Keeping Up With GGBBPP FAMILY ตอน กำเนิดเป่าเปา (บ้านนี้มีแต่ความสนุก)

Alternative Textaccount_circle
event

ถ้ามีคนบอกว่าเด็กยังไม่รู้อะไรหรอก ก็จะเถียง

กุ๊บกิ๊บ : เถียงค่ะ

บี้ : ผมว่าเด็กรู้เรื่อง แค่เขาตอบโต้กับเรายังไม่ได้เท่านั้นเอง

กุ๊บกิ๊บ : ดุก็รู้ ชมก็รู้ เป่าเปานี่บ้ายอมาก ขอให้ชม เวลาทำอะไรเขาจะมองหน้าเราว่าใช่แบบนี้ไหม ถูกไหม ดีไหม แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเริ่มเถียงกันเสียงดังเขาจะหยุดทุกอย่างที่ทำอยู่แล้วหันมามอง

บี้ : เราก็จะหยุดและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กุ๊บกิ๊บ : “ไม่มีอะไรนะลูก พ่อกับแม่ไม่ได้ทะเลาะกัน เราคุยกันเฉยๆ ” (จากโกรธเปลี่ยนมาทำท่าทางมีความสุข กุ๊บกิ๊บโผเข้ากอดสามี แต่แอบกัดฟัน) พอลูกยิ้มและหัวเราะเราก็เลิกทะเลาะกันแล้วกลับไปเล่นกับเขา จริงๆ ไม่เชิงทะเลาะ แค่เถียงกันเสียงดังไปหน่อย ยังเคยคุยกันเลยว่าลูกจะแยกแยะออกไหมว่าเราทะเลาะหรือเล่นกัน เลยต้องหันไปพูดกับเป่าเปาเสมอเวลาเสียงดังว่า “เราเล่นกันอยู่นะลูก ไม่ได้ทะเลาะกันนะคะ”

เรื่องความเปลี่ยนแปลง หรือมันเป็นสายตาของคนภายนอกที่มองเข้ามา เพราะเขาคิดว่าบี้-กุ๊บกิ๊บดูต่างจากสมัยยังโสด

กุ๊บกิ๊บ : หลายคนบอกว่ากิ๊บดูซอร์ฟลง ซึ่งจริงๆ กิ๊บเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่คนไม่เห็นเคยมุมนี้

บี้ : ใช่ อย่างเพื่อนผมก็ยังว่าว่าเขาดูแรง ผมก็บอกว่า “เฮ้ย จริงๆ ตอนเขาอยู่กับกูเขาซอร์ฟมากนะ เขาเป็นคนที่ดูแลผู้ชายได้ดีคนหนึ่งเลย” เพื่อนก็ “เหรอวะ” นี่คือตอนที่ยังเป็นแค่แฟนกันอยู่

กุ๊บกิ๊บ : คนชอบมองว่ากิ๊บมั่น ดูเฉี่ยวๆ ทำอะไรมั่นใจไม่แคร์ใคร เพราะเขาไม่เคยเห็นมุมรักเด็ก ชอบอยู่กับเด็ก ชอบเลี้ยงเด็ก

บี้ : เหมือนกระต่ายตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง น่าขย้ำๆ (ทำท่าทางหมั่นเขี้ยวภรรยา)

กุ๊บกิ๊บ : ฮื้อออ….(ลากเสียงยาว) ขย้ำๆ ตอนนี้พัฒนาการลูกเป็นไงบ้างนะคะ

บี้ : ตอนนี้ลูกเริ่มไข่ตั้งแล้วครับ

กุ๊บกิ๊บ : อีบี้ ไข่ตั้งนั่นมันมึง ลูกตั้งไข่ (หัวเราะเฮฮา) อะ กลับเข้าเรื่อง กิ๊บไม่ได้เปลี่ยน ถ้าเป็นคนในครอบครัวจะรู้ว่ากิ๊บเป็นแบบนี้ กิ๊บเจอหลานตัวเล็กๆ ก็รัก เป็นคนอ่อนโยน บี้ก็เป็น เขาดูแลครอบครัวได้ดี ที่ผ่านมาเขาเป็นคนจัดการทุกอย่างให้พ่อแม่ ทั้งจองตั๋วเครื่องบิน ทำนู่นทำนี่โดยไม่ต้องมีใครมาทำให้ ขณะที่คนภายนอกอาจจะมองว่าเขาดูเด็ก ร้องเพลงเต้นๆ ไม่น่าจะเอาสาระได้ แต่จริงๆ แล้วเขาใช้ความคิดตลอดเวลา ทำงาน ตอบไลน์ ทำอะไรรวดเร็วและจัดการทุกอย่างในเวลาเดียวกันได้หมด ซึ่งกิ๊บทำไม่ได้ เขาจึงเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีและเอาอยู่

