ย้อนไปในวันนี้เมื่อปีที่แล้ว 20 ตุลาคม 2559 ท่ามกลางความโศกเศร้าโทมนัส จากการศูนย์เสียอันใหญ่ยิ่งของแผ่นดินไทย แต่ในฐานะพระราชธิดา สมเด็จพระเทพฯ ยังคงต้องทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในการเสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2558 ซึ่งนับเป็นพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจุฬาฯ รุ่นสุดท้ายในรัชกาล 9 ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ราวกับทรงปฏิบัติตามพระราชดำรัสของ พระราชบิดา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ว่า “เสียใจได้ แต่อย่าละเลยหน้าที่”
เสด็จฯ ไปกราบพ่อก่อนเสด็จฯ กลับมาทรงปฏิบัติหน้าที่
โดยหลังจากเสด็จฯ ไปพระราชทานปริญญาบัตรรอบเช้าที่จุฬาฯ แล้ว พระองค์ท่านได้เสด็จฯ ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร แล้วจึงเสด็จฯ กลับมาพระราชทานปริญญาบัตรต่อในช่วงบ่าย ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ สำหรับบัณฑิตจุฬาฯ ที่จบการศึกษาในปีนี้
น้ำพระเนตรที่มิอาจกลั้น
แต่กระนั้น ด้วยความโทมนัสที่มิอาจกลั้นได้ เมื่อพระองค์พระราชทานพระราโชวาท แก่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว บัณฑิตในหอประชุมร่วมใจกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้องกระทบใจ จนทำให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงพระกันแสง (ร้องไห้) โดยทรงพยายามสะกดกลั้นน้ำพระเนตรเอาไว้ จนจบเพลง ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ความผูกพันของพระราชธิดาและทูลกระหม่อมพ่อ
หากให้เอ่ยถึงความผูกพันในฐานะ ทูลกระหม่อมพ่อและพระราชธิดา ระหว่างสมเด็จพระเทพฯ และพระราชบิดา ในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นมากมายเกินจะเอ่ยได้หมด อย่างที่ประชาชนชาวไทยทราบ และคุ้นเคยกันดี กับภาพของสมเด็จพระเทพฯ ที่เสด็จพระราชดำเนินตามทูลกระหม่อมพ่อ ไปยังท้องถิ่นทุรกันดารต่างๆ เพื่อถวายงานอย่างใกล้ชิด ในฐานะราชเลขาส่วนพระองค์
โดยสมเด็จพระเทพฯ ได้พระราชทานสัมภาษณ์เกี่ยวกับพระราชภารกิจนี้ ไว้ในหนังสือเทิดพระเกียรติในหลวงของเรา ความว่า..
“…ทูลกระหม่อมพ่อจะพระราชทานคำแนะนำในทุกด้านที่ไปทูลถาม เพราะทรงทราบทุกเรื่อง นอกจากนั้นยังทรงสนับสนุนในการค้นคว้าหาความรู้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือทรงสนับสนุนให้ใช้ความคิดในทุกด้าน…
“..ไม่เคยทรงเบื่อที่จะฟังการออกความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ จะทรงช่วยวิจารณ์ความคิดนั้น ๆ และพระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติมด้วย…
“…ทูลกระหม่อมพ่อจะทรงใช้ในงานจิปาถะต่างๆ ไม่ได้มีหน้าที่แน่นอน นอกจากได้สนองพระเดชพระคุณในการคอยดูแลสอดส่องทุกข์สุข และให้กำลังใจประชาชน คอยดูแลในด้านงานอาชีพ…
“…สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่โปรด คือ การกระทำที่ผิดทำนองคลองธรรม ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อประชาชนชาวไทย…
“…เวลาที่ทรงพระสำราญ คือ เวลาที่เสด็จฯ ออกวางโครงการพัฒนาประเทศ และเห็นว่าพระราชดำริคงจะมีประโยชน์ต่อประชาชนในเวลาที่เห็นผลจากโครงการต่างๆ …
“อีกประการหนึ่งคือ การที่ได้ทอดพระเนตรเห็นประชาชนมีน้ำใจต่อท่านและประชาชนด้วยกัน ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะมีส่วนช่วยพระองค์ท่านได้ โดยการช่วยตัวเอง ช่วยเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ มีความรักความสามัคคีกัน ทำตนเป็นพลเมืองดี เห็นแก่ชาติบ้านเมือง..”
นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพฯ ยังทรงเป็นพระราชธิดาที่ทรงถอดแบบพระราชบิดามาอย่างครบถ้วน ทั้งพระราชอิริยาบถต่างๆ อาทิ ทรงมีกล้องถ่ายรูปคู่พระวรกายอยู่เสมอ ในพระหัตถ์มีปากกาเพื่อทรงจดบันทึกตลอด ฯลฯ และเหนือสิ่งอื่นใด คือ ทรงยึดมั่นที่จะปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกร เฉกเช่นเดียวกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชของชาวไทย
ข้อมูลและภาพจาก : http://www.praew.com http://www.manager.co.th และ www.youtube.com
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง :
วันนี้เมื่อปีที่แล้ว 14 ตุลาคม 2559 พสกนิกรทั่วหล้า น้อมใจส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
วันนี้เมื่อปีที่แล้ว กษัตริย์จิกมี และพระราชินีแห่งภูฏาน เสด็จฯสักการะพระบรมศพด้วยความอาลัย (มีคลิป)
วันนี้เมื่อปีที่แล้ว : ภาพชุดอัครศิลปิน ภาพจากหัวใจนักศึกษาศิลปากร
วันนี้เมื่อปีที่แล้ว โครงการ ย้อมผ้าเพื่อเพื่อน ดาราสาวชมพู่ร่วมแรงจิตอาสา