หลุยส์-เซฟฟานี่ กับการกลับมาประกบคู่กันอีกครั้งในละครเรื่อง ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น

ใกล้จะก้าวเข้าสู่ปี 2019 แล้ว อยากรู้ว่า ปี 2018 ของทั้งสองคนอย่างไรบ้าง

หลุยส์ : ความจริงก็โฟกัสกับเรื่องการถ่ายละครเป็นหลักเลยนะครับ ถ่ายละครไป 2 เรื่องคือ ในคืนหนาวแสงดาวยังอุ่น กับไฟหิมะ ก็ค่อนข้างที่จะฟูลไทม์สำหรับผมเลย

แล้วผมก็ได้หันมาลองเล่นกีฬาแบบใหม่ด้วย ก็คือไตรกีฬา และก็วิ่งด้วย เป็นงานอดิเรกที่ชอบมาก สนุกดีครับ พอมาเล่นไตรกีฬาเลยต้องลองเล่นกีฬาใหม่ๆ หลายอย่าง ทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และวิ่ง แถมได้เจอเพื่อนนักกีฬามากมาย ระดับโลกก็มี เพราะเขาจะมาแข่งในสนามเดียวกับเรา เวทีไตรกีฬาส่วนใหญ่คือรวมหมดเลย เราก็ได้วิ่งคู่กับคนเก่งๆ ทั้งนั้น ถือว่าเป็นปีที่ดีมาก แล้วละครก็ถ่ายทำเสร็จแล้ว 2 เรื่อง รู้สึกดีใจมากด้วย

แถมปีนี้ยังได้ไปเล่นกีฬาคู่กับเซฟด้วยครับ อันนั้นจะหนักกว่าไตรกีฬา จะเป็นการวิ่งในป่า ว่ายน้ำในทะเล ปั่นจักรยานในป่า แล้วก็มีพายเรือคายัคด้วย ต้องบอกว่าเซฟฟานี่เป็นคนที่เก่งมาก เป็นผู้หญิงที่สตรองแข็งแรงมากครับ เป็นเหมือนเพื่อนผู้ชายของเราอีกคน (หัวเราะ) ก็มีชวนเขาไปเล่นเรื่อยๆ  มีไปร่วมงานวิ่งกันบ้างครับ

ส่วนไตรกีฬารายการแรกที่ผมได้เล่น เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา อันนั้นก็ได้เล่นกับเซฟฟานี่เหมือนกันครับ เป็นครั้งแรกของเราทั้งคู่เลย ที่ชวนกันไปเล่น สนุกดีครับ ก็จะเตรียมตัวเตรียมความพร้อมช่วงนั้นผมก็ทานเจ 3 เดือน เผื่อเตรียมให้ร่างกายสามารถรับการออกกำลังกายแบบนานๆ ได้

 

เซฟฟานี่ : ปีที่ผ่านมาก็เริ่มต้นมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อย่างที่ทราบกันว่าพ่อเซฟประสบอุบัติเหตุรถชน ช่วงแรกก็เครียดมาก แต่ก็ทำอะไรเราไม่ค่อยได้ เพราะว่าพลังบวกเราสูง พยายามทำงานไปให้ผ่านจุดจุดนี้ไปให้ได้ อย่างเดียวที่สำคัญกับเรามากที่สุดก็คือขอให้พ่อไม่เป็นอะไร ให้พ่อหายดีถึงแม้ว่าเขาอาจจะกลับมาทำงานไม่ได้แล้ว แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่กับเรา พอคุณพ่อผ่านจุดอันตราย เราก็หายเครียด ทำงานได้มากขึ้น แต่ว่าความกดดันของการดูแลครอบครัวก็จะเพิ่มขึ้น เพราะว่าตอนนี้พ่อก็ทำงานไม่ได้แล้ว

หลายคนก็อาจจะสงสัยว่าทำไมเราทำนู่นทำนี่เยอะจัง มันเป็นสิ่งจำเป็นค่ะ เราเป็นคนที่พลังบวกสูง ก็จะหาอะไรที่เรามีความสุขทำ ครึ่งปีแรกก็คือแย่มาก เพราะว่าเรื่องคดีมันก็ไม่ได้คืบหน้าขึ้น แต่พอครึ่งปีหลังมันก็เริ่มดีขึ้น พ่อก็ออกจากโรงพยาบาลก็ให้คุณแม่ดูแล เราก็ทำงานวนไป ก็รู้สึกว่าโอเค

จริงๆ ตอนต้นปี 2018 ตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราจะได้ทดลองการเป็นเทรนเนอร์ ซึ่งได้ทำเกินเป้าหมายของเราเพราะเราไม่ได้แค่ไปเซอร์เวย์อย่างเดียว เราได้ทำงานเป็นเทรนเนอร์แล้วด้วย มันก็เลยเป็นกำลังใจอีกอย่างหนึ่งว่า จริงๆ แล้วหลังจากที่เราเจอเหตุการณ์มากมายเราก็สามารถทำอย่างอื่นได้อีกตั้งเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเรามีพลังบวกเข้าไว้ ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราก็ไปถึงเป้าหมายของเราได้อยู่แล้ว

