ชวนสาวๆ จิบชายามบ่ายรับลมหนาวที่ The House on Sathorn

สุดฯ แสนจะดีใจ ปีนี้ลมหนาวมาแล้ว และมาต่อเนื่องหลายวันอยู่ อากาศดีๆ แบบนี้ช่างเหมาะกับการออกไปชิลเหลือเกิน และหนึ่งความชิลที่เราอยากแนะนำคือการไปนั่งเม้าท์มอยจิบชาประสาสาวๆ แบบเก๋ๆ กันที่ The House on Sathorn โรงแรม W Hotel

ความเก๋แรกคือที่นี่เป็นบ้านโบราณที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 มีความสวยงาม คลาสสิค บรรยากาศดี ถ่ายรูปตรงไหนก็ดูมีกิมมิค มีทั้งโซนอินดอร์ติดแอร์เย็นฉ่ำสำหรับวันที่อากาศไม่เป็นใจ และบริเวณ The Courtyard สวนกลางบ้านไว้รับลมหนาวเย็นสบายแบบไม่พลุกพล่านนัก เรื่องสถานที่บอกได้คำเดียวว่ากินขาด!

ความเก๋ต่อมาคือ Heritage Afternoon Tea ชุดน้ำชายามบ่ายของที่นี่สร้างสรรค์มาให้เข้ากับเรื่องราวความเป็นมาของ The House on Sathorn ด้วยเมนูคลาสสิคที่เพิ่มเติมความหลากหลายเข้าไป กลายเป็นเซตน้ำชายามบ่ายที่รวมเมนูดั้งเดิมของแต่ละชาติไว้ ไม่ว่าจะเป็นขนมฝรั่งเศส ขนมปังแบบอังกฤษ คุกกี้แบบอิตาเลี่ยน ทาร์ตไข่ฮ่องกง ฯลฯ

มาส่องกันว่าในเซตนี้มีอะไรบ้าง…

เริ่มจาก ไอศครีมซอร์เบทโฮมเมดรสเบอร์รี่รวม แนะนำให้เริ่มกินไอศครีมเย็นๆ เปรี้ยวหวานสดชื่นเพื่อรีเฟรชตัวเองก่อน จากนั้นค่อยต่อด้วยเมนูอื่นๆ ตามชอบใจ

ในถาดของคาวมี มินิชีสบันไส้แฮมรมควัน ชิ้นกำลังเต็มปากเต็มคำพอดี แซนด์วิชไส้ปูและแตงกวา ตัวนี้ท็อปด้วยคาร์เวียด้วยนะ ครัวซองแซลมอนรมควัน และ คีชผักโขมและริคอตต้าชีส อบมาแบบหน้าเกรียมนิดๆ หอมน่ากิน นอกจากนี้ยังมี สโคน ของชอบของสุดฯ ด้วย เสิร์ฟพร้อมคล็อทเท็ดครีมเข้มข้นหอมมัน และแยมมะพร้าวซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ แยมเบอร์รี่รวม และแยมมะม่วง ทั้งหมดนี้เสิร์ฟเมนูละ 2 ที่

ไฮไลต์อยู่ที่สแตนด์ขนมหวาน 3 ชั้น 11 เมนู! ประกอบด้วย บิสกอตตี คุกกี้ถั่วสไตล์อิตาเลียน พิสตาชีโอ รัม บาบ้า เป็นเค้กสปันจ์เนื้อแน่น นำไปแช่เหล้ารัม น้ำตาล ส้ม และเครื่องเทศข้ามคืน เสิร์ฟคู่กับมูสถั่วพิสตาชีโอ เค้กช็อกโกแลตวาลโรห์นาเข้นข้น ที่ใช้ช็อคโกแลตวาลโรห์นานำเข้าจากฝรั่งเศส ตัวเค้ก แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ เค้กสปันจ์ช็อกโกแลต กานาชครีมไวท์ช็อกโกแลตและกล้วย กานาชช็อกโกแลต แล้วตกแต่งหน้าด้วยเมอแรงก์มะพร้าว ทาร์ตไข่ สูตรต้นตำรับจากฮ่องกง ปารีส เบรสท์ ตัวนี้เป็นขนมอบสไตล์ฝรั่งเศส ทำจากแป้งชูครีม อบเป็นรูปโดนัท สอดไส้ครีมคาราเมลและถั่วเฮเซลนัท ฟรุ๊ตเค้ก เนื้อนุ่ม รสชาติเข้มข้น พีช เมลบา ครีมวนิลลาเข้มข้น ท็อปด้วยซอสราสป์เบอร์รี่และลูกพีชเชื่อม เมนูนี้จะคล้ายพานาคอตต้าแต่ไม่เหมือน ต้องมาชิมเอง

ยังไม่หมดจ้ะ ยังมี มาการอง ชิ้นใหญ่เป็นรสมะนาวประกบรสเลมอน ไส้ครีมมะกรูดและส้ม ทาร์ตราสป์เบอร์รี่ เปรี้ยวๆ หวานๆ ชิ้นใหญ่ หน้าตาน่ากินมากๆ คานาเล่ ขนมอบสูตรดั้งเดิมจากเมืองบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส อบแบบผิวนอกกรอบแต่นุ่มใน สอดไส้คัสตาร์ด หอมวานิลาและเหล้ารัม และ ชีสเค้กบลูเบอร์รี่ เมนูโปรดของสาวๆ หลายคน

ความเก๋สุดท้ายคือ ปริมาณและราคา ทั้งหมดนี้มาในราคา 1,350 บาท++ จัดว่าคุ้มค่าสำหรับคุณภาพอาหาร รสชาติ และบรรยากาศระดับนี้ แถมแต่ละเมนูไม่ใช่เสิร์ฟเป็นคำเล็กๆ แต่มาแบบเต็มชิ้นเต็มคำ บางอย่างก็มี 2 ชิ้น แถมด้วยชา TWG อีก 2 กาใหญ่ เป็นสาวยุคนี้ต้องใช้จ่ายอย่างสมาร์ทสิถึงจะเก๋ จริงไหม!

ขอเม้าท์มอยนิดหนึ่ง ตอนที่พนักงานยกสแตนด์ขนมหวานพร้อมถาดของคาวมาเสิร์ฟ ถึงกับแอบคำนวนในใจว่าจะกินกันหมดไหมนี่ แอบถามไถ่ได้ความว่า เมนูนี้สำหรับ 2 คน แต่ถ้าสาวๆ กินไม่เก่ง จะมา 3-4 คนก็ไม่ขัดข้อง ถ้าชาไม่พอค่อยสั่งเครื่องดื่มเพิ่มก็ได้ ใจกว้างสุดๆ

วันว่างลองชวนเพื่อนๆ มาพูดคุยเม้าท์มอยจิบชาแกล้มขนมอร่อยๆ กันนะ หรือจะชวนคุณแฟนมาคุยกระหนุงกระหนิงจิบน้ำชากันก็โรแมนติกไม่เบา …บรรยากาศดี๊ดีย์ สุดฯ คอนเฟิร์ม!