account_circle
เปรียบไปเมืองหัวหินก็เหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง ของพ่อหลวง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ฉะนั้นผู้คนและสิ่งต่างๆ ในเมืองจึงผูกพันธ์กับพระองค์เป็นอย่างมาก รวมไปถึงร้านอาหารหลากหลายร้าน ที่มีโอกาสได้เข้าวังและขึ้นโต๊ะเสวย อันนำมาซึ่งความปีติเป็นล้นพ้นของเจ้าของร้าน สุดสัปดาห์จึงขอรวบรวม 8 ร้านดังแห่งเมืองหัวหิน ที่มีโอกาสได้ถวายงานมานำเสนอ เผื่อว่าใครผ่านไปแล้วคิดถึงพระองค์ท่าน จะได้แวะไปสัมผัสรสชาติที่ “พ่อ” และ “แม่” ของเราทรงโปรด
เจ๊กเปี๊ยะ
ศูนย์รวมอาหารเช้าชื่อดังประจำเมืองหัวหิน แม้ภายในจะมีอาหารให้เลือกหลากหลาย แต่ที่มีโอกาสได้ขึ้นโต๊ะเสวย รวมถึงเข้าไปออกร้านในวังตามโอกาสพิเศษต่างๆ มีอยู่ 2 ร้าน หนึ่งในนั้นคือข้าวหมูแดงหมูกรอบที่เปิดมานานกว่า 50 ปีแล้ว
“เวลาพระองค์ท่านเสด็จฯหัวหินจะมีคนมานำอาหารเข้าไปขึ้นโต๊ะเสวย ร้านเราก็สับหมูแดงหมูกรอบใส่จานไปให้ วางรวมในถาดส่งเข้าห้องเครื่องพร้อมกับของร้านอื่นๆ ส่วนการออกร้านในวังก็ได้ไปหลายครั้ง ทั้งงานวันเกิด ปีใหม่ ส่วนใหญ่จะไปตามตำหนักหาดทรายใหญ่ โครงการชั่งหัวมัน หนองเหียง ซึ่งสมัยที่ยังทรงแข็งแรงพระองค์ท่านกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จฯ ไปทรงงานที่หนองเหียงบ่อยมาก อาทิตย์หนึ่งจะไปสองครั้ง ส่วนเสาร์-อาทิตย์ก็จะไปหาดทรายใหญ่ หรือบางครั้งก็เสด็จฯ ไปสรงน้ำทะเลที่บ้านวิทยาบ้าง” คุณพัทยา พุ่มพวง เจ้าของร้านหมูแดงหมูกรอบรุ่นที่ 2 ถ่ายทอดเรื่องราวแต่หนหลัง
“เมื่อก่อนเราจะเข้าวังหรือตามไป ตำหนักต่างๆ อย่างต่ำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง บางครั้งก็ได้เห็นพระองค์ท่าน บางครั้งก็ไม่เห็น เคยมีโอกาสเข้าเฝ้าฯใกล้ที่สุดประมาณ 50 เมตร ตอนนั้นพระองค์เสด็จฯ ที่หน้าตำหนักแล้วเรานำอาหารไปส่งพอดี ก็เห็นว่าพระองค์ลงจากรถ มีคุณทองแดง คุณอะไรต่างๆ เดินเรียงเป็นแถวเลยนะ แล้วพระองค์ท่านก็มีพระราชปฏิสันถารกับข้าราชการที่มาเข้าเฝ้าฯ เราอยู่ตรงนั้นเลยได้รับเสด็จไปด้วย
“ที่ประทับใจคือครั้งหนึ่งเราตามเสด็จฯ ไปบ้านวิทยา มีมหาดเล็กมาบอกว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ รับสั่งว่า ‘ข้าวหมูแดงหมูกรอบอร่อยดีนะ’ ได้ยินแล้วเราก็ดีใจมาก เพราะเขาบอกว่าสมเด็จฯ ท่านไม่ได้ชมใครบ่อยๆ”