เราก็รู้สึกดีใจว่าเราทำได้ ก็อยากเป็นตัวอย่างให้กับทุกคนดูว่า ชีวิตคนเรามันไม่ได้สวยงามตลอดเวลา เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องมองไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่ต้องย้อนกลับไป พยายามสู้พยายามผ่านไปให้ได้ ทำในสิ่งที่เราต้องทำแล้วทุกอย่างมันจะผ่านไปเอง แล้วเราจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตอนนี้ละครก็ออนแล้ว ทุกอย่างมันเริ่มดีขึ้นค่ะ ทุกคนมีขึ้นมีลง ถ้าให้สรุปก็คือครึ่งปีแรกแย่สุดๆ ครึ่งปีหลังเริ่มดีขึ้น และเชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีของเซฟค่ะ

 

ปี 2019 ทั้งสองคนมีเป้าหมายหรือความตั้งใจอยากจะทำอะไร

หลุยส์ :  ก็น่าจะเป็นโอกาสที่จะรับสิ่งดีๆ เข้ามา เป็นโอกาสที่เราจะได้มองตัวเอง มองย้อนไปว่ามีสิ่งไหนที่เราอยากจะแก้ไข ที่เรารู้สึกว่าจะทำได้ดีกว่านี้ สามารถปรับปรุงแก้ไขตัวเอง

จริงๆ มันไม่จำเป็นต้องเป็นวันปีใหม่ก็ได้นะครับ ทุกวันเราก็สามารถมองตัวเองและให้คะแนนตัวเอง พัฒนาในสิ่งที่เรายังไม่เก่ง ไม่เชี่ยวชาญ แต่ปีใหม่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะว่าทุกคนที่ผมรู้จักก็จะมี Mindset เดียวกันว่า ปีใหม่เราจะทำอะไรให้ตัวเองบางอย่าง ปีหน้าเราตั้งใจจะทำอะไร อย่างผม ปีหน้าว่าจะลองลงสนามไตรกีฬาแบบระยะเต็ม คือว่ายน้ำ 3.8 โล ปั่นจักรยาน 190 โลแล้วก็วิ่งต่ออีก 42 โล ซึ่งอยากจะทำให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

ผมว่าไตรกีฬามันก็เป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้นะครับ มันจะมี Step การซ้อม ค่อยๆ เพิ่มระยะเข้าไปเรื่อยๆ มันคล้ายๆ วิทยาศาสตร์ที่ทำแบบนี้แล้วผลตอบรับจะเป็นแบบนี้ มันเป็นกีฬาที่สนุกนะ เลยอยากจะชวนเชิญทุกๆ คนให้มาลองเล่นดู มันแตกต่างจากฟิสเนตนะครับ สำหรับฟิสเนตเล่นไปนานๆ อาจจะเบื่อ ผมก็เล่นเป็นปีจนเบื่อ เลยหาอะไรที่มันท้าทายมากขึ้น

เมื่อก่อนก็เล่น CrossFit ครับ อันนั้นก็สนุกมาก แต่ผมมองว่า โอกาสบาดเจ็บมันก็สูงเหมือนกัน เพราะว่าด้วยน้ำหนักเยอะ หลายๆ อย่าง เราก็เลยหันมาเล่นกีฬาที่ซอฟท์ลงมาหน่อย ซึ่งหลายคนก็บอกว่า เหรอ? แล้วหันมาเล่นไตรกีฬาเนี่ยนะ (หัวเราะ)  แต่ผมว่ามันแตกต่างนะ มันช่วยทำให้หัวใจเราแข็งแรง แล้วก็เพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อได้

 

เซฟฟานี่ :  ตอนนี้ก็เริ่มเป็นเทรนเนอร์แล้ว แต่ก็แค่เพิ่งเริ่มสอนเป็น Group Class ก่อน แต่ปีหน้าก็จะเริ่มสอบเป็น Personal Training จริงๆ แล้วเซฟก็เทรนเพื่อนตัวเองหนึ่งคน ซึ่งประสบความสำเร็จมากๆ จากที่เค้าไม่ชอบหุ่นตัวเอง ไม่กล้าใส่ชุดว่ายน้ำ จนทุกวันนี้ฟิตมากอะไรมาก

เรารู้สึกดีใจที่เราสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ จากที่เขาไม่มีความมั่นใจ ไม่กล้า อายกับรูปร่างตัวเอง กลายเป็นคนที่ยิ้มได้ทุกวัน เป็นคนที่มีพลัง ไม่เหนื่อยง่าย จากคนที่ปวดหลังปวดคอนั่งออฟฟิศตลอดเวลา ทุกวันนี้แอคทีฟตลอด คือความสุขของเซฟคือการที่ได้เห็นคนรอบข้างของเรามีความสุข ก็หวังว่าปีหน้าเราก็จะทำแบบนี้ให้กับอีกหลายๆ คนค่ะ

