ได้งานดี แต่ดันมีมารผจญ!! เทคนิคดีรับมือกับเพื่อนร่วมงานตัวร้าย!!

Alternative Textaccount_circle
event

กว่า 1 ใน 4 ของผู้ลาออกจากงานมีสาเหตุมาจากความไม่พอใจในตัวเพื่อนร่วมงาน เลยคิดว่า… “เรื่องนี้ฉันจะไม่ทน!! ลาออกดีกว่า” ทั้งๆ ที่บางทีหัวหน้าก็แสนดี งานก็แสนสนุก เงินเดือนก็เริ่ด แต่กลับเหลืออดกับเพื่อนร่วมงานตัวร้ายซะนี่

วันนี้สุดสัปดาห์ เลยจะพาคุณผู้อ่านไปอ่านเทคนิคดีๆ ในการรับมือกับเพื่อนร่วมงานตัวร้าย ที่คอยขัดแข้งขัดขาเรา จากเว็บไซต์หางานคุณภาพอย่าง Workventure ที่จะช่วยให้ การหางาน เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น www.workventure.com

1. ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี
เวลาที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ลองรับฟังเพื่อนร่วมงานให้มากขึ้น แล้วคุณจะประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ได้ แทนที่จะเอาแต่เถียงกันไป เถียงกันมา ลองตั้งใจ(หรือจะแสร้งทำเหมือนว่าคุณตั้งใจก็ได้)ฟังเขา และแสดงความเห็นด้วย หรือเข้าอกเข้าใจเขาในบางเรื่อง เพราะตามธรรมชาติคนเรามักจะรู้สึกต่อต้านเมื่อรู้สึกว่าตนไม่ได้รับการยอมรับ ดังนั้นการทำเหมือนว่าเขาเป็นคนสำคัญจึงทำให้เขารู้สึกดีต่อคุณมากขึ้น

2. ทำตัวใจเย็นเป็นน้ำแข็ง
เวลาที่เพื่อนร่วมงานขี้วีน เหวี่ยงคุณแบบเต็มสตรีม ลองใจเย็นกับเขา ด้วยการพูดน้อยๆ ใช้สติในการพูด เพราะตามธรรมชาติ แม้ความใจเย็นของคุณจะทำให้เขาเป็นเดือดเป็นร้อนในตอนแรก แต่เมื่ออารมณ์ของเขาเย็นขึ้น เขาจะรู้สึกผิดจุกอกขึ้นในใจทันที (เป็นไงล่ะ เรียบง่าย แต่แก้แค้นแบบสาสม)

แต่การจะใจเย็นได้ อันที่จริงก็แสนจะยาก เพราะเป็นเรื่องของการยับยั้งชั่งใจ ดังนั้นแนะนำว่าคุณควร ตั้งสติให้ดี และหมั่นตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอว่า ตัวเองกำลังจะสติแตกรึเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการดูว่าช่วงนี้คุณเผลอบ่นยิบๆ เป็นคนแก่ หรืออยากรู้สึกหนีสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ รวมถึงความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่ตลอดเวลาด้วย ถ้าเบื้องต้นมีอาการแบบนี้ คุณอาจจะทำใจเย็นได้ยาก ดังนั้นต้องฝึกสมาธิและสติตัวเองให้ดีเชียวแหละ

3. ใช้ mirror effect ให้เป็นประโยชน์
คนเรามักจะชอบคนที่มีบางอย่างคล้ายคลึงกับเรา (เหมือนกับที่คุณเคยอ่านเจอว่าเนื้อคู่มักจะหน้าตาเหมือนกันนั่นแหละ เพราะเราชอบคนที่หน้าตาเหมือนเราไง) ดังนั้นทุกครั้งที่คุณต้องต่อกรกับเพื่อนร่วมงานตัวร้าย ลองปรับภาษากายของคุณให้คล้ายคลึงกับเขาสิ

มหาวิทยาลัย New York ได้ทำการทดลอง โดยให้อาสาสมัครเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มคน 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกมีการเตรียมการให้ทำท่าทางเลียนแบบอาสาสมัคร และอีกกลุ่มคือกลุ่มที่ทำท่าทางตามธรรมชาติของตน ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า อาสาสมัครส่วนใหญ่ชื่นชอบคนกลุ่มแรกมากกว่ากลุ่มที่ 2

และนี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า “เนียนๆ ไปกับเขา เขาอาจรู้สึกดีกับคุณมากขึ้น”

4. ภาษากายดีต่อใจ
เวลาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของคุณ ลองเอียงหัวสักเล็กน้อยให้ดูธรรมชาติ เพราะคนเรามักจะรู้สึกว่าการเอียงหัวของคู่สนทนา แสดงถึงความสนใจฟัง นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีท่าทางหรือพฤติกรรมอื่นๆ ที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกดีต่อคุณมากขึ้น เช่น การนั่งตัวตรง การเดินด้วยความมั่นใจ หรือการเป็นคนจริงจัง พูดจาเปิดเผย

ซึ่งเทคนิคการสร้างความประทับใจ เหล่านี้ จะทำให้คนอื่นๆ รู้สึกดีต่อคุณมากขึ้น (https://www.workventure.com/บล็อก/ผู้เชี่ยวชาญเผยเคล็ดลับมัดใจคนด้วย-first-impression)

เพราะการเป็นมิตรและสร้างความประทับใจกับผู้อื่นตั้งแต่ตอนแรกที่พบเจอกันย่อมดีกว่าการพยายามทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ในภายหลัง (หลังจากที่มีเรื่องขัดแย้งกับคุณกลางออฟฟิศไปแล้ว)

5. อย่าทำลายตัวตนคนอื่น
ตามธรรมชาติมนุษย์มักมีภาพที่เราคิดว่าเราเป็นอยู่ในใจ เช่น เราคิดว่าตัวเองเป็นคนซื่อสัตย์ รักความยุติธรรม เป็นคนขยัน เป็นคนมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม เป็นต้น หากคุณไปทำลายภาพในใจของคนอื่น จะทำให้เขาเหล่านั้นรู้สึกไม่ดีต่อคุณทันที ดังนั้นพึงหลีกเหลี่ยงการโจมตีภาพในใจของผู้อื่น ในขณะที่การแสดงออกถึงการเห็นด้วยว่าเพื่อนร่วมงานของคุณ เป็นแบบที่เขาคิดจริงๆ จะทำให้เขารู้สึกดีต่อคุณมากขึ้นเช่นกัน

เพราะการรู้จักโอนอ่อนผ่อนตาม นั้นดีกว่าการทำตัวขัดแย้งกับผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ สามารถหาทางออกได้ ดังนั้นก่อนจะลาออกจากงานคุณควรชั่งใจดูกับเหตุผลเล็กน้อยที่คุณสามารถรับมือได้เช่นนี้

เพราะงานที่ใช่นั้นแสนจะมีความหมายกับชีวิต ดังนั้นอย่าสูญเสียไปง่ายๆ ส่วนใครที่ยังไม่เจองานที่ใช่ สุดสัปดาห์แนะนำว่า ลองไปหาเว็บไซต์หางานดีๆ ในการสมัครงานกับบริษัทชั้นนำดู แค่นี้ก็ได้ทำงานกับบริษัทที่ต้องการแล้ว ทั้งสะดวก รวดเร็ว แถมยังฟรีอีก ไม่ควรพลาดนะจ๊ะ

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up