บี้ : ตอบได้สุดยอด เดี๋ยวจัดให้ดีๆ เลยคืนนี้….จัดดินเนอร์น่ะครับ (หัวเราะ)

 

ถ้าให้เล่าภาพรวมของชีวิตตัวเองก่อนหน้ามาเจอกันให้ฟังหน่อยสิครับ

กุ๊บกิ๊บ : ของบี้เป็นไง มีแต่งาน…

บี้ : ไม่ค่อยมีอะไร ดูแลพ่อแม่ ทำงาน และตามฝันที่อยากเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จ จนมามีครอบครัว มีลูก ทำให้ผมคิดว่า “เอาแล้ว…งานงอก” นี่เป็นงานใหญ่งานหนึ่งที่ผมต้องดูแลรักษาให้ดี เลยเกิดคำถามว่าเราจะทำให้ครอบครัวนี้มีความสุขและดูแลเขาได้ดีไหม พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้คนรักครอบครัวเรา ตอนนี้ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งในชีวิต ลูกก็น่ารักมาก ต้องขอบคุณเขา (หันไปมองกุ๊บกิ๊บ) เขาเลี้ยงลูกเก่งมาก

กุ๊บกิ๊บ : ก็เลี้ยงไปตามธรรมชาติแหละ

บี้ : มีตำราภาษาจีนเล่มหนึ่งที่ญาติผมส่งมาจากฮ่องกง ผมเพิ่งหยิบมาอ่านตอนเป่าเปากำลังจะอายุได้ 8 เดือน พอเปิดอ่านก็คิดว่ากิ๊บไม่ต้องอ่านก็ได้ เพราะเขาแทบจะทำทุกอย่างตามที่หนังสือบอก แสดงว่าเขาทำการบ้านเยอะ เขาศึกษาโดยที่ผมไม่รู้ อย่างเรื่องพัฒนาการใน 30 วีค หนังสือเขียนว่าไม่ว่าจะทำอะไรให้บอกลูก เช่น แม่กำลังจะเข้าห้องน้ำนะ แม่กำลังดูทีวีอยู่นะ แม่ทำกับข้าวอยู่นะ ที่บ้านจะไม่เงียบเวลากิ๊บอยู่ เขาจะร้องเพลง เวลาอาบน้ำก็เล่นกับลูก ไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหนก็ทำ ไม่เคยยอมแพ้ เขาอยากให้ลูกมีความสุขและมีพัฒนาการที่ดี

กุ๊บกิ๊บ : กิ๊บเคยอ่านมา เขาบอกว่าสมองของเด็กวัยนี้ไม่มีวันหยุดทำงาน ร่างกายของเขาสร้างเซลล์สมองอยู่ตลอด เราควรคุยและเล่นกับเขาให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้ และเขาคาดการณ์ได้ จะเดินไปตรงนี้ก็บอก “เดี๋ยวแม่ไปทำกับข้าว เป่าเปารอนะคะ” เขาก็จะรู้ว่าต้องทำยังไง หรือ “แม่กำลังจะทำนี่ เป่าเปาจับให้แม่นะ” เขาก็ช่วยจับ เป่าเปาชอบฟังภาษาอังกฤษ  เหมือนฟังแล้วเข้าใจง่าย “Wait นะ O.K. ไหม” เขาก็จะโอเค สามารถเข้าใจสิ่งที่เราพูดและบอกได้

บางคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่นางจะพูดคำว่าโอเคได้ตั้งแต่อายุสามสี่เดือน “เด็กไม่เข้าใจหรอก” แต่เราพิสูจน์แล้วว่าเขาเข้าใจและเป็นไปได้ถ้าพ่อแม่ใส่ใจ เป่าเปาพูดและเข้าใจคำที่เราพูดได้ว่าหมายความว่าอะไรและเขาต้องทำอะไร บอกให้หยิบตัว A B C ก็หยิบได้ เราต้องสอนให้ทำซ้ำๆ เป็นเรื่องจริงมากที่เขาบอกว่าพอเป็นพ่อเป็นแม่คนหนึ่งอย่างที่ต้องมีคือความใส่ใจทุ่มเท่ ซึ่งกิ๊บรอเวลานี้อยู่แล้ว กิ๊บอยากมีลูก อยากสนุก ชอบ มีความสุขมาก

