จดหมายเชิญไปร่วมทริปบาหลีจาก Airbnb ทำให้เรานึกถึงเทรนด์เมื่อกว่า 10 ปีก่อน Bali หรือ บาหลี เป็นอะไรที่อินมาก-ก-ก เซเลบยุคนั้นต้องไปเก๋ที่บาหลี รีสอร์ทก็ต้องตกแต่งสไตล์บาหลี ถึงวันนี้ชื่อของบาหลีอาจจะห่างหายไปจากการรับรู้ของคนไทยบ้าง แต่เชื่อไหมว่ามันยังคงหอมหวนในหมู่นักเดินทางทั่วโลก ก็ขนาดซงจุงกิยังบังเอิญไปบาหลีช่วงเดียวกับซองเฮเคียว และเคน F4 ก็จัดพิธีแต่งงานที่นี่!
อะไรนะที่ทำให้เมืองท่องเที่ยวเล็กๆ แห่งนี้ครองใจเหล่านักเดินทางรุ่นแล้วรุ่นเล่า จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนตั้งเป้าว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปเยือนสักครั้ง
…ธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมที่ตรึงใจ เอกลักษณ์ของผู้คน ดูจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวซึ่งเราจะพบได้ในเมืองท่องเที่ยวดังๆ ทั่วโลก แต่เชื่อสิ ที่นี่ต้องมีอะไรมากกว่านั้น และเราจะไปหาคำตอบกัน ตามสุดฯ มาเลยค่ะ!
เสน่ห์และสีสันตามแบบฉบับบาหลี
จากสนามบิน Ngurah Rai ไปยังที่พัก ทำให้เรามีโอกาสชมเมืองเกือบ 1 ชั่วโมงเต็ม เริ่มสัมผัสความเป็นบาหลีทีละนิดๆ จากริมถนนใหญ่ที่ดูไม่แตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวทางใต้บ้านเรามากนัก และค่อยๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนรองที่ยังคงความเป็นชุมชนดั้งเดิม สองฟากถนนแคบๆ เป็นดงไม้สลับกับบ้านเรือนของชาวบาหลีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรารู้สึกทึ่งมากที่บ้านทุกหลังสร้างด้วยแบบแปลนเดียวกันหมด มีเทวรูปที่หน้าซุ้มประตูทางเข้า ล้อมด้วยรั้วไม่สูงนัก ด้านเหนือเป็นสุสานบรรพบุรุษ จุดที่ใกล้สุสานเป็นเรือนคู่แต่งงานใหม่ ตรงข้ามเป็นครัว ตรงกลางเป็นเรือนประกอบพิธีกรรม ตรงข้ามกันเป็นเรือนรับแขก ส่วนมากตกแต่งด้วยศิลปะบาหลี วิจิตรมากน้อยลดหลั่นกันไปตามฐานะ ทำให้ภาพรวมของเมืองดูมีมนต์ขลังและไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อบวกกับวิวที่เปิดโล่ง ไม่มีตึกสูง ยิ่งทำให้บรรยากาศดีขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว (ที่นี่มีกฏหมายห้ามสร้างอาคารสูงกว่าต้นมะพร้าว เป็นไอเดียที่น่ารักและเวิร์กมาก)
