account_circle
เชื่อว่ามีสาวๆ หลายคนชอบทำสีผม แต่ไม่อยากเข้าร้านไปหาช่าง เพราะทั้งเสียเวลาและเสียเงินแพง ก็เลยชอบที่จะทำสีผมเองที่บ้านมากกว่า แต่ก็ต้องเคยผิดหวังกับสีผมที่ไม่ได้ดั่งใจเหมือนกันใช่ไหมล่ะ วันนี้สุดฯ ก็เลยมี ครีมเปลี่ยนสีผม มาแนะนำถึง 10 แบรนด์ด้วยกัน รับรองว่าทำแล้วสีสวยชัด สวยแจ่มแบบไม่ต้องง้อช่างกันเลยทีเดียว
10 ครีมเปลี่ยนสีผม แจ่มๆ
Berina Hair Color Cream (45-60 บาท แล้วแต่ร้าน) เชื่อว่าสาวๆ ที่ชอบทำสีผมน่าจะไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์นี้ เพราะเห็นวางเด่นเป็นสง่าอยู่แทบทุกร้านทำผม จุดเด่นของแบรนด์นี้นอกจากราคาที่ถูกเอามากๆ แล้ว ยังมีสีให้เลือกเพียบ เรียกว่าหลายสิบเฉดสี ตั้งแต่สีธรรมชาติไปจนถึงสีแฟชั่น แถมยังมีพวกแม่สีให้เราเลือกผสมเองด้วย ทำออกมาแล้วสีก็ชัด แจ่ม แม้ว่าพื้นผมเดิมจะสีเข้มก็ตาม ข้อเสียคือไม่มีทรีตเมนท์มาให้ ทำแล้วผมแอบแห้งเบาๆ แต่ถ้าขยันบำรุงอยู่แล้ว รับรองว่าเริด
DCash Master Mass Color Cream (45 บาท) ราคาถูก มีเฉดสีให้เลือกเยอะพอสมควร แต่สีแฟชั่นแนวแฟนซีๆ ไม่มีนะ เฉดสีธรรมชาติสามารถปิดผมขาวได้ด้วย กลิ่นไม่ฉุนเกินไป ได้สีค่อนข้างเหมือนสีหน้ากล่องเลย ข้อเสียคือ ไม่มีทรีตเมนท์มาให้ ต้องบำรุงเองนะจ๊ะ
Just Modern Colourful WOW (65 บาท) แค่เห็นสีผมนางแบบที่หน้ากล่องก็ตาโตแล้ว เหมาะกับสาวๆ ที่อยากลองทำสีผมแฟชั่นจี๊ดๆ เพราะเขามีสีแปลกๆ ให้เลือกเยอะเลยแหละ เนื้อครีมก็ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ทำเสร็จแล้วสีชัดเหมือนหน้ากล่องเลย ยิ่งถ้าใครเคยทำสีผมมาก่อนสียิ่งชัด ราคาก็ถูกมากๆ ข้อเสียคือ สีแฟชั่นแรงๆ อาจจะหลุดง่ายไปหน่อย แนะนำให้ใช้แชมพูสำหรับผมทำสี จะช่วยยืดอายุสีผมไปได้อีก
Farger Hair Cair Expert Conditioning Permanent Color Cream (65 บาท) อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับร้านทำผมหลายร้านเขาเลิฟแบรนด์นี้เลยนะ เพราะมีสีให้เลือกเยอะ ทั้งสีธรรมชาติและสีแฟชั่น ทำแล้วสีสวยชัด กลิ่นไม่ฉุน ผมไม่แห้งไปกว่าเดิมมาก แถมปริมาณยังเยอะตั้ง 100 มิลลิลิตร ผมยาวกล่องเดียวก็เอาอยู่นะ ข้อเสียคือ ไม่มีทรีตเมนท์และถุงมือมาให้ในกล่อง ต้องหาเอง
