แก้ปัญหาริ้วรอย ใต้ตาคล้ำ อัปผิวฟูดูไบรท์ด้วยเทคนิคน่าสนใจจาก Patcha Clinic

account_circle
event

วันนี้สุดสัปดาห์พาคุณหมอมิลค์ จาก Patcha Clinic มาแชร์ความรู้เรื่องการฉีดสารเติมเต็มใต้ตา… ตอบข้อสงสัย ไขข้อข้องใจ สารเติมเต็มแก้ปัญหาอะไร ทำไมบางเคสฉีดแล้วเป็นก้อน มีทางแก้ไหม และมีเทคนิคการฉีดแบบอื่นหรือไม่ ไปหาคำตอบกับคุณหมอกันเลย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ใต้ตาเป็นบริเวณที่มีผลต่อใบหน้าโดยรวมอย่างมาก ยิ่งใต้ตาคล้ำ ยิ่งทำให้เราดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส และมีอายุ หลายคนจึงพยายามหาวิธีต่างๆ มาแก้ไขปัญหานี้ และหนึ่งในนั้นก็คือการฉีดสารเติมเต็ม แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือความเสี่ยงที่จะกลายเป็นก้อนแบบที่เรามักจะเห็นในข่าวกันเป็นระยะ วันนี้สุดสัปดาห์ และ คุณหมอมิลค์ – พญ. พิชญ์ญาพร ศิริอุดมเศรษฐ จาก Patcha Clinic จะพาไปเจาะลึกหัตถการนี้และเทรนด์ความงามใหม่ๆ ที่จะแก้ปัญหาใต้ตาให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัย

ฉีดสารเติมเต็มแล้วเป็นก้อนเกิดจากอะไร

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จัก ‘สารเติมเต็ม’ กันก่อน สารเติมเต็ม คือ สารสังเคราะห์ที่ฉีดเพื่อเติมเต็มในผิวชั้นต่างๆ เช่น โครงสร้างผิวชั้นลึกที่หายไป ไม่ว่าจะเป็นชั้นกระดูกหรือชั้นไขมัน เพราะฉะนั้นนอกจากจะได้การเติมเต็มแล้ว ยังได้การยกกระชับอีกด้วย สารเติมเต็มเหมาะกับใบหน้าที่เริ่มหย่อนคล้อยจากช่วงวัย กระดูกทรุดลง หรือไขมันชั้นลึกหายไป สำหรับการฉีดสารเติมเต็มเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตา จะเป็นการแก้ไขปัญหาช่วงหน้าแก้ม กระดูกหน้าแก้มยุบ หรือกระดูกเบ้าตายุบ

คุณหมอมิลค์เล่าว่า “ปัญหาที่ฉีดแล้วเป็นก้อน มักจะเกิดจากการเติมสารเติมเต็มลงไปในผิวชั้นตื้นค่อนข้างเยอะ เพื่อให้ร่องใต้ตาดูเต็มขึ้น ปัจจุบันจึงมีการแก้ปัญหาด้วยการปรับปริมาณการใช้สารให้น้อยลง ซึ่งแพทย์บางท่านก็อาจเลือกที่จะไม่ใช้ไปเลย เพราะมองว่าสุดท้ายก็เกิดปัญหา เหมือนเราเอาสารเติมเต็มไปวางบนกล้ามเนื้อ พอเรากลับไปใช้ชีวิตประจำวัน กล้ามเนื้อมีการขยับ มีการยิ้ม จากที่ตอนแรกฉีดแล้วสวย ผ่านไป 3-4 เดือนก็เกิดเป็นก้อนขึ้นมา แม้จะฉีดน้อยก็ตาม”