ส่วนอีกหนึ่งในเจ๊กเปี๊ยะคือร้านหมูสะเต๊ะของ คุณยายเพลินสุข ลิ้นเสือ ที่แม้จะมีโอกาสได้ส่งสะเต๊ะฝีมือตนเองเข้าวังเมื่อนานมาแล้วจนจำรายละเอียดแทบไม่ได้ แต่ความปลื้มปีติก็ยังคงประทับอยู่ในใจ “ฉันไม่ค่อยแน่ใจว่าตอนนั้นอะไรยังไง เพราะตั้ง 30-40 ปีมาแล้ว สมัยเรายังอายุน้อยอยู่เลย จำได้ว่ามีคนจากวังมาซื้อไป แต่พูดไปก็กลัวจะผิดเลยไม่กล้าพูด ส่วนตัวเราเองก็ยังปลาบปลื้มนะที่มีโอกาสได้ทำเข้าวังกับเขา” แม้จะไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากนัก แต่คุณยายก็สะท้อนความภูมิใจที่ครั้งหนึ่งได้ทำอาหารจานเล็กๆ ถวายพระองค์ท่านผ่านดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตา
ที่ตั้ง : ร้านเจ๊กเปี๊ยะ แยกถนนเดชานุชิตและถนนแนบเคหาสน์ ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากเข้าจากซอย 57 ร้านจะตั้งอยู่มุมถนนแนบเคหาสน์ตัดกับถนนเดชานุชิตพอดี เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.30-12.30 น.
ลอดช่องสิงคโปร์ลุงดำ
ถึงเป็นขนมพื้นๆ แต่ด้วยความอร่อยที่โดดเด่น “ลอดช่องลุงดำ” จึงมีโอกาสได้เข้าไปร่วมงานในวังและขึ้นโต๊ะเสวยมาแล้ว
“ตั้งแต่ พ.ศ.2508 เป็นต้นมา เวลามีงานอะไรในวังลอดช่องของเราจะได้เข้าไปจัดซุ้มตลอด คือเข้าวังมาตั้งแต่รุ่นพ่อ สมัยนั้นผมรับราชการเป็นตำรวจพลร่มอยู่ค่ายนเรศวร เวลากลางวันพระองค์ท่านเสด็จฯ ไปออกกำลังกาย ผมก็ได้ไปวิ่งอารักขาถวายความปลอดภัย พอกลางคืนมีงานเราก็เปลี่ยนมาเป็นพ่อค้าไปออกร้านในวังกับพ่ออีก
“พอเกษียณ ผมเข้ามาสานต่อร้านลอดช่องแทนพ่อ ก็ยังได้เข้าวังบ่อยๆ เพิ่งมาห่างตอนที่พระองค์ท่านเริ่มประชวร จนครั้งสุดท้ายที่ได้เข้าไปคืองานฉลองราชาภิเษกสมรสเมื่อสิบกว่าปีก่อน ถึงแม้จะเป็นหนึ่งในร้านอาหารหลายๆ เจ้าที่ได้เข้าไปในวังแต่ก็ถือว่าเป็นบุญล้นพ้นของเราแล้ว” ร้อยตำรวจตรี สุพจน์ สงวนพงษ์ เจ้าของร้านย้อนถึงวันที่ยังคงประทับอยู่ในใจ
ที่ตั้ง : ร้านลอดช่องสิงคโปร์ลุงดำ ถนนชมสินธุ์ (หัวหิน 55) ในศูนย์อาหารหัวหิน 55 ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-17.00 น.