Lolane Pixxel Color Cream (85 บาท) จริงๆ ครีมเปลี่ยนสีผมของโลแลนมีให้เลือกหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีสีและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับรุ่นนี้เป็นเฉดสีแนวกึ่งธรรมชาติ สายฝ.เบาๆ อย่างพวกสีหม่นๆ สีบลอนด์ และสีแดง ทำแล้วสีออกมาใกล้เคียงกับหน้ากล่องเลย กลิ่นไม่ฉุนด้วย ข้อเสียคือ ทำแล้วผมแห้งลง อย่าลืมบำรุงให้เยอะๆ ผมจะได้นุ่มลื่น
Syoss Professional Performance (220 บาท) สีสวย ออกมาตรงตามหน้ากล่องเลยแหละ ทำเองได้ไม่ยาก กลิ่นไม่ฉุน ไม่แสบหนังศีรษะ หลายคนคอนเฟิร์มว่าทำแล้วผมไม่เสีย แถมสียังติดทนนาน ไม่หลุดง่ายๆ ด้วยนะ ข้อเสียคือ ปริมาณน้อยไปหน่อย ถ้าผมยาวต้องใช้ 2 กล่องขึ้นไปนะ
Beautylabo Whip Hair Color (335 บาท) โฟมเปลี่ยนสีผมจากญี่ปุ่น เนื้อโฟมใช้ง่าย ย้อมแล้วสีสม่ำเสมอ สวยชัด และติดทน มีสีโทนอ่อนๆ ให้เลือกเยอะ ใครที่เป็นแนวญี่ปุ่นต้องเลิฟมากๆ ข้อเสียคือ ปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับโฟมยี่ห้ออื่น และใช้งานยากกว่า เพราะต้องเขย่ากระป๋องจนเป็นโฟม แล้วใช้มือล้วงโฟมในกระป๋องออกมา
Schwarzkopf Freshlight Foam Color (349 บาท) ครีมเปลี่ยนสีผมแบบเนื้อโฟม ใช้ง่าย ไม่ต้องกลัวว่าสีจะไม่สม่ำเสมอ เพราะเนื้อโฟมเข้าถึงเส้นผมได้ง่ายกว่าเนื้อครีม ให้สีชัดสวยเชียวล่ะ ข้อเสีย ใช้แล้วผมแห้ง ต้องขยันบำรุงสักหน่อย และปริมาณน้อย ผมยาวต้องใช้ 2 กล่องนะ
Liese Bubble Hair Color (350 บาท) ไม่มีใครไม่รู้จักโฟมเปลี่ยนสีผมยี่ห้อนี้แน่ๆ เพราะแทบจะเป็นเจ้าแรกในไทยเลย เนื้อโฟมของเขาเข้มข้น ไม่ไหลเยิ้ม ใช้ง่าย สีติดสม่ำเสมอทั่วศีรษะ แถมยังให้ประกายสีชัดอีกต่างหาก เป็นโฟมเปลีย่นสีผมที่สุดฯ ว่าให้ปริมาณเยอะสุดเลย เผลอๆ กล่องเดียวก็เอาอยู่ ข้อเสีย รุ่นนี้ปิดผมขาวไม่ค่อยดี แต่มีอีกรุ่นสำหรับปิดผมขาวโดยเฉพาะ
L’Oreal Excellence Creme (399 บาท) ครีมเปลี่ยนสีผมในดวงใจหลายๆ คนเลย เพราะสีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก แต่สีโทนแฟชั่นจ๋าไม่ค่อยมีนะ ทำแล้วได้สีสวยตามกล่อง แถมยังปิดผมขาวได้ดีอีก ที่สำคัญคือเขามีขั้นตอนการบำรุงพร้อมกับการทำสีผม ทำให้ผมไม่เสีย ข้อเสีย ผมเส้นใหญ่อาจต้องทิ้งระยะเวลาย้อมนานขึ้น เพราะสีอาจจะติดยากกว่าคนผมเส้นเล็ก
ภาพเปิดจาก Pinterest : Krista Devi
มีเรื่องราวดีๆ ให้อ่านอีก
ทำสีผมเองยังไง สีสวยถูกใจ ไม่ด่าง