ทุกหนทุกแห่งที่ผ่านไป เราสัมผัสได้ถึงวิถีความเชื่อแบบชาวฮินดูที่แทรกไปกับทุกจังหวะชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเทวรูปหน้าประตูบ้านที่มีดอกไม้บูชาไม่ขาด จุดสักการะตามแยกต่างๆ กระทงใบมะพร้าวสานบรรจุดอกไม้ที่ชาวบาหลีจะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ริมถนนหน้าบ้านทุกวันเพื่อความโชคดี ไปจนถึงกองดอกไม้ย่อมๆ หน้าตรอกเล็กๆ ทำให้ไม่ว่าจะกวาดสายตาไปทางไหนก็จะได้เห็นสีสันสดใสของดอกไม้ประดับประดาอยู่ทุกหนแห่ง …ทั้งสวยงามและให้อารมณ์ลึกลับอยู่ในที
เมื่อถึงที่พัก เราเก็บของอาบน้ำอาบท่า ออกไปหาอะไรกินแล้วรีบเข้านอนเพื่อพร้อมตื่นมารับประสบการณ์ใหม่กันแต่เช้าตรู่
ไลฟ์สไตล์เก๋ๆ แบบหนุ่มสาวนักเดินทาง
ทริปนี้เราเริ่มต้นกันแต่เช้าตรู่ไปจนถึงยามเย็น ทั้งนี้เพื่อให้ได้สัมผัสบาหลีในมุมที่ต่างออกไป บอกก่อนว่างานนี้ไม่มีวัด ไม่เซิร์ฟ แต่มี…
ขี่จักรยานชมนาขั้นบันไดกลางสายฝน @Kintamani : ภาพที่วาดไว้ตอนเห็นโปรแกรมนี้คือการขี่จักรยานชิลๆ รับแดดสีทองยามเช้าโดยมีนาขั้นบันไดสวยๆ เป็นฉากหลัง ตัดกลับมาที่ความจริง สายฝนเริ่มโปรยเบาๆ ตั้งแต่เช้าและเปลี่ยนเป็นหนักเมื่อเราไปถึงจุดปล่อยตัว หลังจากแจกเสื้อกันฝนและอบรมเรื่องความปลอดภัยก็ได้เวลาออกสตาร์ท เส้นทางข้างหน้าคือถนนขึ้น-ลงเขาที่คดโค้งและชันพอสมควร สาวเมืองที่ปกติเดินไกลสุดแค่ไปแคนทีนบริษัทอย่างเราสตั๊นท์ไป 1 วิ แต่สุดท้ายเราตัดสินใจว่า ลองดู ถ้าไม่ไหวค่อยจูงจักรยานตามเขาไปแล้วกัน …ปรากฏว่าผ่านไปแค่ 5 นาทีกลับรู้สึกสนุกกับเส้นทางนี้มาก เพราะมันพาเราลัดเลาะชายป่าและชุมชนเล็กๆ เข้าไปถึงใจกลางนาขั้นบันไดสวยๆ ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปจะได้เห็นแค่จากมุมสูง เมื่ออยู่ใจกลางนาขั้นบันได เราได้รู้ว่าในระหว่างขั้นจะเป็นทางเล็กๆ ที่มีคูน้ำน้อยๆ ไหลรินลดหลั่นลงไปยังนาขั้นที่ต่ำกว่า และบนคันนาจะมีแนวดอกไม้สีขาวน่ารักแซม และได้มองมุมกลับออกไปยังถนนบนไหล่เขา ณ จุดที่เราเคยมองลงมา ใครที่ได้มาเที่ยวอยากให้ลองนะ เป็นประสบการณ์แบบ Real Bali ที่น่าประทับใจจริงๆ
ส่วนเรื่องฝนฟ้าต้องทำใจ บาหลีอยู่เขตศูนย์สูตรฝนจะตกบ่อย แต่ถ้าตกไม่หนักมากก็ไม่เป็นอันตราย (ตรงนี้ไกด์จะดูแลให้ว่าหนักระดับไหนถึงต้องหยุด) อาจจะทำให้เลอะเทอะเฉอะแฉะสักหน่อย แต่น้ำฝนเย็นๆ ก็ช่วยปลุกต้นไม้ใบข้าวให้ตื่นขึ้นมารับอรุณและพวกเราอย่างฉ่ำชื่น …ลองเอาชนะความลังเลในใจแค่ชั่วขณะแล้ววิญญาณนักผจญภัยในตัวเราจะนำทางไปเอง เชื่อสิ!