นวลลูกชิ้นปิ้ง
ลูกชิ้นปิ้งรถเข็นที่มองดูแทบจะไม่แตกต่างจากร้านอื่นเลย แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของผู้คนที่เดินผ่านไปมาในตลาดโต้รุ่งหัวหินก็คือ ลูกชิ้นปิ้งของร้านนวลมีโอกาสได้ขึ้นโต๊ะเสวยมาแล้ว
“ก่อนหน้านั้นมีมหาดเล็กมาซื้อไปลองชิมก่อนจะกลับมาบอกว่าอย่างนี้ไม่ผ่าน เพราะที่เราขายเป็นน้ำจิ้มบ้านๆ รสจัดจ้าน เราเลยทำใหม่ให้รสอ่อนลงและออกเปรี้ยวนิดๆ ตัวลูกชิ้นก็สั่งเจ้าใหม่ที่คุณภาพดีกว่านี้และเน้นแค่ลูกชิ้นหมูกับเนื้อเท่านั้น เวลาคุณหญิงมาสั่งขึ้นโต๊ะเสวยจะมีชามเปลสีทองมาให้ใส่แล้วมีคนมายืนคุมเลย ต้องย่างให้ร้อนออกมาสวยๆ น้ำจิ้มก็ต้องตั้งไฟให้ร้อนถึงจะยกไปได้ เหมือนเรามีบุญนะที่ได้เข้าไปรับใช้ข้างในหลายครั้ง บางคนอยากเข้ายังไม่ได้เข้าเลย” คุณนวม ขวัญแก้ว เล่าถึงช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่เธอจะไม่มีวันลืม
ที่ตั้ง : ร้านนวลลูกชิ้นปิ้ง บ่ายๆ จะขายอยู่หน้าตลาดโต้รุ่งหัวหิน ก่อนจะย้ายเข้าไปท้ายตลาดในตอนเย็น และขายจนถึงประมาณ 21.00 น.
ไอศกรีมป้านิ
หนึ่งในร้านดังประจำตลาดโต้รุ่งหัวหินที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ จนแต่ละวันมีคนต่อแถวรอชิมยาวเหยียด แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าไอศกรีมป้านิคือไอศกรีมที่พ่อหลวงของเราทรงโปรด
“ที่ประทับใจที่สุดในชีวิตคือ ครั้งที่ไปออกงานวันคล้ายวันราชาภิเษกสมรส วันที่ 28 เมษายน ปี พ.ศ.2542 วันนั้นหัวหน้าคนเชิญเครื่องมาบอกกับเราว่า วันนี้แจกแขกเสร็จแล้วกลับได้เลยนะ เพราะเขามีไอศกรีมยี่ห้อดังขึ้นโต๊ะ ป้านิก็คิดว่าของเราคงไม่ได้ขึ้น จนกระทั่งประมาณสี่ทุ่มกว่า ไอศกรีมเหลือแค่ 3 ถ้วย เราก็เตรียมตัวกลับ อยู่ๆ เขาก็วิ่งมาถามว่าไอศกรีมหมดหรือยัง พระเจ้าอยู่หัวจะเสวยไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่ของป้านิ ได้ยินแล้วเราดีใจมากถึงที่ผ่านมา จะมีโอกาสส่งขึ้นโต๊ะเสวยบ่อยๆ แต่ครั้งนี้ในหลวงทรงปฏิเสธของที่คนเชิญเครื่องนำขึ้นไปถวาย แล้วทรงเลือกไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่ของเรา ถือว่านี่คือรางวัลที่ในหลวงพระราชทานให้ป้า” นับเป็นความภูมิใจที่ป้านิจดจำมาจนถึงทุกวันนี้
ที่ตั้ง : ร้านไอศกรีมป้านิ ในตลาดโต้รุ่งหัวหิน เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 17.00-23.00 น.
