เช็คสัญญาณความเสี่ยงของโรค เบาหวาน ภัยเงียบที่อาจคร่าชีวิตได้

รู้มั้ยว่าโรค เบาหวาน เกิดได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ บ้างก็ว่าเป็นโรคของการกินดีอยู่ดี แต่ถ้าจะพูดให้ถูก เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง คือกินของหวาน ขนม เบเกอรีต่างๆ แต่ขาดการออกกำลังกาย เครียด พักผ่อนน้อย เรียกได้ว่าเบาหวานเป็นโรคของคนในสังคมเมือง …เรามาใส่ใจดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ก่อนจะสายเกินไปกันเถอะ

เป็นที่รู้กันว่าสาเหตุของการเกิดโรคนี้มาจากทั้งพันธุกรรม และจากพฤติกรรมการกินอาหารที่มีรสหวาน หรือรสจัดมากเกินไป รวมไปถึงแป้งต่างๆ คนที่มีพฤติกรรมการกินแบบผิดๆ จะยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นหากครอบครัวมีประวัติเคยเป็นโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นอีกหนึ่งโรคเรื้อรังอันตรายที่มักพบร่วมกันกับโรคความดันโลหิตสูง คาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า จำนวนผู้ป่วยจะพุ่งขึ้นเป็น 438 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 7.8 ของจำนวนประชากรทั่วโลก มารู้จักโรคนี้กัน เพื่อป้องกันก่อนสายเกินไป

เบาหวานคืออะไร

เบาหวาน เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากไม่อาจนำแป้ง และน้ำตาลที่บริโภคเข้าไปมาใช้ได้ เนื่องจาก ประการแรก ตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ หรือผลิตได้ไม่มากพอ โดยอินซูลินนี้มีหน้าที่ช่วยส่งผ่านน้ำตาลที่อยู่ในรูปของกลูโคสในกระแสเลือดไปสู่ระบบเนื้อเยื่อต่าง ๆ เพื่อนำไปเผาผลาญ และแปลงเป็นพลังงาน ประการที่สอง เนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ (ไขมัน ตับ กล้ามเนื้อ ฯลฯ) มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ด้วยความผิดปกติทั้งสองประการข้างต้น ส่งผลให้มีน้ำตาลตกค้างอยู่ในกระแสเลือดในปริมาณมาก และหากไม่มีการดูแลรักษาอย่างถูกต้องก็จะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ มากมาย

เช็คอาการก่อนเลย

โรคนี้จะมีอาการก็ต่อเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งจะมีสัญญาณดังนี้

• ปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวันและกลางคืน
• กระหายน้ำ เนื่องจากสูญเสียน้ำมากจากการปัสสาวะ
• อ่อนเพลีย และน้ำหนักลดเนื่องจากร่างกายนำน้ำตาลไปใช้ไม่ได้
• หิวบ่อย รับประทานเก่งขึ้น
• คันตามตัว ติดเชื้อได้ง่าย เป็นเชื้อรา ตกขาวบ่อย
• ตาพร่า เห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน
• ขาชาอันเนื่องมาจากปลายประสาทเสื่อม

เบาหวานเกิดได้กับทุกคนไม่เลือกเพศ เชื้อชาติ แต่ยิ่งแก่ (อายุเกิน 45 ปี) จะมีโอกาสเป็นง่ายกว่าหนุ่มสาว กรรมพันธุ์มีส่วนก็จริง แต่สังเกตไหมว่า ทำไมบางคนพ่อแม่เป็นเบาหวานทั้งคู่ ตัวเองกลับไม่เป็น หรือบางคนเป็นเบาหวานอยู่คนเดียวในครอบครัว แสดงว่ามีสาเหตุอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้ชีวิต พฤติกรรมการกิน ฯลฯล ซึ่งเป็นปัจจัยที่เราเลี่ยงได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่มีกรรมพันธุ์เบาหวานอยู่ในครอบครัว ควรระวังมากกว่าธรรมดา

กินหวานมากๆ แล้วจะเป็นเบาหวานหรือเปล่านะ? เป็นคำถามที่คนสงสัยกันเยอะ …ถ้ากินหวานมาก จะทำให้อ้วนได้ง่าย เลยมีโอกาสเป็นเบาหวานได้มากขึ้น เรียกว่าทำให้เกิดเบาหวานทางอ้อมก็คงได้

ใครบ้างที่เสี่ยงเบาหวาน!

• อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป
• มีประวัติครอบครัวโรคเบาหวาน
• เป็นผู้มีน้ำหนักเกิน หรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 25
• มีความดันโลหิต หรือมีน้ำตาลในเลือดสูง (เป็นโรคใดโรคหนึ่ง ความเสี่ยงต่ออีกโรคก็เพิ่มขึ้น) มีระดับไขมันในเลือดสูง
• สตรีที่มีประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือน้ำหนักบุตรแรกคลอดมากกว่า 4 กก.
• ไม่ออกกำลังกาย ดื่มสุรา และ/หรือสูบบุหรี่

กุญแจสำคัญที่ทำให้ห่างไกลเบาหวาน

กุญแจสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ควบคุมและอยู่กับโรคได้อย่างมีความสุข ได้แก่ การควบคุมการกิน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต

• เลือกกินอาหารจำพวกแป้งจากธัญพืชที่ไม่ขัดสี ในปริมาณพอเหมาะ
• พยายามงดอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นหวาน มัน หรือเค็ม
• กินผัก ผลไม้ ที่ไม่หวานจัดเพื่อเพิ่มกากใยอาหาร
• ควบคุมน้ำหนัก
• งดสูบบุหรี่ และงดดื่มสุรา
• ออกกำลังกายเป็นประจำในแบบแอโรบิควันละ30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ตามคำแนะนำของแพทย์
• ระวังอย่ากินยาใด ๆ เองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะยากลุ่มที่เป็นเสตียรอยด์ และยาฮอร์โมน

Text Bhusakorn

ขอบคุณที่มา  https://www.doctor.or.th , https://www.siamhealth.net , https://www.educationforhealth.org , http://www.health.com,  http://www.sbs.com.au

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ออกกำลังกายแบบดารา เฟิร์มอย่างตัวแม่ กับ 7 ท่าไม่ยาก แต่ได้ผลจริง

หุ่นดี-สุขภาพดี 10 ผลไม้หวานน้อย อร่อย แคลอรี่ต่ำ

9 อาหารสุขภาพ ต้านแก่ที่สาววัย 30 ควรกิน