แวะเยี่ยมไร่กาแฟชาวพื้นเมือง : ระหว่างทางเราได้แวะชมไร่กาแฟของชาวพื้นเมืองประมาณครึ่งชั่วโมง ได้ชมการคั่วกาแฟและเรียนรู้เรื่องกาแฟพื้นเมืองของที่นี่ แน่นอนว่ามีกาแฟขี้ชะมดเป็นหนึ่งในนั้น จากนั้นทางไร่จะยกกาแฟรสต่างๆ ออกมาให้ชิม ถ้าถูกใจค่อยซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน กระซิบว่ากาแฟรสทุเรียนดีงามนะ หวาน มัน หอม แต่ถ้าใครไม่ชอบทุเรียนก็…ทางใครทางมัน (หากชิมกาแฟขี้ชะมดต้องเสียเงินเพิ่มเพราะมันแพงมาก)
วิถีชีวิตหนุ่มสาว Digital Nomad : หลายปีหลังมานี้บาหลีเป็นแม่เหล็กดึงดูด Digital Nomad จากทั่วโลก Airbnb เลยจัดให้เราไปเรียนรู้สังคม Digital Nomad ของที่นั่นกันที่ Hubud ซึ่งเป็น Co-working Space แห่งแรกของบาหลี นอกจากจะเป็นแหล่งรวมตัวของหนุ่มสาวนักเดินทางแล้ว ที่นี่ยังมีเวิร์คช็อปดีๆ สำหรับนักธุรกิจ Start Up รุ่นใหม่มาเสนอไอเดียโดยมีรุ่นใหญ่มาคอยเป็นคอมเม้นเตเตอร์ เราได้ร่วมเวิร์คช็อปการนำเสนอแผนธุรกิจกับเขาด้วย ได้เห็นไฟในตัวหนุ่มสาวที่ลุกโชนโดยมีคนแก่อาบน้ำร้อนมาก่อนคอยเป่าให้มันเบาๆ ลงหน่อย (จะได้มั่นคงขึ้น) เป็นบรรยากาศที่น่ารักดี
คงเป็นเพราะมีหนุ่มสาวยุคใหม่ที่เลือกใช้ชีวิตการทำงานแบบอิสระมารวมตัวกันมากมาย ทำให้บาหลีมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นในแง่ของสังคมที่หลากหลาย มีพลัง และสร้างสรรค์ ภาพผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและวัยทำความรู้จัก นั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เอนจอยชีวิตร่วมกันเป็นซีนที่เราเห็นได้ทั่วไปจนชินตา และเท่าที่เห็นผู้คนที่นี่ก็ดูจะรับและปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่ผู้คนเหล่านี้นำพามาได้โดยที่ไม่สูญเสียอัตตลักษณ์ของชุมชนไปมากมายนักอย่างที่เคยเห็นในหลายๆ พื้นที่ที่กลายเป็น Tourist Destination เต็มรูปแบบ
เยี่ยมชม Green School โรงเรียนทางเลือกชื่อดัง : อีกหนึ่งสิ่งที่เราว่าเก๋มากของบาหลีคือ Green School โรงเรียนทางเลือกที่โคตรกรีน ห้องเรียนเป็นไม้ไผ่ล้วนเปิดเป็นโอเพ่นแอร์ให้เด็กๆ รับอากาศบริสุทธิ์ เน้นการเรียนการสอนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เคารพและรับผิดชอบต่อชุมชน และให้เด็กเรียนรู้ผ่านโปรเจ็คต์ต่างๆ เชื่อไหมว่ามีพ่อแม่หลายคนลงทุนย้ายมาอยู่บาหลีเพื่อให้ลูกได้เรียนที่นี่เลยนะ คิดดูว่าหลักสูตรดีเลิศขนาดไหน ส่วนค่าเทอมก็เท่ากับโรงเรียนอินเตอร์ฯ เอกชนแต่มีนโยบายไม่แสวงผลกำไร รายได้ที่ได้มาจะนำไปจ้างครูดีๆ จากทั่วโลกมาสอน และแบ่งเป็นทุนการศึกษาให้เด็กๆ ท้องถิ่น
