แฮ็ปปี้ที่ กระบี่ กินดี อยู่สบายกับ Centra by Centara Phu Pano

ถ้ามีคนชวนไปเที่ยว กระบี่ สิ่งแรกที่นึกถึงน่าจะเป็น ทะเลแหวกและเกาะสวย ๆ แต่ทริปนี้เซ็นทารากับ บางกอกแอร์เวย์สกลับบอกเราว่า ขอบายทะเลแล้ว จะพาไปสัมผัสวิถีชาวบ้านบนเกาะใกล้ๆ เมืองแทน โอเคไหมมาเหนือความคาดหมายขนาดนี้ ทริป แฮ็ปปี้ที่กระบี่ กินดี อยู่สบาย มีหรือ สุดฯ จะพลาด

ตกปากรับคำปุ๊บไปพบกันที่จุดนัดหมายปั๊บ ณ เล้านจ์แสนสบายของ บางกอกแอร์เวย์สที่สนามบินสุวรรณภูมิ จัดแจงมื้อเช้าง่ายๆ ด้วยแซนด์วิชกับข้าวต้มมัด ก่อนจะขึ้นเครื่องบินไปชั่วโมงนิดๆ ก็แลนดิ้งที่กระบี่ นั่งรถอีก 30 นาทีก็ถึงที่พักใหม่เอี่ยมในเครือเซ็นทาราย่านอ่าวนางอย่าง Centara Phu Pano Resort โรงแรมสามดาวขนาดกะทัดรัด แต่ครบครันทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอาหาร และห้องสัมมนา ที่สำคัญคืออยู่สบายด้วยห้องพัก Pool View ขนาดกำลังดี นอกจากสระว่ายน้ำแล้วยัง มีวิวภูเขาเขียวๆ ให้นอนดูชิลๆ ส่วนใครไปครบทั้งครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ก็มี Family Residence ที่จัดเตียงดับเบิ้ลและเตียงสองชั้น สำหรับเด็กมาให้อยู่ด้วยกันแบบอบอุ่น

เช็กอินเก็บกระเป๋าแล้วก็ได้เวลาออกตะลุยอันซีนกระบี่ เริ่มด้วยการไปขึ้นสปีดโบ๊ตที่หาดนพรัตน์ธารา เพื่อหามื้อเที่ยงลงกระเพาะ บนหาดส่วนตัวของ Centara Grand Beach Resort & Villa กับห้องอาหารญี่ปุ่น Hagi ที่ขึ้นชื่อเรื่องเทปันยากิ แต่ พระเอกที่ดึงความสนใจจากพวกเรา ได้มากที่สุดกลับเป็นข้าวผัดกระเทียมธรรมดาที่วิธีการทำไม่ธรรมดา เพราะเชฟใหญ่โชว์ลีลาพลิ้วไหวในการผัดให้เห็นกันจะจะ ก่อนจะท้าทายด้วยการเสิร์ฟแบบลอยตัว โยนถ้วยให้เลยจ้า งานนี้บอกเลยว่าใครไม่กล้า อดอร่อย

เมื่อท้องอิ่มก็ออกผจญภัยกันต่อ เดินฝ่าป่าเขาและฝูงลิงในทางเดิน Monkey Trail เพื่อไปหารถตู้ที่มาจอดรอรับอยู่อีกฝั่งเขา ซึ่งนอกจากต้องใช้แรงปีน ยังต้องคอยระแวดระวังน้องลิงที่พร้อมจะแย่งชิงสิ่งของที่เราถือไปได้ทุกเมื่อ แต่ก็เป็นความเหนื่อยปนสนุก พอรอดพ้นจากฝูงลิงมาได้ ร่างกายก็เรียกร้องหาความผ่อนคลาย สปาหรูที่ Centara Anda Dhevi Resort & Spa จึงเป็นคำตอบสุดท้ายของวัน ก่อนจะไปหาอาหารเย็นรับประทานที่ร้านวิวสวย แลเล แล้วกลับไปนอนพักเอาแรงแต่หัวค่ำ เพราะพรุ่งนี้เช้า มีภารกิจพิชิตหมอกเมืองกระบี่รอเราอยู่