เราประสบความสำเร็จไปหนึ่งคนแล้ว อยากจะเทรนคนให้มากขึ้นในปีหน้า เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นด้านหุ่น ด้านสุขภาพ ด้านการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะบางคนแค่เดินขึ้นบันไดก็เหนื่อยแล้ว การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อย แค่เดินขึ้นบันไดแล้วไม่หอบ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่นะคะ อยากเปลี่ยนแปลงชีวิตคนมากขึ้นในปีหน้า

แล้วก็อีกหนึ่งเป้าหมาย สำหรับเซฟที่มันทำยากมากๆ ก็คือการให้เวลากับตัวเอง 1 วันต่อสัปดาห์ ไม่รับงาน ไม่ทำงานอะไรเลย เพราะปีที่ผ่านมาเซฟทำงาน 7 วันไม่หยุดเลย คือเซฟเป็นคนชอบทำงานนะคะ ไม่ใช่ว่าเราโดนบังคับหรืออะไร เราหาอะไรทำตลอดเวลา เราชอบตรงนี้ เป็นคนอยู่เฉยไม่ได้ แต่ 2 เดือนที่ผ่านมามันหนักเกินจนเป็นไข้ นี่ก็เพิ่งจะหาย คิดว่าเราต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น เรามัวแต่เป็นห่วงคนอื่นจนเราลืมดูแลตัวเอง แล้วตั้งใจอยากให้เวลากับตัวเอง แล้วก็จะได้มีเวลาให้กับคุณแม่มากขึ้น ได้กลับไปหาเขาที่พัทยาอาทิตย์ละครั้งก็ยังดี อันนี้ก็เป็นเป้าหมายที่อยากทำ และจะพยายามทำให้ได้ค่ะ

 

สุดท้ายนี้อยากให้ฝากผลงานกับแฟนๆ ค่ะ

หลุยส์ :  อยากจะเชิญชวนแฟน ๆ ทุกคนชมละคร ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น นะครับ เป็นละครที่สนุกครบรสเลยนะครับ มีหลายๆ คู่ที่สร้างสีสันให้กับละคร แล้วก็เป็นละครทริลเลอร์ที่เราจะสืบสวนสอบสวนไปเรื่อยๆ ชวนลุ้นคลายปมไปด้วยกัน เป็นละครสำหรับหน้าหนาวอยากจะฝากนักแสดงทุกคนด้วยนะครับ

เซฟฟานี่ : ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่น จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อยากให้ทุกคนติดตามความสัมพันธ์ของปวัตรกับลวิตา และไตรภพด้วย จะได้เห็นจุดเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ต่างๆ จากไม่ชอบขี้หน้ากันก็จะเริ่มมีความรัก โลกเป็นสีชมพูมากขึ้น

ต้องติดตามอาการของแม่ด้วยว่าแม่จะรู้สึกอย่างไร ที่ลูกมาชอบคนที่ไม่ใช่นักแสดง คนนอกวงการ แต่จริงๆ แล้วมันก็จะมีความตลกปนอยู่ในนั้นด้วย มันไม่ใช่ดราม่าสืบสวนอย่างเดียว ก็จะมีตลกกุ๊กกิ๊กด้วย มาคอยลุ้นด้วยกันว่าความรักของปวัตรกับลวิตาจะเกิดขึ้นไหม

แล้วก็คนร้ายคือใครกันแน่ เพราะตอนนี้มีคนน่าสงสัยหลายคน ส่วนผลงานละครเรื่องถัดไป ผู้บ่าวอินดี้ ยาหยีอินเตอร์ ก็เป็นคอเมดี้เลย เรื่องแรกของเซฟ ถึงแม้ว่าตัวเซฟเองไม่ได้คอเมดี้ แต่ก็จะได้เห็นอีกคาแรกเตอร์แบบคุณหนูๆ มีสปีคอิงลิช แล้วก็มีเว้าอีสานช่วงท้ายๆ เป็นละครไม่เครียด ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ สบายๆ น่ารัก รอติดตามฟังข่าวอีกทีว่าจะออนแอร์เมื่อไหร่ในปีหน้านะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจากช่อง 7

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ในคืนหนาว แสงดาวยังอุ่นจับคู่หลุยส์-เซฟ ร่วมคลายปมปริศนาฆาตกรรม อบอวลความรัก

สำรวจเคมีรุ่นพี่รุ่นน้อง ฮยอนบิน – พัคชินฮเย ใน MEMORIES OF THE ALHAMBRA 

เทียบกันชัดๆ ละครไทย VS ซีรี่ย์เกาหลี ช็อตต่อช็อต เหมือนหรือต่างกันมั้ย?!?!

รายงานสดจากห้องแถลงข่าว MEMORIES OF THE ALHAMBRA (มีบทสัมภาษณ์)

ไมค์-พีค ประกบคู่ครั้งแรก สุดอิน ส่งเคมีความจิ้น ฟินทั่วไร่ ใน “เล่ห์รักบุษบา”