เข้าคอร์สทำอาหารพื้นเมืองบาหลี : หลังจากชิมอาหารบาหลีมาหลายมื้อจนทุกคนในทริปซึ้งแล้วว่ามันอร่อยและดีต่อสุขภาพสุดๆ ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะได้เข้าคอร์สเรียนทำอาหารบาหลีกับ Janet DeNeefe สาวชาวออสซี่ที่มาพบรักกับหนุ่มท้องถิ่นเมื่อ 30 ปีก่อน เธอเป็นผู้ก่อตั้ง Ubud Food Festival และเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารที่ Casa Luna
ใครที่เห็นอาหารบาหลีแท้ๆ ครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่าหน้าตาไม่น่าพิสมัย แบบมันก็จะดูเละๆ หน่อย แต่ขอบอกว่าอร่อยเลยละ มีความละม้ายอาหารไทยแต่ไม่เหมือนเสียทีเดียวและเผ็ดน้อยกว่า ที่สำคัญเน้นพืชผักกับถั่วหมัก ดีต่อสุขภาพมาก สำหรับคอร์สนี้เราเริ่มเรียนตั้งแต่ส่วนผสมของเครื่องแกงซึ่งก็คล้ายกับของไทยแต่ของเขาจะมีขมิ้นและเครื่องเทศออกแขกๆ ปนมาบ้างเล็กน้อย จากนั้นแบ่งกลุ่มปอก-หั่น-บดเครื่องแกงในครกแบนๆ หน้าตาแปลกๆ กว่าจะแหลกเล่นเอาเหนื่อยเลย ก่อนจะปรุงเป็นเมนูน่ากินอย่างแกงหัวปลี แกงฟักทอง ยำหัวปลีต้ม ยำถั่วงอกกับผักโขมบาหลี และยำถั่วพลู (ชื่อคล้ายอาหารไทยแต่หน้าตาและรสชาติไม่เหมือนนะ) และไฮไลต์คือพวกเราได้กินฝีมือตัวเองเป็นมื้อเย็นด้วย งานนี้ทุกคนยืนยันแบบไม่อวยตัวเองว่าอร่อยมาก!!!
เข้าคอร์สเรียนทำน้ำหอม L’Artelier Perfum Workshop : เป็นคอร์สสุดท้ายเก๋ๆ เรียนกันในวิลล่าสวยๆ กับครูคนสวย Nora Gasprini ที่มาถ่ายทอดความมหัศจรรย์ของโลกน้ำหอมให้พวกเราฟัง ขอบอกว่าการดมและแยกแยะกลิ่นเป็นสิบๆ กลิ่นนั้นทายความสามารถของจมูกและสมองมากๆ แต่สุดท้ายเราก็ปรุงน้ำหอมสูตรของตัวเองออกมาจนได้
ร้าน&เมนูอร่อยใน Bali …การันตีว่าเด็ด เพราะชิมมาหมดแล้ว!
Batubara – ร้านโอเพ่นแอร์เล็กๆ มุมถนนใน Ubud มีเมนูเด็ดเป็นสเต๊กเนื้ออร่อยๆ แต่เราไม่กินเนื้อวัวจึงขอเปลี่ยนเป็น สเต๊กไก่ย่าง แทน อร่อยดีเหมือนกัน ออกเค็มๆ เปรี้ยวๆ หอมเลมอน และมีเครื่องดื่มแนะนำคือ Sangria เป็นค็อกเทลไวน์แดงผสมผลไม้ ฮิตมากที่บาหลี อยากอินต้องลองนะ!
