรหน้า รวมไปถึงในส่วนของปากที่เดี๋ยวนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยม และในปัจจุบันมีอีกส่วนหนึ่งที่คนให้ความสนใจมากขึ้นคือ บริเวณหลังมือ ในกรณีที่ต้องการไปออกงาน ใบหน้าสวยแล้วเหลือหลังมือที่ผิวค่อนข้างย่น เราก็สามารถนำสารเติมเต็มมาเติมบริเวณหลังมือให้ดูเต็มสวยขึ้นได้” คุณหมอเพชรอธิบาย ก่อนจะเปิดเผยถึงเทคนิคของ ฟิออร่า คลินิก ที่น่าสนใจมากๆ ว่า
“ทางฟิออร่า คลินิกเราจะใช้เทคนิคเรียกว่า “ฉีดสัมผัสกระดูก” ครับ คือลักษณะของใบหน้าคนเราพออายุมากขึ้น ชั้นไขมันและชั้นกระดูกจะค่อยๆ บางลงตามวัย การฉีดเทคนิคนี้ก็จะเป็นการเสริมและสามารถทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีครับ
“จริงๆ แล้วเทคนิคการฉีดสัมผัสกระดูกค่อนข้างแพร่หลายในปัจจุบัน แต่ต้องยอมรับว่าในบางครั้งก็ไม่ได้สัมผัสกระดูกจริงๆ เพราะมันมีข้อจำกัดในตัว บางบริเวณทำได้ บางบริเวณทำไม่ได้ ซึ่งการดูกายวิภาค การศึกษากับอาจารย์ใหญ่ รวมถึงประสบการณ์ของแพทย์ค่อนข้างสำคัญ เช่น ในบางจุดอาจจะไม่ใช่การเติมสัมผัสกระดูกโดยตรง แต่จำเป็นต้องเติมชั้นเนื้อเยื่อกลางๆ หรือชั้นไขมัน ซึ่งต้องพิจารณาเป็นแต่ละเคสไป
“หรือแม้แต่การเลือกใช้เข็มก็มี 2 เทคนิค คือการฉีดโดยเข็มคมและเข็มปลายทู่ ในบางบริเวณจำเป็นต้องใช้เข็มคมเพื่อให้ฉีดให้ได้มากที่สุด ในขณะที่บางบริเวณต้องใช้เข็มปลายทู่เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าเส้นเลือดแล้วอุดตัน เช่นบริเวณใต้ตา ….เรียกว่าเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่แพทย์แต่ละท่านต้องศึกษาและสั่งสมประสบการณ์พอสมควรครับ”
เทคนิคทำน้อยให้ดูได้ผลมาก by หมอเพชร
เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเจอปัญหาตั้งงบประมาณไว้แล้วไม่เพียงพอในการทำหัตถการ ทำให้ค่อนข้างหนักใจ ซึ่งทางคุณหมอเพชรก็เข้าใจคนไข้ในจุดนี้ จึงมีการพูดคุยและแนะนำทางเลือกในการดูแลตัวเองให้เหมาะสมกับงบประมาณด้วย
“ในการปรับรูปหน้าเราต้องวิเคราะห์เป็นรายบุคคลนะครับ ซึ่งในแต่ละคนจะมีข้อกังวลแตกต่างกัน บางคนกังวลเรื่องใต้ตามากที่สุด บางคนกังวลเรื่องร่องแก้มมากที่สุด ฯลฯ ดังนั้นควรเข้ามาปรึกษากับแพทย์เพื่อพูดคุยถึงความกังวลใจ หากคนไข้กับแพทย์เห็นพ้องต้องกันว่าตรงนี้คือจุดที่ควรแก้ไขก่อน เราก็จะทำตรงนั้นก่อน แต่ถ้าคนไข้กังวลในส่วนที่ต้องใช้สารเติมเต็มเยอะๆ แต่มีงบประมาณจำกัด