กลับไปที่คำถาม ภาพชีวิตก่อนหน้านี้ของกิ๊บมันล่องลอย เพราะไม่ได้คิดว่าจะเอาเงินไปทำอะไร ทำงานมาได้ก็เก็บไว้ส่วนหนึ่งและเที่ยว เมื่อก่อนกิ๊บไม่มีโกลในชีวิต โกลคือมีลูก แต่งงาน มีครอบครัว ซึ่งตอนนั้นยังมาไม่ถึง เลยเที่ยวไปเรื่อยๆ คิดว่าสิ่งที่ทำไม่ได้เดือดร้อนใครและเราก็รู้ว่าเราไม่ได้เป็นคนไม่ดี กิ๊บไม่ได้อยากแข่งขันกับใครในอาชีพนี้เพื่อไปถึงจุดท็อป ไม่เคยคิดว่าต้องดังขนาดไหนถึงพอใจหรือรวยแค่ไหนถึงพอ รู้สึกว่าแค่ฉันมีกินมีใช้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากไปไหนก็ไป ไม่เดือดร้อนใคร แค่นี้ก็สบายใจแล้ว ใครอยากจ้างก็จ้าง ไม่อยากจ้างก็ไม่เป็นไร จนมีเป่าเปาเหมือนว่าเรามีโกลที่จะทำให้เขาเป็นคนดี กิ๊บไม่ได้อยากให้เป่าเปาเป็นคนเก่ง เรียนเก่ง หรือโตไปจะต้องเป็นด็อกเตอร์ เป็นหมอ กิ๊บขอบี้อย่างเดียวว่าทำยังไงก็ได้ให้ลูกของเราเป็นคนที่มีความสุขที่สุด

บี้ : ให้เขาเป็นเด็กจิตใจดี

กุ๊บกิ๊บ : มีน้ำใจ เขาจะรวยไหมกิ๊บไม่รู้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าอ่อนแอจนไม่สู้คนเลย เขาต้องรู้จักอยู่รอดในสังคมนี้ นี่คือเป้าหมาย ตอนนี้ทำยังไงก็ได้ให้เขามีพัฒนาการทางการเติบโตที่ดีที่สุดแค่นั้นเอง

บี้ : ทำให้เขาเป็นเด็กที่มีความสุข ตอนนี้เขาก็เป็นความสุขของทุกคน ถ้าเขามีแต่ความสุขอยู่รอบตัว เชื่อว่าทุกคนที่เห็นก็จะมีความสุข

กุ๊บกิ๊บ : กิ๊บว่าความสุขหรือความดีต้องสร้างตั้งแต่เล็กๆ ต้องมาจากรากฐานที่ดี การเป็นคนเก่งไปพยายามเอาตอนไหนก็ได้ แต่การเป็นคนดีต้องมาจากสิ่งแวดล้อมที่ดีและรากฐานที่ดี พ่อแม่ ครอบครัว คนรอบข้าง จริงๆ ลูกเปลี่ยนบี้เยอะนะ เมื่อก่อนบี้ใจร้อนมาก หงุดหงิด เหมือนคนเป็น The Hulk เหมือนเป็นควายบ้าเลย

บี้ : ขึ้นง่าย หิวข้าวก็ขึ้นแล้ว

กุ๊บกิ๊บ : ทำหน้างอตลอดเวลา กับคนอื่นไม่เป็นนะ เป็นกับกิ๊บคนเดียว เลยบอกว่าคิดดูสิว่าถ้าบี้เป็นแบบนี้ ลูกจะเป็นไง ลูกก็จะไม่อยากอยู่ใกล้เพราะรู้สึกว่าพ่อชอบหงุดหงิด รับได้เหรอ ถ้าโมโหตลอดแล้ววันหนึ่งลูกกลายเป็นแบบเดียวกันจะว่าลูกได้ไหม ลูกจะเป็นเด็กที่มีความสุขได้ไงถ้าพ่อไม่เปลี่ยนตัวเอง หิวก็อารมณ์ขึ้น ง่วงนอนก็อารมณ์ขึ้น

แล้วจัดการกับนิสัยนี้ของสามีอย่างไร

กุ๊บกิ๊บ : ก็ว่าเลย “เป็นห่าอะไรเนี่ย” กิ๊บเป็นคนหนึ่งที่คนอยากอยู่ใกล้ เพราะเป็นแฮปปี้เกิร์ล ทุกคนบอกว่าอยู่ด้วยแล้วมีความสุข “แล้วบี้เป็นอะไร อยู่ด้วยแล้วมีความทุกข์ตลอด”

บี้ : แล้วไม่รู้ตัวด้วยนะ

กุ๊บกิ๊บ : ฉันไม่อยากอยู่ใกล้พลังงานลบ กิ๊บเป็นคนที่เลือกสิ่งที่ดีให้ชีวิตตัวเอง ถ้าบี้เป็นคนที่มีพลังงานลบแบบนี้ กิ๊บไม่เอา

 