ทริปนี้แม้จะตั้งนาฬิกาปลุกให้เช้ากว่าปกติ แต่เตียงนุ่ม ๆ ก็ดึงดูดให้เราจมอยู่กับที่นอนจนเกือบสาย กว่าจะรีบร้อนกินอาหารเช้าแล้วมุ่งหน้าไปดูสายหมอกหยอกยอดเขาที่หนองทะเล หมอกจึงกระจายตัวหายไปหมดแล้ว ได้แต่เก็บภาพภูเขาสะท้อนหนองน้ำมาเป็นที่ระลึก ถึงคราวคุณผู้อ่านก็อย่าพลาดนะคะ

ทริปนี้เรื่องกินไม่แพ้เรื่องเที่ยวพวกเราตั้งใจมากินขนมจีนเจ้าดังที่ร้านแววไสไทย กับน้ำยาไก่และน้ำยากะทิรสจัดจ้าน ก่อนจะแก้ความเผ็ดด้วยกาแฟและเค้กที่ Sprucy Café & Bakery ดีงาม…

วันรุ่งขึ้นเราออกไปนั่งเรือเยี่ยมชมชุมชนน่ารักในตำบลคลองประสงค์ โดยแวะดูความงามของเขาขนาบน้ำ สัญลักษณ์ของกระบี่ และสำรวจถ้ำ หินงอกหินย้อย ก่อนลัดเลาะผ่าน ป่าชายเลนไปยังบ้านเกาะกลาง บนเกาะเล็กๆ ที่มีอยู่เพียง 3 หมู่บ้าน ซึ่งมีของดีซ่อนอยู่คือ “ข้าวสังข์หยดแห่งเมืองกระบี่” ซึ่งชาวบ้านนำทฤษฎีแกล้งดินของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาใช้ในการทำนา จนได้ข้าวเมล็ดเรียวเล็กสีแดงเข้ม และด้วยความเป็นเกาะที่มีน้ำเค็มล้อมรอบจึงทำ ให้ข้าวสังข์หยดของที่นี่มีรสชาติแตกต่างจากที่อื่น

นอกจากเราจะได้ชมนาข้าวสีเขียวสดแล้ว ยังได้ความรู้ในการปลูกข้าวจากประธานกลุ่มชาวนาบ้านเกาะกลาง รวมถึงได้ทดลองสีข้าวแบบโบราณด้วย จากนั้นก็นั่งรถสามล้อเครื่อง ยานพาหนะประจำเกาะไปทดลองเพ้นต์ผ้าปาเต๊ะที่กลุ่มโอทอปผ้าปาเต๊ะ ซึ่งอยู่ถัดไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง

ก่อนจากลาเกาะกลางเราได้ของฝากเต็มไม้เต็มมือ ทั้งข้าวสังข์หยดและเสื้อปาเต๊ะสวยๆ พอเหยียบตัวเมืองกระบี่ปุ๊บท้องก็ร้องว่าหิวปั๊บ เย็นนั้นเจ้าภาพจึงพาไปจัดหนักของอร่อยที่ร้านเรือนไม้ ร้านอาหารบรรยากาศดี เสิร์ฟอาหารพื้นบ้านรสชาติอร่อย แถมยังมีน้ำพริกกุ้งเสียบให้ซื้อกลับไปฝากที่บ้านอีก เป็นการปิดท้ายทริปที่เพอร์เฟ็กต์สุดๆ ไปกระบี่รอบนี้ถึงจะไม่ได้ลงทะเล แต่ก็ได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านแบบอันซีนของแท้ ใครที่เคยคิดว่าที่นี่มีแค่เกาะกับทะเลคงต้องทบทวนใหม่แล้วละสุดฯ การันตีว่า กระบี่มีดีกว่าที่คิดจริงๆ