ด้วยเคมีที่เข้ากันของ เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ กับ เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ ใน ละคร ‘The Cupids บริษัทรักอุตลุด’ ตอนซ่อนรักกามเทพ ทำให้แฟนละครเกิดอาการฟินและจิ้นแบบสุดๆ ทั้งหยอกล้อ มุ๊งมิ๊งกันในจอและนอกจอจนเป็นที่มาของ FC แก๊งค์ลูกหมี การมาประเดิมช่องใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการชุบชีวิตใหม่ของสาวเชียร์เลยก็ว่าได้ เพราแค่ละครเรื่องแรกที่ปังสุดๆ ฉุดไม่อยู่ซะแล้ว
“การมาเล่นละครกับช่อง 3 เป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะกดดัน เพราะคนจับตามองใช่ไหมคะว่าเรื่องแรกจะออกมาเป็นยังไง แต่เอาจริงๆ เชียร์ไม่รู้สึกแบบนั้นเลยนะคะ เพราะทุกคนให้การต้อนรับเราดีมาก รู้สึกอบอุ่นมากๆ ทั้งแฟนละครและทีมงานรวมทั้งพี่หน่อง-อรุโณชาที่ดูแลเชียร์ดีมาก ตลอดจนผู้ใหญ่ช่อง 3 อีกหลายท่าน ทำให้เราตั้งใจทำงานเต็มที่อยากให้งานออกมาดี เชียร์เองก็เป็นนักแสดงอิสระแล้วต้องพัฒนาตัวเองในหลายๆด้าน ยิ่งเป็นเรื่องแรกยิ่งต้องทำการบ้านหนัก ถึงแม้ว่าบทที่เล่นจะไม่ไกลตัวมาก ตอนแรกเชียร์จะไม่รับเล่นด้วยนะคะ เพราะอ่านบทแล้วมันคล้ายที่เคยเล่นมา แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจรับ เพราะมันก็ท้าทายเราตรงที่ว่าต้องหามุมใหม่ๆ ของการแสดงครั้งนี้ให้น่าสนใจ ไม่ใช่ยึดติดอยู่กับแนวเดิมๆ ที่ผ่านมา
“หลังจากละครออนแอร์ไปสักพัก กระแสตอบรับคือดีมาก..มาก (ยิ้ม) จนเราแบบตื้นตันใจ เล่นละครมานานไม่เคยมีคู่จิ้นจริงจัง (หัวเราะ) เชียร์คิดแค่ให้คนดูแฮปปี้ยิ้มไปกับละครด้วย เราก็โอเคแล้ว ไม่ได้คิดเลยว่าคนจะอินมากขนาดว่าละครจบไปแล้วยังมีคนแซวกัน อยากให้มาเล่นด้วยกันอีก ละครมีแค่ 7 ตอน แต่คนยังอินเหมือนเล่นมาทั้งปี ซึ่งระหว่างที่เล่นไป เชียร์รู้สึกมีความสุขมาก และคนดูก็คงสัมผัสตรงนั้นได้จริงๆ
ในเรื่องเชียร์รับบทเป็น ‘ออย’ เป็นผู้หญิงที่มีทัศนคติไม่ดีกับผู้ชายเพราะแม่กับยายจะเล่าถึงความรักที่เจ็บปวดจากผู้ชายให้ฟังตั้งแต่เด็ก ทำให้เรารู้สึกแอนตี้ผู้ชาย จนมาเจอ ‘อังค์กูณฑ์’ (เต้ย) ตอนแรกเกลียดกันมาก เพราะคิดว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ แต่ต่อมาก็พบว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด
วันแรกที่เจอเต้ยรู้เลยว่าเขาเกร็งมาก ด้วยความที่เราไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน อายุเราก็ห่าง 5 ปี (เชียร์อายุมากกว่าเต้ย) ในใจเชียร์ก็นึกถึงเพลงพี่ป้างขึ้นมา ”ฉันต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว” (หัวเราะ) เชียร์เป็นคนชอบแกล้งอยู่แล้ว เป็นโรคจิต แต่เชียร์ว่าเป็นการละลายพฤติกรรมอย่างหนึ่งนะ พอคุ้นเคยกันแล้ว เวลาเข้าฉากแล้วมันจะมีความน่ารักอะไรบางอย่างออกมา ก็เลยแกล้งเต้ยอยู่เรื่อยๆ มีอยู่เหตการณ์หนึ่งเราแกล้งเอาไส้กรอกอีสานไปใส่กระเป๋าของเขา แล้วเปิดถุงเอาไว้ อยากให้กลิ่นมันติดกระเป๋า ปรากฏว่าไส้กรอกดันหกลงไปในกระเป๋ากลายเป็นเละเทะหมด ที่สำคัญกระเป๋าใบนั้นแพงมาก และในนั้นมีสำลีที่เขาต้องใช้เช็ดหน้าเป็นประจำ ต้องทิ้งทุกสิ่งอย่าง เต้ยโกรธมากไม่พูดกับเชียร์เลย เรียกกินข้าวก็เดินหนี บรรยากาศเริ่มมาคุ ทุกคนในกองก็ไซโคเพราะเห็นเราเริ่มหงอแล้ว สุดท้ายก็ซื้อขนมไปง้อ แค่นั้นแหละหายโกรธเฉยเลย (หัวเราะ) ทีนี้เชียร์เลยได้ใจแกล้งอีกด้วยการเอามือถือเขาไปตั้งรหัสใหม่ล็อคหน้าจอ แล้วเอาบัตรจอดรถมาซ่อนไว้ในเคสมือถือด้วย คราวนี้โกรธหนักกว่าเดิม ทุกคนในกองก็บิ้ลท์กว่าครั้งนี้โกรธจริงแน่ๆ เราพยายามง้อทุกอย่างแล้วไม่หาย ตั้งแต่เช้าจนเลิกกองตอนดึก ง้อจนเราเริ่มโกรธเอง (หัวเราะ) ตอนนั้นน้ำตาซึมจะร้องไห้แล้วนะ แต่เชียร์ว่าเขาแกล้งงอนกลับไปงั้นเองแหละ สุดท้ายเขาก็มาง้อเราอยู่ดี