Collagen Biostimulator เทรนด์ความงามที่กำลังมาแรง

เมื่อการฉีดสารเติมเต็มอาจจะมี Pain Point บางจุด ผู้คนจึงเริ่มมีการมองหาวิธีใหม่ๆ นั่นคือการฉีด สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) ที่กลายมาเป็นเทรนด์ความงามในยุคนี้ โดยสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวของเรามีคอลลาเจนมากขึ้น เกิดความกระชับ อิ่มฟู ซึ่งวิธีการใช้จะนำมาฉีดในผิวชั้นบนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยต่างๆ หรือใต้ตาคล้ำเพราะผิวบางลงจนเห็นสีกล้ามเนื้อชัดขึ้น การฉีดตัวนี้ก็จะทำให้ผิวหนาขึ้น มีคอลลาเจนมากขึ้น

สารเติมเต็ม + สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน คอมโบแก้ปัญหาผิวใต้ตา

เราจะเห็นได้ว่าสารเติมเต็มและสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ด้วยเหตุนี้ ทำให้คลินิกเสริมความงามหลายแห่งรวมไปถึง Patcha Clinic หยิบสองตัวนี้มาใช้ร่วมกันเป็นคอมโบที่ช่วยแก้ปัญหาผิวใต้ตาทั้งผิวชั้นตื้นและผิวชั้นลึก ซึ่งคุณหมอมิลค์จะพาเราไปเจาะลึกเทคนิคนี้ ว่ามีดีอย่างไร และให้ผลแบบไหน ตอบข้อสงสัยของใครหลายๆ คนได้แน่นอน

คุณหมอมิลค์กล่าวว่า “ที่จริงการฉีดสารเติมเต็มและสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนร่วมกันสามารถทำได้ทั้งใบหน้าเลย สำหรับผลที่ได้ก็จะแยกไปตามแต่ละหัตถการอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น คือเราจะฉีดสารเติมเต็มที่ผิวชั้นลึกเพื่อเติมเต็มโครงสร้างชั้นลึกที่หายไป และใช้สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนกับผิวชั้นบนเพื่อทำให้ผิวหนาขึ้น ผิวกระชับ และริ้วรอยดีขึ้น ซึ่งแนะนำว่าควรฉีดตอนอายุประมาณ 25 ปีขึ้นไปจะดีกว่า

“ผลลัพธ์ของการฉีดสารสองตัวร่วมกันจะอยู่ได้เฉลี่ยประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ หรือไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย ถ้าเราเจอสิ่งแวดล้อมมากระตุ้นให้ผิวชราได้ไวขึ้น หรือมีอัตราการลดลงของคอลลาเจนค่อนข้างมาก ผลลัพธ์ก็อาจจะอยู่ได้ไม่นานเท่าค่าเฉลี่ย รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัวแพ้ภูมิตัวเอง การฉีดสารพวกนี้ก็จะเห็นผลได้ไม่นาน

“พอเราฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีคอลลาเจนเกิดขึ้น ต่อให้สารพวกนั้นสลายไปแล้ว เขาเชื่อว่าคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นจะยังอยู่ แต่อยู่ในจำนวนที่น้อยลง พอสารใกล้หมดมันอาจจะอยู่ในสภาพที่ดีกว่าเดิมเมื่อเราเปรียบเทียบกับคนที่ไม่เคยฉีดมาก่อนเลย แต่บางคนก็อาจจะแย่ลง ถ้าช่วงนั้นมีสิ่งกระตุ้นผิวหนักมาก”

คุณหมอมิลค์กล่าวเสริมด้วยว่า “การนำจุดเด่นของสารแต่ละตัวมาแก้ไขปัญหาผิวในแต่ละชั้นก็ทำให้ผลลัพธ์ออกมาตอบโจทย์ความต้องการและเทรนด์ในยุคนี้ ซึ่งปัจจุบัน Patcha Clinic ก็ทำอยู่ แล้วรู้สึกว่าผู้รับบริการแฮปปี้ เหมือนช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้มากขึ้น”

เทคนิคสร้างความมั่นใจในแบบฉบับ Patcha Clinic

แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเทคนิคใหม่ๆ มาแก้ไขปัญหาแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าหลายคนก็ยังคงลังเลและไม่กล้าเสี่ยง เพราะอาจจะติดภาพจากข่าวคราวที่เคยได้ยินได้ฟังมา ไม่ว่าจะเป็นเคสที่ฉีดแล้วตาบอดหรือคนที่เคยฉีดแล้วเป็นก้อนจนไม่กล้ามาเจอหมออีก งานนี้คุณหมอมิลค์ได้อธิบายถึงเคสที่มีปัญหาว่า