ข้าวเหนียวมูนและขนมเทียน มีชัย
ข้าวเหนียวมะม่วงในเมืองหัวหินหารับประทานได้หลายร้าน แต่ความพิเศษของ “ข้าวเหนียวมูนแม่นงนุช” แห่งร้านมีชัย คือเป็นสูตรเดียวกับที่ส่งขึ้นโต๊ะเสวยในวังไกลกังวล
“ร้านเราเปิดมา 70 กว่าปีแล้ว และส่งขนมขึ้นไปตั้งเครื่องเสวยตั้งแต่สมัยคุณย่านงนุชยังสาวๆ จนตอนนี้คุณย่าเสียแล้วโดยปกติเราจะส่งไปเฉพาะข้าวเหนียวมูน ตอนแรกที่มาสั่งให้ทำเขาบอกว่านี่ของพระเจ้าอยู่หัวนะ และนี่ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เราก็ต้องแยกออกมา
“ปกติของพระองค์ท่านจะสั่งไม่มาก ครั้งละครึ่งกิโลหรือหนึ่งกิโลแล้วแต่ นอกจากนี้ก็จะมีขนมเทียนซึ่งถ้าเป็นของในหลวงพระองค์จะไม่เสวยพริกไทย คนที่มาสั่งจะกำชับว่าห้ามใส่พริกไทยนะ ส่วนของพระราชินีเป็นสูตรที่ขายหน้าร้านเลย แต่เวลาที่ทำของสองพระองค์เราจะไม่ทำรวมกับของขาย เรื่องการห่อก็จะห่อเล็กกว่าประมาณครึ่งหนึ่งของที่เราทำขาย เพื่อให้สามารถเสวยได้พอดีคำ ครั้งสุดท้ายที่พระองค์เสด็จฯ มาประทับที่หัวหิน ก่อนจะเสด็จฯ ไปประทับที่โรงพยาบาล เราก็ยังส่งขนมเทียนขึ้นไปตั้งเครื่องอยู่เลย
“ถ้าถามว่าทำไมพระองค์ท่านถึงทรงเลือกขนมของร้านเรา อันนี้ไม่รู้เหตุผล แต่ทุกครั้งเมื่อท่านมาประทับที่หัวหินก็จะต้องทำส่งขึ้นไปตั้งเครื่อง บางครั้งก็ข้าวเหนียวมูน บางครั้งก็ขนมเทียน แล้วแต่ว่าห้องเครื่องจะสั่งอะไรมา ซึ่งสำหรับเราการได้ทำของถวายพระมหากษัตริย์และพระราชินี ทำให้เราต้องรักษามาตรฐานให้ดีที่สุด เพราะหากใครรู้ว่าร้านนี้ทำให้ในหลวงกับพระราชินีเสวย ก็ต้องคาดหวังว่ามากินแล้วจะ โอ้โห! สมกับที่ตั้งใจ” คุณอัจฉริยา ศิลปสุนทร ทายาทรุ่นที่ 3 ของร้านมีชัย เป็นตัวแทนคุณย่านงนุชเล่าถึงความภาคภูมิใจของครอบครัว
ที่ตั้ง : ร้านมีชัย ถนนเพชรเกษม ซอยหัวหิน 55/2 ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร้านอยู่ปากซอยหัวหิน 55/2 ตรงข้ามตลาดฉัตรไชย เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.30-18.00 น.
ตะโก้เบญจพงศ์
เลยร้านเจ๊กเปี๊ยะไปราว 100 เมตรคือที่ตั้งของร้านขายของจิปาถะที่มี “ตะโก้” ฝีมือคุณป้าสองพี่น้อง คุณจริยา–คุณนารี เบญจพงศ์ เป็นของดีประจำร้าน ซึ่งพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยโปรดให้ขึ้นโต๊ะเสวยแทบทุกครั้งที่เสด็จฯ หัวหิน
“เมื่อก่อนป้าไปเรียนทำตะโก้แล้วก็เอามาปรับปรุงให้เป็นรสชาติของตัวเอง ก่อนจะทำขายได้ 30 กว่าปีแล้ว จนมา 10 ปีให้หลังนี้ สงสัยจะมีคนในวังมาซื้อไปชิมก่อนจะมาสั่งว่าเอาไปขึ้นที่ 3,000 ชิ้น ได้ยินแล้วเรารู้เลยว่าต้องเอาไปขึ้นโต๊ะ เสวย ตอนแรกก็ดีใจนะ แต่พอเขาบอกไม่ให้ใช้แม็กซ์เย็บใบเตย ต้องพับเฉยๆ คราวนี้เริ่มยากแล้ว เพราะเราเคยแต่เย็บแม็กซ์ เลยทำไม่ได้ แรกๆ ต้องใช้ด้ายเย็บไปก่อน แต่หลังๆ มาก็หาวิธีพับจนได้