“พอเราสนิทกันมากขึ้นก็จะรู้ว่า เต้ยเป็นคนน่ารัก ขี้เล่น จริงใจ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข มีแต่รอยยิ้ม ตอนนี้คุยกันแบบพี่น้อง เรียกว่าเป็นน้องคนหนึ่งที่สนิทใจ อนาคตไม่รู้เหมือนกัน ไม่ใช่โดเรมอน (หัวเราะ) ก็มีคนถามเยอะนะ เรื่องฉากเลิฟซีน แต่เชียร์คิดว่าคนที่เกร็งกว่าน่าจะเป็นเขานะ ส่วนเชียร์เองก็เขินมากพูดเลย เพราะต้องอินกับอินเนอร์ตัวละครที่ไม่เคยจูบกับผู้ชายมาก่อน แล้วเราก็รู้สึกไปแบบนั้นจริงๆ เรียกว่าเล่นแล้วฟินเอง (หัวเราะ)
“เสียงตอบรับจากละครรู้สึกว่ามีแฟนคลับหลากหลายขึ้น จากคนที่ไม่รู้จักเราก็ไปตามอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อมาเจอมาถ่ายรูปกับเราและตามมาด้วย’แก๊งค์ลูกหมี’ เป็นฉายาใหม่ที่เต้ยตั้งให้แฟนคลับค่ะ เกิดมาจากการทวีตถึงละครแบบไม่หลับไม่นอน ประมาณว่าเป็นตาเป็นหมีแพนด้าเลยเป็นที่มาของแก๊งค์ที่เรียกแทนเรา 3 คน เต้ยเป็นพ่อหมี เชียร์เป็นแม่หมี และกลุ่มแฟนคลับคือลูกหมีที่น่ารักของพวกเรา
“ตั้งแต่เข้าวงการมาชีวิตเชียร์เจอแต่เรื่องฟลุ๊คมาตลอด อย่างตอนที่ได้ตำแหน่งมิสทีนก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่ายายหมวยคนนี้จะมาประกวดนางงามได้ แต่เมื่อโอกาสมันมาถึงแล้วเราก็ตั้งใจทำมันออกให้ดี เราให้เกียรติกับโอกาสที่เข้ามา และทุกๆคนที่เมตตาเรา เชียร์รู้สึกตัวเองโชคดีที่ได้มายืนตรงจุดนี้ ที่มีคนเยอะมากที่อยากจะเข้ามาอยู่ เชียร์มีไอดอลคือพี่แอน ทองประสม ยังไม่เคยร่วมงานกันเลย แต่ชื่นชมพี่เขาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พี่แอนเป็นนักแสดงที่ทรงพลังมาก ตีบทแตกทุกบทบาท ขณะเดียวกันก็เป็นคนสู้ชีวิตมาตลอดและมีความอ่อนน้อมถ่อมตนที่เป็นแบบอย่างให้นักแสดงรุ่นน้อง ได้เป็นอย่างดี เชียร์ก็พยายามเรียบรู้ตัวอย่างจากพี่ๆ ในวงการ ถึงวันนี้ด้วยความที่เราอยู่มานาน มันเคยมีช่วงที่ดร็อปๆไป แต่เชียร์ไม่เคยรู้สึกนอยด์กับการที่เงียบหายไปนะ เชียร์คิดเสมอว่าวันแรกที่เราได้เข้าวงการนั่นคือกำไรของชีวิตแล้ว มีคนชอบหรือคนไม่ชอบมันเป็นเรื่องปกติ เราทำออกมาให้ดีที่สุดแล้วจะไม่เสียใจ แต่เพราะละครเรื่องนี้รู้สึกเลยว่าเหมือนเราได้กลับมาอีกครั้ง ต้องขอบคุณทุกคน ที่ให้กำลังใจตลอดมา รวมถึงคนที่เพิ่งรู้จักกัน มันเป็นพลังที่ดีสำหรับเชียร์เสมอค่ะ”
ติดตามอ่านคอลัมน์ Outstanding ได้ในนิตยสารสุดสัปดาห์ฉบับวันที่ 1 กันยายน 2560
สไตลิส : Pipat Kim
แต่งหน้า อาทิตย์ นิลศิริ ทำผม รุ่งโรจน์ เชื้อสุวรรณ
เสื้อผ้า : T And T ชั้น 2 ดิเอมควอเทียร์ และที่ร้าน The Wonder Room ชั้น 3สยามเซ็นเตอร์
ขอบคุณสถานที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว โทร. 02-541- 1234
ภาพประกอบจาก Instagram : @Cheerny
เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ
ย้อนดูผลงาน #เต้ยเชียร์ คู่จิ้นพ่อหมีแม่หมีขวัญใจแฟนคลับ
ส่องพัฒนาการ เชียร์-ฑิฆัมพร ที่นับวันจะยิ่งสวยขึ้น!
เอ๊ะ! หรือจะไม่ใช่แค่คู่จิ้น รวมโมเมนท์หวานฟินๆ ของคู่ เต้ย-เชียร์