account_circle
พิธีกรอารมณ์ดี แซ่บ ก๋ากั่น มั่นเกินหญิง ที่ลัคกี้อินเกมที่สุด ณ พ.ศ.นี้ ? เห็นจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก ‘คุณแม่เอกกี้ – เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์’ ที่มาพร้อมเสียงหัวเราะอันเป็นเอกลักษณ์ แต่เชื่อเถอะคุณแม่คนนี้มีวิธีคิดที่สตรองยิ่งกว่าเสียงหัวเราะ # ดีเจเอกกี้
1.‘บ้างาน’ เพื่อพ่อแม่และตัวเอง
“เราทำงานเยอะเพื่อพ่อแม่และเพื่อตัวเอง เวลาทำงานจะไม่ค่อยนึกถึงตัวเงิน ทำแล้วมีความสุขก็ทำ จนมีคนถามว่าไปเอาพลังมาจากไหนวะ (หัวเราะ) หลังๆ คงเป็นเพราะปลงกับชีวิตมั้ง เลยทำให้มีพลังในการทำงาน เชื่อว่าพอเรามีความสุขกับงานที่ทำเราก็จะมีพลัง แฮปปี้และไม่ห่อเหี่ยว หลายคนมองว่าเรากำลังทำเหมือนว่า “น้ำขึ้นให้รีบตัก” แต่เราแค่ไม่อยากทิ้งโอกาสที่เข้ามา”
2.งานเยอะเงินต้องแยะ “ช้อปปิ้งกระจาย” ?
“เห็นอย่างนี้จริงๆ เราเป็นคนไม่ชอบใช้เงิน แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ (หัวเราะ) มีอย่างเดียวที่ชอบซื้อคือกระเป๋า เคยบ้าถึงขนาดนั่งดูไอจีร้านกระเป๋าที่อยากไปซื้อไม่หยุด แต่ดีที่ในร่างเดียวกันจะมีสองวิญญาณ คือวิญญาณดีกับไม่ดี พอจะไปซื้อวิญญาณดีก็จะห้าม ขณะที่อีวิญญาณร้ายจะบิลด์ตลอด สุดท้ายอีบิลด์ชนะ (หัวเราะ) แต่หลังๆ พอซื้อเยอะเข้าก็คิดได้ว่าบางใบเราก็ไม่ได้ใช้ เรื่องนี้พอถึงจุดหนึ่งมันจะคิดได้เอง จะแบ่งเงินแค่ส่วนหนึ่งไว้ซื้อของพวกนี้โดยเฉพาะ ไม่ได้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแล้ว”
3.ใครๆ ก็เรียกว่า “คุณแม่”
“รู้สึกอบอุ่นดี ตอนนี้ไม่ใช่แค่ผู้ชายเรียกนะ ตุ๊ดก็เรียก (หัวเราะ) สงสัยเราเริ่มแก่ แต่ก็ดีนะ ในความเป็นจริงเรามีลูกไม่ได้ แฮปปี้ที่มีคนให้สอนและดูแล รู้สึกมีความสุข พ่อแม่โอเค เขาก็แฮปปี้นะที่เราทำงานและดูแลเขาได้เป็นอย่างดี เราไม่เคยมานั่งคุยกันว่าเอกเป็นอะไร หรือถามว่าพ่อแม่รับได้ไหม คุณพ่อคุณแม่เราเป็นคนสบายๆ เขาเข้าใจ อีกอย่างเราก็ไม่ได้พาผู้ชายเข้าบ้านอย่างบ้าคลั่ง เขารู้อยู่แล้วว่าเราไม่แรด”
4.แพลนบั้นปลายชีวิตของเพศทางเลือก…
“ถ้าต้องอยู่คนเดียวจะทำงานเก็บเงินไว้เลย สวางคนิเวศ (คอนโดผู้สูงอายุ) รอเราอยู่ เรื่องอนาคตใครจะรู้ เราอาจจะแก่ตายหรือไม่ได้ตายตอนแก่ก็ได้ ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ต้องดิ้นรนมาก นิ่งๆ แล้วจะมีความสุข ไม่ต้องไปพยายามดึงใครเข้ามาให้ทุกข์ใจ”
5.มุมมองความรัก ณ วัย 42
“จริงๆ แล้วการที่ใครคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต มันคือการเพิ่มห่วงให้เรานะ เพราะฉะนั้นถ้าจะต้องเลือกห่วงสักห่วงเข้ามาก็ต้องเลือกห่วงที่ดีกับเรา เพราะตอนนี้ชีวิตเราก็ดีอยู่แล้ว คิดง่ายๆ ว่าคนที่เข้ามาถ้าเป็นคนดีก็พาไปสู่ชีวิตที่ดี ถ้าไม่ดีก็พาชีวิตพัง เรื่องลูกนี่ไม่ต้องคิดว่าจะหามาเลี้ยงเลย เพราะคิดว่าตัวเองต้องห่วงมากแน่ๆ ต้องบ้ากับลูกมาก “ลูกอยู่ไหน” “ทำอะไรอยู่” “นอนได้แล้ว” “เอ๊ะ ทำไมวันนี้สกปรกจัง” แค่คิดก็เหนื่อย ไม่มีดีกว่า สงสารเด็ก (หัวเราะ)”