หรือคิดลบเพื่อเป็นเกราะป้องกันตัว

กุ๊บกิ๊บ : อาจจะเป็นแบบนั้น เพราะเขาเข้าวงการด้วยการแข่งขัน เขาสู้มา เราก็สู้ แต่เราชิลกว่า เพราะรู้ว่าเราก็มีฤทธิ์เดชในตัว “ฉันไม่สนว่าใครจะว่าไง ฉันว่าฉันมีดี” ต่างจากบี้ที่ชอบคิดว่าตัวเองดีสู้คนอื่นไม่ได้ “คนนั้นดีจังเลย” พวกคิดลบจะเป็นแบบนี้คือไม่รู้ว่าข้อดีของตัวเองอยู่ตรงไหน มี Negative Thinking ในใจตลอด กิ๊บจะคอยใส่พลังงานบวกให้เขาเพราะเชื่อว่าคนเราอยู่ใกล้คนขายแป้งก็ตัวขาว อยู่ใกล้คนขายถ่านก็ตัวดำ ฉันเป็นคนที่มีพลังงานบวก ใครๆ ก็มาเอาพลังงานบวกจากฉัน เธอจะมาทำให้พลังงานบวกของฉันลดลงไปด้วยการที่เธอเป็นคนคิดลบมันไม่ได้ เราต้องพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดี

อยากมีชีวิตที่ดี ก็ต้องเลือกที่จะตื่นเช้า ออกไปดูซิว่าใครเขาทำมาหากินอะไร อยู่กับเพื่อนที่ชวนกันทำธุรกิจ ไม่ใช่เอะอะวันๆ ก็ชวนกันไปเมา ตื่น 5 โมงเย็น วันหนึ่งก็หมดไปแล้ว เช่นกัน อยากเป็นคนดี คนคิดบวก ก็ต้องไม่อยู่กับคนขี้นินทา ต้องอยู่กับคนที่รู้จักให้อภัย เข้าวัดเข้าวา ทำบุญ เห็นใจคนอื่น ถ้าบี้อยากให้ลูกเป็นคนจิตใจดี คิดดี ตัวขาว บี้ต้องเป็นคนคนนั้น บี้ต้องเป็นถังแป้งให้ลูก ต้องเป็นคนขายแป้ง กิ๊บมีคนรู้จักที่ลูกชอบโกหก พ่อแม่ก็ว่าลูกว่าทำไมขี้โกหก ทั้งที่จริงๆ พ่อแม่ก็ทำ ลูกเลยคิดว่าในเมื่อพ่อแม่ยังทำได้ เขาก็ต้องทำได้ เมื่อเห็นเขาก็เลยจำ

บี้ : ยังไงผมก็ว่าเด็กมีพ่อแม่เป็นไอดอล จึงต้องทำตัวให้ดี

กุ๊บกิ๊บ : ทั้งนี้ข้อดีอย่างหนึ่งของบี้คือบอกแล้วจำ เขาเป็นสามีเราก็จริงแต่เราอายุเยอะกว่าหลายปี เจอโลกมาเยอะกว่าเขา บางอย่างก็บอกว่าอย่าหาว่าสั่งสอนหรืออะไรเลย แต่ขอเตือนจริงๆ ด้วยความหวังดี เขาก็รับฟัง กิ๊บเชื่อว่าต่อไปเขาจะเป็นต้นไม้ที่งดงามมากจากการที่เขารับฟัง เขาไม่เคยเถียงว่า “เฮ้ย กูไม่ใช่คนแบบนั้น” หรือโมโหใส่ มีแต่บอกว่า “เหรอ บางทีบี้ก็ยอมรับนะว่าบี้ก็เป็นแบบนั้น…ไม่ได้แล้ว ต้องปรับปรุง บี้ว่าอันนี้ผิด ไม่ดีเลย ต้องแก้ยังไงดี” น้อยมากที่ผู้ชายจะยอมรับและเป็นแบบนี้ และเราสามารถแชร์ความคิดกับเขาได้

กิ๊บบอกเขาว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องครอบครัว ถ้าเป็นแบบนี้บี้จะเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานและเติบโตได้ เวลาผู้ใหญ่สอนอะไรแล้วบี้จำและเก็บบี้ก็จะได้ กิ๊บก็เป็น คนบอกว่าเราเล่นละครดีแต่เวลาออกไปทำงานเราไม่เคยหยิ่งผยอง กิ๊บหาข้อมูลจากรุ่นพี่ตลอด หรือบางอย่างที่บี้บอกไม่ดี กิ๊บก็พยายามปรับ ถึงแม้ว่าเราจะดื้อ อาจจะใช้เวลานานหน่อยเพราะเราก็มีตรรกะของเรา แต่อะไรที่ทำแล้วเห็นว่าจะทำให้อยู่ร่วมกันได้โดยสันติก็จะลองเปลี่ยนดู

 

ติดตามบทสัมภาษณ์น่ารักๆของบ้านนี้ต่อที่หน้า 3 ค่า…

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up