เราจะแนะนำให้ไปโฟกัสตรงตำแหน่งที่ทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนและออกมาดูดีที่สุดก่อน เพราะบางทีคนไข้ก็ไม่รู้ คิดว่า 1CC เติมได้ทั่วหน้า ฉะนั้นตอนที่มาปรึกษาผมจะให้ความรู้ พูดคุยถึงจุดที่กังวลที่สุด และแนะนำจุดที่ทำออกมาแล้วดูสวยที่สุดก่อน เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อจำนวนสารเติมเต็มที่คนไข้ตั้งงบไว้และผลออกมาเป็นที่พึงพอใจครับ
“ผมมองว่าการเติมสารเติมเต็มก็เหมือนวาดรูปครับ ถ้าคุณวาดรูปมาน้อยคุณอาจจะมีเทคนิคน้อย แต่ถ้าคุณวาดรูปมาเยอะ คุณจะรู้ว่าควรเริ่มต้นตรงไหนก่อน ความที่ผมมีประสบการณ์ ผมจะรู้ว่าควรเริ่มต้นตรงไหนดี นอกจากนี้ประสบการณ์ยังทำให้วิเคราะห์ได้ว่าเคสแบบนี้ควรฉีดในชั้นผิวไหน ไปจนถึงการเลือกเนื้อของสารเติมเต็มให้เหมาะกับปัญหาด้วย ยกตัวอย่างง่ายๆ นะครับ ถ้าฉีดแบบสัมผัสกระดูก ตัวสารเติมเต็มต้องโมเลกุลค่อนข้างใหญ่หน่อย เพื่อสามารถประคองทรงหน้า ประคองชั้นกล้ามเนื้อทุกๆ อย่างแล้วดันขึ้นมาได้ รวมถึงมีความแข็งระดับหนึ่งเพื่อสามารถสร้างทรงได้ ในทางกลับกันถ้าผมจะฉีดชั้นตื้น เช่น บริเวณใต้ตา ผมจำเป็นต้องใช้ชนิดที่โมเลกุลเล็กและเนื้อสัมผัสค่อนข้างละเอียด เพื่อจะฉีดในบริเวณที่ขยับบ่อยหรือบริเวณที่ผิวบางแล้วดูเนียนได้ เพราะถ้าสมมติใช้ชนิดโมเลกุลใหญ่มาฉีดใต้ตา มันจะดูเป็นก้อน ในทางกลับกันถ้าผมใช้ชนิดโมเลกุลเล็กไปฉีดสัมผัสกระดูก ตัวใบหน้าจะดูไม่เปลี่ยนแปลงเพราะมันไม่มีความแข็งเลย ส่วนถ้าฉีดผิวชั้นกลางก็ต้องเลือกเนื้อที่อยู่ระหว่างแข็งกับอ่อน สรุปง่ายๆ ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิค การเลือกชนิดของสารเติมเต็ม และประสบการณ์ของแพทย์ครับ” คุณหมอเพชรอธิบายถึงเทคนิคเชิงลึก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังสนใจหัตถการนี้
ทิศทางของการฉีดสารเติมเต็มในปัจจุบัน
เนื่องจากมีข่าวที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับการฉีดสารเติมเต็มออกมาอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ในปัจจุบันจะน้อยลงแต่ก็ยังได้ยินกันอยู่บ้าง ทำให้หลายๆ คนรู้สึกลังเลใจในการทำหัตถการนี้ ในกรณีนี้คุณหมอเพชรให้ความเห็นว่า “ต้องยอมรับว่ายังมีเคสที่มีปัญหาอยู่ แม้จะน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมากแต่ข่าวไม่ดีมักจะแพร่ออกไปเร็วทำให้คนได้รับรู้กันในวงกว้าง แต่ในทางกลับกันทุกวันนี้กระแสโซเชียลค่อนข้างมาแรง คนที่ฉีดแล้วออกมาสวยก็กล้าเปิดเผยตัวมากขึ้น รวมถึงคลินิกต่างๆ ก็ทำรีวิวมากขึ้น เมื่อคนเห็นผลลัพธ์ที่ออกมาดี จากที่มีกำแพงกั้นว่าฉันไม่กล้าทำก็เปิดใจมากขึ้น เพราะเห็นคนที่มีลักษณะปัญหาใกล้เคียงกันทำแล้วออกมาแล้วดูดีขึ้น