“สำหรับเคสตาบอด อาจจะเกิดจากการฉีดสารเติมเต็มแล้วเข้าไปที่เส้นเลือด ซึ่งในสมัยนี้มีโอกาสเกิดน้อยลงมาก เพราะแพทย์ที่ฉีดสารเติมเต็มทุกวันนี้จะผ่านการเทรนมาอย่างดีแล้ว ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีวิธีรับมือหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ผู้รับบริการฟื้นฟูกลับมาได้ อีกทั้งประเทศไทยเราก็พยายามผลักดันการเป็น Medical Hub ด้านความงาม มีงานอัปเดต งานประชุมให้แพทย์ไปคอยอัปเดตความรู้และเทคโนโลยีอยู่เรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ข่าวที่ได้ยินกันบ่อยๆ มักจะเกิดจากคนที่ไม่ใช่แพทย์ไปฉีดสารให้ พอตาบอดก็ไม่รู้วิธีแก้ ดังนั้นการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากก่อนเริ่มทำหัตถการ รวมถึงต้องมั่นใจในสารเติมเต็มที่ทางคลินิกจะใช้กับเราด้วยว่าเป็นของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกกฎหมาย”

ส่วนในเคสของคนที่เคยฉีดแล้วเป็นก้อน คุณหมอมิลค์เองก็เข้าใจถึงความกังวลนี้เป็นอย่างดี “หมอเคยเจอเคสหนึ่งที่เคยฉีดสารเติมเต็มจากที่อื่นแล้วมีปัญหา ทีแรกเขาเข้ามาฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามเทรนด์ในช่วงนี้ แต่ปัญหาของเขายังไงก็ต้องใช้สารเติมเต็มในการแก้ไข แต่ผู้รับบริการกลุ่มนี้เขาจะเข็ดมากๆ เพราะการฉีดสารเติมเต็มที่ผิดพลาดทำให้เขามีปัญหามาหลายปี เลยลองทำให้เขาดูว่าถ้าฉีดสารเติมเต็มมันจะดีขึ้นแบบนี้ โดยลองฉีดปริมาณน้อยๆ ก่อน พอเขาตัดสินใจจะทำ หมอก็ฉีดให้ดูข้างหนึ่ง พอเขาเห็นผลลัพธ์ก็จะคลายความกังวลไปได้เกือบครึ่ง พอฉีดเสร็จสองข้างแล้วสวย เขาก็แฮปปี้ เป็นการค่อยๆ สร้างความมั่นใจให้เขา

“การดูแลของที่นี่จะเน้นการให้คำปรึกษากับผู้รับบริการเป็นหลัก หาความต้องการของเขาและสิ่งที่เขาควรทำ แล้วมาตกลงกันว่าเราควรจะทำประมาณไหน หมอเข้าใจว่าหัตถการที่ใช้สารเติมเต็มมีค่าใช้จ่ายสูง หมอจะถามตัวเลข ในใจของผู้รับบริการก่อน สมมติเขามีเท่านี้ก็จะแนะนำว่าควรเริ่มที่จุดไหน แล้วค่อยมาเพิ่มเติมในครั้งถัดไป หมอรู้สึกว่าความเข้าใจกันเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเขาเลือกเดินเข้ามาซื้อบริการกับเรา สิ่งที่เขาได้กลับไปควรต้องคุ้มค่าและดีจริงๆ”

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามหรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Patcha Clinic โทร: 062-292-6464, 098-909-8564

Website: https://patchaclinic.com/

Facebook: Patcha clinic พัชชาคลินิก

Instagram: @patcha.clinic

TikTok: @patchaclinic

YouTube: Patcha Clinic

LINE Official: @patcha.clinic

keyboard_arrow_up