“อีกอย่างถ้าเข้าวังเขาไม่ให้ใส่กลิ่น สมัยก่อนเราจะใส่กลิ่นมะลิลงไปนิดหนึ่ง คือตอนนั้นไม่มีมะพร้าวคั้นสำเร็จ เราต้องคั้นเอง เลยเก็บมะลิที่ปลูกมาลอยน้ำไว้แล้วเอามาคั้น จะมีกลิ่นหอมนิดหนึ่ง แต่ถ้าเข้าวังเขาห้ามไม่ให้มีกลิ่นเลย หลังจากนั้นเราก็ทำส่งในวังมาเรื่อยๆ เขาจะสั่งครั้งละ 1,000 ชิ้น เดือนละครั้งสองครั้งแล้วแต่ ก็ไม่ทราบหรอกว่าสมเด็จฯ หรือพระองค์ท่านโปรดมากกว่า แค่ได้ขึ้นที่ก็ดีใจแล้ว” คุณป้าจริยาเจ้าตำรับตะโก้เบญจพงศ์ เผยถึงที่มาของการได้มีโอกาสส่งขนมฝีมือตัวเองขึ้นโต๊ะเสวย
ที่ตั้ง : ร้านเบญจพงศ์ ถนนเดชานุชิต ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เลยร้านเจ๊กเปี๊ยะไปประมาณ 100 เมตร ตะโก้มีขายทุกวันตั้งแต่ 08.00 น.จนกว่าของจะหมด (ส่วนใหญ่จะหมดประมาณเที่ยง)
ก๋วยเตี๋ยวเรือเจ๊ดิน
ก๋วยเตี๋ยวร้านอร่อยที่หลายคนคุ้นเคยในเมืองหัวหิน ถึงจะเป็นร้านดังลูกค้าแน่นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่นำความปีติอย่างหาที่สุดไม่ได้มาสู่เจ้าของร้าน คุณวิรัตน์ และคุณผกาวรรณ (เจ๊ดิน) โชคสุชาติ คือการที่ได้มีโอกาสถวายงานอย่างใกล้ชิดถึงในรั้วในวัง
“ร้านก๋วยเตี๋ยวเราเปิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2500 ก่อนจะเริ่มเข้าวังประมาณ พ.ศ.2510 พอรู้ว่าในวังให้เข้าไปจัดซุ้มอาหารที่หน้าศาลาเริง เราก็เข้าไปทั้งครอบครัว ตอนนั้นบรรดาซุ้มอาหารจะตั้งอยู่ตรงเขื่อนชายหาด มองออกไปเห็นทะเล พระองค์ท่านก็ทรงดนตรีอยู่ในศาลาเริง เป็นภาพที่ผมจำได้ไม่ลืม
“จากนั้นมาร้านเราก็ได้เข้าไปจัดซุ้มอาหารอยู่บ่อยครั้ง เพราะสมเด็จพระนางเจ้าฯโปรดก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ส่วนพระองค์ท่านจะเสวยอาหารง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เวลาเสด็จฯ ไปทรงงานที่หาดทรายใหญ่ เขาเต่า โครงการชั่งหัวมัน ก๋วยเตี๋ยวของเราก็ตามไป บางทีเวลาสมเด็จฯ จะเสวยก็จะมีคุณหญิงมาสั่งไว้ เอาชามแก้วมาให้ใส่ เราก็ต้องทำไว้ถวายท่าน ซึ่งเป็นความปลาบปลื้มใจมากนะครับ” คุณลุงวิรัตน์เล่าย้อนถึงเรื่องราวแต่หนหลัง
ที่ตั้ง : ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ๊ดิน ในซอยหัวหิน 55/2 ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าซอย 55/2 ไปประมาณ 15 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.
หากใครไปหัวหิน นอกจากจะแวะซื้อแวะชิมของอร่อยจากทั้ง 8 ร้านแล้ว ถ้ามีโอกาสได้เจอเจ้าของร้าน ลองสอบถามถึงเรื่องราวของทั้งสองพระองค์ในเมืองหัวหินแต่หนหลังด้วย จะยิ่งซาบซึ้งในใจมากยิ่งขึ้น
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง : 19 เรื่องราวและหลากหลายภาพประทับใจของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้
10 เรื่องราวประทับใจของ แม่แห่งแผ่นดิน พระคู่พระบารมีในหลวงรัชกาลที่ 9