“รวมถึงเรื่องความปลอดภัยที่ปัจจุบันมีการพัฒนามากขึ้น อย่างที่บอกว่าพอผมเป็นเทรนเนอร์ผู้สอนการฉีดก็จะได้เห็นว่าน้องๆ เริ่มฉีดเก่งมากขึ้น ดังนั้น Side Effect ก็เริ่มน้อยลง นานๆ จะมีข่าวฉีดแล้วอักเสบหรือเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ออกมา อาจจะเป็นสักประมาณ 2 เดือน 1 เคส จากแต่ก่อนที่มีทุกสัปดาห์ แสดงว่าฝีมือแพทย์ในประเทศไทยค่อนข้างดีขึ้นนะครับ ทำให้คนเริ่มเปิดใจมากขึ้น
“นอกจากนี้ตัวสารเติมเต็มเองก็มีการพัฒนามากขึ้น เช่น มีลักษณะของเนื้อที่หลากหลายขึ้นเพื่อให้แพทย์เลือกใช้ได้ตรงกับจุดที่มีปัญหาของคนไข้ ซึ่งจะค่อนข้างปลอดภัยขึ้นและผลลัพธ์ออกมาดีขึ้น เพราะว่าออกแบบเนื้อมาสำหรับบริเวณนั้นๆ เช่น ปัจจุบันเรามีสารเติมเต็มสำหรับฉีดปากโดยเฉพาะ ตัวนี้ก็จะสามารถเติมบริเวณปากได้ออกมาสวยกว่าแบบเนื้อเดิมๆ”
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำหัตถการนี้
สุดท้ายนี้ คุณหมอได้ฝากข้อคิดสำหรับคนที่สนใจการทำหัตถการนี้ว่า “อันดับแรกต้องรู้ก่อนว่าใบหน้าเราควรฉีดตำแหน่งไหน ควรพอแล้วหรือยัง ถ้าเติมแล้วเติมอีกอาจจะทำให้ใบหน้าผิดสัดส่วนหรือที่เรียกว่า Over Fill อันดับต่อมาต้องเลือกคลินิกที่ไว้วางใจได้ แพทย์มีประสบการณ์ รวมไปถึงเลือกตัวยาที่เหมาะสมในการฉีดในตำแหน่งที่เราต้องการ จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี
“นอกจากนี้ ควรเข้าใจข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังการทำหัตถการ เช่น ฉีดไปแล้วไม่ควรไปกดหรือนวดบริเวณนั้นแรงๆ ไม่ควรอยู่ที่อุณหภูมิสูงอย่างการเข้าห้องอบซาวน่าเพราะอาจทำให้อายุงานสั้นลง แต่ไม่ได้ถึงกับว่าสลายไปเลยในทันที อาจจะลดจากสองปีเหลือปีครึ่ง แต่ทั้งนี้สารเติมเต็มแต่ละชนิดก็มีอายุงานต่างกัน อาจจะต้องคุยกับแพทย์เป็นกรณีไปนะครับ”
หมายเหตุ:
ภาพรีวิวเป็นการประกอบบทความเท่านั้น ผลลัพธ์ของการทำหัตถการขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เทคนิคของแพทย์ ตัวยาที่ใช้ และการดูแลรักษาหลังทำ
การรีวิวเป็นความรู้สึกส่วนบุคคล ผลลัพธ์ของการทำหัตถการขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เทคนิคของแพทย์ ตัวยาที่ใช้ และการดูแลรักษาหลังทำ