TRINITY

ต่อไปนี้ในแอปพลิเคชั่น Vlive ของเกาหลี จะมีคอนเทนต์จากไทยให้เราเสพแล้ว มีบรรดาค่ายและศิลปินพากันเปิดแชนแนลบนวีไลฟ์ต่อเนื่อง แถมเปิดตัวก็สถิติไม่ธรรมดาด้วยนะ งานคอนเทนต์ก็จัดมาให้อย่างรวดเร็วทันใจอีก

เจมส์ TRINITY จาก 4NOLOGUE พิสูจน์ความเป็น Real Artist ด้วยการเป็น หน้ากากลูกโป่งสวรรค์ “เคยโดนด่าจนไม่กล้าร้องเพลง ความทรงจำในอดีตมันยังผิดหวังในตัวเอง” หนึ่งในท่อนแร็ปจาก “หน้ากากลูกโป่งสวรรค์” ในรายการ The Mask งานวัด ซึ่งภายใต้หน้ากากนั้นก็คือ เจมส์ TRINITY – ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ หนึ่งในสมาชิกบอยกรุ๊ปคุณภาพ ทรินิตี้ ศิลปินในสังกัด โฟร์โนล็อค (4NOLOGUE) ที่เขียนจากประสบการณ์จริงของตัวเอง วันนี้เจ้าตัวได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นผ่านผลงานในรายการนี้แล้วว่า…ความพยายามและการฝึกฝนทำให้ทุกคนเก่งขึ้นได้เสมอ   ความรู้สึกหลังจากเทปแรกออนแอร์ ? “ไม่คิดว่าทุกคนจะจำได้  ที่บ้านก็ถามตั้งแต่เห็นตัวอย่างรายการเลยครับว่าใช่ผมรึป่าว จริงๆ ก็ดีใจที่คนจำเราได้ไม่ว่าจะจากเสียง หรือจากอะไรก็ตาม ก็รู้สึกดีครับ ผมตามอ่านคอมเม้นท์อยู่เรื่อยๆ เลยครับ” ทำไมต้องหน้ากากลูกโป่งสวรรค์  “สำหรับเหตุผลที่ผมเลือกเป็นหน้ากากลูกโป่งสวรรค์ก็เพราะว่า ตอนเด็กๆ ผมไปพระปฐมเจดีย์ค่อนข้างบ่อย บ้านคุณปู่คุณย่าผมอยู่ที่นั่น แล้วที่ตลาดแถวพระปฐมเจดีย์จะมีของเล่นต่างๆ วางขาย และหนึ่งในของเล่นพวกนั้นก็คือลูกโป่งสวรรค์ ที่เห็นทุกครั้งผมก็ต้องขอพ่อแม่ซื้อติดตัวกลับบ้านทุกครั้ง ในตอนนั้นผมรู้สึกดีที่มีลูกโป่งสวรรค์อยู่ที่ตัว ผมชอบเวลาที่เราได้มองมัน แล้วพอเราเลือกเป็นหน้ากากลูกโป่งสวรรค์ เราก็อยากใส่ความเป็นตัวเราลงไปในชุดด้วย บนชุดของผมจึงมีดาวทั้งหมด 17 ดวง ซึ่งเท่ากับอายุของผมตอนที่เริ่มเข้าวงการครับ  ความยากของการอยู่ภายใต้หน้ากาก ?  “ก่อนมาเป็นหน้ากากผมไม่คิดว่ามันจะยากขนาดนี้ การที่จะสื่อสารบางอย่างผ่านเพลงให้คนที่ไม่เห็นหน้าเราเข้าใจ […]

ขึ้นชื่อว่าบอยแบนด์ มักจะถูกปรามาสไว้เสมอว่า มีดีแค่ความหล่อ แต่วันนี้ เติร์ด TRINITY – ลภัส งามเชวง หนึ่งในสมาชิกบอยกรุ๊ปคุณภาพ ทรินิตี้ ศิลปินในสังกัด โฟร์โนล็อค (4NOLOGUE) ได้ก้าวข้ามทุกคำปรามาทด้วยการสวม “หน้ากากดอกไม้ไฟ” โชว์ความสามารถจนทลายกำแพงในใจของใครหลายคนได้อย่างง่ายดาย… เติร์ด TRINITY เล่าเรื่องในวันที่พา “หน้ากากดอกไม้ไฟ” ไปเอาชนะความกลัว ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้รับการติดต่อให้เป็นหน้ากากเป็นยังไงบ้าง “ดีใจครับ และก็กลัวในเวลาเดียวกัน เพราะผมเป็นคนที่กลัวการแข่งขัน หรือว่าอะไรที่มันไม่แน่นอนมากๆ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจตอบตกลง และพอได้มาอยู่ใต้หน้ากากดอกไม้ไฟก็รู้สึกว่า เราโชคดีเหมือนกันที่ถูกชวนมาเป็นหน้ากาก เพราะว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่จะได้เอาชนะความกลัวของตัวเอง”   ทำไมเติร์ดถึงเลือกเป็นหน้ากากดอกไม้ไฟ “เพราะผมชอบดูดอกไม้ไฟ แล้วสีของมันก็เป็นโทนสีทไวไลท์ (Twilight) สีประจำวง และชื่อแฟนคลับของเราด้วยครับ ผมจะได้รู้สึกว่าเรามีพวกเค้า (เพื่อนในวง และแฟนคลับ) อยู่กับเราตลอดในรายการ” ต้องเตรียมตัวหนักมากแค่ไหน “ค่อนข้างหนักครับ ก็คงเป็นเรื่องการพยายามหาเทคนิคการร้องใหม่ๆ รวมถึงเซอร์ไพร้ส์ในโชว์เพื่อเอามาใช้ในรายการด้วยครับ” แล้วบรรยากาศการทำงานภายใต้หน้ากากเป็นอย่างไรบ้าง “บรรยากาศการทำงานแฮปปี้มากๆ ครับ มีเครียดบ้างเรื่องการเลือกเพลง เพราะเราอยากให้คนที่ดูรายการ หรือคนที่ได้ฟังเพลงที่เราร้องเขาได้รู้สึกไปกับเพลงเหมือนที่เรารู้สึก ซึ่งมันก็ต้องเกิดจากหลายๆ องค์ประกอบ ทั้งดนตรี การวางท่อนร้อง การใส่อารมณ์ในการร้อง ซึ่งผมก็พยายามเสนอไอเดียในทุกๆ ขั้นตอนเพราะเราอยากให้คนดูได้เห็นตัวตนในอีกมุมหนึ่งของเราที่ยังไม่เคยเห็น” การอยู่ใต้หน้ากากมีความยากหรือข้อจำกัดอะไรเป็นพิเศษไหม […]