Locavore – เป็นร้านชื่อดังที่ติด 1 ใน 50 ภัตตาคารที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2017 เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นแบบฟิวชั่น หน้าตาสวยงาม และอร่อยทุกอย่าง ขอแนะนำเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่เราชอบอย่างละเมนูแล้วกัน คือ Tumaric Pillow with Lemongrass เป็นแป้งห่อครีมขมิ้น เห็ดชิตาเกะ และเห็ดนางรม กับ Lolah Bali เป็นน้ำมะขาม ขมิ้น และตะไคร้ ทั้ง 2 อย่างนี้สื่อถึงเอกลักษณ์ด้านอาหารของบาหลีได้ดีแต่ก็ไม่ฉุนจนเกินไป
Mamasan Bali – ร้านนี้ดังมาก มีสาขาในต่างประเทศด้วย แต่เพื่อนนักข่าวจากมาเลเซียชิมแล้วบอกว่าสาขาอินโดนีเซียอร่อยกว่า อาจเป็นเพราะความดั้งเดิมและความสดใหม่ของวัตถุดิบ (เธอว่าอย่างนั้นนะ) ด้านในตกแต่งฮิปมาก กว้าง และถ่ายรูปเก๋ๆ ได้ทุกมุม อาหารก็อร่อยทุกอย่าง เพราะเจ้าของเป็นนักเดินทาง ชอบสตรีทฟู้ด เลยขโมยสูตรจากที่ต่างๆ มาปรับ ขอการันตีว่า ผัดไทยห่อไข่ ของร้านนี้เลิศล้ำจริงๆ คือสู้กับร้านดังในกรุงเทพฯ ได้เลย ไม่มัน เข้มข้น และถึงเครื่องมาก อร่อยขนาดต้องเรียกพนักงานมาชม (เวอร์ได้อีก) ขาหมูย่างกรอบเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วและน้ำปลาพริก ก็เริด มีความไทยมาก ไทยจนต้องยกนิ้วให้ ส่วนเครื่องดื่มแนะนำ น้ำขนุนปั่นกับน้ำผึ้ง หวานจัดแต่อร่อยและหอมแปลกใหม่ดี
ผัดหมี่อินโด – ขอแนะนำเผื่อไว้สำหรับใครไปบาหลีแล้วแวะข้างทาง ไม่รู้จะสั่งอะไร และเป็นคนไม่ชอบลองของแปลก เพราะหน้าตาและรสชาติคล้ายผัดซีอิ้วของไทย แต่จะเค็มกว่า
… ณ วันนี้เรายังจำความรู้สึกในเช้าวันสุดท้ายที่ตื่นมานั่งเหม่อมองทุ่งข้าวที่ล็อบบี้ของ Villa Alea ได้ดี …ขณะมีเพียงความเงียบโอบล้อมรอบตัว สายลมพัดแผ่ว และแสงแดดค่อยๆ จัดจ้าขึ้นตามเวลาที่เคลื่อนผ่าน ห้วงเวลาแบบนี้สินะที่ทำให้ผู้คนมากมายไม่สามารถลืมประสบการณ์ดีๆ จากการเดินทางได้เลย และมันก็เหมือนสารเสพติดที่ทำให้เราคิดถึงการเดินทางครั้งต่อไปแทบจะทันทีที่การเดินทางครั้งปัจจุบันจบลง
ทริปหน้าไปไหนกันดีนะ!!!
***ทริปนี้เราพักบ้านไม้ไผ่ริมหน้าผา และวิลล่าน่ารัก ของ Airbnb ใครสนใจคลิกอ่านรีวิวได้ที่นี่ค่ะ : รีวิว 2 ที่พัก Airbnb …มากกว่าที่พักคือประสบการณ์
ขอบคุณ : www.airbnb.com สนับสนุนการเดินทางและประสบการณ์ดีๆ
ภาพ : Apel’s Pande Kadek for Airbnb
อ่านเรื่องท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ที่ลิ้งด้านล่างนี้ค่ะ
Unseen Krabi #เที่ยวนี้ดีต่อใจ
บุรีรัมย์ ชุมชนสามัคคีบนวิถีแห่งคนสร้างสรรค์
เที่ยวเพลินใจ กินไก่อร่อย ต้องมา เขาสวนกวาง